วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ
Advertisements

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเชิงซ้อน
อัตราส่วนของจำนวนหลายๆ จำนวน
ลิมิตและความต่อเนื่อง
ลำดับลู่เข้า และลำดับลู่ออก
บทที่ 3 ลำดับและอนุกรม (Sequences and Series)
ความต่อเนื่อง (Continuity)
ลำดับทางเดียว (Monotonic Sequences)
การเรียงสับเปลี่ยนเชิงวงกลม (Circular Permutation)
สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้
ขอต้อนรับเข้าสู่ สาระที่ 3 เรขาคณิต. ขอต้อนรับเข้าสู่ สาระที่ 3 เรขาคณิต.
Welcome To Math 167 Presence by Chat Pankhao
Chapter 1 โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริธึมส์
ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น โดย ครูภรเลิศ เนตรสว่าง โรงเรียนเทพศิรินทร์
จำนวนเต็ม จำนวนเต็ม  ประกอบด้วย                   1. จำนวนเต็มบวก    ได้แก่  1 , 2 , 3 , 4, 5 , ....                   2.  จำนวนเต็มลบ      ได้แก่  -1.
การใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวัน (จำนวนเต็มบวก) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นางพรเรียง ก๋งแก้ว สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนสัตหีบวิทยาคม.
นางสาวสุพรรษา ธรรมสโรช
Wangg991.wordpress.com Stand SW 100 Click when ready  Reasoning.
We well check the answer
การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สับเซต ( Subset ) นิยาม กำหนดให้ A และ B เป็นเซตใด ๆ เรากล่าวว่า A เป็นสับเซต B ก็ต่อเมื่อ สมาชิกทุกตัวของ A เป็นสมาชิกของ B ใช้สัญลักษณ์
เฉลยแบบฝึกหัด 1.5 จงพิจารณาว่า ฟังก์ชันในข้อต่อไปนี้ไม่มีความต่อเนื่องที่ใดบ้าง วิธีทำ เนื่องจากฟังก์ชัน และ.
เทคนิคทางคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
หน่วยที่ 3 อินทิกรัลและการประยุกต์
หน่วยที่ 8 อนุพันธ์ย่อย (partial derivative).
จำนวนทั้งหมด ( Whole Numbers )
เศษส่วน.
สัดส่วนและการหาค่าตัวแปร
แฟกทอเรียล (Factortial)
กฏเกณฑ์นับเบื้องต้นเกี่ยวกับการนับ วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล
การแปรผกผัน ( Inverse variation )
ความสัมพันธ์เวียนบังเกิด
ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ์
คุณสมบัติการหารลงตัว
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
จำนวนเต็มกับการหารลงตัว
ค33211 คณิตศาสตร์สำหรับ คอมพิวเตอร์ 5
การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
สัปดาห์ที่ 7 การแปลงลาปลาซ The Laplace Transform.
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล
บทเรียนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Multipoint
การหาผลคูณและผลหารของเลขยกกำลัง
วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่6
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การพัฒนาสมการไดโอแฟนไทน์กำลังสอง
z  1 ( mod 2 ) ก็ต่อเมื่อ z2  1 ( mod 2 )
ตัวประกอบ (Factor) 2 หาร 8 ลงตัว 3 หาร 8 ไม่ลงตัว 4 หาร 8 ลงตัว
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียล โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่
วงรี ( Ellipse).
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ทฤษฎีเบื้องต้นของความน่าจะเป็น
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
แบบฝึกหัด จงหาคำตอบที่ดีที่สุด หรือหาค่ากำไรสูงสุด จาก
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
โครงสร้างข้อมูลแบบลิงก์ลิสต์
ค่าความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ 2 ตัว
สื่อการสอนด้วยโปรมแกรม “Microsoft Multipoint”
สาระการเรียนรู้ที่ ๙ ประโยคเปิด
วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่
บทที่ 1 จำนวนเชิงซ้อน.
สอนโดย ครูประทุมพร ศรีวัฒนกูล
Summations and Mathematical Induction Benchaporn Jantarakongkul
ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ลิมิตและความต่อเนื่องของฟังก์ชัน
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สอนโดย ครูประทุมพร ศรีวัฒนกูล
ใบสำเนางานนำเสนอ:

วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่

สามารถแก้สมการที่มี Permutation ( P ) ได้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายคาบ สามารถใช้และคำนวณเกี่ยวกับ Permutation ( P ) ได้ สามารถแก้สมการที่มี Permutation ( P ) ได้

เรื่องแฟคทอเรียล

นิยาม Permutation ( P ) โดยที่

ตัวอย่าง จงหาค่าของ โดยที่ n = 6 และ r = 4 จากสูตร หรือ

ตัวอย่าง จงหาค่าของ จากสูตร (n+1)-2 = n-1 r r n (n+1)-2 = n-1 พิจารณาตัวเศษและตัวส่วนจะเห็นว่าตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ

แบบฝึกทักษะที่ 3 (ก) วิธีเรียงสับเปลี่ยน

1) จงหาค่าของ จะได้ n= 8 และ (n-1) = 7 ดังนั้น n = 8 จาก โดยที่ r = 2 พิจารณาตัวเศษและตัวส่วนจะเห็นว่าตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ จะได้ n= 8 และ (n-1) = 7 ดังนั้น n = 8

2) จงหาค่าของ จะได้ n = 8 , (n-1) = 7 และ (n-2) = 6 ดังนั้น n = 8 จาก r = 3 โดยที่ พิจารณาตัวเศษและตัวส่วนจะเห็นว่าตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ จะได้ จะได้ n = 8 , (n-1) = 7 และ (n-2) = 6 ดังนั้น n = 8

ตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ 3) จงหาค่าของ จาก r = 4 โดยที่ ตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ จะได้ จะได้ n = 5 , (n-1) = 4 , (n-2) = 3 และ (n-3) = 2 ดังนั้น n = 5

4) จงหาค่าของ ดังนั้น n = จำนวนนับ n - n+1 = 1 จะได้ r = n และ n-1 จาก โดยที่ n - n+1 = 1 จะได้ ดังนั้น n = จำนวนนับ

5) จงหาค่าของ จาก r = n และ n - 3 โดยที่ จะได้ n - n + 3 = 3

แทนด้วยจำนวนนับใดๆเป็นจริงทุกจำนวน ดังนั้น n = จำนวนนับ

6) จงหาค่าของ จะได้ n - 1- 5 = n - 6 จาก r = 4 และ 5 โดยที่ ตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ ตัวเศษมากกว่าตัวส่วนดังนั้นจึงกระจายตัวเศษ จะได้

หรือ แต่ n=2 ใช้ไม่ได้เนื่องจากต้องเป็นจำนวนเต็มบวก ดังนั้น n=10

7) จงหาค่าของ จาก r = 3 โดยที่ จะได้ =

ดังนั้น

8) จงหาค่าของ โดยที่ จะได้ 20=54 r r 20=54 จะได้ (n-3) = 5 และ (n-4) = 4 ดังนั้น n = 8

เนื่องจาก (n-r+1)!= (n-r+1)(n-r+1-1)!= (n-r+1)(n-r)! 9) จงหาค่าของ โดยที่ n-(r-1) = n-r+1 จะได้ r เนื่องจาก (n-r+1)!= (n-r+1)(n-r+1-1)!= (n-r+1)(n-r)! จะได้ว่า ดังนั้น n = จำนวนนับ

10) จงหาค่าของ จะได้ โดยที่ ดังนั้น n = จำนวนนับ n n r n r r n Note 0!=1 ดังนั้น n = จำนวนนับ (n-1)(n-1)=(n-1)2

11) จงหาค่าของ โดยที่ n n 2n-1- n = n-1 n n r r 2n+1- n+1 = n+2

ดังนั้น n = 4 แต่ n ต้องเป็นจำนวนเต็มบวก หรือ หรือ จาก จะได้ว่า N2+n+2n+2 แต่ n ต้องเป็นจำนวนเต็มบวก ดังนั้น n = 4

12) จงหาค่าของ โดยที่ n n จะได้ 11-n+2=13-n n n r r 10-n+1=11-n

ดังนั้น n = 7 n - 18 = 0 หรือ n - 7 = 0 จะได้ n = 18 , 7 จาก