พระวาจาทรงชีวิต พฤศจิกายน 2011
“ เพราะฉะนั้น จงตื่นเผ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา ”
พระเยซูเจ้าเพิ่งออกมาจากพระวิหาร พวกสาวกชี้ให้ พระองค์ดูว่า วิหารของเยรูซาเล็มที่เป็นตึกใหญ่โต และสวยงามเหลือเกิน
แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ทุกสิ่งที่ท่านเห็นนี้ เราขอบอกว่า จะไม่เหลือหินซ้อนกันเลย ทุกสิ่งจะถูกทำลาย”
หลังจากนั้น พวกเขาเดินขึ้นภูเขามะกอก เมื่อนั่งลง มองเห็นเมืองที่อยู่ตรงหน้า พระเยซูเจ้าจึงตรัสถึง เมืองจะถูกทำลาย และเรื่องอวสานแห่งโลก
พวกศิษย์จึงถามพระองค์ว่า “จุดจบของโลกจะเป็นอย่างไร และจะมาถึงเมื่อไร”
นี่เป็นปัญหาซึ่งมวลมนุษย์เฝ้าถามมาทุกยุคทุกสมัย
อนาคตเป็นเรื่องลึกลับ และมักก่อให้เกิดความกลัว แม้สมัยนี้ก็ยังคงมีคนไปหาหมอดู หรือศึกษาจักรราศี เพื่อจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
คำตอบของพระเยซูเจ้าชัดเจน เวลาจะถึงจุดจบเมื่อพระองค์ จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าแห่งประวัติศาสตร์จะเสด็จ กลับมา พระองค์เป็นจุดสว่างไสวแห่งอนาคตของเรา
การพบกับพระองค์นี้จะมีขึ้นเมื่อใด ไม่มีผู้ใดรู้เลย อาจมี ขึ้นในเวลาใดก็ได้ ชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์พระองค์
พระองค์ทรงให้ชีวิตเรา และพระองค์จะเอากลับคืน อาจจะกระทันหันไม่บอกกล่าว กระนั้น พระองค์เตือนเรา ว่า พวกท่านจงระวังเถิด จงพร้อมสำหรับเหตุการณ์นี้
“เพราะฉะนั้น จงตื่นเผ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา”
ด้วยพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่า พระองค์จะ เสด็จกลับมาอีก ชีวิตของเราบนแผ่นดินนี้จะจบลงและ จะเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งจะไม่มีจุดจบ สมัยนี้ไม่มีใครอยากจะ พูดถึงความตาย...
ทำทุกอย่างเพื่อที่จะไม่คิดถึงมัน ดังนั้น จึงพยายาม หมกมุ่นกับภาระกิจประจำวัน จนลืมนึกไปถึงพระองค์ผู้ ประทานชีวิตแก่เรา และเรียกร้องเราสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ มีความสนิทสัมพันธ์กับพระบิดาของพระองค์ในสวรรค์
เราพร้อมที่พบพระองค์ไหม เราจะมีตะเกียงจุดอยู่ เหมือนดังพรหมจรรย์รอรับเจ้าบ่าวหรือ นั่นคือ อยู่ในความรักตลอดเวลา
หรือว่าตะเกียงของเราดับไปแล้ว เพราะสลวนอยู่กับ หลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเรื่องสนุกสนาน แสวงหาข้าวของเงินทอง จนทำให้เราลืมสิ่งจำเป็น ประการเดียว นั่นคือ ลืมว่าเราต้องรัก
“เพราะฉะนั้น จงตื่นเผ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา”
เราจะเฝ้าระวังอย่างไร เรารู้ดีว่า คนที่เฝ้าระวังได้ดีคือคนที่มีความรัก
ภรรยาที่คอยสามี กลับจากงานตอน ดึกหรือจากการ เดินทางไกล เธอทราบดี หรือมารดาที่ห่วง กังวลรอท่าลูกที่ยัง กลับไม่ถึงบ้านก็ ทราบดี หรือแฟนที่ รอคอยคนรักด้วย ความห่วงใย เขาทราบดีว่าคนที่ มีความรักจะรอ คอยอย่างไรเมื่อ อีกฝ่ายหนึ่งมาช้า
เราทุกคนรู้จักคอยพระเยซู หากว่าเรารัก พระองค์ และปรารถนาอย่างเร่าร้อน ที่จะพบพระองค์
เราจะรอคอยพระองค์อย่างไร ก็โดยรักอย่างเป็น รูปธรรม รับใช้พระองค์ในเพื่อนพี่น้องที่อยู่ใกล้ชิดเรา พยายามเสริมสร้างสังคมที่ยุติธรรมมากขึ้น
องค์พระเยซูเจ้าเองทรงเชื้อเชิญเราให้เจริญชีวิตอย่างนี้ โดยทรงเล่าในนิทานเปรียบเทียบเรื่องคนใช้ที่ซื่อสัตย์ คอยนายกลับมา เขาพยายามทำงานเพื่อให้เงินที่เขา ได้รับจากนายเกิดผลงอกงามขึ้น
“เพราะฉะนั้น จงตื่นเผ้าระวังไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วันและเวลา”
เนื่องจากเราไม่รู้ว่า พระองค์จะมาพบเราเมื่อไหร่ ดังนั้น เราจงมุ่งความสนใจของเราไปที่การเจริญชีวิต ในขณะปัจจุบันที่พระองค์ปรารถนาให้กับเรา เจริญชีวิตในวันนี้ที่พระเป็นเจ้าประทานให้เรา
ไม่นานมานี้ ข้าพเจ้ารู้สึกอยากภาวนาต่อพระเจ้า ด้วยคำภาวนาอย่างนี้ ซึ่งข้าพเจ้าขอแบ่งปันกับท่าน
" พระเยซูเจ้าข้า โปรด ให้ข้าพเจ้าพูดเสมือนว่า เป็นคำสุดท้ายที่ข้าพเจ้า จะได้พูด โปรดให้ ข้าพเจ้ากระทำเสมือน ว่าจะเป็นกิจการสุดท้าย ที่ข้าพเจ้าจะได้กระทำ โปรดให้ข้าพเจ้ารับทุกข์ เสมือนเป็นความทุกข์ สุดท้ายที่ข้าพเจ้าจะ ถวายแด่พระองค์ โปรด ให้ข้าพเจ้าภาวนา ประหนึ่งว่า เป็นโอกาส สุดท้ายบนโลกนี้ที่ ข้าพเจ้าจะได้พูดกับ พระองค์ "
“เพราะฉะนั้น จงตื่นเผ้าระวัง ไว้เถิด เพราะท่านไม่รู้วัน และเวลา” “พระวาจาทรงชีวิต” จัดพิมพ์รายเดือนโดยคณะโฟโคลาเร คำอธิบายโดย เคียร่า ลูบิค เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2002 กราฟฟิกโดย Anna Lollo โดยความร่วมมือของ Fr. Placido D’Omina (ซิชิลี - อิตาลี) คำอธิบายพระวาจาทรงชีวิตนี้แปลเป็นภาษาต่างๆถึง 96 ภาษา และภาษาท้องถิ่นต่างๆด้วย พระวาจานี้ไปถึงผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ต รายละเอียดเพิ่มเติม พาวเวอร์พ้อยท์พระวาจาทรงชีวิตภาษาต่าง ๆ พบได้ที่