ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรม Literature อาจารย์สอง Satit UP
ภาษาละติน Latin language
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาละติน (Latin language) วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาลาติน (Latin language) วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาลาติน (Latin langguge) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน
ยุคกลาง : Medieval Ages ภาษาละติน (Latin language) คำหลาย ๆ คำที่ใช้ในทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการแพทย์ มักมีรากคำศัพท์มาจากภาษาละตินหรือสร้างจากภาษาละติน. ภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน พัฒนามาจากภาษาละติน ซึ่งจะเรียกกลุ่มภาษาเหล่านี้ว่า ภาษากลุ่มโรมานซ์ ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมาเนีย ภาษาอิตาลี ภาษาโปรตุเกส และภาษาสเปน ภาษาส่วนใหญ่ในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับภาษาละติน
ยุคกลาง : Medieval Ages ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน เป็นภาษาทางการที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันในดินแดนจักรวรรดิโรมัน ภาษาละติน คือ ภาษาที่ชาวละติน(ซึ่งเดิมอยู่แถบคาบสมุทรอิตาลี)ใช้มาแต่เดิม ซึ่งต่อมาได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาราชการของจักรวรรดิโรมัน จึงกลายเป็นภาษาวรรณคดี ภาษาวิชาการ ตำราความรู้ กฎหมาย ภาษาศาสนา จารีตลาติน และศาสตร์ต่าง ๆ ของจักรวรรดิโรมัน
ยุคกลาง : Medieval Ages ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคกลาง ศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นศาสนาที่มีอิทธิมากในยุคกลางก็ภาษาลาตินในการจดบันทึก คัมภีร์ไบเบิ้ล ทำให้ภาษาลาตินเป็นภาษาที่จำเป็นต้องใช้ในการศาสนาอย่างมากตลอดยุคกลาง พระ(บาทหลวง) ต้องอ่านภาษาลาตินได้ และผู้ที่ต้องการศึกษา หรือจดบันทึกความรู้หรือ ศาสตร์ด้านต่าง ๆ ก็ใช้ภาษาลาตินในการจดบันทึก
ยุคกลาง : Medieval Ages ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) วรรณกรรม งานเขียนต่าง ๆ ทั้งงานเขียนทางศาสนา และวรรณกรรมที่เขียนในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา ของในยุคสมัยกลางจะเขียนโดยใช้ภาษาละติน ซึ่งถือว่าเป็นภาษาหนังสือชั้นสูงสมัยนั้น
ยุคกลาง : Medieval Ages ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) มหาวิทยาลัยแรก ๆ ที่ก่อตั้งในปลายยุคกลาง เช่น มหาวิทยาลัยโบโลญญา ในอิตาลี มหาวิทยาลัยปารีส ในฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และ มหาวิทยาลัยเคมเบิดจ์ ในอังกฤษ ก็สถานบันอันเป็นที่รวบรวมวิทยาการความรู้ และ ตำราความรู้ในด้านศาสตร์ต่าง ๆ ไม่เฉพาะทางด้านที่เกี่ยวกับศาสนาเท่านั้น ซึ่งตำราส่วนใหญ่ก็บันทึกโดยภาษาลาติน
วรรณกรรม Literature
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง แบ่งออกเป็น วรรณกรรมยุคต้น ของยุคกลาง วรรณกรรมยุคปลาย ของยุคกลาง
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมช่วงต้น ของยุคกลาง (คริสต์ศตวรรษที่ 6-10)
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมยุคต้น ของยุคกลาง วรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา นับตั้งแต่กำเนิดของคริสต์ศาสนา ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของพระเจ้า การไถ่บาป และวันพิพากษาครั้งสุดท้าย ตลอดจนหลักธรรมคำสั่งสอน ซึ่งสะท้อนถึงความศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า วรรณกรรมทางโลก เป็นเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตของสังคมในระบอบฟิวดัล เน้นการต่อสู้ การผจญภัย และการสั่งสอนค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อขุนนางเจ้านาของตน งานเขียนที่สำคัญ "เทวนคร" (The City of God) ของ นักบุญออกัสติน “Summa Theologiæ” ของ นักบุญโธมัส อไควนัส วรรณกรรมที่สำคัญ โรมานซ์ (Romance) คีตกานต์(Lyric) นิทานฟาบลิโอ(Fabliau) นิทานฟลาเปิล(Fable)
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางศาสนา ได้แก่ De civitate dei (The city of god) หรือ เทวนคร ของ St. Augustine Summa Theologiæ (Summa Theologica) หรือ มหาเทววิทยา ของ St. Thomas Aquinas
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางโลก ได้แก่ 1) มหากาพย์(epic) เป็นเรื่องราวของการสร้างวีรกรรมของวีรบุรุษในอดีต ได้แก่ ชาซอง เดอ โรลองด์ (chason de roland) เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ของโรลองค์ ทหารของสนิทของพระเจ้าซาร์ลมาร์ลกับกองทัพมุสลิมที่เดินทัพมาจากสเปนเพื่อพิชิตยุโรปตะวันตก 2) นิยายโรมานซ์(Romance) นิยายประเภทเพ้อฝันเป็นเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาว ความจงรักภักดีของอัศวินต่อเจ้าและขุนนาง เวทมนตร์คาถา นิยายที่เป็นที่นิยมกันมาก ได้แก่ เรื่องเกี่ยวกับสงครามโทรจันในสมัยกรีก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยทั่วไปเป็นเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาวที่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ความรักสมปรารถนาส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องชู้สาว
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางโลก ได้แก่ 3) คีตกานท์(lyric) เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักแบบเทิดทูนต่อสตรีสูงศักดิ์ การเทิดทูนสตรีที่สูงศักดิ์ก่อให้เกิดระเบียบวิธีปฏิบัติที่บุรุษควรมีต่อสตรีเพศ หรือที่เรียกว่า ธรรมเนียมวีรคติ ซึ่งถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครันในหมู่อัศวินนักรบของสมัยกลางในภายหลังซึ่งบุรุษชั้นสูงจะแสวงหาความรักแบบเทิดทูนต่อสตรีผู้สูงศักดิ์โดยไม่ ปรารถนาความรักตอบแทน เพราะถือว่าว่าการอุทิศตนเพื่อสตรีที่รักทำให้ชีวิตของการเป็นอัศวินมีคุณ ค่าและมีเกียรติยศยิ่งนัก 4) นิทานฟาบลิโอ(Fabliau) เป็นวรรณกรรมของชาวบ้านทั่วไป เป็นนิทานสั้น ๆ เขียนเป็นโคลงกลอน ซึ่งเป็น เรื่องเสียดสีสังคมชนชั้นสูง ตลกขบขัน เล่ห์เหลี่ยม ความไม่ดีงามและบางครั้ง ค่อนข้างหยาบ งานประพันธ์ที่ได้รับอิทธิพลในเวลาต่อมา ได้แก่ นิทานแห่งแคนเทอร์เบอรี(The Canterbury Tales) 5) นิทานสัตว์(Fable) เป็นนิทานในลักษณะของนิทานอีสป(Aesop)เนื้อหาล้อเลียนเสียดสีสังคมฝรั่งเศสในสมัยกลาง ประณามระบบฟิวดัล กระบวนการยุติธรรม และวงการศาสนา
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมช่วงปลาย ของยุคกลาง (คริสต์ศตวรรษที่ 13-14)
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมสมัยยุคกลางตอนปลาย เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลกมากขึ้น มีลักษณะทางมนุษยนิยม มิใช่หมกมุ่นกับเรื่องทางศาสนาเหมือนแต่ก่อน เป็นงานเขียนทั้งประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง มักนิยมใช้ภาษาท้องถิ่นของตนเขียนแทนภาษาละติน เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาเลียน เป็นต้น นักเขียนและผลงานสำคัญ ได้แก่ ดังเต (Dante) ชอเซอร์ (Chaucer) บอคคัชชิโอ (Boccaccio)
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง ดังเต (Dante Alighieri) (ค.ศ.1265-1321) กวีชาวอิตาเลียน เมืองฟลอเรนซ์ ผลงานสำคัญคือ “ The Divine Comedy “ เนื้อหาเป็นจิตนาการเกี่ยวกับการเดินทางไปนรกและสวรรค์ กล่าวถึงชีวิตหลังความตาย สะท้อนถึงความสามารถในด้านจินตนาการและการใช้เหตุผล งานเขียนส่วนใหญ่เขียนด้วยภาษาอิตาลี
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง เจฟฟรีย์ ชอเซอร์ (Geoffrey Chaucer) ( ค.ศ.1340-1400 ) กวีชาวอังกฤษ ผลงานชิ้นสำคัญ คือ นิยายแคนเทอร์เบอรี(The Canterbury Tale) ซึ่งเป็นการบรรยายถึงชีวิตในศตวรรษที่ 14 โดยคณะจาริกแสวงบุญในจินตนาการคณะหนึ่ง นักจาริกแสวงบุญเหล่านี้ เล่าเรื่องในระหว่างการเดินทางไปยังปูชณียสถาน ที่นักบุญโทมาสอา เบ็คเค็ท ถูกสังหาร ณ เมืองแคนเทอร์เบอรี่ กวีนิพนธ์เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้รื่นรมย์ แต่ยังเผยให้เป็นนิสัยใจคอของนักแสวงบุญแต่ละคน ซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่องอีกด้วย
ยุคกลาง : Medieval Ages วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง บอคคัชชิโอ (Giovanni Boccaccio) ( ค.ศ.1313-1375 ) นักเขียนชาวอิตาลี เป็นนักเขียนแนวมานุษยนิยม(Humanist) ได้รับสมญานามว่า "บิดาแห่งมนุษยวิทยา" ผลงานชิ้นสำคัญ คือ “ตำนานสิบราตรี” หรือ เดคาเมรอน (Decameron) และ “On Famous Women” งานเขียนของเขาเป็นงานเขียนนิยายเสียดสีสังคม นิยายชวนหัวล้อสังคมที่เฉียบแหลมที่สุดแห่งยุค