Adult Basic Life Support สมพงษ์ ชลคีรี พบ.
Adult Chain of Survival
๕ ก. ช่วยหายใจ ๑ ครั้งทุก ๕ ถึง ๖ วินาที ตรวจเช็คชีพจรซ้ำทุก ๒ นาที ๑. พบผู้หมดสติ ๒. โทรศัพท์เรียกหาผู้ช่วย ”1669” ๓. เปิดทางเดินหายใจ เช็คการหายใจ ๔. ถ้าไม่หายใจ ช่วยหายใจ ๒ ครั้ง ได้ ๕ ก. ช่วยหายใจ ๑ ครั้งทุก ๕ ถึง ๖ วินาที ตรวจเช็คชีพจรซ้ำทุก ๒ นาที ๕. เช็คชีพจรที่คอ ไม่ได้ ๖. กดหน้าอก ๓๐ ครั้งสลับกับช่วยหายใจ ๒ ครั้ง จนกว่า AED หรือ ALS ทีมมาถึง ๗. AED มาถึง ๘. เช็คจังหวะการเต้น แนะให้ช็อก ไม่แนะให้ช็อก ๙. ช็อก ๑ ครั้ง ต่อด้วย CPR ๕ รอบ ๑๐. CPR ต่อ ๕ รอบ เช็คจังหวะการเต้นทุก ๕ รอบ
กรณีจมน้ำให้ CPR ก่อน ๑ รอบ (๒นาที) จึงเรียกหาความช่วยเหลือ ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ตรวจสอบโดยการเรียก เรียกหาความช่วยเหลือ หาคนช่วยในพื้นที่ เรียกระบบฉุกเฉิน เช่น EMS เรียกหา AED ข้อยกเว้น กรณีจมน้ำให้ CPR ก่อน ๑ รอบ (๒นาที) จึงเรียกหาความช่วยเหลือ
ผู้ป่วยที่หายใจแบบ air hunger ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับหยุดหายใจ เปิดทางเดินหายใจ และตรวจสอบการหายใจ จัดท่านอนหงายราบ เปิดทางเดินหายใจโดย ใช้ Head -tilt and Chin-lift ในกรณีไม่บาดเจ็บ Jaw-thrust and Chin-lift กรณีการบาดเจ็บ และประคับประคองคอด้วยมือ ตรวจสอบการหายใจในเวลา ๑๐ วินาที ตาดู หูฟังแก้มสัมผัส หมายเหตุ ผู้ป่วยที่หายใจแบบ air hunger ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับหยุดหายใจ
กรณีไม่หายใจ ช่วยหายใจ ๒ ครั้งด้วย ช่วยหายใจ ๒ ครั้งด้วย Mouth-to-mouth Mouth-to-mask Bag –to-mask Bag-to-tube เป่าลมเข้าในระยะเวลา ๑ วินาทีให้เห็นการขยายของทรวงอก พักสูดหายใจปกติ แล้วเป่าลมเข้าอีกครั้งใน ๑ วินาที หมายเหตุ ต้องเปิดทางเดินหายใจให้ได้ตลอดขณะช่วยหายใจ ไม่เป่าหรือบีบ Bag แบบกระแทกเร็ว ๆ กรณีมี Tube อยู่แล้วให้ช่วยหายใจในอัตรา ๘-๑๐ ครั้งต่อนาที กรณีมีความพร้อม เปิด Oxygen ๑๐-๑๒ ลิตร/นาที
ตรวจสอบชีพจร คลำชีพจรที่คอ ใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน ๑๐ วินาที หมายเหตุ ใช้เวลาไม่เกิน ๑๐ วินาที กรณีไม่แน่ใจให้ตัดสินว่าไม่มีชีพจร กรณีผู้ช่วยไม่ใช่บุคลากรการแพทย์ ให้ตัดสินไปเลยว่าผู้หมดสติที่ไม่หายใจนั้นชีพจรหยุดเต้นโดยไม่ต้องตรวจคลำชีพจร
5a. มีชีพจร(แต่ไม่หายใจ) ช่วยหายใจด้วยอัตราประมาณ ๑๐ – ๑๒ ครั้งต่อนาที หรือ ช่วยหายใจครั้งหนึ่งทุก ๕ – ๖ วินาที การช่วยหายใจแต่ละครั้งใช้เวลาเป่าลมเข้าใน ๑ วินาที ตรวจเช็คชีพจรทุก ๒ นาที หมายเหตุ ต้องเปิดทางเดินหายใจให้ได้ ถ้าพร้อมต้องมีการให้ Oxygen เสริม
ไม่มีชีพจร กดหน้าอก ๓๐ ครั้งสลับกับช่วยหายใจ ๒ ครั้ง ตำแหน่งที่กึ่งกลางกระดูกหน้าอก กดให้ได้ลึก ๑.๕ – ๒ นิ้วและปล่อยให้ขยายตัวจนสุด อัตราการกดหน้าอกประมาณ ๑๐๐ ครั้งต่อนาที ไม่หยุดจนกว่าจะมีทีม ALS หรือมีเครื่อง EAD มาถึง หมายเหตุ ผู้ช่วยเหลือควรอยู่ด้านข้างของผู้ป่วย ต้องกดอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด แขนตรง มือสัมผัสหน้าอกตลอดเวลา อัตรา ๓๐ : ๒ ทั้งการช่วยคนเดียวและสองคน ประเมินชีพจรเมื่อครบ ๒ นาที หรือ ๕ รอบ
7, 8 เมื่อเครื่อง EAD มาถึง เปิดเครื่องกดปุ่ม “diagnose”
Shockable rhythm กดปุ่ม “Shock” ๑ ครั้ง CPR ต่ออีก ๔ รอบ หรือ ๒ นาทีแล้วเช็คชีพจรและ rhythm
Not Shockable CPR ต่อ เช็คชีพจรและ rhythm ทุก ๔รอบ หรือ ๒ นาที ไปจนกว่า ทีม ALS จะมาถึง
Drowning สาเหตุการเสียชีวิตจากการจมน้ำมักเกิดจากขาดอากาศหายใจเนื่องจาก Reflex Laryngospasm การทำ CPR ให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการเปิดทางเดินหายใจและการช่วยหายใจ(แม้เมื่อขณะกำลังเอาขึ้นจากน้ำ) จะช่วยชีวิตได้มากที่สุด ควรรีบนำผู้ป่วยขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด เพราะการกดหน้าอกในน้ำไม่ได้ผล การป้องกันกระดูกคอ จำเป็นก็ต่อเมื่อประวัติการบาดเจ็บน่าสงสัย ไม่มีความจำเป็นต้องเอาน้ำออกจากปากหรือท้องก่อน CPR ในระหว่าง CPR ถ้าอาเจียนออกให้ตะแคงหน้าและ remove FB
Hypothermia ระดับของ Hypothermia การปฏิบัติการ CPR เหมือนผู้ป่วยอื่น ๆ Mild > 34 C : passive external rewarming Moderate 30 – 34 C : active external rewarming Severe < 30 C : active internal rewarming การปฏิบัติการ CPR เหมือนผู้ป่วยอื่น ๆ ในระหว่าง CPR ป้องกันการสูญเสียความร้อนต่อเนื่องโดยการ ถอดเสื้อผ้าที่เปียก การหาเสื้อผ้าแห้ง ๆ ปกคลุม การป้องกันกระแสลม การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องนุ่มนวลเพราะจะกระตุ้นให้เกด VF ได้
Foreign Body aspiration การตรวจพบ หอบเหนื่อย แน่น หายใจลำบาก ไอไม่มีเสียง พูดไม่ได้ เขียว หยุดหายใจ
Foreign Body aspiration การช่วยเหลือ การกระตุ้นไอและเคาะปอด การกดท้อง(Abdominal thrust) การกดหน้าอก(chest thrust)
Recovery Position ใช้เพื่อป้องกันการสูดสำลักในผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว แต่การหายใจและระบบไหลเวียนดี ไม่ควรใช้ในรายการบาดเจ็บ