งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Introduction To Web Application

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Introduction To Web Application"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Introduction To Web Application

2 Topics ความแตกต่างระหว่างการออกแบบ Software & Application
แนะนำระบบงานแบบศูนย์รวม (Centralized System) แนะนำระบบงานแบบกระจาย (Distributed System) แนะนำระบบเครือข่ายแบบต่างๆ (Communication Technology) รูปแบบระบบงานแบบกระจายบนระบบเครือข่ายแบบต่างๆ 14.4

3 การออกแบบสถาปัตยกรรมแอปพลิเคชั่น
Software คือ สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยภาษาในการโปรแกรมมิ่ง Application คือ Software ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานสำหรับระบบงานใดระบบงานหนึ่งโดยเฉพาะ Application Architecture Design เป็นการออกแบบสถาพแวดล้อมการทำงานของแอปพลิเคชั่น โดยกำหนดว่าจะให้แอปพลิเคชั่นทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะการทำงานแบบใดและเครือข่ายชนิดใด โดยการพิจารณาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทางเลือกต่างๆ 14.5

4 Tier Architecture One-tier Architecture เป็นระบบงานที่รวมเอาข้อมูล(Data) กระบวนการทำงาน (Process) และส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (Interface) ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว Two-tier Architecture บางครั้งเรียกว่า Client/Server Architecture เนื่องจากมีการแบ่งเบาภาระการทำงานของแอปพลิเคชั่นออกเป็น 2 ระดับชั้น ได้แก่ Application Layer และ Data Layer

5 Tier Architecture Three-tier Architecture แบ่งเบาภาระการทำงานของแอปพลิเคชั่นออกเป็น 3 ระดับชั้น ได้แก่ Presentation Layer ,Business Layer และ Data Layer N-tier Architecture แบ่งสถาปัตยกรรมที่มีมากกว่า 3 ระดับชั้น โดยอาจเพิ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Application Server ในส่วนของ Application Layer ให้เป็น 2 เครื่องก็ได้

6 ลักษณะการทำงานของระบบ
ระบบงานแบบรวมศูนย์ (Single-location System) เป็นระบบงานที่รวมเอาข้อมูล(Data) กระบวนการทำงาน (Process) และส่วนติดต่อกับผู้ใช้(Interface) ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ข้อดี มีความปลอดภัยข้อมูลสูง (ความน่าเชื่อถือ) การควบคุมจัดการรวมที่ส่วนกลางทั้งหมด ออกแบบ พัฒนาและบำรุงรักษาง่าย ข้อเสีย ความสามารถถูกจำกัดอยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวและไม่สามารถรองรับระบบที่ซับซ้อนและขนาดใหญ่ได้ 14.8

7 ลักษณะการทำงานของระบบ
ระบบงานแบบกระจาย (Distributed System) เป็นระบบงานที่แบ่งแยกองค์ประกอบต่าง ๆ (Data, Process, Interface) ของระบบไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ โดยเชื่อมโยงกันผ่านเครือข่าย การกระจายการนำเสนอ (Distributed Presentation) การกระจายฟังก์ชันงาน (Distributed Function) การกระจายข้อมูล (Distributed Data) การกระจายการประมวลผล (Distributed Processing)

8 (Distributed Presentation)
การกระจายการนำเสนอ (Distributed Presentation) เป็นการกระจายการนำเสนอของระบบงาน เช่น ส่วน User Interface ไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องต่าง ๆ โดยที่หน้าที่การสร้างส่วนแสดงผลของการ นำเสนอนั้นจะยังคงเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์หลัก หรือ Server ส่วนเครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในระบบจะทำหน้าที่เพียงรับส่วนแสดงผลนั้นออกไป แสดงผ่านทางหน้าจอเครื่องของตนเท่านั้น Client Server Client ส่งคำร้องขอส่วนแสดงผล Server ส่งส่วนแสดงผลไปยัง Client 14.10

9 (Distributed Presentation)
การกระจายการนำเสนอ (Distributed Presentation) ข้อดี สามารถเรียกดูข้อมูลที่ต้องการได้โดยไม่ต้องไปยังเครื่องที่เก็บระบบงาน สามารถเรียกใช้งานได้พร้อม ๆ กัน ผู้ออกแบบสามารถพัฒนาระบบได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องสนใจผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับเครื่อง Client ข้อเสีย เครื่องที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลและประมวลผลยังคงทำงานหนักเช่นเดิม ปัญหาด้านความหนาแน่นของการจราจรของข้อมูลที่ส่งไปมาระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หากมีมากจะทำให้การแสดงผลที่เครื่อง Client ช้าลง

10 การกระจายฟังก์ชันงาน (Distributed Function)
เป็นการกระจายฟังก์ชันงานบางส่วนจากเครื่องที่เป็นศูนย์กลางไปไว้บน Client โดยที่การทำงานของเครื่อง Client จะครอบคลุมงานในส่วนของการแสดงผลหรือ Presentation ทั้งหมด โดยใช้ Application ที่ถูกเก็บไว้บนเครื่อง Client เป็น เครื่องมือในการติดต่อรับข้อมูลจากเครื่องที่เป็นศูนย์กลาง ข้อดี ช่วยลดการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางของระบบงาน ช่วยลดความหนาแน่นของการจราจรบนเครือข่าย ข้อเสีย เครื่องคอมพิวเตอร์หลักยังคงต้องรองรับการทำงานจากเครื่อง Client ทุกเครื่อง

11 การกระจายข้อมูล (Distributed Data)
เป็นการกระจายข้อมูลบางส่วนที่เก็บไว้บนเครื่อง Server ไปยังเครื่อง Client หรือ Server อื่น เพื่อแบ่งเบาภาระในการดูแล และจัดการข้อมูลของเครื่อง Server

12 การกระจายข้อมูล (Distributed Data) ข้อดี เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ
ลดความหนาแน่นของการจราจรบนเครือข่าย การประมวลผลโดยรวมของของระบบดีขึ้น ข้อเสีย Software และ Technology ที่ใช้ในการควบคุมการกระจายมีความซับซ้อน และมีราคาสูง

13 การกระจายการประมวลผล (Distributed Processing)
เป็นการกระจายที่รวมเอาข้อดีของการกระจายฟังก์ชันงานและการกระจาย ข้อมูลเข้าด้วยกัน ในระบบแบบกระจายการประมวลผลนี้ฟังก์ชันงานและข้อมูลที่ สัมพันธ์กันจะได้รับการแยกไปอยู่ตามหน่วยประมวลผลต่าง ๆ ในระบบ เพื่อให้ หน่วยประมวลผลนั้น ๆ ใช้ในการประมวลผล โดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลหรือฟังก์ชัน งานจากคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางเลย

14 การกระจายการประมวลผล (Distributed Processing)
ข้อดี งานของระบบไม่ขึ้นต่อกัน (Independent) สามารถทำงานพร้อม ๆ กันได้ เพิ่มความเร็วในการประมวลผล ข้อเสีย การทำงานของระบบจัดการฐานข้อมูลมีความซับซ้อนกันมาก ต้องพิจารณาในการแบ่งแยกฟังก์ชันและข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน

15 LAN (Local Area Network) WAN (Wide Area Network)
ระบบเครือข่ายแบบต่าง ๆ (Communication Technology) LAN (Local Area Network) WAN (Wide Area Network)

16 รูปแบบ Application ที่มีอยู่ในระบบเครือข่ายต่าง ๆ
LAN (Local Area Network) ระบบ File Server ระบบ Client Server WAN (Wide Area Network) ระบบ Web Based ระบบ Web Service

17 ระบบ File Server A file server system : ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายแบบเครือข่ายท้องถิ่น (LAN-based solution) โดยเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server Host) เก็บเฉพาะข้อมูลเพียงอย่างเดียว ส่วนองค์ประกอบใน layer อื่น ๆ เก็บที่ฝั่ง Client ข้อเสีย ความหนาแน่นในการส่งผ่านข้อมูล เพราะข้อมูลต้องถูกส่งมาจากเครื่อง Server ทั้งหมด ความสามารถของเครื่อง Client ต้องมีมาก เนื่องจากต้องทำหน้าที่ทุกอย่าง ข้อดี การรักษาความถูกต้องของข้อมูลทำได้ง่าย

18 File Server Architecture

19 ระบบ Client/Server 14.19

20 ระบบ Client/Server ข้อดี
แบ่งเบาภาระ Server ให้กับ Client เช่นส่วนของการแสดงผลบนหน้าจอ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลนำเข้าเบื้องต้น ข้อเสีย การกระจายข้อมูลในระบบอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเรียกใช้ข้อมูล มีค่าใช้จ่ายสูงในการจัดการสร้างระบบเครือข่ายสื่อสาร ในระบบกระจายข้อมูล การบริหารระบบข้อมูลกระทำได้ยากและซับซ้อนมากขึ้นเมื่อใช้ระบบกระจายข้อมูล ต้นทุนในการสร้างแบบ Client/Server จะสูงกว่า Host Base ถ้าต้องใช้เครื่องที่เป็น Client ที่มีประสิทธิภาพสูง 14.20

21 ระบบ Web Based 14.21

22 ระบบ Web Based ข้อดี ผู้ใช้สามารถเข้าถึงระบบงานขององค์กรผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ ขอบเขตของผู้ใช้กว้างมากขึ้น ข้อเสีย จำเป็นต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ระบบ Web Based เป็นระบบที่รอการเรียกจากผู้ใช้ จึงทำให้ผู้ที่ไม่รู้จัก URL ขององค์กรไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บขององค์กรได้ 14.22

23 Microsoft .NET is software for connecting people, systems, information and devices Connected Business Agility to connect more deeply with customers, integrate with partners and empower employees What you say: 1. Microsoft .NET is software for connecting people, systems, information and devices For Developers it means the ability to quickly build solutions that interoperate across languages, platforms and devices. For IT, it means the ability to integrate new and existing systems across the organization and externally w/ Partners For Businesses, it means having the agility to connect more deeply with customers, integrate with business partners and empower its employees For Consumers it’s the ability to access and act upon information anytime, anywhere and on any device CLICK 2. Microsoft .NET is built on a foundation of XML Web Services enabling both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages MORE DETAIL MESSAGING: Microsoft .NET Top Line Messaging (~25 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices. (~50 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices..NET connects a broad range of personal and business technologies, enabling you to access and use important information, whenever and wherever it is needed.   Built on XML Web service standards, .NET enables both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages. (~100 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices. .NET connects a broad range of personal and business technologies, enabling you to access and use important information, whenever and wherever it is needed. Built on XML Web service standards, .NET enables both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages. .NET is integrated across the Microsoft platform, providing the ability to quickly build, deploy, manage and use connected, secure solutions with XML Web services. These solutions enable faster, more agile business integration, and the promise of information anytime, anywhere, on any device. What is the value of .NET for different audiences? The core value of Microsoft .NET centers on “connecting”: connecting people with each other, connecting systems, connecting services, and connecting organizations.  For each audience segment, there is a different theme and specific proof-points that we use to frame the conversation regarding the value of .NET: .NET connected software means . . For Developers = Connected Development Rapid application development of web service based solutions Standards-based interoperability for solutions across platforms, languages and devices For IT Professionals = Connected Systems Systems work better together   – New and old  – Internal and external·  Optimal information flows to where it’s needed ·  Flexible infrastructure with faster time to results For Business Decision Makers = Connected Business Deeper customer connections Integrated partners Empowered employees Faster time to market For End Users = Connected Experiences Information, anytime, anywhere, any device Truly individualized experience All my information, all my devices, working together for me Connected Experiences Information anytime, anywhere, any device Connected Development Quickly build solutions that interoperate across languages, platforms and devices Connected Systems Integrate new and existing systems across the organization, and externally with partners. 14.23

24 What you say: 1. Microsoft .NET is software for connecting people, systems, information and devices For Developers it means the ability to quickly build solutions that interoperate across languages, platforms and devices. For IT, it means the ability to integrate new and existing systems across the organization and externally w/ Partners For Businesses, it means having the agility to connect more deeply with customers, integrate with business partners and empower its employees For Consumers it’s the ability to access and act upon information anytime, anywhere and on any device CLICK 2. Microsoft .NET is built on a foundation of XML Web Services enabling both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages MORE DETAIL MESSAGING: Microsoft .NET Top Line Messaging (~25 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices. (~50 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices..NET connects a broad range of personal and business technologies, enabling you to access and use important information, whenever and wherever it is needed.   Built on XML Web service standards, .NET enables both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages. (~100 words)Microsoft .NET is software that connects information, people, systems, and devices. .NET connects a broad range of personal and business technologies, enabling you to access and use important information, whenever and wherever it is needed. Built on XML Web service standards, .NET enables both new and existing applications to connect with software and services across platforms, applications and programming languages. .NET is integrated across the Microsoft platform, providing the ability to quickly build, deploy, manage and use connected, secure solutions with XML Web services. These solutions enable faster, more agile business integration, and the promise of information anytime, anywhere, on any device. What is the value of .NET for different audiences? The core value of Microsoft .NET centers on “connecting”: connecting people with each other, connecting systems, connecting services, and connecting organizations.  For each audience segment, there is a different theme and specific proof-points that we use to frame the conversation regarding the value of .NET: .NET connected software means . . For Developers = Connected Development Rapid application development of web service based solutions Standards-based interoperability for solutions across platforms, languages and devices For IT Professionals = Connected Systems Systems work better together   – New and old  – Internal and external·  Optimal information flows to where it’s needed ·  Flexible infrastructure with faster time to results For Business Decision Makers = Connected Business Deeper customer connections Integrated partners Empowered employees Faster time to market For End Users = Connected Experiences Information, anytime, anywhere, any device Truly individualized experience All my information, all my devices, working together for me 14.24

25 ระบบ Web Service เว็บเซอร์วิส (Web Service หรือ XML Web Service) Web Services คือ แอพพลิเคชัน หรือ โปรแกรมที่ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งในลักษณะให้บริการ (Service) ที่จะถูกเรียกใช้งานจากแอพลิเคชันอื่นๆ ในรูปแบบ RPC (Remote Procedure Call) หรือระบบสั่งงานระยะไกล โดยการให้บริการจะมีเอกสาร ที่ อธิบายคุณสมบัติของบริการกำกับไว้ มีภาษาที่ถูกใช้เป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนคือ XML ทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ส่วนประกอบใดๆ ใน แพลตฟอร์ม ใด ๆ ก็ได้ บน โปรโตคอล HTTP สำหรับ World Wide Web อันเป็นช่องทางที่ได้รับการยอมรับ ทั่วโลก 14.25

26 ระบบ Web Service Service requester Service providers
เว็บเซอร์วิสทำงานอย่างไร พื้นฐานของเว็บเซอร์วิสคือ XML และ HTTP HTTP เป็นวิธีการสื่อสารข้อมูลที่นิยมใช้มากที่สุดในอินเตอร์เน็ต XML เป็นภาษากลางที่นิยมใช้ในการสื่อสารระหว่างระบบสารสนเทศ XML เป็นภาษากลางมีความยืดหยุ่น ไม่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรายใด XML เหมาะสมสำหรับจัดเก็บข้อมูลที่เรียบง่ายและข้อมูลที่ซับซ้อน ผู้ขอข้อมูล ระบบ 1 ระบบ 2 Service providers Service requester 14.26

27 ระบบ Web Service เทคโนโลยีีที่เกี่ยวข้องกับเว็บเซอร์วิส
XML รูปแบบการจัดเก็บข้อมูลเพื่อการทำงานร่วม SOAP ข้อกำหนดวิธีการในติดต่อกับเว็บเซอร์วิส UDDI ระบบทะเบียนและสืบค้นเว็บเซอร์วิส WSDL เอกสารXMLอธิบายการทำงานของเว็บเซอร์วิส 14.27

28 ระบบ Web Service ประโยชน์ของเว็บเซอร์วิส
เทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส สนับสนุนการรับส่งแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานร่วมระหว่างระบบสารสนเทศและระหว่างหน่วยงานโดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงระบบสารสนเทศ ตัวอย่างเช่น ระบบสารสนเทศของกรมที่ดิน สามารถ ทำงานร่วมกันกับ ศูนย์ข้อมูลกลางการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้ เป็นต้น 14.28

29 แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
กรมที่ดิน กรม โรงงานฯ กรมทรัพย์สิน ทางปัญญา กรุงเทพฯ ศูนย์ข้อมูลกลางการ แปลงสินทรัพย์เป็นทุน CIC กรมพัฒนา สังคมฯ สำนักงาน การปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมธนารักษ์ กรมส่งเสริม สหกรณ์ กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิ่น การเคหะ แห่งชาติ 14.29

30 Web Based ในการทำงานของ Webpage จะอาศัย การทำงานในลักษณะClient/Server คือ ระบบคอมพิวเตอร์ จะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 ส่วนที่ทำงานร่วมกันผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Server และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Client โดยปกติ เครื่อง Server เพียงเครื่องเดียว ส่วน Client จะมีจำนวนตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวในระบบ Webpage ก็จำเป็นจะต้องมีโปรแกรมที่ทำงานอยู่บนเครื่อง Server และโปรแกรมที่ทำงานบนเครื่อง Client.

31 Web Server / Browser คอมพิวเตอร์ที่เป็น Server ในความหมายของ Internet คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรม Web Server เช่น โปรแกรม Internet Information Server (IIS), Personal Web Server (PWS),Apache (Freeware) ไว้ ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Client จะได้แก่เครื่องที่มีการติดตั้งโปรแกรม Browser เช่น โปรแกรม Internet Explorer, Netscape ไว้

32 Web Server / Browser Remote Server Client
ซึ่งในกรณีที่เครื่องที่ทำหน้าที่เป็น Web Server และ Client อยู่กันคนละเครื่อง จะเรียกการติดต่อระหว่างเครื่อง Web Server กับ Client ว่าเป็นการติดต่อแบบ Remote Connection แต่ถ้าเครื่องที่ทำหน้าที่เป็น Web Server และ Client อยู่ในเครื่องเดียวกัน จะเรียกการติดต่อระหว่างWeb Server กับ Client ว่าเป็นการติดต่อแบบ Local Connection Remote Server Client

33 Browser Web Server / Browser Client Web Server
การทำงานของโปรแกรม Web Server และโปรแกรม Web Browser จะมีการทำงานที่สัมพันธ์กัน คือ Browser จะเป็นส่วนติดต่อกับผู้ใช้ จึงมีหน้าที่รับข้อมูลจากผู้ใช้ และนำข้อมูลที่ส่งกลับมาจาก Web Server มาแสดงผล Client Browser Web Server

34 Web Server / Browser Web Server Client / Browser ส่งข้อมูลตามที่ร้องขอ
ส่วนหน้าที่หลักของ Web Server คือ จะทำการจัดเก็บ, ประมวลผลและทำการส่งข้อมูลของ Web Pages ไปแสดงผลที่ Web Browser ตามความต้องการที่ส่งมาจากโปรแกรม Web Browser Web Server Client / Browser ส่งข้อมูลตามที่ร้องขอ ร้องขอข้อมูล HTML, CGI, Image…

35 Static Web Page Static web page

36 Dynamic Web Page เว็บไซต์แบบ Dynamic คือเป็นเว็บที่ผู้ใช้ หรือผู้ดูแลเว็บ(Web Master) สามารถที่จะ update ข้อมูลในเว็บไซต์สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ โดยอาศัยหลักการของ CGI หรือ Common Gateway Interface คือ การรับข้อมูล จาก Client ไปประมวลผลที่ Server และส่งผลลัพธ์กลับไปให้ Cilent ภาษาโปรแกรมที่สนับสนุนหลักการทำงานของ CGI มีหลายภาษา แต่ที่ใช้กันโดยส่วนใหญ่ มีอยู่กัน 3 ภาษาหลัก ๆ ได้แก่ Perl PHP ASP

37 Dynamic Web Page Webpage ที่มีลักษณะเป็น Dynamic
1. เว็บเพจแบบ Dynamic ที่ฝั่ง Server : จะมีการทำงานที่ Server แล้วส่งผลที่ได้ไปแสดงที่ Browser เช่น ASP, PHP, JSP เป็นต้น 2. เว็บเพจแบบ Dynamic ที่ฝั่ง Client : จะมีการทำงานที่ฝั่งผู้ใช้งานโดยจะมีการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตามผู้ใช้งาน เช่น DHTML, JavaScript, เป็นต้น

38 Script Program โปรแกรม Script จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. โปรแกรม Client-Side Script 2. โปรแกรม Server-Side Script

39 Script เว็บเพจที่กำหนดการกระทำต่างๆเพื่อสามารถรองรับสถานการณ์ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ทันที Client-Side Script จะถูกแปล Script โดย Browser เช่น VBScript, JavaScript Server-Side Script จะถูกแปลและประมวลผลโดย Web Server เช่น ASP , PHP ,JSP

40 ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรม Client-Side Script และ Server-Side Script
Client-Side Script จะถูกแปลและประมวลผลที่ Browser ซึ่งไม่ผ่านระบบเครือข่าย ส่วน Server-Side Script จะประมวลผลที่ Web Server ซึ่งต้องผ่านระบบเครือข่าย ดังนั้น Client-Side Script จึงสามารถลดภาระของ Web Server ซึ่งเป็นผลให้ “Response Time” เร็วกว่าโปรแกรม Server-Side Script Client-Side Script Web Server Client มี Response Time ที่เร็ว

41 ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรม Client-Side Script และ Server-Side Script
ข้อจำกัดของ Client-Side Script ได้แก่ โปรแกรมที่พัฒนาด้วย Client-Side Script ในภาษาใดภาษาหนึ่ง อาจไม่สามารถนำไปใช้งานกับ Browser ที่ต่างกันได้ เช่น Internet Explorer สามารถใช้ภาษา VBScript และ Jscript ได้ Netscape สามารถใช้ภาษา JavaScript ได้ ซึ่งต่างจากโปรแกรม Server-Side Script ที่ไม่ขึ้นอยู่กับตัว Browser

42 ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรม Client-Side Script และ Server-Side Script
คำสั่งต่างๆ ที่เป็น Client-Side Script สามารถเรียกดูได้ด้วยโปรแกรม Browser ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการถูกสำเนาโปรแกรม Client-Side Script ไปใช้โดยผู้อื่น ส่วนโปรแกรมที่เป็นลักษณะ Server-Side Script นั้นจะไม่พบปัญหาดังกล่าวนี้ เนื่องจากตัวโปรแกรม script จะอยู่ในส่วนของ Web Server และ Web Server จะส่งเพียงผลลัพธ์ที่ได้จาก Script นั้นๆ ไปยัง Browser เท่านั้น ซึ่งอยู่ในรูป HTML ที่ไม่มีส่วนประกอบของคำสั่ง Server-Side Script

43 อินเตอร์เน็ตคืออะไร Internet ย่อมาจาก Inter Connection Network เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ทั่วโลกระบบแตกต่างกันก็เชื่อมต่อกันได้

44 เชื่อมต่อกันได้แม้อยู่คนละซีกโลก
ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ทุกระบบ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้

45 บริการบนอินเตอร์เน็ต
WWW FTP ฯลฯ

46 เครือข่ายใยแมงมุม WWW
WWW ย่อมาจาก World Wide Web เป็นแหล่งเก็บข้อมูลในลักษณะ ข้อความ ภาพ และเสียง ซึ่งมีรูปแบบการนำเสนอที่เรียกว่า Web pages โดยข้อมูลในแต่ละส่วนสามารถเชื่อมโยง (Link) ไปยังแหล่งข้อมูลส่วนอื่นได้ และเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งด้วย

47 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
บริการ (Electronic mail) การรับ-ส่งข้อความ (รวมทั้งรูปภาพ เสียง วิดีโอ) ในลักษณะจดหมาย โดยใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเส้นทางในการรับ- ส่ง ใช้เวลาในการรับ/ส่งไม่นาน (หน่วยเป็นนาที) การใช้ จะต้องมี Address เพื่อระบุปลายทางในการรับ-ส่ง ลักษณะเดียวกับ ชื่อ-ที่อยู่ ในการส่งจดหมายปกติ เช่น เป็นต้น

48 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
การรับ-ส่ง ผู้รับ ผู้ส่ง To From ISP : Internet Service Provider ผู้ให้บริการ Internet

49 ถ่ายโอนไฟล์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
การโอนถ่ายข้อมูล FTP FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol บริการส่งถ่ายแฟ้มข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถ Copy หรือ Download แฟ้มข้อมูลจากผู้ให้บริการ ซึ่งเรียกว่า FTP Site หรือ FTP Server หรือจะส่งไปยังเครื่องแม่ข่ายก็ได้ เรียกว่าการ Upload

50 บริการบนอินเตอร์เน็ตมีอีกมากมาย
ฯลฯ

51 การเชื่อมโยงของระบบอินเทอร์เน็ต
อาจใช้ดาวเทียมช่วยรับ-ส่งข้อมูลก็ได้ ติดตั้งโปรแกรมสื่อสาร คู่สายโทรศัพท์ ISP คอมพิวเตอร์ MODEM MODEM

52 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต (Introduction to internet)
เว็บเพจ (Web page) หมายถึง หน้าหนึ่ง ๆ ของเว็บไซต์ ที่เราเปิดขึ้นมาใช้งาน โดยทั่วไป เว็บเพจส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของเอกสาร HTML หรือ XHTML (ซึ่งมักมีนามสกุลไฟล์เป็น htm หรือ html) มีลิงก์สำหรับเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น ๆ สามารถใส่รูปภาพและรูปภาพยังสามารถเป็นลิงก์ กล่าวคือสามารถคลิกบนรูปเพื่อกระโดดไปหน้าอื่นได้ โปรแกรมที่ใช้เปิดดูเว็บเพจ เรียกว่า เว็บ บราวเซอร์

53 เว็บไซต์ (Web site) คือ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เก็บ Web Page ต่าง ๆ โดยจะมีการกำหนดหน้าเว็บเพจหนึ่งไว้เป็นหน้าแรก เว็บเพจนี้เรียกว่า โฮมเพจ (Home page) ซึ่งเป็นช่องทางเข้าเว็บเพจทั้งหมดภายในเว็บไซต์นั้น เครื่องคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานหรือองค์กรใด ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสามารถให้บริการที่เรียกว่า WWW (World wide web) แก่คอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ จะมีการระบุที่อยู่ของเว็บไซต์นั้น เรียกว่า URL (Uniform Resource Locator) เช่น เป็นต้น

54 ภาษา HTML ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยภาษา HTML (Hypertext Markup language) การที่เราจะเรียกข้อมูลมาดูได้ จะต้องใช้โปรแกรมที่เข้าใจภาษา HTML ด้วย ซึ่งมีอยู่หลายโปรแกรมที่นิยมใช้ เราเรียกโปรแกรมเหล่านี้ว่า Web Browser

55 กำเนิดของ HTML ในปี 1989 Tim Berners-Lee ได้นำเสนอ ระบบเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext document system) ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาโปรโตคอล HTTP เพื่อใช้สำหรับการส่งข้อมูลระหว่างลูกข่ายและแม่ข่ายในอินเตอร์เน็ต ซึ่งภาษาที่ใช้ในการติดต่อกันดังกล่าวนั่นคือ HTML และHTML เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 1990 เป็นต้นมา

56 บราวเซอร์ (Browsers) Browser คือ โปรแกรมประยุกต์ (Application) ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่เครื่องลูกข่าย Browser จะอ่าน Source code ที่เป็น HTML และแสดงผลตามคำสั่งที่เขียนใน HTML Browser ตัวแรกคือ Mosaic ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย NCSA (National Center for Supercomputing Applications) Browser ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาทิเช่น Microsoft's Internet Explorer Firefox Netscape's Navigator

57 บราวเซอร์ (Browsers) Browser

58 เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web server)
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งให้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถเรียกชมหน้าเว็บไซต์ได้โดยใช้ เว็บบราวเซอร์ โดยเว็บบราวเซอร์จะทำการติดต่อกับเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อจะดึงหน้าเว็บเพจมาแสดงผลให้ผู้ใช้ได้เห็น

59 โดเมนเนม (Domain name)
การติดต่อกันในอินเทอร์เน็ตนั้น จะใช้ไอพีแอดเดรส ในการทำงาน แต่ยากแก่การจดจำ ดังนั้นจึงมีการใช้โดเมนเนม หรือ ชื่อโดเมน เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เนื่องจากไอพีแอดเดรสนั้นจดจำได้ยากกว่า (ไอพีแอดเดรส) successmedia.com (โดเมนเนม)

60 การทำงานระหว่าง Web server และ Browser
address http respond Web Browser Web Server http request <HTML> <HEAD> <TITLE>Welcome to HTML</TITLE> </HEAD> <BODY> <H3>My first HTML document</H3> </BODY> </HTML> เมื่อมีการร้องขอ (Request) จากเว็บบราวเซอร์ (Web browser) เว็บเซอร์เวอร์ (Web server) จะตอบสนอง (Responds) ต่อคำร้องขอนั้นโดยการส่งเอกสารเว็บไปสู่ลูกข่าย เมื่อลูกข่ายได้รับเอกสารเว็บแล้วจะจัดรูปแบบแล้วทำการแสดงผล


ดาวน์โหลด ppt Introduction To Web Application

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google