ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ บทที่ 8 ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ 11/10/2018
ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ตลาดผูกขาดอย่างแท้จริง ( Pure Monopoly ) ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด ( Monopolistics Competition ) ตลาดผู้ขายน้อยราย ( Oligopoly ) 11/10/2018
ลักษณะทั่วไป สินค้ามีความแตกต่างกัน มีผู้ผลิตจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ผู้ขายแต่ละรายมีอิทธิพลในการกำหนดราคาหรือปริมาณการผลิตอย่างใดอย่างหนึ่ง การกำหนดราคามีลักษณะเป็น หรือ Price Searcher หรือ Price Maker 11/10/2018
ลักษณะเส้นอุปสงค์ของผู้ผลิต มีลักษณะลาดลงจากซ้ายมาขวา เส้นอุปสงค์เป็นเส้นเดียวกับเส้นราคา (P)และเส้นรายรับเฉลี่ย(AR) เส้นรายรับเพิ่ม (MR) มีความชันเป็น 2 เท่าของ AR ราคา,รายรับ D=AR MR ปริมาณ 11/10/2018
ตลาดผูกขาดแท้จริง Pure Monopoly 11/10/2018
ประเภทของตลาดผูกขาด ตลาดผูกขาดที่ไม่มีการควบคุม *ผู้ผูกขาดมีอำนาจเต็มที่ในการกำหนดราคาหรือปริมาณการผลิตอย่างใดอย่างหนึ่ง ตลาดผูกขาดที่ควบคุมโดยรัฐ * ผู้ผูกขาดไม่มีอำนาจกำหนดราคาอย่างเต็มที่ * รัฐจะแทรกแซงการกำหนดราคาสินค้าของผู้ผลิต 11/10/2018
ลักษณะของตลาดผูกขาดที่แท้จริง มีผู้ผลิตหรือผู้ขายเพียง 1 ราย สินค้ามีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร ไม่สามารถหาสินค้าอื่นๆมาทดแทนได้อย่างใกล้เคียง ผู้ผลิตสามารถกีดกันไม่ให้ผู้ผลิตอื่นเข้ามาผลิตแข่งขันได้ 11/10/2018
สาเหตุของการผูกขาด ผู้ผลิตหลายรายรวมตัวกันผูกขาดการผลิตโดยยุบรวมเป็นบริษัทเดียวกัน ขนาดของกิจการใหญ่มากจึงจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง (Economy of Scale)จึงสามารถสร้างอำนาจผูกขาดได้ รัฐออกกฏหมายให้ผูกขาดการผลิตเพียงผู้เดียว เป็นเจ้าของวัตถุดิบที่สำคัญแต่เพียงผู้เดียว การจดทะเบียนลิขสิทธิ์ทางกฏหมาย 11/10/2018
เส้นอุปสงค์และรายรับส่วนเพิ่มของการผูกขาด เนื่องจากตลาดผูกขาดแท้จริงมีผู้ผลิตเพียงรายเดียว อุปสงค์ตลาด = อุปสงค์ของผู้ผูกขาด D = AR MR ราคา , รายรับ ปริมาณผลผลิต 11/10/2018
ตลาดผูกขาดที่ไม่มีการควบคุม ผู้ผูกขาดมีอิสระในการกำหนดราคาหรือปริมาณการผลิต *ถ้าผู้ผูกขาดกำหนดราคา : ตลาดเป็นผู้กำหนดปริมาณการผลิตและปริมาณขาย *ถ้าผู้ผูกขาดกำหนดปริมาณการผลิตและปริมาณขาย : ตลาดเป็นผู้กำหนดราคา 11/10/2018
D = AR ราคา , รายรับ ปริมาณผลผลิต P Q MR 11/10/2018
การวิเคราะห์ดุลยภาพระยะสั้นของผู้ผูกขาด เงื่อนไข ที่เลือกผลิตคือ MR = MC 11/10/2018
ต้นทุน ,รายรับ MC AC P A C B D=AR E MR ปริมาณ Q F E MR ปริมาณ Q 11/10/2018
ต้นทุน,รายรับ ปริมาณ D=AR MR MC P Q AC A E ปริมาณ D=AR MR MC P Q AC A E 11/10/2018
ต้นทุน , รายรับ ปริมาณ D=AR MR MC P A E Q AC C B ปริมาณ D=AR MR MC P A E Q AC C B F G AVC 11/10/2018
ต้นทุน , รายรับ ปริมาณ D=AR MR MC P A E Q AVC ปริมาณ D=AR MR MC P A E Q AVC 11/10/2018
สรุป กำไรเกินปกติ กำไรปกติ ขาดทุน การผลิตในระยะสั้นของผู้ผลิตผูกขาดอาจเผชิญกับ กำไรเกินปกติ กำไรปกติ ขาดทุน 11/10/2018
แบบฝึกหัด 1500 1200 1000 700 200 100 120 150 ต้นทุน , รายรับ AC MC B AVC 1200 A 1000 700 G E 200 D MR ปริมาณ 100 120 150 11/10/2018
คำถาม ผู้ผลิตควรจะเลือกผลิตสินค้ากี่หน่วย ณ จุดดุลยภาพรายรับเฉลี่ยมีค่าเท่าใด ณ จุดดุลยภาพรายรับรวมมีค่าเท่าใด ณ จุดดุลยภาพต้นทุนรวมมีค่าเท่าใด ณ ปริมาณการผลิต 150 หน่วย ต้นทุนเฉลี่ยมีค่าเท่าใด ณ ปริมาณการผลิต 100 หน่วย รายรับเพิ่มมีค่าเท่าใด 11/10/2018
ณ จุดดุลยภาพ ผู้ผลิตเสียต้นทุนผันแปรเฉลี่ยเท่าใด ณ จุดดุลยภาพ ผู้ผลิตเสียต้นทุนผันแปรเฉลี่ยเท่าใด ในกระบวนการผลิต ผู้ผลิตเสียต้นทุนคงที่เท่าใด ผู้ผลิตได้รับกำไร หรือ ขาดทุน เท่าใด 11/10/2018
ดุลยภาพระยะยาวของผู้ผูกขาด D=AR MR LMC LAC E A B P C Q ต้นทุน ,รายรับ ปริมาณ SAC SMC 11/10/2018
ดุลยภาพระยะยาวของผู้ผูกขาด ต้นทุน , รายรับ ปริมาณการผลิต D=AR MR SMC E LAC LMC SAC Q P A 11/10/2018
ดุลยภาพในระยะยาวของผู้ผลิตในตลาดผูกขาดจะเผชิญกับ กำไรเกินปกติ กำไรปกติ 11/10/2018
การผูกขาดภายใต้ข้อบังคับ กิจการบางอย่างจำเป็นต้องให้มีการผลิตขนาดใหญ่เพื่อให้มีการประหยัดจากขนาด รัฐเข้าควบคุมผู้ผลิตเพื่อไม่ให้ผู้ผูกขาดเอาเปรียบผู้บริโภค 11/10/2018
การกำหนดราคาและปริมาณการผลิตกรณีการผูกขาดภายใต้ข้อบังคับ ต้นทุน , รายรับ MC AC P A B C F Pf I PI E D=AR MR ปริมาณผลผลิต Q Qf QI 11/10/2018
การแบ่งแยกราคาขาย ( Price Discrimination ) หากผู้ขายหรือผู้ผูกขาดต้องการแสวงหากำไรเพิ่มสามารถทำได้โดยขายสินค้าชนิดเดียวกันในราคาที่แตกต่างกันสำหรับตลาดแต่ละตลาด เงื่อนไขคือ *ผู้ผูกขาดสามารถแยกตลาดออกจากกันได้เด็ดขาด *อุปสงค์สำหรับสินค้านั้นต้องมีความยืดหยุ่นแตกต่างกันในแต่ละตลาด 11/10/2018
วิธีการทำ Price Discrimination * หาปริมาณผลผลิตรวมทั้งหมดที่จะทำให้ได้รับกำไรสูงสุดก่อน * จัดสรรผลผลิตให้แต่ละตลาดโดยยึดหลักที่ทำให้ได้รับกำไรสูงสุดในแต่ละตลาดนั่นคือ ณ จุดที่ MC (รวม ) = MR แต่ละตลาด * ราคาจะถูกกำหนดตามเส้นอุปสงค์ในแต่ละตลาด 11/10/2018
*กำหนดราคาสินค้าต่ำกว่าในตลาดที่มีความยืดหยุ่นมาก P P1 MC P2 D2 D D1 MR MR1 MR2 Q1 Q2 Q ตลาดที่ 2 ตลาดที่ 1 *กำหนดราคาสินค้าต่ำกว่าในตลาดที่มีความยืดหยุ่นมาก 11/10/2018
ผลดีของการผูกขาด การผลิตที่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติต้องมีการผูกขาดเพื่อสงวนทรัพยากรของประเทศ นั่นคือให้มีการผลิตในขนาดใหญ่ เกิด การประหยัดจากขนาด ( Economy of Scale ) ผู้ผูกขาดทำให้ผลิตผลมีมาตรฐานเดียวกัน ลดค่าใช้จ่ายในการขายและการโฆษณา 11/10/2018
ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด Monopolistic Competition 11/10/2018
ลักษณะของตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด จำนวนผู้ผลิตมีเป็นจำนวนมาก ไม่มีสิ่งกีดขวางของผู้ผลิตใหม่ที่จะเข้ามาทำการผลิตแข่งขัน ( Free entry ) ไม่มีการรวมตัวกันระหว่างผู้บริโภคและผู้ผลิต สินค้าของผู้ผลิตแต่ละรายจะแตกต่างกันในตัวสินค้าหรือความรู้สึกของผู้บริโภค 11/10/2018
มีการแข่งขันและการผูกขาดไปพร้อมๆกัน ผู้ขายแต่ละรายมีอำนาจในการผูกขาดสินค้าของตน ถ้าทำสินค้าให้แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น มีการแข่งขันและการผูกขาดไปพร้อมๆกัน 11/10/2018
การกำหนดราคาและปริมาณการผลิตในระยะสั้น ผู้ผลิตในตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาดแสวงหากำไรสูงสุด โดยทำการผลิตที่ MC = MR 11/10/2018
Q MC AC P A ปริมาณ ราคา D=AR MR E C B 11/10/2018
D=AR MR MC AC P A E ต้นทุน,รายรับ ปริมาณ Q 11/10/2018
D=AR MR MC AC AVC C P D B A F E ต้นทุน,รายรับ ปริมาณ Q 11/10/2018
D=AR MR MC AC AVC C P B A E ต้นทุน,รายรับ ปริมาณ Q 11/10/2018
สรุป ในระยะสั้น ผู้ผลิตมีโอกาสได้รับ กำไรเกินปกติ กำไรปกติ ขาดทุน ในระยะสั้น ผู้ผลิตมีโอกาสได้รับ กำไรเกินปกติ กำไรปกติ ขาดทุน 11/10/2018
การกำหนดราคาและปริมาณการผลิตในระยะยาว เงื่อนไข SAC = LAC = D = AR > SMC = LMC = MR 11/10/2018
ต้นทุน,รายรับ LMC LAC SMC SAC A P D=AR E MR ปริมาณ Q 11/10/2018
ในระยะยาว ผู้ผลิตจะได้รับเพียงกำไรปกติเท่านั้น เนื่องจากคุณสมบัติ การเข้าออกได้อย่างเสรี ( Free entry ) ของผู้ผลิตในตลาด 11/10/2018
ตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly) 11/10/2018
ลักษณะของตลาด ประกอบไปด้วยผู้ขายตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป เมื่อผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเปลี่ยนแปลงราคาและจำนวนผลผลิต จะมีผลกระทบต่อผู้ผลิตที่เป็นคู่แข่งขันในตลาดและมักจะมีการกระทำตอบโต้ในเรื่องการกำหนดราคาแข่งขันกัน จนกระทั่งรายรับส่วนเพิ่มของผู้ผลิตทั้ง 2 รายลดลง 11/10/2018
ประเภทตลาดผู้ขายน้อยราย Pure Oligopoly :สินค้าเหมือนกันแต่มักใช้การแข่งขันแบบไม่ใช้ราคาหรือใช้การส่งเสริมการจำหน่ายและการโฆษณาเพื่อทำให้สินค้าแตกต่างกัน เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำอัดลม เบียร์ ปูนซีเมนต์ ฯลฯ Differentiated Oligopoly : สินค้าแตกต่างกันแต่ใช้ทดแทนกันได้ดี เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ฯลฯ 11/10/2018
ราคาและปริมาณผลผลิตของผู้ขายน้อยราย การกำหนดราคาและผลผลิตตามทฤษฎีของเส้นอุปสงค์ที่หักมุม ( Kinked Demand Curve ) การกำหนดราคาในรูปแบบอื่น ๆ * การตั้งราคาตามผู้นำ ( Price Leadership ) * การรวมตัวกันของผู้ผลิต ( Collusion ) 11/10/2018
ลักษณะของเส้นอุปสงค์ ราคา ลักษณะของเส้นอุปสงค์ ช่วง AB : Demand มีความยืดหยุ่นมาก ช่วง BD1 : Demand มีความยืดหยุ่นน้อย A P2 B P P1 D2 D1 ปริมาณผลผลิต Q1 Q2 Q3 Q4 11/10/2018
ลักษณะเส้นรายรับเพิ่ม ( MR ) ราคา ลักษณะเส้นรายรับเพิ่ม ( MR ) A B P MR1 D = AR ปริมาณผลผลิต MR2 11/10/2018
ดุลยภาพในระยะสั้น ผลิต ณ จุดที่ MR = MC 11/10/2018
ต้นทุน ,รายรับ ปริมาณ A B D C F G MR Q MC AC E I P H 11/10/2018
ต้นทุน , รายรับ ปริมาณ Q A P G MR C F D = AR B MC AC E 11/10/2018
ต้นทุน,รายรับ ปริมาณ A Q D=AR B F C MR G I H P AC MC E AVC 11/10/2018
สรุป ดุลยภาพระยะสั้นผู้ผลิตมีโอกาสได้รับ กำไรเกินปกติ กำไรปกติ ขาดทุน 11/10/2018
ข้อสังเกต 1. MR จะตัดกับ MC ในช่วงที่ MR ขาดตอน ราคามีแนวโน้มคงที่ ( Price Rigidity ) อยู่ตรง ส่วนหัวมุมที่เส้นอุปสงค์หักงอ 3. ปริมาณการผลิตค่อนข้างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง 11/10/2018
ในระยะยาวการกำหนดราคาและ ปริมาณการผลิตขึ้นอยู่กับ การเปลี่ยนแปลงขนาดของกิจการ ความยากง่ายที่ผู้ผลิตรายใหม่จะเข้ามาทำการผลิตแข่งขัน 11/10/2018
ต้นทุน , รายรับ ปริมาณ A B P Q MR SAC I H F D=AR SMC LMC LAC E C ปริมาณ A B P Q MR SAC I H F D=AR SMC LMC LAC E C 11/10/2018
ต้นทุน , รายรับ LMC SMC A SAC LAC B P I H C E F D=AR ปริมาณ Q MR Q MR 11/10/2018
* กรณีที่ผู้ผลิตสามารถสร้างสิ่งกีดขวางมิให้ * กรณีที่ผู้ผลิตสามารถสร้างสิ่งกีดขวางมิให้ ผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาแข่งขันเพื่อแบ่งกำไรได้ กำไรเกินปกติ * กรณีการแข่งขันแบบไม่ใช้ราคา Ex การ โฆษณา ลด แลก แจก แถม จะทำให้ ต้นทุนสูงขึ้น : กำไรลดลง กำไรปกติ 11/10/2018
การกำหนดราคารูปแบบอื่นๆ 1. การตั้งราคาตามผู้นำ ( Price Leadership ) การเป็นผู้นำโดยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่เข้าตลาดเป็นรายแรก การเป็นผู้นำโดยเป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำสุด การเป็นผู้นำราคาโดยเป็นผู้ผลิตที่ประพฤติตนเป็นเครื่องบ่งชี้ในการกำหนดราคาขายในตลาดและผู้ผลิตรายอื่นๆก็จะขายสินค้าในราคาเดียวกัน 11/10/2018
2. การรวมตัวกันของผู้ผลิต (Collusion) 2.1 การรวมกลุ่มสมบูรณ์ ( Perfect Collusion ) เสมือนว่าเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวในตลาดและทำการตกลงร่วมกันที่จะดำเนินนโยบายเดียวกัน รวมทั้งตั้งราคาเดียวกัน ราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ทำให้กำไรรวมของกลุ่มสูงสุด ณ MC (กลุ่ม) = MR (กลุ่ม) ปริมาณการผลิตจะถูกจัดสรรให้โดยกลุ่ม 11/10/2018
2.2 การรวมกลุ่มไม่สมบูรณ์ Imperfect Collusion ) รวมตัวกันหลวม ๆ มักจะกำหนดราคาเดียวกัน นโยบายอื่น ๆ เช่น ปริมาณการผลิต และการส่งเสริมการขายแล้วแต่ผู้ผลิตแต่ละราย 11/10/2018