FTA
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก การค้าขยายตัวและมีแนวโน้มเปิดเสรี มากขึ้น FTA การเจรจา WTO ชะงักงัน ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มทำ FTA
สาระสำคัญ สองประเทศขึ้นไป ตกลงจะขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ลักษณะ เขตการค้าเสรี (Free Trade Area -FTA) ประกอบด้วย สองประเทศขึ้นไป ตกลงจะขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน พยายามจะลดอุปสรรคทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีให้เหลือน้อยที่สุด ครอบคลุมทั้งสินค้า บริการและการลงทุน
ใครทำ FTA ? สหรัฐฯ 20% ยุโรป 70% เอเชีย 8% Source : WTO
สาระสำคัญ สถานการณ์การแข่งขันในตลาดโลกทวีความรุนแรงและมุ่งสู่การเปิดเสรี ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ต่างหันไปทำ FTA จีนเข้าเป็นสมาชิก WTO ทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก หากไทยอยู่นิ่งเท่ากับถดถอย ขีดความสามารถในการแข่งขันและส่วนแบ่งตลาดในประเทศคู่ ค้าสำคัญจะลดลง
สาระสำคัญ ทำ FTA เพื่อลดข้อจำกัดทางศุลกากร และ ขีดจำกัดทางการค้าต่าง ๆ (ช่วยให้การเจรจาลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันง่ายขึ้น) เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุน ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจและทางการค้า
Free Trade Area (FTA) เขตการค้าเสรี การลดภาษีสินค้าขาเข้าระหว่างกันเหลือ 0% ภายใน เวลาที่กำหนด และยกเลิกอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี เปิดเสรีการค้าบริการ หรือให้สิทธิต่างชาติเข้ามาประกอบ ธุรกิจบริการเช่นเดียวกับคนในประเทศไทย เปิดเสรีการลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่น ๆ
เป้าหมายของการทำ FTA เพิ่มโอกาสการส่งออก โดยขยายตลาดทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ ลดอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและมิใช่ภาษี เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจ การเมือง ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
การทำข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี (Bilaterial Preferential Trade Agreement) สาระสำคัญ การทำข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคี (Bilaterial Preferential Trade Agreement)
ไทยได้มีการจัดทำ FTA กับประเทศใดบ้างในปัจจุบัน ? คู่เจรจาของไทย 8 ประเทศ 2 กลุ่มเศรษฐกิจ
เจรจาเสร็จแล้ว : ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เจรจาเสร็จแล้ว : ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการเจรจา 5 ประเทศ + 2 กลุ่มเศรษฐกิจ สหรัฐฯ บาห์เรน อินเดีย เปรู
BIMSTEC (บังคลาเทศ อินเดีย พม่า ศรีลังกา ไทย เนปาล และ ภูฎาน) EFTA (สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์)
ไทยมีการทำ FTA ในระดับต่าง ๆ 1) ระดับภูมิภาค (กลุ่มประเทศ กับ กลุ่มประเทศ) - อาเซียน-จีน (มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2004) อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ญีปุ่น อาเซียน-สหรัฐฯ BIMSTEC 2) ระดับทวิภาคี (2 ประเทศ) - ไทย-บาห์เรน ไทย-จีน ไทย-อินเดีย ไทย-เปรู ไทย-ออสเตรเลีย
มีผลบังคับใช้ - จีน. 1 ตุลาคม 2546 (2003) - อินเดีย มีผลบังคับใช้ - จีน 1 ตุลาคม 2546 (2003) - อินเดีย 1 มีนาคม 2547 (2004) - ออสเตรเลีย 1 มกราคม 2548 (2005) - นิวซีแลนด์ 1 กรกฎาคม 2548 (2005) - ญี่ปุ่น(JTEPA) 3 เมษายน 2550 (2007)
FTA อยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาสหรัฐอเมริกา - เปรู - บาห์เรน กลุ่มประเทศ BIMSTEC ,EFTA
9 FTA China USA India Japan Bahrain BIMST-EC Peru ปัจจุบันทำอยู่กับ 9 ประเทศ ซึ่งมีการค้ากับไทย 43.8% with AFTA 62.5% รักษาตลาดเดิม (Market Strengthening) : ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ขยายตลาดใหม่ (Market Broadening & Deepening) ตลาดที่มีศักยภาพ: จีน อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ตลาดที่เป็นประตูการค้า (Gateway) : บาห์เรน เปรู ตลาดภูมิภาค: BIMST-EC Australia New Zealand
EU NAFTA ASEAN + 3 BIMST -EC ไทยควรจะเจรจากับประเทศใดต่อไป ? Candidates : EU, Mercosur, South Africa Canada, Korea, Mexico South Africa important gateway Mercosur ซึ่งเป็นประเทศสำคัญในอมเริกาใต้และเป็นตลาดใหม่ของไทย เราควรมีนโยบายเกี่ยวกับประเทศเหล่านี้อย่างไร คู่ค้าที่สำคัญอีกประเทศ คือ เกาหลีใต้