Regular expression.

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
การใส่หมายเลขหน้าข้อความ ปรับแต่งเอกสารด้วยการใส่ หมายเลขหน้าข้อความ
Advertisements

บทที่ 2 รหัสควบคุมและการคำนวณ
บทที่ 2 รหัสควบคุมและการคำนวณ
โดยอาจารย์ศิริพร ศักดิ์บุญญารัตน์ ครูชำนาญการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
การเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งเบื้องต้น
ประเภทของข้อมูล Excel 2007
ไวยากรณ์ของภาษาการทำโปรแกรม (2) (Syntax of programming languages)
การแสดงผล และการรับข้อมูล การแสดงผล และการรับข้อมูล.
แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษา C Introduction to C Programming Language
Data Type part.II.
Functional programming part II
Script Programming& Internet Programming
C Programming Lecture no. 4 กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ
จำนวนเต็ม จำนวนเต็ม  ประกอบด้วย                   1. จำนวนเต็มบวก    ได้แก่  1 , 2 , 3 , 4, 5 , ....                   2.  จำนวนเต็มลบ      ได้แก่  -1.
ความหมายเซต การเขียนเซต ลักษณะของเซต.
คำสั่ง while ควบคุมการทำงานวนซ้ำ กรณีระบบงานมีลักษณะตรวจสอบเงื่อนไขก่อน แล้วเข้าสู่ส่วนลำดับงานคำสั่งที่กำหนดไว้ การเขียนคำสั่ง while ต้องกำหนดนิพจน์แบบตรรกะเป็นเงื่อนไขมีค่าในหน่วยความจำเป็น.
Microsoft Access.
Microsoft Access.
การแสดงผล และการรับข้อมูล
รับและแสดงผลข้อมูล.
PHP LANGUAGE.
การกำหนดลักษณะของตัวอักษร
ปฏิบัติการที่ 3 : การสร้างโฮมเพจอย่างง่าย
Lecture no. 2: Overview of C Programming
ระบบอัตโนมัติและการพิมพ์
เรื่อง ประเภทของข้อมูล
ขั้นตอนการแปลงไฟล์.
การสร้างเว็บด้วย HTML HyperText Markup Language
บรรณารักษชำนาญการพิเศษ
บทที่ 11 การเขียนโปรแกรมภาษาซี
แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษา C Introduction to C Programming Language
Javascript.
ไวยากรณ์ของภาษาการทำโปรแกรม (1) (Syntax of programming languages)
ตัวแปร (Variable) คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ สามารถเก็บข้อมูลชนิดใดก็ ได้ ลักษณะที่สำคัญ ค่าที่จัดเก็บ เมื่อปิดโปรแกรมข้อมูลจะหายไป.
ตัวดำเนินการ(Operator)
ชนิดของข้อมูล ตัวแปร และตัวดำเนินการ
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
นิพจน์และตัวดำเนินการ
ง30212 พื้นฐานการเขียนโปรแกรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงเรียนปลวกแดงพิทยาคม
ง30212 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนปลวกแดงพิทยาคม
เรื่องข้อมูลและสาระสนเทศ
การเขียนผังงาน จุดประสงค์ 1.อธิบายความของผังงานได้
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
เครื่องหมายและการดำเนินการ ในภาษา C
ทบทวน กันก่อน .....กระบวนการแปลโปรแกรม
Week 2 Variables.
Week 12 Engineering Problem 2
Computer Programming for Engineers
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
Overview of C Programming
โครงสร้างภาษาซี #include <stdio.h> void main() {
PHP การตรวจสอบเงื่อนไข.
การสร้างแบบสอบถาม และ การกำหนดเงื่อนไข.
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
HTML 1. รูปแบบพื้นฐานของ เอชทีเอ็มแอล
รหัสวิชา บทที่ 4 การจัดรูปแบบเอกสาร.
CHAPTER 7 String Functions and Regular Expression
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
พื้นฐานการเขียนโปรแกรมด้วย C#
หน่วยที่ 4 โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการโปรแกรมคอมพิวเตอร์
บทที่ 5 รหัสควบคุมและ การคำนวณ C Programming C-Programming.
แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษา C Introduction to C Programming Language
บทที่ 2 โครงสร้างของภาษา C.
การกระทำทางคณิตศาสตร์
ตัวแปร และชนิดข้อมูล.
โครงสร้างของภาษา HTML
หลักการทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม
ใบสำเนางานนำเสนอ:

regular expression

นิพจน์ปรกติ (regular expression) คือ สตริง ที่อธิบายถึงรูปแบบของสตริงตามโครงสร้างรูปแบบที่กำหนด นิพจน์ปรกตินั้นใช้อยู่แพร่หลายในโปรแกรมประเภท Text editor ในการค้นหาและปรับเปลี่ยนข้อความ ภาษาโปรแกรมหลายภาษายังรองรับการใช้นิพจน์ปรกติสำหรับการจัดการและปรับเปลี่ยนสตริง

การสร้างทางเลือก | เครื่องหมายขีดตั้ง ใช้สำหรับสร้างทางเลือกที่จะใช้ค้นหานิพจน์ เช่น "express|expand" มีความหมายว่า express หรือ expand

การจัดกลุ่ม ( ) วงเล็บ ใช้ในการกำหนดลำดับและขอบเขตของนิพจน์ ( ) วงเล็บ ใช้ในการกำหนดลำดับและขอบเขตของนิพจน์ เช่น "ex(pres|pan)sion" มีความหมายว่า expression หรือ expansion

การบอกจำนวน ? ปรัศนี ใช้บ่งบอกว่ามีนิพจน์ก่อนหน้านี้จำนวน 0 หรือ 1 นิพจน์ (มีนิพจน์หรือไม่มีก็ได้) เช่น "ปร?กติ" มีความหมายว่า ปกติ หรือ ปรกติ

การบอกจำนวน * เครื่องหมายดอกจัน ใช้บ่งบอกว่ามีนิพจน์ก่อนหน้านี้จำนวน 0 นิพจน์หรือมากกว่า เช่น "go*gle" มีความหมายว่า ggle gogle google gooogle เป็นต้น + เครื่องหมายบวก ใช้บ่งบอกว่ามีนิพจน์ก่อนหน้านี้จำนวน 1 นิพจน์หรือมากกว่า เช่น "go+gle" มีความหมายว่า gogle google gooogle เป็นต้น แต่ไม่เท่ากับ ggle

การบอกจำนวน {n} วงเล็บปีกกา เช่น "go{5}gle" มีความหมายว่า gooooogle เพียงตัวเดียว {m,n} วงเล็บปีกกาที่มีจุลภาคข้างใน ใช้บ่งบอกว่าต้องมีนิพจน์ก่อนหน้านี้จำนวน m นิพจน์ถึง n นิพจน์ เช่น "go{2,4}gle" มีความหมายว่า google gooogle และ goooogle หากไม่ระบุตัวเลข n จะหมายถึงต้องมีนิพจน์จำนวนตั้งแต่ m นิพจน์เป็นต้นไป

การระบุตำแหน่ง ^ เครื่องหมายหมวก ใช้เขียนเป็นตัวแรกสุดของนิพจน์ปรกติ เพื่อบ่งบอกว่านิพจน์ที่ต้องการค้นหาอยู่ต้นบรรทัดหรือต้นสตริงเท่านั้น $ เครื่องหมายสกุลเงิน ดอลลาร์ ใช้เขียนเป็นตัวท้ายสุดของนิพจน์ปรกติ เพื่อบ่งบอกว่านิพจน์ที่ต้องการค้นหาอยู่ท้ายบรรทัดหรือท้ายสตริง

การระบุช่วงอักขระ [ ] วงเล็บเหลี่ยม [ ] วงเล็บเหลี่ยม ใช้เขียนแทนอักขระหนึ่งตัวที่อยู่ในขอบเขต ซึ่งระบุไว้ภายในวงเล็บ เช่น "[bcdf]an" มีความหมายว่า ban can dan และ fan

การระบุช่วงอักขระ ^ เครื่องหมายหมวก ใช้เขียนภายในวงเล็บเหลี่ยมเป็นตัวแรก เพื่อบ่งบอกว่าเป็นอักขระหนึ่งตัวที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขต เช่น "[^bcdf]an" มีความหมายว่า aan ean gan han ian เป็นต้น - ยัติภังค์ ใช้เขียนภายในวงเล็บเหลี่ยมระหว่างอักขระสองตัว เพื่อบ่งบอกว่าเป็นอักขระหนึ่งตัวที่มีรหัสแอสกีหรือยูนิโคดอยู่ในช่วงนั้น เช่น "[a-z]an" มีความหมายว่า aan ban can เรื่อยไปจนถึง zan

เครื่องหมายอื่นๆ . มหัพภาค ใช้บ่งบอกว่าอักขระในตำแหน่งนั้นของนิพจน์จะเป็นตัวอักษรอะไรก็ได้ เช่น ".an" มีความหมายว่า aan ban can 0an 1an -an เป็นต้น \ แบ็กสแลช ใช้ระบุ escape character หรือสัญลักษณ์ที่ต้องการใช้ในนิพจน์ แต่ซ้ำกับสัญลักษณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดด้านบน เช่น "[0-9]\.[0-9]\$" มีความหมายว่า 2.3$ 9.0$ 1.7$ เป็นต้น

คำถาม รูปแบบของสตริงแบบใดที่ถูกกำหนดได้จาก regular expression นี้ 1) ^\-?[1-9]+$ 2) ^\-?[1-9]+(\.[0-9]+)?$ สัญลักษณ์ \w แทน [a-zA-Z0-9] \d แทน [0-9]