ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยDiane McGee ได้เปลี่ยน 5 ปีที่แล้ว
1
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
2
Titus chapter 3 ทิตัสบทที่ 3
3
1Remind them to be submissive to rulers and authorities, to be obedient, to be ready for every good work, 1จงเตือนเขาให้นอบน้อมต่อเจ้าบ้านผ่านเมือง ให้เชื่อฟังและพร้อมที่จะปฏิบัติงานสัมมาอาชีพใดๆ
4
Romans โรม13:1-7 1Let every person be subject to the governing authorities. For there is no authority except from God, and those that exist have been instituted by God.
5
1ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่มิได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ทรงอำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น
6
2Therefore whoever resists the authorities resists what God has appointed, and those who resist will incur judgment. 2เหตุฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกพิพากษาลงโทษ
7
3For rulers are not a terror to good conduct, but to bad
3For rulers are not a terror to good conduct, but to bad. Would you have no fear of the one who is in authority? Then do what is good, and you will receive his approval,
8
3เพราะว่าผู้ครอบครองนั้นไม่น่ากลัวเลยสำหรับคนที่ทำความดี แต่ว่าเป็นที่น่ากลัวสำหรับคนที่ทำความชั่ว ท่านไม่อยากจะกลัวผู้มีอำนาจหรือ ถ้าเช่นนั้นก็จงประพฤติแต่ความดี แล้วท่านก็จะได้เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจนั้น
9
4for he is God's servant for your good
4for he is God's servant for your good. But if you do wrong, be afraid, for he does not bear the sword in vain. For he is the servant of God, an avenger who carries out God's wrath on the wrongdoer.
10
4เพราะว่าผู้ครอบครองนั้น เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำความชั่วก็จงกลัวเถิด เพราะว่าผู้ครอบครองนั้นหาได้ถือดาบไว้เฉยๆไม่ ท่านเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และจะเป็นผู้ลงพระอาชญาแทนพระเจ้าแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว
11
5Therefore one must be in subjection, not only to avoid God's wrath but also for the sake of conscience. 5เหตุฉะนั้นท่านจะต้องอยู่ในบังคับบัญชา มิใช่เพราะเกรงพระอาชญาสิ่งเดียว แต่เพราะจิตที่สำนึกผิดชอบด้วย
12
6For the same reason you also pay taxes, for the authorities are ministers of God, attending to this very thing. 6เพราะเหตุผลอันเดียวกันท่านจึงได้เสียส่วยสาอากรด้วย เพราะว่าผู้มีอำนาจนั้นเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่
13
7Pay to all what is owed to them: taxes to whom taxes are owed, revenue to whom revenue is owed, respect to whom respect is owed, honor to whom honor is owed.
14
7ท่านจงให้แก่ทุกคนตามที่เขาควรจะได้รับ จงเสียส่วยสาอากรตามที่ควร เสียภาษีตามที่ควร ความยำเกรงควรแก่ผู้ใด จงยำเกรงผู้นั้น จงให้เกียรติยศแก่ผู้ที่ควรจะได้รับ
15
2to speak evil of no one, to avoid quarreling, to be gentle, and to show perfect courtesy toward all people. 2อย่าให้เขาว่าร้ายผู้ใด อย่าให้เป็นคนมักทะเลาะวิวาทกัน แต่ให้เป็นคนสุภาพ แสดงอัธยาศัยไมตรีอันดีงาม
16
3For we ourselves were once foolish, disobedient, led astray, slaves to various passions and pleasures, passing our days in malice and envy, hated by others and hating one another. 3เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นเราเองก็โง่ ไม่เชื่อฟังหลงผิด เป็นทาสของกิเลสตัณหาและการเริงสำราญต่างๆ ใช้ชีวิตอย่างเลวร้าย ริษยา น่าชัง และเกลียดชังกัน
17
4But when the goodness and loving kindness of God our Savior appeared, 4แต่เมื่อพระเมตตาและความรักของพระเจ้า ผู้ทรงช่วยเราทั้งหลายให้รอด ได้ปรากฏในโลกแล้ว
18
5he saved us, not because of works done by us in righteousness, but according to his own mercy, by the washing of regeneration and renewal of the Holy Spirit, 5พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
19
6whom he poured out on us richly through Jesus Christ our Savior, 6พระองค์นั้นได้ทรงประทานแก่เราทั้งหลายอย่างบริบูรณ์ โดยพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
20
7so that being justified by his grace we might become heirs according to the hope of eternal life. 7เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระคุณของพระองค์ และจะได้เป็นผู้ได้รับมรดกที่มุ่งหวังคือชีวิตนิรันดร์
21
Ephesians เอเฟซัส 2:1-8 1And you were dead in the trespasses and sins 1ท่านตายแล้วโดยการละเมิด และการบาป
22
2in which you once walked, following the course of this world, following the prince of the power of the air, the spirit that is now at work in the sons of disobedience— 2ครั้งเมื่อก่อนท่านเคยประพฤติในการบาปนั้นตามวิถีของโลก ตามเจ้าแห่งย่านอากาศ คือวิญญาณที่ครอบครองอยู่ในคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อฟัง
23
3among whom we all once lived in the passions of our flesh, carrying out the desires of the body and the mind, and were by nature children of wrath, like the rest of mankind.
24
3เมื่อก่อนเราทั้งปวงเคยประพฤติเป็นพรรคพวกกับคนเหล่านั้น ที่ประพฤติตามตัณหาของเนื้อหนัง คือกระทำตามความปรารถนาของเนื้อหนังและความคิดในใจ ตามสันดานเราจึงเป็นคนควรแก่พระอาชญาเหมือนอย่างคนอื่น
25
4But God, being rich in mercy, because of the great love with which he loved us, 4แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา เพราะเหตุความรักอันใหญ่หลวง ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น
26
5even when we were dead in our trespasses, made us alive together with Christ—by grace you have been saved— 5ถึงแม้ว่าเมื่อเราตายไปแล้วในการบาป พระองค์ยังทรงกระทำให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ (ซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณ)
27
6and raised us up with him and seated us with him in the heavenly places in Christ Jesus, 6และพระองค์ทรงให้เราเป็นขึ้นมากับพระองค์ และทรงโปรดให้เรานั่งในสวรรคสถานกับพระเยซูคริสต์
28
7so that in the coming ages he might show the immeasurable riches of his grace in kindness toward us in Christ Jesus. 7เพื่อว่าในยุคต่อๆไป พระองค์จะได้ทรงสำแดงพระคุณของพระองค์อันอุดมเหลือล้น ในการซึ่งพระองค์ได้ทรงเมตตาเราในพระเยซูคริสต์
29
8For by grace you have been saved through faith
8For by grace you have been saved through faith. And this is not your own doing; it is the gift of God, 8ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้
30
Titus ทิตัส 3:5 5he saved us, not because of works done by us in righteousness, but according to his own mercy, by the washing of regeneration and renewal of the Holy Spirit,
31
5พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
32
Ephesians เอเฟซัส 2:8-9 8For by grace you have been saved through faith. And this is not your own doing; it is the gift of God, 8ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้
33
9not a result of works, so that no one may boast
34
John ยอห์น 6: Then they said to him, “What must we do, to be doing the works of God?” 28แล้วเขาทั้งหลายก็ทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องทำประการใด จึงจะทำงานของพระเจ้าได้”
35
29Jesus answered them, “This is the work of God, that you believe in him whom he has sent.” 29พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “งานของพระเจ้านั้น คือการที่ท่านวางใจในท่านที่พระองค์ทรงใช้มา”
36
8The saying is trustworthy, and I want you to insist on these things, so that those who have believed in God may be careful to devote themselves to good works. These things are excellent and profitable for people.
37
8คำนี้เป็นคำจริง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านเน้นเรื่องเหล่านี้ เพื่อคนทั้งหลายที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้อุตส่าห์กระทำการดี การเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์แก่คนทั้งปวง
38
9But avoid foolish controversies, genealogies, dissensions, and quarrels about the law, for they are unprofitable and worthless.
39
9แต่จงหลีกเสียจากปัญหาโฉดเขลาที่เถียงกัน จากการลำดับวงศ์ตระกูลและการเถียง และการทะเลาะกันเรื่องธรรมบัญญัติ เพราะว่าการอย่างนั้นไร้ประโยชน์และไม่เป็นเรื่องเป็นราว
40
2 Timothy ทิโมธี2:23 23Have nothing to do with foolish, ignorant controversies; you know that they breed quarrels. 23อย่าข้องแวะกับปัญหาอันโง่เขลาและไม่เป็นสาระ ด้วยรู้แล้วว่าปัญหาเหล่านั้นก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน
41
10As for a person who stirs up division, after warning him once and then twice, have nothing more to do with him, 10คนใดๆที่ยุให้แตกนิกายกัน เมื่อได้ตักเตือนเขาหนหนึ่งหรือสองหนแล้ว ก็จงอย่าเกี่ยวข้องกับเขาเลย
42
11knowing that such a person is warped and sinful; he is self-condemned. 11ด้วยรู้แล้วว่าคนเช่นนั้นเป็นคนนอกลู่นอกทางและบาปหนา เขาปรับโทษตัวเขาเอง
43
12When I send Artemas or Tychicus to you, do your best to come to me at Nicopolis, for I have decided to spend the winter there. 12เมื่อข้าพเจ้าจะใช้อารเทมาสหรือทีคิกัสมาหาท่าน ท่านจงรีบไปหาข้าพเจ้าที่เมืองนิโคบุรี เพราะข้าพเจ้าตั้งใจแล้วว่าจะค้างอยู่ที่นั่นจนสิ้นฤดูหนาว
44
13Do your best to speed Zenas the lawyer and Apollos on their way; see that they lack nothing. 13ท่านจงช่วยส่งเศนาสผู้เป็นทนายความกับอปอลโลไป อย่าให้เขาขาดสิ่งใด
45
14And let our people learn to devote themselves to good works, so as to help cases of urgent need, and not be unfruitful. 14ให้พวกเราเรียนรู้ที่จะกระทำการดีด้วย เพื่อจะเป็นประโยชน์เมื่อถึงคราวจำเป็น และเพื่อพวกเราจะไม่เป็นคนที่ไร้ผล
46
15All who are with me send greetings to you
15All who are with me send greetings to you. Greet those who love us in the faith. Grace be with you all. 15บรรดาผู้ที่อยู่กับข้าพเจ้าฝากความคิดถึงมายังท่าน ข้าพเจ้าขอฝากความคิดถึงมายังคนทั้งปวงที่รักเราเพราะความเชื่อเดียวกัน ขอพระคุณจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.