กาแล็กซีและเอกภพ
กาแล็กซีและเอกภพ พวกเราอาศัยอยู่บนโลกสีน้ำเงินใบนี้ ซึ่งโครจรไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ที่ เป็นดาวฤกษ์ ขนาดกลางในเอกภพ ดวงอาทิตย์ให้พลังงานความร้อน และแสง เป็นปริมาณมาก จึงทำให้เรามองเห็นและรู้สึกถึงความร้อนได้ทั้ง ๆ ที่ดวงอาทิตย์ อยู่ไกลจากโลกมากถึง 148,800,000 กิโลเมตร
กาแล็กซีและเอกภพ ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่งในจำนวนหนึ่งแสนล้านดวงใน กาแล็กซีของเราที่เรียกว่า กาแล็กซีทางช้างเผือก ดาวฤกษ์แต่ละดวงมีขนาด และสีแตกต่างกัน กาแล็กซีทางช้างเผือกเป็นเพียง 1 ใน หนึ่งแสนล้าน กาแล็กซี ที่ประกอบกันเป็นเอกภพ
กาแล็กซีและเอกภพ เอกภพมีขนาดใหญ่มาก ถ้าเราสามารถขี่จักรยานจากโลกไปดวง อาทิตย์ต้องใช้เวลารวม 718 ปี ความกว้างใหญ่ของเอกภพจะต้องวัดเป็นปีแสง ซึ่ง 1 ปีแสงเท่ากับระยะทางที่แสงเดินทาง 1 ปี (แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์ มายังโลกใช้เวลา 8.3 วินาที) ความกว้างของกาแล็กซีทางช้างเผือกประมาณ 100,000 ปีแสง ยานอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้นเคลื่อนไหวได้เร็วเพียง 0.0001 เท่า ของแสงเท่านั้น
กาแล็กซี กาแล็กซี (galaxy) เป็นบริเวณที่ประกอบด้วยดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ บริเวณของดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง อุกกาบาต รวมทั้งแก๊สและ ฝุ่นธุลีในอวกาศกาแล็กซีเป็นส่วนหนึ่งของเอกภพ ซึ่งกำเนิดมาจากมวลของ แก๊ส ภายใต้ความดันและแรงดึงดูดระหว่างกัน
กาแล็กซีทางช้างเผือก กาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นกาแล็กซีที่ระบบสุริยะสังกัดอยู่ ในคืน เดือน มืดถ้าเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า จะเห็นเป็นแทบสีขาวพาดอยู่ ชาวกรี กจินตนา การว่าเป็นเสมือนทางน้ำนม จึงเรียกว่า "The Milky way" สำหรับคนไทย จินตนาการว่าเป็นทางเดินของช้างเผือก จึงเรียกว่า "ทางช้าง เผือก"
องค์ประกอบของกาแล็กซี กาแล็กซีประกอบด้วยดาวฤกษ์ กระจุกดาวสสารระหว่างดาว (แก๊สและ ฝุ่นธุลี) เนบิวลา และที่ว่างในอากาศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะของเลือกนำเสนอเพียงบางตัวอย่าง 1. กระจุกดาว คือกลุ่มดาวตั้งแต่สิบดวงไปจนถึงหลายสิบล้านดวง ในกาแล็กซี ทาง ช้างเผือกจะพบกระจุกดาวรอบ ๆ ศูนย์กลางกาแล็กซี เช่น กระจุกดาวลูกไก่้ ถ้ามองด้วยตา เปล่าจะมองเห็นดาวฤกษ์ประมาณ 7 ดวง 2. สสารระหว่างดาว ดาวฤกษ์แต่ละดวงอยู่ห่างไกลกันมาก ระหว่างดวง ดาวจึงมีสสาร ระหว่างดาว ซึ่งประกอบด้วยแก๊ส (ส่วนใหญ่เป็นไฮโดรเจน) ฝุ่นธุลีชิ้นส่วนของสะเก็ดดาว แทรกคั่นอยู่ 3. เนบิวลา กลุ่มเมฆหมอกของแก๊สและฝุ่นธุลีของสสารในอากาศ ที่อยู่ระหว่างดวงดาว ในกาแล็กซ๊ มี 3 ชนิด - เนบิวลาสว่าง เป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นธุลีที่สะท้อนแสงสว่างที่ส่องมาจากดาวฤกษ์ - เนบิวลาเรืองแสง เป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นธุลีระหว่างดวงดาวที่เปล่ง แสงออกมาจาก ตัวเอง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของอนุภาคโปรตรอนนิวตรอนเป็นอะตอม ไฮโดรเจน - เนบิวลามืด เป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นธุลีจำนวนมากและหนาทึบ ซึ่งดูดกลืนแสงของ ดาวฤกษ์ที่ส่องมา
เอกภพ เอกภพ (Universe) หมายถึง กาแล็กซีหลาย ๆ กาแล็กซีมารวมกันอยู่ เป็นระบบ และเป็นผลรวมของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในอวกาศทั้งหมด เอกภพมีระบบ กาแล็กซีประมาณหนึ่งแสนล้านกาแล็กซี่ แต่ละกาแล็กซีจะอยู่ห่างกันมาก บาง กาแล็กซีอาจจะอยู่ไกลกันถึง 1 ล้านปีแสง
กำเนิดเอกภพ นักดาราศาสตร์ยังไม่ทราบแน่นชัดว่าเอกภพมาจากไหน เกิดขึ้นได้ อย่างไร นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ต่างก็เสนอแนวคิดต่าง ๆ นานา ซึ่ง สามารถสรุปทฤษฎีที่กล่าวถึงการกำเนิดเอกภพได้หลายทฤษฎี แต่ที่ยอมรับ กัน มากก็คือ ทฤษฎี Big-Bang Theory ที่กล่าวว่า สรรพสิ่งทั้งมวลในเอกภพที่ปรากฏอยู่นี้ครั้งหนึ่งเคยรวม ตัวกันกลุ่มก้อน และอัดตัวอยู่รวมกันแน่นด้วยพลังมหาศาล ต่อมาเอกภพเกิดการ ระเบิดครั้ง ใหญ่มวลและพลังงานมหาศาลถูกปล่อยออกมา แต่ความร้อนและพลังงาน ได้ ดึงดูดทำให้สารต่าง ๆ รวมตัวกันเกิดเป็นดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ กระจุกดาว กาแล็กซี และพลังงานต่าง ๆ"
การขยายตัวของเอกภพ จากการศึกษากาแล็กซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ที่อยู่ใกล้โลก คือ กาแล็กซี แอนโดรมีนา ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 2 ล้านปีแสง และกาแล็กซีอื่น ๆ พบว่า แต่ละกาแล็กซีกำลังเคลื่อนตัวออกห่างกันไปเรื่อย ๆ ทุกทิศทาง นักวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบได้จากการเปลี่ยนแปลงเส้นสเปกตรัมของแสง ที่ได้รับที่บ่งบอกว่า กำลังเคลื่อนที่ออกไป นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็น ว่า เอกภพก็มีการขยายตัว ออกไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน