You Have Two Choices 1
เ จอร์รี่ เป็นผู้จัดการร้านอาหาร ผู้มีอารมณ์เบิกบานเสมอ หากมีใครถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะตอบเสมอว่า คงจะดีกว่านี้ ถ้าผมมีคู่แฝด พนักงานในร้านมักจะลาออกตาม หากเจอร์รี่เปลี่ยนงาน เพื่อติดตามเขาไปทุกๆ ร้าน ทำไมหรือ ก็เพราะเจอร์รี่คือผู้สร้างขวัญและกำลังใจที่เป็นธรรมชาติมาก 2
วันใดที่พนักงานมีเรื่องเลวร้าย เขาจะไปหาทันที และบอกเล่าสิ่งที่อยู่ด้านบวกของเรื่องนั้นให้ฟัง คนแบบนี้ที่ทำให้ผมสนใจอยากรู้จัก ดังนั้น วันหนึ่ง ผมจึงไปหาเจอร์รี่และถามเขา “ผมไม่เข้าใจเลย ไม่มีใครที่มองทุกสิ่งเป็นบวก มองโลกด้านดีตลอดเวลาเช่นคุณ คุณทำได้อย่างไร” 3
ผมจะเลือกมีอารมณ์ดีเสมอ เจอร์รี่ตอบ “ทุกเช้าที่ตื่นนอน ผมจะพูดกับตัวเองว่า เรามี 2 ทางเลือก คือเลือกมีอารมณ์ดี หรือ ไม่ดี ผมจะเลือกมีอารมณ์ดีเสมอ แต่ละครั้งที่มีเรื่องเลวร้าย เราเลือกได้ว่า จะตกเป็นเหยื่อหรือจะเรียนรู้จากมัน ผมจะเลือกเรียนรู้เสมอ” 4
ผมจะเลือกด้านบวกของมันเสมอ ทุกครั้งที่มีใครมาต่อว่า เราสามารถเลือกยอมรับหรือชี้นำสู่ด้านบวกมาให้ ผมจะเลือกด้านบวกของมันเสมอ “แต่มันไม่ง่ายเสมอไปนะ” ผมแย้งขึ้น “ถูกต้อง” เจอร์รี่บอก ชีวิตเต็มไปด้วยทางเลือก ยามที่ตัดเอาส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออก ก็จะมองเห็นทางเลือกนั้นได้ 5
เราจะเลือกวิธีปฏิบัติกับเรื่องนั้น เราจะเลือกวิธีที่ผู้คนจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเรา เราเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรือไม่ดี เราจะเลือกวิธีใช้ชีวิตของเราเอง หลายปีต่อมา ได้รับข่าวมาว่า เจอร์รี่ได้ทำสิ่งผิดพลาดที่ไม่นึกฝันขึ้น เขาลืมและเปิดประตูหลังร้านทิ้งไว้ จากนั้นตอนเช้า มีโจรพกอาวุธ 3 คนเข้าร้านมาปล้น 6
ขณะที่เจอร์รี่กำลังพยายามไขตู้เซฟอยู่ มือที่สั่นเทาด้วยความกลัว จนกุญแจหมุนรหัสลื่นหลุดไป โจรเองก็ตกใจจึงลั่นกระสุนใส่เจอร์รี่ โชคยังดีที่เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลทันเวลา หลังจากเข้าผ่าตัด 18 ชั่วโมง พักฟื้นใน ICU หลายสัปดาห์ เจอร์รี่ออกจากโรงพยาบาล โดยมีกระสุนฝังในอยู่ 7
ผมได้พบเจอร์รี่ 6 เดือนหลังเกิดเหตุ เมื่อผมถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขายังคงตอบว่า “คงจะดีกว่านี้ ถ้าผมมีคู่แฝด อยากดูแผลมั้ย” ผมปฏิเสธที่จะดูแผล แต่ถามสิ่งที่เขาคิดในใจตอนโจรเข้าร้าน เขาตอบว่า “สิ่งแรกที่คิดคือ ผมน่าจะปิดประตูหลังร้าน” 8
“จากนั้น พอถูกยิงและล้มลง คิดได้ว่ามี 2 ทางเลือกคือ อยู่หรือตาย และผมเลือกจะอยู่” “แล้วไม่กลัวเลยหรือ” ผมถาม เจอร์รี่กล่าวต่อว่า “เวรเปลเยี่ยมมาก เขาให้กำลังใจผมตลอดทางว่าไม่เป็นไร” แต่เมื่อไปถึงห้องฉุกเฉิน และได้เห็นสีหน้าของหมอและพยาบาล ผมรู้สึกกลัวมากจริงๆ ภายในตาของพวกเขา ผมอ่านได้ว่า 9
“เขาต้องไม่รอดแน่นอน” ผมรู้ว่าผมคงต้องทำบางอย่าง” “คุณทำอย่างไร” ผมถาม เจอร์รี่บอก “มีพยาบาลคนหนึ่งตะโกนถามผมว่า ผมเป็นภูมิแพ้ยาอะไรบ้างหรือเปล่า” “เป็น” เจอร์รี่ตอบชัด เหล่าหมอและพยาบาลหยุดทำงานเพื่อรอคำตอบจากผม ผมสูดหายใจลึก และร้องลั่นว่า “แพ้กระสุน” 10
ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ผมบอกว่า “ผมเลือกจะมีชีวิตอยู่ ช่วยผ่าตัดผมที เพราะผมยังมีชีวิต ผมยังไม่ตาย” เจอร์รี่รอดได้ด้วยฝีมือหมอบวกกับทัศนคติที่สุดยอดของเขา ผมได้เรียนรู้จากเจอร์รี่ ทุกๆ วัน เรามีทางเลือกที่จะสนุกสนานหรือชิงชังกับชีวิต แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นของเราเสมอ ไม่มีใครควบคุมหรือเอาของเราไปได้ นั่นก็คือ 11
ทั ศ น ค ติ ของเรา ถ้าเราควบคุมมันได้ สิ่งอื่นที่เหลือก็ไม่มีอะไรยากอีก ตอนนี้ คุณมี 2 ทางเลือก ลืมเรื่องราวของเจอร์รี่ที่คุณอ่าน หรือ ส่งต่อให้คนที่เราห่วงใย หวังว่าคุณคงเลือกข้อ 2 เหมือนกัน ! please click to next page 12