คำอธิบายโดย เคียร่า ลูบิค ในปี ค.ศ. 1949 พระวาจา ทรง ชีวิต สิงหาคม 2008 คำอธิบายโดย เคียร่า ลูบิค ในปี ค.ศ. 1949
"ประทีปของร่างกาย คือ ดวงตาของท่าน เมื่อดวงตาเป็นปกติดีทั่วทั้งร่างกายของท่านก็ย่อมสว่างไปด้วย“ (ลก. 11,34)
ในแต่ละวัน จากเช้าจรดเย็น เราคงได้พบปะกับผู้คนมากมาย เราจงพยายามมองให้เห็นองค์พระเยซูเจ้าในตัวพวกเขาแต่ละคน
ถ้าตาของท่านเป็นปกติธรรมดา ผู้ที่มองผ่านดวงตานั้น ก็คือพระเจ้า พระเจ้าคือองค์ความรัก ความรักจะพยายามรวมบุคคลเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
หลายคนหลงผิดเพราะมองผู้อื่น หรือสิ่งอื่นด้วยจุดประสงค์ที่ผิด คือมุ่ง ครอบครอง นั่นเป็นสายตาแห่งความเห็นแก่ตัว หรือเป็นสายตาแห่ง ความอิจฉา แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม มันก็คือบาป หรือหลายคน อาจมองย้อนเข้าหาตนเอง ถือว่าตนเองเป็นเจ้าของตนเอง ใบหน้าของ เขาหม่นหมองไม่มีชีวิตชีวา เบื่อหน่าย วิตกกังวล
จิตวิญญาณเป็นฉายาลักษณ์ของพระเจ้า จึงเป็นองค์ ความรัก แต่กระนั้น หากความรักนี้ย้อนเข้าหาตนเอง ก็เป็นเสมือนไฟไร้เชื้อ จะค่อยๆมอดดับไป
จงให้สายตาของเรามุ่งสู่ด้านนอก อย่าให้หันกลับ เข้าหาตนเอง ไม่มองที่วัตถุสิ่งของ หรือที่ตัว บุคคล แต่จงมององค์พระเจ้าที่อยู่นอกตัวคุณ และผูกพันตัวคุณเข้ากับพระองค์
พระองค์ทรงชีวิตในส่วนลึกของจิตวิญญาณทุกดวงที่มีชีวิต แต่หากจิตวิญญาณนั้นตาย จิตวิญญาณนั้นก็คล้ายกับพลับพลาที่ประทับของพระเจ้า ที่รอคอยให้พระเจ้าเสด็จกลับมาประทานความชื่นชมยินดี และประทับอยู่อีกครั้ง
จงมองผู้อื่นด้วยความรัก และรักหมายถึงให้ ยิ่งไปกว่านั้น ของขวัญที่ให้ออกไปเรียกร้องของขวัญตอบกลับ หมายความว่าคุณจะได้ความรักตอบ
เช่นนี้ เราจึงเข้าใจได้ว่า รักคือการได้รักและ รับรักตอบ เป็นดั่งเช่นในพระตรีเอกภาพ องค์พระเจ้าในตัวคุณจะดึงดูดจิตใจผู้อื่น และจุดประกายชีวิตพระตรีเอกภาพใน ตัวพวกเขา จริงอยู่พวกเขามีชีวิตนี้อยู่แล้ว ด้วยพระหรรษทาน แต่ก็ได้มอดดับไป
คุณไม่อาจเปิดไฟในห้องให้สว่างได้ แม้จะมีกระแสไฟฟ้าอยู่ หากว่ากระแสไฟฟ้าสองขั้วไม่สัมผัสกัน
ชีวิตขององค์พระเจ้าในเราก็เป็นอย่างนั้น คือจะต้องถ่ายทอดหมุนเวียน เพื่อให้แสงสว่างเกิดขึ้นนอกตัวเรา เป็นพยานถึงองค์พระคริสตเจ้า พระองค์ผู้ทรงเชื่อมสวรรค์เข้ากับโลก และเชื่อมมนุษย์แต่ละคนเข้าด้วยกัน
ดังนั้น จงมองเพื่อนบ้านแต่ละคน อุทิศตนเพื่อเขา เพื่อจะได้มอบตัวคุณเองกับองค์พระเยซูเจ้า และองค์พระเยซูเจ้าจะทรงมอบพระองค์เองกับมาให้คุณ และนี่คือกฎแห่งความรัก “จงให้ และจะมีคนให้ท่าน” (ลก.6.38)
และเพราะความรักต่อองค์พระเยซูเจ้า จงยอมให้เพื่อนบ้านครอบครองคุณ เป็นเสมือนแผ่นศีลมหาสนิท คุณยอมให้คุณเอง “ถูกรับประทาน” โดยเพื่อนบ้าน พร้อมรับใช้พวกเขา ซึ่งก็คือการรับใช้พระเจ้า และเพื่อนบ้านจะเข้ามาหาคุณ รักคุณ
ซึ่งก็จะทำให้ความปรารถนาขององค์พระเจ้าสำเร็จไป นั่นคือ การรักกันฉันท์พี่น้อง อันอยู่ในบทบัญญัติของพระองค์ที่ว่า “เราให้บัญญัติใหม่แก่ท่าน จงรักกันและกัน” (ยน.13.34)
องค์ความรักเป็นไฟที่เข้าถึงดวงใจ และทำ ให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างบริบูรณ์
องค์พระเจ้าที่ทรงชีวิตในคุณ จากนั้น คุณจะไม่พบตัวตน ของคุณอีกต่อไป หรือเพื่อน บ้านของคุณ คุณจะพบก็แต่ องค์ความรัก ซึ่งก็คือ องค์พระเจ้าที่ทรงชีวิตในคุณ
และองค์ความรักจะมุ่งแต่รักพี่น้อง และเนื่องจากดวงตาของคุณเป็นปกติธรรมดา องค์ความรักจะพบตนเองในผู้อื่น และทุกคนก็จะเป็นหนึ่งเดียวกัน และที่ใดที่คุณอยู่ กลุ่มชนจะเติบโต เหมือนองค์พระเยซูเจ้ากับ ศิษย์สิบสอง เจ็ดสิบสอง และเป็นพันๆ
พระวรสารดึงดูดใจ เพราะเป็นองค์ความสว่าง แห่งรัก เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล
คุณเองอาจต้องตายบนกางเขน เพราะคุณไม่ใหญ่กว่าผู้เป็นนาย แต่นั่น คุณก็ได้ตายเพื่อคนที่ตรึงกางเขนคุณ เช่นนี้ ความรักจะมีชัยในที่สุด
แต่น้ำเลี้ยงที่ออกมาสู่ดวงใจของผู้คนมากมายจะไม่มีวันเหือดแห้ง จะผลิดอกออกผล บันดาลความชื่นชมยินดี สันติ เปิดทางสู่สวรรค์ พระเกียรติมงคลของพระเจ้าจะเพิ่มพูน เพียงแต่ว่าบนแผ่นดินนี้ เราจะต้องเป็นองค์ความรักที่บริบูรณ์พร้อม
"ประทีปของร่างกาย คือ ดวงตาของท่าน เมื่อดวงตาเป็นปกติดี ทั่วทั้งร่างกายของท่านก็ย่อมสว่างไปด้วย" (ลก.11,34) แผ่นพับพระวาจาทรงชีวิตประจำเดือนจัดพิมพ์โดยคณะโฟโคลาเร กราฟฟิก โดย Anna Lollo ด้วยความร่วมมือจาก Fr. Placido D’Omina (ซิซิลี - ประเทศอิตาลี)