Knowledge Sharing Basic Of Bearing
Content Introduction Basic of Bearing Load of Bearing Type of Bearing
Introduction คุณเคยสงสัยไหมว่า รองเท้าสเก็ตวิ่งไปบนพื้นได้อย่างไร และทำไมมอเตอร์จึงหมุนได้อย่างเงียบกริบโดยไม่มีเสียง คำตอบทั้งหมดอยู่ที่อุปกรณ์ตัวหนึ่ง ที่เรียกว่าลูกปืน (bearing) ขอใช้ภาษาอังกฤษเลยว่า แบริ่ง เพราะนิยมใช้คำนี้กันจนติดปากแล้ว แบริ่งใช้ในเครื่องจักรทุกประเภทที่มีการหมุน ถ้าเราไม่มีแบริ่งการหมุนเป็นไปได้ลำบาก และ เสียงที่เกิดจากการเสียดสีจะดังสนั่นหวั่นไหว
Basic of Bearing แนวคิดพื้นฐานทางฟิสิกส์ของลูกปืนมีอยู่ว่า การหมุนนั้นง่ายกว่าการเลื่อน ล้อที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คือ แบริ่งขนาดใหญ่ ถ้าคุณหาไม้กระดานมาสักแผ่นหนึ่ง แล้วให้คนลาก มันจะเคลื่อนที่ได้ยากกว่า ถ้าคุณติดล้อไว้ด้วย เพราะว่าการเคลื่อนที่แบบเลื่อน ต้องเผชิญกับ ความเสียดทานที่เพิ่มขึ้น ระหว่างพื้นที่ของมวลสองก้อนที่เสียดสีกัน ถ้าพื้นที่มาก ความขรุขระที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานก็ยิ่งมาก แต่ถ้าเป็นการเคลื่อนที่แบบกลิ้ง พื้นที่สัมผัสน้อย ความขรุขระที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานก็ยิ่งน้อย แรงเสียดทานจะลดลงอย่างมาก
Basic of Bearing แบริ่งทำจากลูกบอลโลหะขนาดเล็กที่ผิวเรียบ ลื่น ทำให้การหมุนหรือกลิ้งเป็นไปได้สะดวก ราวกับไม่มีแรงเสียดทาน ลูกบอลสามารถรับน้ำหนัก ขณะที่หมุน
แบริ่งของมอเตอร์ตัวนี้ รับแรงในแนวรัศมีเท่านั้น Load of Bearing แบริ่ง ถูกออกแบบมารับแรงสองประเภทคือ แรงแนวรัศมี (radial ) และ แรงแนวแกน (thrust) ขึ้นอยู่กับการใช้งานในขณะนั้น เช่น อาจรับแรงในแนวรัศมี หรือ แนวแกนอย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือต้องรับทั้งสองแรงพร้อมกัน แบริ่งของมอเตอร์ตัวนี้ รับแรงในแนวรัศมีเท่านั้น
แบริ่งของมอเตอร์ตัวนี้ รับแรงในแนวแกนเท่านั้น Load of Bearing แบริ่งของกระดุมล้อรถรูปบน แรงในแนวรัศมี มาจากน้ำหนักของรถ ส่วนแรงในแนวแกนมาจากแรงที่เกิดจากการเลี้ยว แบริ่งของมอเตอร์ตัวนี้ รับแรงในแนวแกนเท่านั้น แบริ่งของกระดุมล้อรถ รับแรงทั้งสองแนวคือ แรงแนวแกน และแรงในแนวรัศมี
Type of Bearing 1.บอลแบริ่ง เป็นแบริ่งที่นิยมใช้กันมากสุด ตั้งแต่รองเท้าสเก็ต จนไปถึง ฮาร์ดดิสก์ บอลแบริ่งสามารถรับแรงได้ทั้งสองแนว แต่เป็นแรงที่มีขนาดไม่มากนัก ภาพตัดของบอลแบริ่ง แรงถูกส่งผ่านจากวงนอก ไปวงใน โดยมีลูกบอลเป็นตัวกลางกลิ้งอยู่ จุดสัมผัสของลูกบอล ระหว่าง วงนอกและในเป็นจุดเล็กๆ จึงช่วยให้การหมุน เรียบ และลื่น อย่างไรก็ตามถ้ารับแรงมากๆ ทำให้ลูกบอลบิดตัวได้
Type of Bearing 2.โรลเลอร์แบริ่ง นิยมใช้สำหรับออกแบบสายพานลำเลียง ที่ต้องรับแรงในแนวรัศมีมากเป็นพิเศษ ดังนั้นแบริ่งแบบนี้ ส่วนที่กลิ้งจึงเป็นรูปทรงกระบอก จุดสัมผัสระหว่างวงนอก และวงใน เป็นเส้นไม่ใช่จุด ทำให้สามารถรับน้ำหนักในแนวรัศมีได้มากกว่า บอลแบริ่ง อย่างไรก็ตาม โรลเลอร์แบริ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักในแนวแกน ภาพตัดของโรลเลอร์แบริ่ง
4.โรลเลอร์ทรัสต์แบริ่ง Type of Bearing 3.บอลทรัสต์แบริ่ง นิยมใช้กับเก้าอี้หมุน หรือโต๊ะหมุน เป็นต้น ไม่สามารถรับแรงในแนวรัศมีได้ 4.โรลเลอร์ทรัสต์แบริ่ง ใช้สำหรับ รับแรงในแนวแกนที่มีขนาดมากๆ 5.เทปเปอร์โรลเลอร์ทรัสต์แบริ่ง ใช้สำหรับรับแรงในแนวแกน และ รัศมีที่มีขนาดมากๆ เช่น กระดุมล้อของรถยนต์ เป็นต้น