กลุ่มอาการทางผิวหนัง อ.ณัฐกฤตา วงค์ตระกูล www.teacher.ssru.ac.th/natgrita_wo
ที่มา http://rozess.co.za/skin-anatomy/
การตรวจลักษณะทั่วไปของผิวหนังได้แก่ สีผิว ความชุ่มชื้นของผิวหนัง ลักษณะผิว ความตึงตัว การบวม อุณหภูมิของผิวหนัง เม็ดผื่นและตุ่ม
ผื่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จากตุ่มใสกลายเป็นหนอง มีสะเก็ด - ประวัติการสัมผัสยาสารเคมีและสิ่งกระตุ้นต่างๆเช่นแสงแดดสบู่ครีมโลชั่นยาที่ใช้อยู่ใน ปัจจุบันหรือหลังเริ่มใช้เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนที่จะมีผื่นขึ้นเป็นต้น - ประวัติการแพ้ยาภูมิแพ้และโรคประจำตัว - อาชีพที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีที่อาจทำให้แพ้เช่นชาวสวนชาวไร่ที่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีเป็นต้น
กลาก (Dermatophytosis , Ringworm) แนเกิดจากการติดเชื้อราที่มีชื่อว่า “เดอร์มาโตไฟต์” เกิดความผิดปกติ บริเวณชั้นนอกสุดของผิวหนัง เช่น ผม ขน เล็บ เชื้อราประเภทนี้อาศัยเคอราตินเป็นอาหาร โรคนี้มักพบในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อน อากาศอบอ้าว ความอับชื้น ทำให้เกิดความสกปรกและหมักหมม วทางการซักประวัติเพื่อประเมินระบบผิวหนังมีดังต่อไปนี้ - เริ่มเป็นผื่นหรือตุ่มตั้งแต่เมื่อไร - เริ่มเป็นที่ใดของร่างกายก่อน - ระยะเวลาที่เป็นเป็นมานานกี่วันช่วงไหนที่ทำให้เกิดอาการมากที่สุด - อาการที่เกิดร่วมด้วยเช่นอาการคันปวดชาแสบร้อน มีไข้ เป็นต้น - ลักษณะการกระจายตัวของผื่นเป็นอย่างไร
อาการ จะเป็นผื่นแดง วงกลม มีขอบเขตชัดเจน รูปร่างคล้ายวงแหวน มีสะเก็ดลอกขุยที่ขอบ วงนี้จะลุกลามขยายออกไปเรื่อยๆ และอาจขึ้นเป็นวงติดๆ กันหลายวง หรือเป็นวงซ้อนกัน ซึ่งจะยิ่งเห็นรูปร่างวงแหวนชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญมักจะมีอาการคัน
โรคกลากที่หนังศีรษะและเส้นผม (Tinea capitis) พบมากในเด็กเล็ก และเด็กวัยเรียนช่วงก่อนวัยรุ่น สามารถติดต่อกันได้ง่ายจากการใช้สิ่งของร่วมกันถ้าเป็นมากจะกลายเป็นตุ่มหนอง มีน้ำเหลืองเยิ้ม เรียกว่า "ชันนะตุ"
โรคกลากที่ลำตัว แขน ขา (Tinea corporis) http://medlibes.com/entry/tinea-corporis
โรคกลากที่ขาหนีบ (Tinea cruris) ลักษณะผื่นเริ่มแรกจะเป็นตุ่มแดงๆ ที่ต้นขาหรือขาหนีบ แล้วลุกลามเป็นวงไปที่ต้นขาด้านใน และอวัยวะเพศภายนอก เป็นผื่นสีแดง มีสะเก็ดและขอบชัดเจน มีอาการคัน โดยมากจะรับเชื้อมาจากการใช้ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน และเสื้อผ้าร่วมกับผู้ที่เป็นโรคเชื้อรา
โรคกลากที่เท้า (Tinea pedis) เรียกว่า "ฮ่องกงฟุต"
โรคกลากที่เล็บ (Tinea unguium) เป็นที่เล็บเท้ามักเกิดจากโรคฮ่องกงฟุตที่เป็นเรื้อรัง ถ้าเป็นที่เล็บมือ มักมีอาการของโรคเชื้อราที่บริเวณอื่นมาก่อน http://faculty.ccbcmd.edu/courses/bio141/labmanua/lab10/tinea_unguium.html
การรักษา การรักษากลากที่เป็นเฉพาะที่อาจใช้ยาทา มียาทาหลายกลุ่มให้เลือกใช้ เช่น โคลทรัยมาโซล ไมโคนาโซล คีโตโคนาโซล ไอโซโคนาโซล เป็นต้น ส่วนยารับประทานควรใช้ในรายที่เป็นผื่นบริเวณกว้าง เช่น กริซิโอฟูลวิน คีโตโคนาโซล ไอตราโคนาโซล ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมของผื่นแต่ละราย การป้องกัน 1. รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยอาบน้ำทุกวันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรเช็ดตัวให้แห้ง ระวังอย่าให้เกิดความอับชื้นบริเวณต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณซอกพับต่างๆ เช่น รักแร้ ใต้ราวนม ขาหนีบ ที่เท้า 2. ทำความสะอาดเสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า ควรตากแดดให้แห้ง 3. หลีกเลี่ยงไม่สัมผัส คลุกคลี หรือใช้ของร่วมกับคนที่เป็นโรคกลาก
ข้อแนะนำ 1. ควรทายาและกินยาอย่างสม่ำเสมอ 2 ข้อแนะนำ 1. ควรทายาและกินยาอย่างสม่ำเสมอ 2. รักษาทุกคนในบ้านที่เป็นโรคกลาก 3. ถ้ามีผื่นผิวหนังที่มีอาการคันและสงสัยว่าจะเป็นโรคกลาก ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง ควรจะไปรับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้อง
เกลื้อน(Tinea versicolor) - เริ่มจากมีผื่นขึ้นเป็นดวงกลมเล็กๆ ขนาดประมาณ 2 - 3 มิลลิเมตร จำนวนหลายดวง แล้วอาจรวมตัวกันขยายเป็นวงใหญ่ - เป็นผื่นราบขนาดต่างๆ กัน มีสีได้หลายสี ส่วนใหญ่สีขาว หรือสีน้ำตาลจางๆ จนถึงน้ำตาลแดง มีขุยและสะเก็ดบางๆ ที่ผิว - มักไม่มีอาการคัน หรือคันเล็กน้อยในขณะที่มีเหงื่อออก
การรักษา ยาน้ำชนิดทา เช่น 20% sodium sulfide เหมาะกับผื่นที่เป็นมากๆ ยาทาที่มีส่วนผสมของ selenium sulfideหรือ ketoconazole ให้อาบน้ำฟอกตัวให้สะอาดด้วยสบู่ตามปกติ ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา เช่น clotrimazole ,ketoconazole,ให้ทาก่อนนอนวันละครั้งเป็นเวลาสองสัปดาห์ หลังจากนั้นทาสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ยารับประทานฆ่าเชื้อราได้แก่ ketoconazole, fluconazole จะใช้ในกรณีที่เป็นมาก และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะรับประทานเหล่านี้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยให้รับประทาน 5 วัน การรักษาอนามัยส่วนบุคคล
ลมพิษ(Urticaria) ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ จะสร้างสารแพ้ที่เรียกว่า ฮีสตามีน ออกมาจากเซลล์ใต้ผิวหนังทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมาซึมออกมาในผิวหนัง มีลักษณะจําเพาะคือ wheal ซึ่งเป็นผื่นบวมนูนแดงที่เกิดขึ้นทันทีทันใด มีอาการคัน แต่ละ ผื่นจะจางหายไปใน 24 ชม. ไม่เหลือรอยหลังผื่นยุบ และผื่นมักจะเป็นๆหายๆ ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการแสดงที่อวัยวะอื่นได้เช่น อาการแน่น ปวดท้อหรือท้องเดิน แน่นจมูกคอ หายใจไม่สะดวก หอบหืด บางรายอาจเกิดอาการเป็นลมจากความดันโลหิตต่ํา http://www.dermnet.com/images/Urticaria-Acute/picture/3799
สาเหตุของลมพิษ
การป้องกันลมพิษ ที่สำคัญ คือ การป้องกันลมพิษ ที่สำคัญ คือ หลีกเลี่ยงสิ่ง หรือ สารต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ที่รู้ว่าเป็นสาเหตุ สังเกตตนเองเสมอในเรื่องต่างๆ เพื่อหาสิ่ง หรือ สารที่อาจกระตุ้นให้เกิดลมพิษ ระมัดระวังการกินยาต่างๆ เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด เพราะอาจเป็นสาเหตุได้ ควรแจ้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์ แนวทางการรักษาเบื้องต้น - ให้ยาแก้แพ้ chlorpheniramine 1 tab bid - ทา calamine lotion เป็นมากส่งต่อโรงพยาบาล
ผดผื่นคัน สาเหตุ จากแมลงกัด ยุง หรือสัมผัสกับสิ่งระคายเคือง หรือแพ้สารบางอย่าง เช่นโลหะ หรือเครื่องสำอางเครื่องแต่งกาย เป็นต้น อาการ ผื่นแดง/ตุ่มน้ำใสเล็กๆ คันมาก โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสถูกสิ่งที่แพ้ บางคนอาจเป็นตุ่มน้ำใสติดต่อกันจนเป็นตุ่มพองใหญ่เมื่อแตกออกจะมีน้ำเหลืองไหลออกมาเมื่อทุเลาจะแห้งเป็นขุย อาการแทรกซ้อน อาจเกาจนมีอาการติดเชื้อแบททีเรีย
หากมีอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วันหรือมีการติดเชื้อเป็นๆหายส่งต่อพบแพทย์ แนวทางการรักษา หาสาเหตุและหลีกเลี่ยง ทาสเตียรอยด์ครีม ให้Hydroxyzine (Atarax ) 25mg 1 เม็ดวันละ 3 ครั้งหรือ cetririzine 1*2 bid , chlorpheniramine 1 tab bid หากมีอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วันหรือมีการติดเชื้อเป็นๆหายส่งต่อพบแพทย์
อื่นๆ งูสวัด , เริม
โรคเรื้อน(leprosy) อาการแรกเริ่ม พบวงด่างขาว เข็มแทงไม่เจ็บ มีผื่นขึ้นที่ใบหูทั้งสองข้าง ส่งต่อพบแพทย์