1. ไรเฟิ่ลเอฟเอ็น.375 ( หรือบราวน์นิ่ง )... เจ้าของปืนก็คือ ดาริน วราฤทธิ์ แต่ไม่ค่อน ได้ใช้เท่าใดนักจะมอบให้แงซายองค์รักษ์ ส่วนตัวใช้ตั้งแต่ตามรอยได้แหว่งเป็นต้นมา จนถึงเหตุการณ์ณ์หลังจากศึกสางเขียว ก็ถูก เปลี่ยนมือมาให้ส่างปาใช้หลังจากที่แงซาย เปลี่ยนมาใช้.460 เวเธอร์บีของ ดร. ฮอฟมันน์ และสุดท้ายมันก็ถูกเปลี่ยนมือกลับมาให้แง ซายใช้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่แงซายกลับ มาร่วมคณะเมื่อสิ้นสุด การปราบมันตรัยลงได้... เนื่องจากปืน.458 ของเชษฐาพัง เชษฐาจึง ต้องเปลี่ยนมาใช้.460 เวเธอร์บีแทน แต่ สุดท้ายเจ้าปืนกระบอกนี้ก็ถึงกาลอวสานนั่นคือ ขณะที่โรมรันกับไอ้ตัวสามเขา ( ไทรเซรา ทอป ) ที่เขานิลกาญจณ์นั้น เจ้าตัวสามเขาได้ พุ่งชนก้อนหินมาทับแงซายและปืนกระบอกนี้ จนทำให้ปืนกระบอกนี้แหลกละเอียดลง
เจ้าของปืนก็คือ จอมพรานรพินทร์ไพรวัลย์ แต่เมื่อรพินทร์ต้องเปลี่ยนมาใช้.458 วินเช สเตอร์ จึงมอบปืนกระบอกนี้ให้กับพรานเฒ่า คู่ใจนั้นคือบุญคำ ซึ่งบุญคำก็ใช้ปืนกระบอกนี้ ประจำมือมาตลอดทั้งภาค 1 และ ภาค 2 และตาคำของเราก็ได้ขนานนามปืนกระบอก นี้ว่า " อีแก่ " 1. ไรเฟิล วินเชสเตอร์.375 Model 70
3. ซีแซด.375 เจ้าของปืนก็คือ มาเรีย ฮอฟมันน์ ภริยาม่าย ของสเตเกล ฮอฟมันน์ เป็นปืนกระบอกที่ ผ่านการใช้งานมาหนัก จนเกลียวในลำกล้อง สึกแทบจะหมด ซึ่งเจ้าปืนกระบอกนี้ไม่คอย ถูกเปลี่ยนมือมากนัก ส่วนใหญ่เจ้าของปืนจะ เป็นผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่
ปืนขนาด.375 ซาโก้ เจ้าของปืนกระบอกนี้ก็คือ พันตรีเชิดวุธ ไกรรณ ยุทธ นายทหารไทยที่ติดตามไปทำหน้าที่ ประสานงาน ในการติดตามระเบิดนิวเคลียร์ 10 เมกกะตัน ซึ่งในตอนแรกเชิดวุธตั้งใจจะใช้เออาร์ 15 ตามที่อเมริกันแจกมาเหมือนกัน แต่รพินทร์ได้ แนะนำที่สถานีกักสัตว์ว่า ควรใช้ปืนสำหรับยิงสัตว์ ดีกว่า ซึ่งเชิดวุธมีปืนขนาดนี้อยู่พอดีจึงนำติดตัวไป ด้วย และเมื่อไปถึงบ้านทาร์ซาน ของรพินทร์ที่ หนองน้ำแห้ง ในคืนก่อนออกเดินทาง รพินทร์ได้ แนะนำเพิ่มเติมว่าควรถอดศูนย์กล้องออก เพื่อให้ เหมาะกับสภาพป่าในเมืองไทย บทบาทของปืนกระบอกนี้ไม่เด่นอะไรมากนัก
ไรเฟิ่ลขนาด เมาเซอร์ ปืนกระบอกนี้เป็นของ แจน เครเมอร์ นัก ผจญภัยชาวเดนมาร์ก ที่เอาชีวิตไปทิ้งในป่า นรกดำ บริเวณดงเถาวัลย์กินคน ในปี ค. ศ 1912 ประมาณ 42 ปีก่อนหน้าที่คณะเชษฐา ไปพบโครงกระดูก อาวุธปืน และสมุดบันทึก การเดินทาง