หุ้นส่วนและบริษัท การเป็นหุ้นส่วน คือ การทำสัญญาระหว่างบุคคลตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อทำกิจการร่วมกัน โดยประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรที่จะพึงได้จากกิจการนั้น
สัญญาจัดตั้งหุ้นส่วนมีดังนี้ ๑. เป็นสัญญาระหว่างบุคคลตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป ๒. เป็นการตกลงเพื่อทำกิจการร่วมกัน การทำกิจการหมายถึง มีการตกลงได้เสียร่วมกัน โดยลงทุนด้วยกัน ซึ่งทุนที่นำมาลงนั้นอาจเป็นเงินหรือทรัพย์สินหรือแรงงานก็ได้ ๓. มีวัตถุประสงค์เพื่อนำกำไรจากกิจการนั้นมาแบ่งปันกัน
ประเภทของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ตามกฎหมายแบ่งออกเป็น ๕ ประเภท ๑. ห้างหุ้นส่วนสามัญ ๒.ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ๓. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ๔. บริษัทจำกัด ๕. บริษัทมหาชนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนสามัญ ผู้ที่เข้าร่วมจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันเพื่อหนี้ทั้งปวงของหุ้นส่วนโดนไม่มีจำกัด กล่าวคือ ๑. ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดต่อบุคลภายนอกอย่าง ลูกหนี้ร่วม ในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนไม่ว่าจะโดยสัญญาหรือโดยละเมิดที่ทำไปในกิจการของห้าง ๒. ผู้เป็นหุ้นส่วนสามัญทุกคนต้องรับผิดในหนี้สินของห้างโดยไม่จำกัดจำนวน
การจัดการห้างหุ้นส่วนสามัญ ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องจัดการร่วมกัน แต่ทั้งนี้อาจมีการแบ่งหน้าที่กันทำได้ การจัดการร่วมกันดังกล่าวอาจมีได้ ๒ ลักษณะ คือ ๑. การจัดการโดยตรง คือ หุ้นส่วนทุกคนเข้าบริหารงานเอง โดยแบ่งหน้าที่กันทำ ๒. การดูแลครอบงำ คือ กรณีที่ตั้งหุ้นส่วนคนใดเป็นผู้จัดการแล้ว อำนาจในการจัดการดูแลกิจการต่างๆของห้างย่อมเป็นของผู้จัดการนั้น แต่หุ้นส่วนที่ไม่ใช่ผู้จัดการย่อมมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงานของห้างที่จัดการอยู่ได้ทุกเมื่อและมีสิทธิตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใดๆของห้างหุ้นส่วนนั้นด้วย
สิทธิและหน้าที่ระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน ๑. ห้ามประกอบกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดที่มีสภาพเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับห้างหุ้นส่วน ๒. ห้ามนำบุคคลอื่นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดทุกคน ๓. ขอให้งดใช้ชื่อ ถ้ามีการใช้ชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดมาตั้งเป็นชื่อห้าง เมื่อผู้นั้นออกจากห้างหุ้นส่วนไปแล้ว อาจขอให้งดใช้ชื่อตนเป็นชื่อของห้างต่อไปได้ ๔. ความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการกับผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นให้นำกฎหมายว่าด้วยตัวแทนมาใช้บังคับ
ความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลภายนอก ๑. สิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลภายนอก ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ไม่จดทะเบียนจะถือเอาสิทธิใดๆแก่บุคคลภายนอกในกิจการค้าขายซึ่งไม่ปรากฏชื่อของตนไม่ได้ ๒. ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนต่อบุคคลภายนอก ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องร่วมรับผิดต่อบุคคลภายนอกในการใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดได้จัดการทำไปในทางธรรมดาค้าขายของห้างนั้น รวมถึงความรับผิดในทางละเมิดด้วย
ข้อสังเกต ผู้เป็นหุ้นส่วนสามัญ ต้องรับผิดในหนี้ของห้างที่ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วน และเมื่อตนออกไปแล้ว ก็ยังคงต้องรับผิดในหนี้ที่ห้างได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะออกจากห้างหุ้นส่วนไป
การเลิกและการชำระหนี้ห้างหุ้นส่วนสามัญ ๑. การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนสามัญอาจเลิกกันได้ ๓ ทาง ๑. เลิกโดยผลของกฎหมาย ๒. เลิกโดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน ๓. เลิกโดยคำสั่งศาล
๑.๑ การเลิกโดยผลของกฎหมาย (๑) ถ้าในสัญญากำหนดกรณีที่จะเลิกกันไว้ เมื่อเกิดกรณีนั้นห้างหุ้นส่วนสามัญเป็นอันเลิกกัน (๒) เมื่อถึงกำหนดเวลาที่สัญญาเป็นห้างหุ้นส่วนกัน เว้นแต่ว่าหุ้นส่วนทั้งหลายยังคงดำเนินกิจการต่อไปโดยไม่มีการชำระบัญชีกัน ก็ถือว่าหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงเป็นหุ้นส่วนกันต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา
(๓) ถ้าสัญญาทำไว้เฉพาะเพื่อกิจการใด เมื่อเสร็จกิจการนั้นแล้ว ห้างเป็นอันเลิกกัน (๔) ในกรณีที่การเป็นหุ้นส่วนไม่ได้กำหนดเวลาไว้ เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดบอกเลิกสัญญาการเป็นหุ้นส่วนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๖ เดือน ก่อนสิ้นรอบปีในทางบัญชีของห้างหุ้นส่วน แต่ถ้าหุ้นส่วนอื่นยังไม่อยากเลิกโดยรับซื้อหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ประสงค์จะออกไว้ ห้างหุ้นส่วนก็ไม่เลิกกัน (๕) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ ห้างหุ้นส่วนต้องเลิกกัน เว้นแต่หุ้นส่วนคนอื่นจะรับซื้อหุ้นไว้ แล้วตกลงดำเนินกิจการต่อไป
๑.๒ การเลิกโดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดสามารถตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนก่อนถึงกำหนดเวลาได้เมื่อตกลงเลิกกันแล้วความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลงทันที
๑.๓ การเลิกโดยคำสั่งศาล เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนร้องขอต่อศาลศาลอาจสั่งให้ห้างหุ้นส่วนเลิกกันได้เมื่อมีเหตุต่อไปนี้ (๑) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งนอกจากผู้ร้องนั้นล่วงละเมิดบทบังคับใดๆอันเป็นข้อสาระสำคัญซึ่งสัญญาหุ้นส่วนกำหนดไว้แก่ตน หรือจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
(๒) เมื่อกิจการของห้างหุ้นส่วนมีแต่จะขาดทุนและไม่มีหวังจะฟื้นตัวได้อีก (๓) เมื่อมีเหตุอื่นที่ทำให้ห้างหุ้นส่วนนั้นเหลือวิสัยที่จะดำรงอยู่ต่อไปได้ เช่น ผู้เป็นหุ้นส่วนต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน เป็นคดีอาญา จนต่างถูกอัยการฟ้อง
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญ เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันแล้ว ผลคือต้องมีการรวบรวมบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายของห้างหุ้นส่วน เพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายของห้าง ถ้ามีเหลือก็คืนทุนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนและถ้ายังเหลืออีกก็นำมาแบ่งผลกำไรกัน ซึ่งเรียกว่า การชำระบัญชี - แต่ถ้าชำระหนี้แก่บุคคลภายนอกและค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว สินทรัพย์ที่เหลืออยู่ยังไม่พอจะคืนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ครบจำนวนที่ลงทุนเรียกว่า ขาดทุน ต้องเฉลี่ยการขาดทุนระหว่างหุ้นส่วนด้วยกัน
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องจดทะเบียนแต่ถ้าประสงค์จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็ย่อมทำได้ การขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญนั้นเป็นไปตามแบบที่กฎหมายกำหนดเมื่อจดทะเบียนแล้วต้องใช้คำว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล” ประกอบด้วยชื่อเสมอมิฉะนั้นจะมีความผิด
ผลของการจดทะเบียน ๑. ห้างหุ้นส่วนมีสภาพเป็นนิติบุคคล การเป็นนิติบุคคลทำให้มีสิทธิและหน้าที่แยกต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วน ๒. การถือเอาประโยชน์ต่อบุคคลภายนอก ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจถือเอาประโยชน์ต่อบุคคลภายนอกอันห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้มาแม้ในกิจการไม่ปรากฏชื่อของตนได้
๓. การค้าขายแข่งขันกับกิจการของห้าง ถ้าหุ้นส่วนคนใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนทั้งหมด ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างนั้น ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่น หรือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดกับห้างหุ้นส่วนอื่นซึ่งประกอบกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันและแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้น ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนสามารถเรียกเอาผลกำไรที่ผู้นั้นหามาได้ทั้งหมด หรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทน หรือเรียกร้องให้เลิกห้างด้วย
๔. ความรับผิดในหนี้ของห้าง ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดในหนี้ของห้างโดยไม่จำกัดจำนวน แต่เจ้าหนี้ของห้างต้องเรียกร้องให้ห้างหุ้นส่วนเป็นผู้ชำระหนี้เสียก่อน สำหรับผู้เป็นหุ้นส่วนออกจากห้างไปแล้วก็ยังคงต้องรับผิดในบรรดาหนี้ของห้างก่อนที่ตนจะออกไปภายใน ๒ ปีนับแต่วันที่ตนออกจากห้างหุ้นส่วน
การเลิกห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและการชำระบัญชี ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลอาจเลิกห้างได้ด้วยเหตุเดียวกันกับการเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียน คือ อาจเลิกโดยผลของกฎหมาย หรือเลิกโดยการตกลงกันของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือโดยคำสั่งศาล เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลเลิกกันแล้ว ต้องมีการชำระบัญชีเสมอ และผู้ชำระบัญชีต้องนำไปจดทะเบียนภายใน ๑๔ วันนับแต่วันที่เลิกกัน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องประกอบด้วยหุ้นส่วน ๒ ประเภท (๑) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคน ซึ่งจำกัดความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนรับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้น (๒) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคน ซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นกฎหมายบังคับให้ต้องจดทะเบียนเสมอ
หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด - มีความรับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนตกลงจะลงหุ้น - คุณสมบัติของผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทนี้ไม่ใช่สาระสำคัญเหมือนกับการเป็นหุ้นส่วนสามัญ จึงอาจโอนหุ้นของตนให้กับบุคคลอื่นได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนอื่นๆ - แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดตาย ทายาทก็เข้าแทนที่ได้หรือล้มละลายก็ไม่เป็นเหตุให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องเลิกกัน
สิทธิของหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (๑) มีสิทธิออกความเห็น แนะนำ ออกเสียงลงคะแนนในการแต่งตั้งถอดถอนผู้จัดการ ตลอดจนตรวจสอบบัญชีและเอกสารของห้างได้ตามสมควร (๒) เป็นผู้ชำระบัญชีของห้างได้ (๓) มีสิทธิค้าขายแข่งกับห้างได้
ข้อจำกัดของหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (๑) ห้ามเอาชื่อของหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดมาเรียกขานระคนกับชื่อห้าง ถ้ามีการนำมาใช้ระคนกับชื่อห้างหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด (๒) หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดจะลงหุ้นด้วยแรงงานไม่ได้ต้องลงเป็นเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่น
(๓) หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดไม่มีสิทธิจัดการงานของห้าง ถ้าสอดเข้าไปจัดการงานของห้าง เช่น ลงชื่อในการส่งสินค้าแทนผู้จัดการห้าง ต้องร่วมรับผิดกับห้างหุ้นส่วนจำกัดเช่นเดียวกับหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ หรือฟ้องคดีของห้าง (๔) ไม่มีส่วนรับเงินปันผลหรือดอกเบี้ย ถ้าห้างไม่มีกำไร
ความรับผิดของหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดจะรับผิดในหนี้ที่ห้างมีต่อบุคคลภายนอกก็ต่อเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดได้เลิกกัน ตราบใดห้างยังไม่เลิก เจ้าหนีจะฟ้องให้รับผิดไม่ได้และเมื่อห้างเลิกกันแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดคงรับผิดเพียง (๑) จำนวนลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนเท่าที่ยังค้างแก่ห้างหุ้นส่วน (๒) จำนวนลงหุ้นเท่าที่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ถอนไปจากสินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วน (๓) จำนวนเงินปันผลและดอกเบี้ยซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนได้รับไปแล้วโดยทุจริตและผิดกฎหมาย
หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดสามารถเป็นผู้จัดการห้างได้ ใช้ชื่อตนเองเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ ลงทุนด้วยแรงงานได้ ความเกี่ยวพันนั้นใช้บทบัญญัติสำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญมาใช้บังคับ ส่วนความรับต่อบุคคลภายนอกผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดต้องร่วมรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน
การเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัด หลักการเดียวกันกับการเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล