คุณค่าของระบบนิเวศต่อภาคธุรกิจ (The corporate ecosystem valuation)

การประเมินคุณค่าระบบนิเวศสำหรับภาคธุรกิจ ระบบนิเวศและ การประเมินคุณค่าระบบนิเวศสำหรับภาคธุรกิจ การประเมินคุณค่าระบบนิเวศสำหรับภาคธุรกิจ หมายถึง การประเมินความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและบริการของระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ บริหารจัดการความเสี่ยง และพัฒนาโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เพิ่มผลกำไรและลดภาระค่าใช้จ่าย

บริการของระบบนิเวศ

ป่าไม้มีประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ = บริการของระบบนิเวศ

บริการของระบบนิเวศ บริการของระบบนิเวศ คือ ผลประโยชน์ที่มนุษย์ได้รับจากระบบนิเวศ ระบบนิเวศ บริการระบบนิเวศ / ประโยชน์ของระบบนิเวศ น้ำและป่า - การควบคุมสภาพภูมิอากาศ - ป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ - การรองรับมลพิษ - การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ - การเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ - ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ แนวปะการัง (Coral reefs) - แหล่งท่องเที่ยว - แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ - ลดความเร็วและความแรงของกระแสน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetlands) - ป้องกันน้ำท่วม - ปรับปรุงคุณภาพน้ำ

งาน 2 : ในห้อง/กลุ่ม 3 การประเมินคุณค่าระบบนิเวศ 1. แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน 2. ศึกษาหัวข้อต่อไปนี้ (ให้เวลา 40 นาที) - ประเภทบริการระบบนิเวศ (หน้า 9-17) -ตอบคำถามว่า “แนวปะการังให้บริการระบบนิเวศใดบ้าง” - ประโยชน์ของการประเมินคุณค่าระบบนิเวศ (หน้า23-25) 3. สรุปความรู้ลง Mind Mapping 4. ทุกคนร่วมนำเสนอผลงาน กลุ่มละ 10 นาที

การประเมินคุณค่าระบบนิเวศ ประเภท ประโยชน์ของแนวปะการัง การประเมินคุณค่าระบบนิเวศ ประโยชน์

ประเภทของบริการระบบนิเวศ

ประเภทของบริการระบบนิเวศ ความหมาย / ตัวอย่าง 1. บริการด้านการเป็นแหล่งผลิต (Provisioning services) การให้บริการวัตถุดิบในการผลิต อาหาร เส้นใย เชื้อเพลิง น้ำ แหล่งพันธุกรรม ชีวเคมี สารสกัดจากธรรมชาติ เป็นต้น 2. บริการด้านการควบคุมกลไกของระบบ (Regulating services) การควบคุมปรากฏการณ์และกระบวนการทางธรรมชาติของระบบนิเวศ การควบคุมสภาพภูมิอากาศและคุณภาพอากาศ การควบคุมสมดุลน้ำและการกรองน้ำและบำบัดน้ำเสีย การควบคุมพังทลายของดิน การควบคุมโรค การควบคุมแมลงศัตรูพืช การควบคุมภัยธรรมชาติ การเป็นต้น 3. บริการด้านวัฒนธรรม (Cultural services) ดำรงคุณค่าทางสังคม คุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม ประเพณี นันทนาการและการท่องเที่ยว เป็นต้น 4. บริการด้านการเกื้อหนุน /สนับสนุน (Supporting services) กระบวนการทางธรรมชาติที่สนับสนุนการดำรงอยู่ของบริการอื่นๆ การเป็นที่อนุบาลสัตว์อ่อน การเกิดวัฏจักรของสารอาหาร เป็นต้น

แนวปะการัง (Coral reefs) 1. บริการด้านการเป็นแหล่งผลิต (Provisioning services) 3. บริการด้านวัฒนธรรม (Cultural services) 2. บริการด้านการควบคุมกลไกของระบบ (Regulating services) 4. บริการด้านการเกื้อหนุน /สนับสนุน (Supporting services)

ป่าไม้ : นำไม้มาสร้างบ้าน

ป่าไม้ : ทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

ป่าไม้ : การบวชป่า

ป่าไม้ : ออกลูก / วางไข่ - เลี้ยงดู - ที่อยู่ของสัตว์ป่า

การประเมินระบบนิเวศแห่งสหัสวรรษ (Millennium Ecosystem Assessment: MA) จะประเมินสภาวะและแนวโน้มของระบบนิเวศและบริการของระบบนิเวศ ทั้ง 4 ประเภท ดังนี้ 1. บริการด้านการเป็นแหล่งผลิต 2. บริการด้านการควบคุมกลไกของระบบ 3. บริการด้านวัฒนธรรม 4. บริการด้านการเกื้อหนุน /สนับสนุน

การวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสจากบริการของระบบนิเวศ 1) การดำเนินธุรกิจ ประเมินค่าใช้จ่าย เช่น ราคาน้ำ การท่องเที่ยวหยุดชะงักเนื่องจากน้ำท่วม เป็นต้น ปรับปรุงการผลิตให้ใช้น้ำน้อย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ สร้างแหล่ง เก็บกักน้ำดิบ เป็นต้น 2) กฎระเบียบและกฎหมาย ลดค่าชดเชยในการเปรียบเทียบปรับตามกฎระเบียบและกฎหมาย มูลค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงนโยบายและระเบียบขององค์กรในการบริหารจัดการระบบนิเวศ 3) ภาพลักษณ์ ลดภาพลักษณ์ที่แย่ เช่น ธนาคารถูกประท้วงให้เงินทุนกับโครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เช่น การประกาศตัวเป็นองค์กรที่มีการจัดซื้อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4) การตลาดและสินค้า เพิ่มโอกาสในการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้ตรงใจลูกค้า สร้างรายได้ใหม่ๆ จากลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5) การเงิน เพิ่มโอกาสในการขอกู้เงินเพื่อการลงทุน ได้รับการกู้เงินที่ดี หรือได้รับ การสนับสนุนเงินทุนง่ายขึ้น

เงินกู้ปลอดภาษีเป็นโอกาสจากบริการของระบบนิเวศด้านใด

ได้รับเกียรติบัตรใบไม้เขียวแล้วทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าพักมากขึ้น เป็นโอกาสจากบริการของระบบนิเวศด้านใด

ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม กับบริการของระบบนิเวศ ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Externalities) หมายถึง ผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบที่เกิดขึ้นต่อระบบนิเวศ บริการของระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม ที่มีผลบุคคลอื่นซึ่งไม่ได้เป็นผู้กระทำ

ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Externalities) กรณีศึกษา ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม ด้านลบ ด้านบวก การกักเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า -ระบบนิเวศบกหายไป -พืชและสัตว์บกตาย -สิ่งมีชีวิตปลายน้ำต้องปรับตัว -ในฤดูแล้งอาจเกิดการแย่งน้ำระหว่างการผลิตไฟฟ้าและการอุปโภคบริโภค -เพิ่มแหล่งอาศัยให้สัตว์น้ำ -ชุมชนมีโอกาสทำประมง -ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่าง -เป็นแหล่งท่องเที่ยว ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม อาจพิจารณาเป็น 1. ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อมที่มีการตลาด (Market Environmental Externalities) เช่น การจับปลา 2. ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีการตลาด (Non-market Environmental Externalities) เช่น การป้องกันน้ำท่วม

สถานการณ์ใดเป็นผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม ร้านอาหารจัดงานเลี้ยง ก. ชาวบ้านนอนไม่หลับ ข. ร้านอาหารโดนปรับ

สถานการณ์ใดเป็นผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม ด้านลบ / ด้านบวก ร้านอาหารจัดงานเลี้ยง ก. ชาวบ้านนอนไม่หลับ ข. ชาวบ้านมีงานทำ

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีระดับการพึ่งพิงและส่งผลกระทบต่อบริการของระบบนิเวศด้านใดในระดับน้อย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีระดับการพึ่งพิงและส่งผลกระทบต่อบริการของระบบนิเวศด้านใดในระดับปานกลาง - มาก

ประโยชน์ของการประเมินคุณค่าระบบนิเวศ

ประโยชน์ของการประเมินคุณค่าระบบนิเวศ - สิ่งแวดล้อมเป็น “สินทรัพย์” ที่ธุรกิจต้องพึ่งพิง - การดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็จะเป็น “การลงทุน” ที่จำเป็น และ ไม่ใช่ “ค่าใช้จ่าย” ที่จ่ายไปแล้ว ไม่ได้อะไรกลับคืน - ประโยชน์ของการประเมินคุณค่าระบบนิเวศ ของภาคธุรกิจ คือ ทำความชัดเจนให้ผู้ประกอบการ เห็นถึงมูลค่าทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และการเงิน รวมถึงสามารถเปรียบเทียบผลได้ ผลเสียระหว่างมูลค่าเหล่านี้

ประโยชน์ ตัวอย่าง 1. ช่วยให้การตัดสินใจเรื่องการใช้ทรัพยากรและเพิ่มรายได้ - จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม - สร้างความไว้วางใจและมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล 2. กำหนดกรอบแนวคิด พฤติกรรมและหลักปฏิบัติขององค์กร - สร้างความตระหนักและเพิ่มความเข้าใจถึงการพึ่งพิงสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานบริษัท ผู้ถือหุ้นและผู้บริโภค - ใช้เป็นข้อมูลในการเจรจาต่อรองต้นทุนและกำหนดราคา 3. ช่วยรักษาและสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร - เพิ่มรายได้ในอนาคต - เป็นปัจจัยในการกำหนดราคาสินค้าและบริการที่สะท้อนถึงคุณค่าบริการของระบบนิเวศ 4. ลดต้นทุน - ลดต้นทุนในการดูแลรักษาและฟื้นฟู ระบบนิเวศ - ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและมีรายได้เสริมในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การซื้อขายคาร์บอนเครดิต 5. เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ ระบบนิเวศมีมูลค่า ถ้าสามารถรักษาไว้ได้และบริหารเป็นก็จะใช้สินทรัพย์ทางธรรมชาตินั้น ได้ 6. ประเมินความรับผิดชอบและการชดเชย ทราบถึงมูลค่าความเสียหายต่อระบบนิเวศจากการพัฒนาโครงการ ปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด แสดงข้อมูลของการรับผิดชอบค่าชดเชย และทำให้ภาคธุรกิจวิเคราะห์ต้นทุนและบริการของระบบนิเวศอย่างมีประสิทธิภาพ 7. ประเมินมูลค่าบริษัท - ใช้ประเมินมูลค่าองค์กรและหุ้นขององค์กร - สะท้อนต้นทุนจริงที่ครอบคลุมการบริการของระบบนิเวศได้อย่างครบถ้วน 8. ช่วยในการรายงานผลการดำเนินงาน - ช่วยให้ข้อมูลต้นทุนและกำไรของระบบนิเวศมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น วยในการวัดผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ใช้เป็นตัวชี้วัดมูลค่าของผลกระทบภายนอก ใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 9. เลือกวิธีการตอบแทนสังคมได้อย่างเหมาะสม - ช่วยตัดสินใจได่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้น ช่วยในการคัดเลือกวิธีการที่ตอบแทนสังคมอย่างเหมาะสม

วิธีการประเมินคุณค่าระบบนิเวศในการบริหารธุรกิจ 1) วิเคราะห์การได้มาและเสียไปที่คุ้มทุน (Trade-off analysis) เป็นการนำการประเมินคุณค่าระบบนิเวศมาใช้เปรียบเทียบรายจ่ายในการลงทุนและมูลค่าต้นทุนกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลกระทบที่เกิดกับระบบนิเวศ เพื่อการประเมินและพิจารณาทางเลือกการตั้งราคาสินค้า และอื่นๆ กำหนดราคาโรงแรม โรงแรมใกล้ป่าโกงกาง ป้องกันการกัดเซาะ = ไม่ต้องสร้างที่กั้นแนวคลื่น

กำหนดราคาการถือครองที่ดิน 2) ประเมินมูลค่าโดยรวม (Total valuation) เป็นการประเมินคุณค่าในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ เพื่อให้ได้ค่าแห่งมูลค่าโดยรวมที่ระบบนิเวศเกื้อกูลแก่ธุรกิจและสังคมด้วยการประเมินรูปแบบต่างๆ ของบริการระบบนิเวศ แล้วแปลงให้เป็นมูลค่ารวมของเงิน ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการประเมินราคาทรัพย์สิน เช่น การประเมินมูลค่าโดยรวมที่แท้จริงของการถือครองที่ดินแปลงหนึ่งๆ เป็นต้น กำหนดราคาการถือครองที่ดิน โรงแรมใกล้ป่าโกงกาง ป้องกันการกัดเซาะ = ไม่ต้องสร้างที่กั้นแนวคลื่น เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ = ชาวบ้านทำประมง

3) วิเคราะห์การแบ่งสรรปันส่วน (Distributional analysis) เป็นการนำการประเมินคุณค่าระบบนิเวศมาใช้ในการจำแนกผู้ได้และผู้เสียประโยชน์ และสัดส่วนของการได้และการเสีย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการออกแบบและกำหนดกิจกรรมเฉพาะขององค์กร หรือนำไปใช้ในการวางแผนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกิจกรรมที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถระบุขอบเขตที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องพึ่งพิงและส่งผลกระทบต่อบริการของระบบนิเวศ วางแผนการพัฒนา โรงแรมใกล้ป่าโกงกาง เป็นแหล่งอาชีพใหม่= มีการจ้างงานชาวบ้าน เป็นแหล่งอาชีพใหม่ = วิถีชีวิตเปลี่ยนไป

เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ = ชาวบ้านทำประมง 4) วิเคราะห์การเงินและการชดเชยที่ยั่งยืน (Sustainable financing and compensation analysis) เป็นการนำการประเมินคุณค่าระบบนิเวศมาใช้ในการจำแนกแหล่งที่มาของรายได้ของผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของบริการของระบบนิเวศ หรือเพื่อกำหนดเงินชดเชยที่เสนอให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย และเป็นข้อมูลเพื่อกำหนดวิธีการพัฒนาความเป็นอยู่หรือเพิ่มรายได้เพื่อชดเชยแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กำหนดเงินชดเชย โรงแรมใกล้ป่าโกงกาง เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ = ชาวบ้านทำประมง