ตลาด ( MARKET )
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ( PERFECT COMPETTITION ) ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ( IMPERFECT COMPETTITION ) ตลาดผูกขาด ( MONOPOLY ) ตลาดผู้ขายน้อยราย ( OLYGOPOLY ) ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด ( MONOPOLISTIC COMPETTITION )
หลักการแบ่งประเภทตลาด จำนวนผู้ผลิต หรือ ผู้ขาย ความยากง่ายในการหาสินค้าอื่นมาทดแทน ความยากง่ายในการเข้าหรือออกจากการผลิต
การกำหนดราคาและผลผลิตในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ นำเรื่องต้นทุนและรายรับมาใช้ ตลาดทั่วไปมีการพบปะกัน ตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องมีสถานที่ เช่นตลาดแรงงาน ตลาดหลักทรัพย์ อยู่คนละมุมโลกก็ซื้อขายได้
ลักษณะของตลาดแข่งขันสมบูรณ์ มีจำนวนผู้ซื้อ ผู้ขายมากราย ไม่ว่าจะซื้อจากใครจะได้สินค้าคุณภาพเหมือนกันไม่แตกต่างกัน มีความรอบรู้ด้านข่าวสารด้านราคาและปริมาณที่ตกลงซื้อขาย มีเสรีภาพในการเข้าและออกจากตลาดทุกแห่ง หน่วยผลิตต้องการกำไรสูงสุด
โครงสร้างอุปสงค์ เส้นอุปสงค์เป็นเส้นขนานกับแกนนอน เส้นอุปสงค์ตลาดลาดจากซ้ายไปขวา คือมีความชันเป็นลบ รายรับเพิ่ม ( Marginal revenue ) เท่ากับ ราคาตลาด ( Market price) คือ สินค้าแต่ละหน่วยที่ขายเพิ่มขึ้นทำให้รายรับรวมของหน่วยผลิตเพิ่มขึ้นเท่ากับราคาตลาด หน่วยผลิตในตลาดแข่งขันสมบูรณ์มีสภาพเป็นผู้ยอมรับราคาตลาด ( Price taker )
รายรับ รายรับรวม ( Total Revenue ) TR = P * Q รายรับเฉลี่ย ( Average Revenue ) AR = TR / Q = P * Q / Q = P รายรับเพิ่ม ( Marginal Revenue ) = TR Q
การตัดสินใจเกี่ยวกับการผลิตในระยะสั้น ในระยะสั้นต้นทุนคงที่ไม่สามารถแปรผันได้ กล่าวคือการจะขยายโรงงานหรือการที่จะเข้ามาสู่ตลาดของผู้ผลิตหน้าใหม่จะต้องใช้เวลา ผลิตตรงจุดที่รายรับเพิ่มเท่ากับต้นทุนเพิ่ม ผลิตที่ P = ATC ผลิตที่ P มากกว่า AC ผลิตที่ P น้อยกว่า AC แต่มากกว่า AVC ผลิตที่ P เท่ากับหรือต่ำกว่า AVC
เส้นอุปทานระยะสั้นของหน่วยผลิต นับจากจุดต่ำสุด ของ AVC เลื่อนขึ้นไปตาม เส้นต้นทุนเพิ่ม MC