Problem 1 Problem 2 Problem 3 จงเขียนโปรแกรมรับตัวเลขจำนวนเต็มบวกใดๆ แล้วเติมเครื่องหมายจุลภาค “,” ให้เหมือนกับที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่าง1. Input = 1279621 Output = 1,279,621 ตัวอย่าง2. Input = 72 Output = 72 ตัวอย่าง3. Input = 1555555555 Output =1,555,555,555 Problem 2 จงเขียนโปรแกรมรับตัวเลข 0-999 เท่านั้น ทางแป้นพิมพ์ ถ้าเป็นข้อมูลอื่น ให้พิมพ์ข้อความ ERROR! ออกทางหน้าจอ ถ้ารับข้อมูลถูกต้องแล้ว ให้ทำการแปลงตัวเลขเหล่านั้น เป็นภาษา อังกฤษ ซึ่งมีค่าเท่ากัน ตัวอย่าง1. Input = 5 Output = five ตัวอย่าง2. Input = 72 Output = seventy-two ตัวอย่าง3. Input = -5 Output = ERROR! Problem 3 จงเขียนโปรแกรมรับข้อความภาษาอังกฤษเข้าไป 1 ชุด จากนั้นนำตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ปรากฎ ในข้อความดังกล่าว มาจับคู่ แล้วพิมพ์เฉพาะคู่ตัวอักษรที่มีความแตกต่างกันทั้งหมด ถ้าหากข้อความ ที่ป้อน มีตัวอักษรซ้ำกัน ให้ถือว่ามีตัวอักษรนั้นเพียงตัวเดียว หมายเหตุ ถ้าข้อมูลที่ป้อนเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบพิมพ์เล็ก ตัวโปรแกรม จะต้องเปลี่ยนเป็น ตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบพิมพ์ใหญ่ให้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่าง1. Enter string : MISSILE Output = EI, EL, EM, ES, IL, IM, IS, LM, LS, MS ตัวอย่าง2. Input = cat Output = AC, AT, CT

Problem 4 Problem 5 Problem 6 Problem 7 จงเขียนโปรแกรมรับประโยคภาษาอังกฤษเข้าไป 1 ชุด ซึ่งประโยคจะจดด้วยเครื่องหมาย “.” (full stop) ตัวโปรแกรมจะนับว่ามีตัวอักษรอะไรบ้าง อย่างละกี่ตัวในประโยคนั้น หมายเหตุ นับตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ เป็นตัวเดียวกัน ตัวอย่าง 1. Input : I HAVE A LITTLE CAT. A = 3, C = 1, E = 2, H = 1, I = 2, L = 2, T = 3, V = 1 ตัวอย่าง 2. Input : I love you. E = 1, I = 1, L = 1, O = 2, V = 1, U = 1, Y= 1 Problem 5 จงเขียนโปรแกรมรับตัวอักขระ 1 ตัว และ ประโยคภาษาอังกฤษเข้าไป 1 ชุด (ไม่เกิน 1 บรรทัด) และถ้ามีอักขระตัวนั้นปรากฎอยู่ในประโยคให้ใช้เครื่องหมาย “^” (circumflex) ชี้ใต้อักขระนั้น แต่ถ้าในประโยคนั้นไม่ปรากฎอักขระดังกล่าวเลย ให้แสดงคำว่า “Does not appear.” ตัวอย่าง 1. a Adidas is a big brand company. ^ ^ ^ ^ ตัวอย่าง 2. I This is a boy. Does not appear. Problem 6 จงเขียนโปรแกรมหาจำนวนเฉพาะถึงตัวที่ n ตัวอย่าง n = 10 The prime numbers is 2 3 5 7 11 13 17 19 23 29 Problem 7 จงเขียนโปรแกรมวาดรูปสามเหลี่ยมด้วย “*” ตัวอย่าง 1 n = 3 * *** ***** * * *** *** ***** ***** ตัวอย่าง 2 n = 4 * *** ***** ******* * * *** *** ***** ***** ******* *******

Problem 8 Problem 9 Problem 10 ตัวอย่าง 2 Character : X n = 4 X X XXXX XX X จงเขียนโปรแกรมวาดรูปผีเสื้อ ตัวอย่าง 1 Character : H n = 3 H H HHH Problem 9 จงเขียนโปรแกรมรับคำ 1 คำ ซึ่งจะนำมาสร้างเป็นรูปข้าวหลามตัด (diamond) ตามตัวอย่าง ตัวอย่าง 1 Input word : KOALA K K O K O A K O A L K O A L A K K K O K O K O A K O A K O A L K O A L K O A L A K O K L A Problem 10 จงเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมจากปัญหาข้อที่ 9 คือหลังจากแสดงผลเแล้ว ให้รอรับปุ่มใดๆ และหลัง จากกดปุ่มใดๆ ให้แสดงผลลัพธ์ใหม่เป็น * * * * O * * O A * * * * * * * * * * * * * O * * O * * O A * * O A * * O A L * * O K L *

Problem 11 Problem 12 Problem 13 จงเขียนโปรแกรมหาสมการเส้นตรง เมื่อกำหนดจุดมาให้ 2 จุด และถ้าให้ค่า x มา ให้หาค่า y จากสมการเส้นตรงนั้น ตัวอย่าง Input the first point (x1,y1) : 4 3 Input the second point (x2,y2) : -1 5 The linear equation is y = -0.400x+4.600 Input x = 5 So y = -0.400x5+4.600 = 2.600 Problem 12 จงเขียนโปรแกรมรับข้อมูล เพื่อคำนวณค่าทางสถิติ หาค่า สูงสุด ต่ำสุด ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน ฐานนิยม และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เมื่อ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานมีสูตรคือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เมื่อ n คือ จำนวนข้อมูล x1,…,xn คือข้อมูลตัวที่ 1 จนถึงตัวที่ n เป็นค่าเฉลี่ย Problem 13 จงเขียนโปรแกรมรับข้อมูล n จำนวน แล้วหาตัวคูณร่วมน้อย (ค.ร.น.) และ หารร่วมมาก (ห.ร.ม.) ของ เลขเหล่านั้น ตัวอย่าง n = 3 Data number 1 = 3 Data number 2 = 4 Data number 3 = 6 LCM = 12 GCD = 1 หมายเหตุ LCM = Least Common Multiplier หมายถึง ค.ร.น. GCD = Greatest Common Divisor หมายถึง ห.ร.ม.

Problem 14 จงเขียนโปรแกรมรับเลขฐาน 10 แล้ว รับฐานที่ต้องการจะเปลี่ยน เพื่อเปลี่ยนเลขในฐาน 10 เป็นเลขในฐานนั้น ตัวอย่าง 1. Input data : 255 Input base : 2 Output 255 base 10 = 1111111 base 2 ตัวอย่าง 2. Input data : 255 Input base : 16 255 base 10 = FF base 16 หมายเหตุ ถ้าเลขฐานที่ใหญ่กว่า 10 ให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนเลขดังนี้ A แทน 10, B แทน 11, C แทน 12, …, Z แทน 35 Problem 15 จงเขียนโปรแกรมรับเลขฐานใดๆ แล้ว เพื่อเปลี่ยนเป็นเลขในฐาน 10 ตัวอย่าง 1. Input data : 1111111 Input base : 2 Output 1111111 base 2 = 255 base 10 ตัวอย่าง 2. Input data : FF Input base : 16 FF base 16 = 255 base 10 หมายเหตุ ถ้าเลขฐานที่ใหญ่กว่า 10 ให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนเลขดังนี้ A แทน 10, B แทน 11, C แทน 12, …, Z แทน 35

Problem 16 Problem 17 Problem 18 จงเขียนโปรแกรมทายวันเกิดจากตารางต่อไปนี้ 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 27 29 31 2 3 6 7 10 11 14 15 18 19 22 23 26 27 30 31 4 5 6 7 12 13 14 15 20 21 22 23 28 29 30 31 8 9 10 11 12 13 14 15 24 25 26 27 28 29 30 31 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 Problem 17 จงเขียนโปรแกรมรับเลข n แล้วสร้างรูปก้นหอยจำนวนที่มีการวนจำนวน n ครั้ง ตัวอย่าง 1. Character : * ตัวอย่าง 1. Character : # n = 5 n = 7 ***** ####### * # # *** * # ### # * * * # # # # * * # # # ***** # ##### # ######### Problem 18 จงเขียนโปรแกรมรับเลข n แล้วสร้างรูปก้นหอยในแนวทะแยงจำนวนที่มีการวนจำนวน n ครั้ง ตัวอย่าง 1. Character : * ตัวอย่าง 1. Character : # n = 5 n = 7 * # * # # * # # * # # * * # # # * * * # # # # * * # # # * * # # # * * # # # * # # #

Problem 19 Problem 20 Problem 21 จงเขียนโปรแกรมเพื่อคำนวณ การบวก ลบ และ คูณ ของเลขจำนวนเต็ม 2 จำนวน ซึ่งอาจจะ มีค่าใหญ่มากๆ (ใหญ่จนไม่สามารถใช้ตัวแปรที่ประกาศเป็น Long ได้) ตัวอย่าง Input the first number : 123456789 Input the second number : 987654321 Output : 123456789+987654321 = 1111111110 123456789-987654321 = -864197532 123456789*987654321 = 121932631112635269 แนะนำ : ใช้ array ช่วยในการเขียน Problem 20 จงเขียนโปรแกรมรับ วัน-เดือน-ปี พ.ศ. แล้วให้บอกว่าวันนั้นเป็นวันใดใน 7 วัน อาทิตย์-เสาร์ แนะนำ ให้พิจารณาปี อธิกสุรทิน (leap year) ประกอบในการหา Problem 21 จงเขียนโปรแกรมรับเลข n แล้วคำนวณหาสามเหลี่ยมปาสคาล (Pascal triangle) ตัวอย่าง 1. Input n : 5 1 1 1 1 2 1 1 3 3 1 1 4 6 4 1 1 5 10 10 5 1 ตัวอย่าง 2. Input n : 7 1 6 15 20 15 6 1 1 7 21 35 35 21 7 1 หมายเหตุ สามเหลี่ยมปาสคาลคือมีลักษณะคือ มียอดเป็นเลขหนึ่ง แล้วขอบทั้งสองข้างเป็นเลข 1 ตัวเลขที่ปรากฏภายใน เกิดจากการบวกกันของเลขที่อยู่เหนือกว่า ทั้งด้านซ้ายแล้วขวา

Problem 22 เวลาเป็นเงินเป็นทอง นักธุรกิจท่านหนึ่งมีความเห็นส่วนตัวว่าเวลาทุกวินาทีมีค่ายิ่งนัก ดังนั้นถ้าจะนัดอะไร ท่านจะต้องการรู้เสมอว่าจะเหลืออีกกี่วัน ชั่วโมง นาที และ อีกกี่วินาทีจึงจะถึงเวลานัด ให้น้องๆ ช่วยทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อที่จะช่วยเหลือนักธุรกิจท่านนี้ โดยโปรแกรมจะต้องสามารถคำนวณได้ว่าระหว่างเวลาที่มีโทรศัพท์มานัด จนไปถึงช่วงเวลานัด ห่างกันกี่วัน กี่ชั่วโมง นาที และ วินาที ข้อมูลอินพุต บรรทัดแรก D1 หมายถึงวันที่มีโทรศัพท์มานัด บรรทัดที่ 2 Hr1 Mn1 Sc1 หมายถึงชั่วโมง นาที และ วินาที ที่มีโทรศัพท์มานัด บรรทัดที่ 3 D2 หมายถึงวันนัด บรรทัดที่ 4 Hr2 Mn2 Sc2 หมายถึงชั่วโมง นาที และ วินาที ของเวลานัด เมื่อ D1 และ D2 เป็นเลขจำนวนเต็ม 0  D1  D2  6 โดยที่ 0 หมายถึง วันอาทิตย์ 1 หมายถึง วันจันทร์ … 6 หมายถึง วันเสาร์ ตามลำดับ Hr1 , Hr2 , Mn1 , Mn2 , Sc1 และ Sc2 เป็นเลขจำนวนเต็ม 0  Hr1  24 0  Hr2  24 0  Mn1  60 0  Mn2  60 0  Sc1  60 0  Sc2  60 หมายเหตุ 1. ข้อมูลที่ให้ เวลานัดจะอยู่หลังจากเวลาที่โทรศัพท์มาหาเสมอ 2. โปรแกรมต้องทำการอ่าน,คำนวณข้อมูล และ แสดงผลลัพธ์ ให้เสร็จภายใน 1 นาที ข้อมูลเอาท์พุต ให้เขียนผลลัพธ์บนจอที่ว่าง … day(s) … hour(s) … minute(s) … second(s) ตัวอย่างที่ 1 2 16 0 0 3 15 0 0 ผลลัพธ์ที่ปรากฎบนจอภาพจะเป็นดังนี้ 0 day(s) 23 hour(s) 0 minute(s) 0 second(s) ตัวอย่างที่ 2 5 16 0 0 6 18 3 4 ผลลัพธ์ที่ปรากฎบนจอภาพจะเป็นดังนี้ 1 day(s) 2 hour(s) 3 minute(s) 4 second(s)