งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

2 John ยอห์น chapter 14 Jesus is the Way, the Truth and the Life

3 1“Let not your hearts be troubled. Believe in God; believe also in Me

4 2In My Father's house are many rooms
2In My Father's house are many rooms. If it were not so, would I have told you that I go to prepare a place for you? 2ในพระนิเวศของพระบิดาข้าพเจ้ามีที่อยู่เป็นอันมาก ถ้าไม่มีข้าพเจ้าคงได้บอกท่านแล้ว เพราะข้าพเจ้าไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย

5 3And if I go and prepare a place for you, I will come again and will take you to Myself, that where I am you may be also. 3เมื่อข้าพเจ้าไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว ข้าพเจ้าจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับข้าพเจ้า เพื่อว่าข้าพเจ้าอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะได้อยู่ที่นั่นด้วย

6 4And you know the way to where I am going

7 5Thomas said to him, “Lord, we do not know where you are going
5Thomas said to him, “Lord, we do not know where you are going. How can we know the way?” 5โธมัสทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์ไม่ทราบว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน พวกข้าพระองค์จะรู้จักทางนั้นได้อย่างไร”

8 6Jesus said to him, “I am the way, and the truth, and the life
6Jesus said to him, “I am the way, and the truth, and the life. No one comes to the Father except through Me. 6พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ข้าพเจ้าเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางข้าพเจ้า

9 Romans 10: because, if you confess with your mouth that Jesus is Lord and believe in your heart that God raised him from the dead, you will be saved.

10 9คือว่าถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่า พระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด

11 Matthew มัทธิว 7:13-20, 23-27 13“Enter by the narrow gate
Matthew มัทธิว 7:13-20, “Enter by the narrow gate. For the gate is wide and the way is easy that leads to destruction, and those who enter by it are many.

12 13 “จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก

13 14For the gate is narrow and the way is hard that leads to life, and those who find it are few. 14เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย

14 15“Beware of false prophets, who come to you in sheep's clothing but inwardly are ravenous wolves. 15 “ท่านทั้งหลายจงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ ที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจหมาป่า

15 16You will recognize them by their fruits
16You will recognize them by their fruits. Are grapes gathered from thornbushes, or figs from thistles? 16ท่านจะรู้จักเขาได้ด้วยผลของเขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้นไม้มีหนามหรือ หรือว่าผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนาม

16 17So, every healthy tree bears good fruit, but the diseased tree bears bad fruit. 17ต้นไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว

17 18A healthy tree cannot bear bad fruit, nor can a diseased tree bear good fruit. 18ต้นไม้ดีจะเกิดผลเลวไม่ได้ หรือต้นไม้เลวจะเกิดผลดีก็ไม่ได้

18 19Every tree that does not bear good fruit is cut down and thrown into the fire. 19ต้นไม้ซึ่งไม่เกิดผลดีย่อมต้องถูกฟันลงและทิ้งเสียในไฟ

19 20Thus you will recognize them by their fruits

20 23And then will I declare to them, ‘I never knew you; depart from Me, you workers of lawlessness.’ 23เมื่อนั้นเราจะได้กล่าวแก่เขาว่า 'เราไม่เคยรู้จักเจ้าเลย เจ้าผู้กระทำความชั่ว จงไปเสียให้พ้นหน้าข้าพเจ้า'

21 24“Everyone then who hears these words of mine and does them will be like a wise man who built his house on the rock. 24 “เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของข้าพเจ้า และประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา

22 25And the rain fell, and the floods came, and the winds blew and beat on that house, but it did not fall, because it had been founded on the rock. 25ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา

23 26And everyone who hears these words of mine and does not do them will be like a foolish man who built his house on the sand. 26แต่ผู้ที่ได้ยินคำเหล่านี้ของข้าพเจ้าและไม่ประพฤติตามเล่า เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่โง่เขลา สร้างเรือนของตนไว้บนทราย

24 27And the rain fell, and the floods came, and the winds blew and beat against that house, and it fell, and great was the fall of it.” 27ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น เรือนนั้นก็พังทลายลง และการซึ่งพังทลายนั้นก็ใหญ่ยิ่ง”

25 John ยอห์น14:7 7If you had known Me, you would have known My Father also. From now on you do know Him and have seen Him.” 7ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักข้าพเจ้าแล้ว ท่านก็จะรู้จักพระบิดาของข้าพเจ้าด้วย ตั้งแต่นี้ไปท่านก็จะรู้จักพระองค์และได้เห็นพระองค์”

26 8Philip said to Him, “Lord, show us the Father, and it is enough for us.” 8ฟีลิปทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้เห็น ก็พอใจข้าพระองค์แล้ว”

27 9Jesus said to him, “Have I been with you so long, and you still do not know Me, Philip? Whoever has seen Me has seen the Father. How can you say, ‘Show us the Father’?

28 9พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ฟีลิปเอ๋ย ข้าพเจ้าได้อยู่กับท่านนานถึงเพียงนี้และท่านยังไม่รู้จักข้าพเจ้าอีกหรือ ผู้ที่ได้เห็นข้าพเจ้าก็ได้เห็นพระบิดา ท่านจะพูดได้อย่างไรอีกว่า 'ขอสำแดงพระบิดาให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเห็น'

29 10Do you not believe that I am in the Father and the Father is in Me
10Do you not believe that I am in the Father and the Father is in Me? The words that I say to you I do not speak on My own authority, but the Father who dwells in Me does His works.

30 10ท่านไม่เชื่อหรือว่า ข้าพเจ้าอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในข้าพเจ้า คำซึ่งข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้น ข้าพเจ้ามิได้กล่าวตามใจชอบ แต่พระบิดาผู้ทรงสถิตอยู่ในข้าพเจ้า ได้ทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์

31 11Believe Me that I am in the Father and the Father is in Me, or else believe on account of the works themselves. 11จงเชื่อข้าพเจ้าเถิดว่า ข้าพเจ้าอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในข้าพเจ้า หรือมิฉะนั้นก็จงเชื่อเพราะกิจการเหล่านั้นเถิด

32 12“Truly, truly, I say to you, whoever believes in Me will also do the works that I do; and greater works than these will he do, because I am going to the Father.

33 12“ข้าพเจ้าบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในข้าพเจ้าจะกระทำกิจการซึ่งข้าพเจ้าได้กระทำนั้นด้วย และเขาจะกระทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าข้าพเจ้าจะไปถึงพระบิดาของข้าพเจ้า

34 13Whatever you ask in My name, this I will do, that the Father may be glorified in the Son. 13สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายจะขอในนามของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกระทำสิ่งนั้น เพื่อว่าพระบิดาจะทรงได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ทางพระบุตร

35 14If you ask Me anything in My name, I will do it

36 15“If you love Me, you will keep My commandments

37 16And I will ask the Father, and He will give you another Helper, to be with you forever, 16ข้าพเจ้าจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป

38 17even the Spirit of truth, whom the world cannot receive, because it neither sees Him nor knows Him. You know Him, for He dwells with you and will be in you.

39 17คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน

40 Acts กิจการ 1:4-5 4And while staying with them he ordered them not to depart from Jerusalem, but to wait for the promise of the Father, which, he said, “you heard from me;

41 4เมื่อพระองค์ได้ทรงพำนักอยู่กับอัครทูต จึงกำชับเขามิให้ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้คอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา คือพระองค์ตรัสว่า “ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินจากข้าพเจ้านั่นแหละ

42 5for John baptized with water, but you will be baptized with the Holy Spirit not many days from now.” 5เพราะว่ายอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่ไม่ช้าไม่นานท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”

43 I Corinthians โครินธ์ 12:13 For in one Spirit we were all baptized into one body—Jews or Greeks, slaves or free—and all were made to drink of one Spirit.

44 เพราะว่าถึงข้าพเจ้าจะเป็นพวกยิว หรือพวกกรีก เป็นทาสหรือมิใช่ทาสก็ตาม ข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับบัพติศมาโดยพระวิญญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียวกัน และพระวิญญาณองค์เดียวนั้นซาบซ่านอยู่

45 John ยอห์น3:5 Jesus answered, “Truly, truly, I say to you, unless one is born of water and the Spirit, he cannot enter the kingdom of God. พระเยซูตรัสว่า “ข้าพเจ้าบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่จากน้ำและพระวิญญาณ ผู้นั้นจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้

46 Romans โรม 8: 9 You, however, are not in the flesh but in the Spirit, if in fact the Spirit of God dwells in you. Anyone who does not have the Spirit of Christ does not belong to Him.

47 ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลายจริงๆแล้ว ท่านก็มิได้อยู่ใต้เนื้อหนัง แต่อยู่ใต้พระวิญญาณ ผู้ใดไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ ผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์

48 Ephesians เอเฟซัส 1: In Him you also, when you heard the word of truth, the gospel of your salvation, and believed in Him, were sealed with the promised Holy Spirit,

49 13ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ฟังสัจวาทะ คือข่าวประเสริฐเรื่องความรอดของท่าน และได้วางใจในพระองค์ ได้รับการผนึกตราไว้ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งพระสัญญา

50 14who is the guarantee of our inheritance until we acquire possession of it, to the praise of His glory. 14เป็นมัดจำของการรับมรดกของข้าพเจ้า จนกว่าข้าพเจ้าจะได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นที่ถวายสรรเสริญแด่พระสิริของพระองค์

51 Ephesians เอเฟซัส 5:18 And do not get drunk with wine, for that is debauchery, but be filled with the Spirit, และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ

52 John ยอห์น 16:1-14 1“I have said all these things to you to keep you from falling away. 1“ข้าพเจ้าบอกสิ่งเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลาย ก็เพื่อไม่ให้ท่านท้อถอย

53 2They will put you out of the synagogues
2They will put you out of the synagogues. Indeed, the hour is coming when whoever kills you will think he is offering service to God. 2เขาจะอเปหิท่านเสียจากธรรมศาลา แท้จริงวันหนึ่งทุกคนที่ประหารชีวิตของท่าน จะคิดว่าเขาทำการนั้นเป็นการปฏิบัติพระเจ้า

54 3And they will do these things because they have not known the Father, nor Me. 3เขาจะกระทำดังนั้นเพราะเขาไม่รู้จักพระบิดา และไม่รู้จักข้าพเจ้า

55 4But I have said these things to you, that when their hour comes you may remember that I told them to you. “I did not say these things to you from the beginning, because I was with you.

56 4แต่ที่ข้าพเจ้าบอกสิ่งเหล่านี้ให้ท่านฟังก็เพื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น ท่านจะได้ระลึกว่าข้าพเจ้าได้บอกท่านไว้แล้ว “ข้าพเจ้ามิได้บอกเรื่องนี้แก่ท่านทั้งหลายแต่แรก เพราะว่าข้าพเจ้ายังอยู่กับท่าน

57 5But now I am going to Him who sent Me, and none of you asks Me, ‘Where are you going?’ 5แต่บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพเจ้ามา และไม่มีใครในพวกท่านถามข้าพเจ้าว่า 'พระองค์จะเสด็จไปที่ไหน'

58 6But because I have said these things to you, sorrow has filled your heart. 6แต่เพราะข้าพเจ้าได้บอกเรื่องนี้แก่พวกท่าน จิตใจของท่านจึงมีแต่ความทุกข์โศก

59 7Nevertheless, I tell you the truth: it is to your advantage that I go away, for if I do not go away, the Helper will not come to you. But if I go, I will send Him to you.

60 7อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าจะบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลาย คือการที่ข้าพเจ้าจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของท่าน เพราะถ้าข้าพเจ้าไม่ไป องค์พระผู้ช่วยก็จะไม่เสด็จมาหาท่าน แต่ถ้าข้าพเจ้าไปแล้ว ข้าพเจ้าก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน

61 8And when He comes, He will convict the world concerning sin and righteousness and judgment: 8เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความผิด ความชอบธรรม และการพิพากษา

62 9concerning sin, because they do not believe in Me; 9ในเรื่องความผิดนั้น คือเพราะเขาไม่วางใจในข้าพเจ้า

63 10concerning righteousness, because I go to the Father, and you will see Me no longer; 10ในเรื่องความชอบธรรมนั้น คือเพราะข้าพเจ้าไปหาพระบิดา และท่านทั้งหลายจะไม่เห็นข้าพเจ้าอีก

64 11concerning judgment, because the ruler of this world is judged

65 12“I still have many things to say to you, but you cannot bear them now. 12“ข้าพเจ้ายังมีอีกหลายสิ่งที่จะบอกแก่ท่านทั้งหลาย แต่เดี๋ยวนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้

66 13When the Spirit of truth comes, He will guide you into all the truth, for He will not speak on His own authority, but whatever He hears He will speak, and He will declare to you the things that are to come.

67 13เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงจะเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น

68 14He will glorify Me, for He will take what is mine and declare it to you. 14พระองค์จะทรงให้ข้าพเจ้าได้รับเกียรติ เพราะว่าพระองค์จะทรงเอาสิ่งที่เป็นของข้าพเจ้ามาสำแดงแก่ท่านทั้งหลาย

69 John ยอห์น14:18 18“I will not leave you as orphans; I will come to you

70 19Yet a little while and the world will see Me no more, but you will see Me. Because I live, you also will live. 19อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นข้าพเจ้า แต่ท่านทั้งหลายจะเห็นข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าดำรงอยู่ ท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ด้วย

71 20In that day you will know that I am in My Father, and you in Me, and I in you. 20ในวันนั้นท่านทั้งหลายจะรู้ว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระบิดา และท่านอยู่ในข้าพเจ้าและข้าพเจ้าอยู่ในท่าน

72 21Whoever has My commandments and keeps them, he it is who loves Me
21Whoever has My commandments and keeps them, he it is who loves Me. And he who loves Me will be loved by My Father, and I will love him and manifest Myself to him.”

73 21ผู้ใดที่มีบัญญัติของข้าพเจ้า และประพฤติตามบัญญัตินั้น ผู้นั้นแหละเป็นผู้ที่รักข้าพเจ้า และผู้ที่รักข้าพเจ้านั้นพระบิดาของข้าพเจ้าจะทรงรักเขา และข้าพเจ้าจะรักเขา และจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา”

74 22Judas (not Iscariot) said to him, “Lord, how is it that you will manifest Yourself to us, and not to the world?” 22ยูดาส (มิใช่อิสคาริโอท) ทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า เหตุใดพระองค์จึงจะสำแดงพระองค์แก่พวกข้าพระองค์ แต่ไม่ทรงสำแดงแก่โลก”

75 23Jesus answered him, “If anyone loves Me, he will keep My word, and My Father will love him, and We will come to him and make Our home with him.

76 23พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าผู้ใดรักข้าพเจ้า ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของข้าพเจ้า และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา

77 24Whoever does not love Me does not keep My words
24Whoever does not love Me does not keep My words. And the word that you hear is not Mine but the Father's who sent Me. 24ผู้ที่ไม่รักข้าพเจ้า ก็ไม่ประพฤติตามคำของข้าพเจ้า และคำซึ่งท่านได้ยินนี้ไม่ใช่คำของข้าพเจ้า แต่เป็นพระวจนะของพระบิดาผู้ทรงใช้ข้าพเจ้ามา

78 25“These things I have spoken to you while I am still with you

79 26But the Helper, the Holy Spirit, whom the Father will send in My name, He will teach you all things and bring to your remembrance all that I have said to you.

80 26แต่องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของข้าพเจ้านั้น จะทรงสอนท่านทั้งหลายทุกสิ่ง และจะให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แก่ท่านแล้ว

81 27Peace I leave with you; My peace I give to you
27Peace I leave with you; My peace I give to you. Not as the world gives do I give to you. Let not your hearts be troubled, neither let them be afraid.

82 27ข้าพเจ้ามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของข้าพเจ้าที่ให้แก่ท่านนั้น ข้าพเจ้าให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย

83 28You heard Me say to you, ‘I am going away, and I will come to you
28You heard Me say to you, ‘I am going away, and I will come to you.’ If you loved Me, you would have rejoiced, because I am going to the Father, for the Father is greater than I.

84 28ท่านได้ยินข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านว่า 'ข้าพเจ้าจะจากไปและจะกลับมาหาท่าน' ถ้าท่านรักข้าพเจ้า ท่านก็จะชื่นชมยินดีที่ข้าพเจ้าไปหาพระบิดา เพราะพระบิดาทรงเป็นใหญ่กว่าข้าพเจ้า

85 29And now I have told you before it takes place, so that when it does take place you may believe. 29และบัดนี้ข้าพเจ้าได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้ว ท่านทั้งหลายจะได้เชื่อ

86 30I will no longer talk much with you, for the ruler of this world is coming. He has no claim on Me, 30แต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไม่สนทนากับท่านทั้งหลายนานเช่นนี้อีก เพราะว่าเจ้าโลกจะมา ผู้นั้นไม่มีสิทธิอำนาจอะไรเหนือข้าพเจ้า

87 31but I do as the Father has commanded Me, so that the world may know that I love the Father. Rise, let us go from here. 31แต่ข้าพเจ้าได้กระทำตามที่พระบิดาได้ทรงบัญชาข้าพเจ้า เพื่อโลกจะได้รู้ว่าข้าพเจ้ารักพระบิดา จงลุกขึ้น ให้เราทั้งหลายไปกันเถิด


ดาวน์โหลด ppt Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google