พระวาจา ทรง ชีวิต ตุลาคม 2008
"จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดส่วน อัดแน่นจนล้น“ (ลก. 6,38)
คุณเคยรับของขวัญจากเพื่อน และคุณรู้สึกว่าจะต้องให้เขาเป็นการตอบแทนใช่ไหม มิใช่ว่าคุณรู้สึกเป็นหน้าที่ที่จะต้องให้เขาเป็นการ ตอบแทน
แต่ว่าคุณรู้สึกอยากตอบแทนเขาเพราะความรักและรู้คุณใช่ไหม ดิฉันแน่ใจว่าคุณต้องเคยมีประสบการณ์เช่นนั้น
แม้คุณเองยังรู้สึกเช่นนี้ แล้วกับองค์พระเจ้าเล่า พระองค์ต้องทรงรู้สึกเช่นนี้อย่างแน่นอน เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์ความรัก
พระเจ้าทรงให้เป็นการตอบแทนกับสิ่งที่เราได้ให้กับเพื่อนบ้าน ในนามของพระองค์ คริสตชนแท้มีประสบการณ์เช่นนี้บ่อยๆ และทุกครั้งเราต้องประหลาดใจ
เพราะพระเจ้ามักทรงทำในสิ่งที่เราคิดไม่ถึงเสมอ ฉัน อาจยกตัวอย่างมาให้คุณดูได้ไม่รู้จบ หรือเขียน หนังสือเป็นเล่มๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังได้
และคุณจะเห็นว่า พระวาจาตอนนี้ช่างเป็นจริงเพียงไร " และคุณจะเห็นว่า พระวาจาตอนนี้ช่างเป็นจริงเพียงไร "... เขาจะให้ท่านอย่างเต็มสัดส่วน อัดแน่นจนล้น" พระเจ้าทรงตอบแทนด้วยพระทัยกว้างเสมอ และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง
ที่กรุงโรม คืนนั้นดึกแล้ว ในอพาร์ตเม้นท์ชั้นล่างของอาคาร หญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่พยายามเจริญชีวิตพระวรสารด้วยกัน เพิ่งกล่าว "ราตรีสวัสดิ์" ล่ำลากันก่อนจะเข้านอน
ทันใดมีเสียงกดกระดิ่งที่ประตู จะเป็นใครกันหนอที่มาเยี่ยมพวกเราดึกอย่างนี้พวกเขาคิด เมื่อเปิดประตูพบพ่อบ้านคนหนึ่งยืนหน้าซีด ปากคอสั่น ท้อแท้ เพราะวันรุ่งขึ้นครอบครัวของเขาจะต้องย้ายออกจากบ้านเช่า เนื่องจากเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า
กลุ่มหญิงสาวมองหน้ากันและกัน โดยไม่ต้องพูดพวกเขาเห็นพ้องกันว่าจะต้องทำประการใด พวกเขาเดินไปที่ลิ้นชักที่ซึ่งเก็บเงินเดือนไว้ แยกใส่เป็นซองๆ มีเขียนหน้าซองแต่ละใบว่า "ค่าแก๊ส" "ค่าไฟฟ้า" "ค่าโทรศัพท์" นี่เป็นเงินที่พวกเขาแยกเก็บไว้ เพื่อใช้จ่ายตอนสิ้นเดือน แต่มิได้ลังเลแม้แต่น้อย เขารวมเงินทั้งหมดมอบให้กับ ชายนั้น มิได้กังวลว่าเมื่อถึง ปลายเดือนพวกเขาจะ ทำประการใด
คืนนั้น พวกเขาเข้านอนด้วยความสุข มั่นใจว่า "พระองค์" จะทรงเป็นธุระ ดูแลพวกเขาเอง
แต่ยังไม่ทันสว่างเสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้น เป็นเสียงของชายคนนั้นเอง แต่ยังไม่ทันสว่างเสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้น เป็นเสียงของชายคนนั้นเอง เขาบอกว่า "ผมอยู่ในรถแท็กซี่กำลังจะตรงมาหาคุณ" พวกเขาแปลกใจว่าทำไมเขามารถแท็กซี่ได้
แต่เมื่อเห็นชายคนนั้นหน้าตาอิ่มเอิบก็รู้ทันทีว่าจะต้องมีเรื่องดี เขาเล่าว่า "เมื่อคืนพอกลับถึงบ้าน ผมได้รับส่วนแบ่งมรดกซึ่งผมไม่เคยนึกฝันมาก่อน ผมรู้สึกในใจว่าต้องแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง“ และจำนวนเงินที่เขาให้นั้นมากเป็นสองเท่าของเงิน ที่เรามอบให้กับเขา
"จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดส่วน อัดแน่นจนล้น “
ลองให้ดูซิ แต่มิใช่เพื่อดูว่าจะได้ผลแบบนี้หรือไม่ แต่จงให้เพราะ คุณรักพระเจ้า คุณยังไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้ ใช่ไหม ถ้ายังไม่เคยมี จงระลึกว่า เราต้องให้โดยไม่คาดหวังสิ่งใดๆ เป็นการตอบแทน หรือคิดว่าจะต้องได้คืน และไม่จำกัดว่าจะต้องให้กับใคร
หรือคุณอาจแก้ตัวว่า "ฉันไม่มีอะไรจะให้" ไม่จริง ถ้าเราต้องการให้ เราจะพบว่าเรามีสิ่งต่างๆมากมายที่ให้ได้ เวลาว่างของเรา ความรัก รอยยิ้ม คำแนะนำ สันติ คำพูดเพราะ ๆ เพื่อชักจูงคนที่มีให้ให้กับคนที่ไม่มี...
หรือคุณจะบอกว่า "ฉันไม่รู้ว่าจะให้กับใครดี" ลองมองดูรอบข้างคุณซิ จำคนป่วยคนนั้นที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลได้ไหม หรือแม่ม่ายคนนั้นที่เหงาหงอยเปล่าเปลี่ยว เพื่อนร่วมชั้นของคุณที่สอบตก ท้อแท้ หนุ่มคนนั้นที่ยังทุกข์ ไม่มีงานทำ พี่หรือน้องสาวของคุณที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อนที่ยังติดคุก เพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่ยังปรับตัวเข้ากับงานใหม่ไม่ได้ จากตัวอย่างดังกล่าว คุณจะพบว่าองค์พระคริสตเจ้าทรงคอยคุณอยู่
เราจงมีวิถีชีวิตแบบใหม่ที่สอดคล้องกับพระวรสาร นี่เป็นเอกลักษณ์ของคริสตชน อย่าเป็นคนใจแคบ คิดถึงแต่ตัวเอง
จงเลิกฝากความหวังของเราไว้ที่สิ่งของ ของโลก แต่จงมอบความวางใจไว้ที่ องค์พระเจ้า การให้เป็นการแสดงความ เชื่อในพระองค์ และจากสิ่งที่คุณ ได้รับตอบกลับมา คุณจะพบว่า ความเชื่อของคุณมั่นคงขึ้น
แต่ก็แน่นอนว่า พระเจ้าไม่ทรงประทานตอบแทนให้กับคุณ เพื่อทำให้คุณร่ำรวยขึ้น พระองค์ประทานตอบแทนกลับมา เพื่อว่าคนอื่นๆที่ได้เห็นอัศจรรย์เล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นกับคุณ อันเป็นผลจากการที่ คุณให้ จะได้ตกลงใจกระทำในแบบเดียวกัน
พระเจ้าทรงประทานให้กับเรา เพื่อว่ายิ่งเรามีมาก เราจะยิ่งให้คนอื่นได้มากขึ้น พระเจ้าต้องการให้เราเป็นคนจัดการทรัพย์สินของพระองค์ จะได้แจกจ่ายให้กับผู้คนรอบข้าง และพวกเขาก็จะพูดได้เหมือนกับกลุ่มคริสตชนในสมัยเริ่มแรกว่า "ในกลุ่มของเราไม่มีใครขัดสน..."
คุณไม่คิดหรือว่าด้วยวิธีนี้ คุณเองก็สามารถช่วยสร้างพื้นฐานทางด้านชีวิตจิตที่มั่นคงอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่โลกกำลังรอคอย
"จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน“ "จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน“ แน่นอน ตอนที่องค์พระเยซูเจ้าตรัสพระวาจานี้ พระองค์ทรงคิดถึงรางวัลที่เราจะได้รับในเมืองสวรรค์เป็นเบื้องต้น แต่ทว่า รางวัลที่เราได้รับในโลกนี้ เท่ากับให้เราชิมลางและเป็นประกันว่า เราจะได้รับรางวัลในเมืองสวรรค์ อย่างแน่นอน “แผ่นพับพระวาจาทรงชีวิต” ประจำเดือน จัดทำโดยคณะโฟโคลาเร กราฟฟิก โดย Anna Lollo ด้วยความร่วมมือจาก คุณพ่อPlacido D’Omina (ซิซิลี-ประเทศอิตาลี)