การดำเนินการมูลนิธิ/สมาคม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย นายสิทธิเดช พิมอ้วน ตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ส่วนความมั่นคงภายในและราชการส่วนภูมิภาค สำนักงานปกครองและทะเบียน
ความหมายของมูลนิธิและสมาคม ม.110 ปพพ. มูลนิธิได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ สมาคม ม.78 ปพพ. การก่อตั้งสมาคมเพื่อกระทำการใดๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหากำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน ต้องมีข้อบังคับและจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้
ลักษณะสำคัญของมูลนิธิและสมาคม 1. เป็นทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะ 2. มีวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณประโยชน์ 3. มิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน 4. จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ สมาคม 1. เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคล 2. เพื่อกระทำการใดๆ เป็นการต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำกันเพียงชั่วครั้งชั่วคราวแล้วเลิกไป 3. เป็นแนวทางปฏิบัติ
องค์ประกอบสำคัญของมูลนิธิและสมาคม 1. มีชื่อมูลนิธิ//สำนักงานที่ตั้ง 2. มีวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ 3. มีทรัพย์สินอันเป็นกองทุนดำเนินการ ของมูลนิธิ 4. มีข้อบังคับของมูลนิธิ 5. มีคณะกรรมการของมูลนิธิ สมาคม 1. มีชื่อสมาคม//สำนักงานที่ตั้ง 2. มีวัตถุประสงค์ของสมาคม 3. มีข้อบังคับของสมาคม 4. มีสมาชิก การรับสมาชิกและการขาด จากสมาชิกภาพ 5. มีอัตราค่าบำรุงสมาคม 6. มีคณะกรรมการของสมาคม 7. มีข้อกำหนดการประชุมใหญ่สมาชิก
การจัดตั้งมูลนิธิ ม.114 ให้ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ จะตั้งขึ้น (แบบ ม.น.1) พร้อมเอกสารประกอบตาม ที่กำหนดในคำขอ
เอกสารประกอบ 1. รายชื่อเจ้าของทรัพย์สิน และรายการทรัพย์สินที่จะจัดสรรสำหรับมูลนิธิ 2. รายชื่อ ที่อยู่ อาชีพของผู้จะเป็นกรรมการมูลนิธิ 3. ข้อบังคับมูลนิธิ 4. คำมั่นว่าจะให้ทรัพย์สินแก่มูลนิธิของเจ้าของทรัพย์สิน 5. สำเนาพินัยกรรม กรณีการขอจดทะเบียนมูลนิธิหรือจัดการทรัพย์สิน เกิดขึ้นโดยผลพินัยกรรม 6. สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้/ทะเบียนบ้านของ ข้อ 1 และ 2 7. แผนผังที่ตั้งสำนักงานใหญ่และที่ตั้งสำนักงานสาขา (ถ้ามี) 8. หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้ใช้สถานที่ตามข้อ 7 9. สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งมูลนิธิ (ถ้ามี) 10. เอกสารอื่นๆ
การจัดตั้งสมาคม ม.81 ให้ผู้จะเป็นสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ยื่นคำขอตามแบบ (ส.ค.1) ต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมจะตั้งขึ้น พร้อมเอกสารประกอบตามที่กำหนด ในคำขอ
เอกสารประกอบ 1. ข้อบังคับสมาคม 2. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 คน 3. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นกรรมการของสมาคม 4. รายงานการประชุมจัดตั้งสมาคม 5. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมทั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี) 6. หนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ของสมาคม 7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้/ทะเบียนบ้าน ของข้อ 2 และข้อ 3 8. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี)
ปัญหาที่พบในการขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ/สมาคม 1. รายการทรัพย์สิน 2. ข้อบังคับของมูลนิธิ/สมาคม 3. คำมั่นว่าจะให้ทรัพย์สินแก่มูลนิธิ 4. หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ตั้ง 5. รายงานการประชุมการจัดตั้งสมาคมไม่สอดคล้องกับข้อบังคับ 6. เอกสารอื่นๆ
การแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการ// การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ การจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของ มูลนิธิขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการ/การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของมูลนิธิ ยื่นคำร้องตามแบบ ม.น.2 พร้อมเอกสาร ประกอบตามที่กำหนดในคำขอ
การจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการ มูลนิธิต้องนำไปจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการ แต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการมูลนิธิ (ม.125) การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ มูลนิธิต้องนำ ข้อบังคับไปจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการ ของมูลนิธิได้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ (ม.126)
การจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ เอกสารประกอบ การจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ 1. สำเนารายงานการประชุมหรือเอกสารอื่นที่แสดงถึงมติ ของคณะกรรมการของมูลนิธิ ที่ให้มีการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการ 2. บัญชีรายชื่อคณะกรรมการของมูลนิธิชุดเดิม 3. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้ที่จะเป็นกรรมการของมูลนิธิที่ขอแต่งตั้งหรือ เปลี่ยนแปลงกรรมการ 4. ข้อบังคับมูลนิธิ 5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้/ทะเบียนบ้านของ ผู้ที่จะเป็นกรรมการของมูลนิธิที่ขอแต่งตั้งหรือปลี่ยนแปลง
การจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ เอกสารประกอบ การจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ 1. สำเนารายงานการประชุมหรือเอกสารอื่นที่แสดงถึงมติของคณะกรรมการของมูลนิธิ ที่ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับมูลนิธิ 2. ข้อบังคับของมูลนิธิในปัจจุบันและข้อบังคับของมูลนิธิในส่วนที่ประสงค์จะขอแก้ไข เพิ่มเติม 3. แผนผังโดยสังเขปแสดงที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขาแห่งใหม่ของมูลนิธิและ หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้ใช้สถานที่ดังกล่าว ในกรณีที่มีการ เปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขา หรือมีการตั้งสำนักงานสาขาขึ้นใหม่
ข้อบังคับที่ขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง (ตัวอย่าง) ข้อบังคับที่ขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ข้อบังคับ มูลนิธิ..................................... พ.ศ. 2559 ด้วยที่ประชุมสามัญประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2559 คณะกรรมการ มูลนิธิได้มีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับมูลนิธิฯ ข้อ 9 (หมายถึงข้อที่ปรากฏในข้อบังคับเดิม) 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมูลนิธิ............................” พ.ศ.2559 2. ให้แก้ไขความในข้อ 9 ของข้อบังคับมูลนิธิ..................และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน ข้อ 9 “มูลนิธินี้ดำเนินการโดยคณะกรรมการมูลนิธิ มีจำนวนไม่น้อยกว่า......คน แต่ไม่เกิน......คน” ลงชื่อ.........................ผู้จัดทำข้อบังคับ (..........................) ตำแหน่ง ประธานกรรมการมูลนิธิ หมายเหตุ สำเนาข้อบังคับฉบับนี้ได้จดทะเบียนแล้ว เมื่อวันที่......เดือน...................พ.ศ......... ลงชื่อ...........................เจ้าหน้าที่ (.........................)
ปัญหาที่พบในการขอจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการ/การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ 1. รายงานการประชุมไม่ครบถ้วน 2. การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จะเป็น กรรมการไม่ครบถ้วน 3. ขาดแบบคำขอจดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับ มูลนิธิ 4. ไม่ยื่นขอจดทะเบียนภายในกำหนด ฯลฯ
การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ให้สมาคมยื่นคำร้อง ตามแบบ ส.ค.2 พร้อมเอกสารประกอบตามที่กำหนดในคำขอ การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม สมาคมต้องยื่น ขอจดทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้ลงมติ (ม.84) เอกสารประกอบ 1. รายงานการประชุมของที่ประชุมใหญ่ที่มีมติให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของสมาคม 2. ข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและฉบับใหม่ 3. ตารางเปรียบเทียบข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและฉบับใหม่ 4. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมและหนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ตั้งของสมาคม ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้ง
ปัญหาที่พบในการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม 1. สมาชิกมาประชุมไม่ครบตามข้อบังคับ 2. ขาดตารางเปรียบเทียบข้อบังคับของสมาคม, ข้อบังคับ ของสมาคมฉบับใหม่ 3. ไม่ยื่นขอจดทะเบียนภายในกำหนด ฯลฯ
การแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม การจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ยื่นคำร้องตามแบบ ส.ค.3 พร้อมเอกสารประกอบตามที่กำหนดในคำขอ การขอจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ ทั้งชุดหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม สมาคมต้องยื่น ขอจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการแต่งตั้งหรือ เปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม (ม.85)
เอกสารประกอบ การแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือ การเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม 1. รายงานการประชุมของสมาคมที่มีมติให้มีการ แต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลง กรรมการของสมาคม 2. ข้อบังคับสมาคม 3. รายชื่อกรรมการเก่าและกรรมการใหม่ 4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้/ทะเบียนบ้าน ของกรรมการใหม่
ปัญหาที่พบในการขอจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม 1. รายงานการประชุมไม่เป็นไปตามข้อบังคับ 2. การแต่งตั้งกรรมการไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ทั้งจำนวนและตำแหน่ง 3. การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จะเป็นกรรมการไม่ครบถ้วน 4. ไม่ยื่นขอจดทะเบียนภายในกำหนด ฯลฯ
การเลิกมูลนิธิ เหตุแห่งการเลิกมูลนิธิ เมื่อมูลนิธิมีเหตุต้องเลิก ให้ยื่นคำขอตามแบบ ม.น.6 พร้อมเอกสาร ประกอบตามที่กำหนดในคำขอ ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่มีการเลิกมูลนิธิ (ม.132) เหตุแห่งการเลิกมูลนิธิ - เมื่อมีเหตุตามที่กำหนดในข้อบังคับ - มูลนิธิตั้งขึ้นไว้เฉพาะระยะเวลาใด เมื่อสิ้นสุดระยะเวลานั้น - มูลนิธิตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด และได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์แล้ว หรือวัตถุประสงค์เป็นอันพ้นวิสัย - มูลนิธิล้มละลาย - มีคำสั่งศาลให้เลิก
นายทะเบียน พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่ง อาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งให้เลิกมูลนิธิได้ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้ - เมื่อปรากฎว่าวัตถุประสงค์ของมูลนิธิขัดต่อกฎหมาย - เมื่อปรากฎว่ามูลนิธิกระทำการขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ - เมื่อปรากฏว่ามูลนิธิไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ไม่ว่าเพราะเหตุใดๆ หรือหยุดดำเนินกิจการตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
เอกสารประกอบการเลิกมูลนิธิ 1. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ 2. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ ซึ่งเป็นกรรมการที่อยู่ในตำแหน่งขณะมีการเลิกมูลนิธิ 3. ข้อบังคับของมูลนิธิ 4. เอกสารการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี 5. สำเนารายงานการประชุมของมูลนิธิที่มีมติให้เลิกมูลนิธิ 6. เอกสารอื่นๆ ถ้ามี
การเลิกสมาคม เหตุแห่งการเลิกสมาคม ให้สมาคมยื่นคำร้องขอเลิกสมาคม เมื่อสมาคมมีเหตุต้องเลิก โดยให้ยื่น แบบแจ้งการเลิกสมาคมภายใน 14 วัน นับแต่วันที่มีการเลิกสมาคม พร้อมเอกสาร ประกอบตามที่กำหนดในแบบ (ม.105) เหตุแห่งการเลิกสมาคม - เมื่อมีเหตุตามที่กำหนดในข้อบังคับ - สมาคมตั้งขึ้นไว้เฉพาะระยะเวลาใด เมื่อสิ้นระยะเวลานั้น - สมาคมตั้งขึ้นเพื่อกระทำกิจการใด และเมื่อกิจการนั้นสำเร็จแล้ว - เมื่อที่ประชุมใหญ่มีมติให้เลิก - สมาคมล้มละลาย - นายทะเบียนถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียน - มีคำสั่งศาลให้เลิก
ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียนได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ - เมื่อปรากฏในภายหลังการจดทะเบียนว่า วัตถุประสงค์ของสมาคมขัดต่อ กฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของ ประชาชนหรือความั่นคงของรัฐ และนายทะเบียนได้สั่งให้แก้ไขแล้วแต่สมาคมไม่ปฏิบัติตาม ภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด - เมื่อปรากฏว่าการดำเนินกิจการของสมาคมขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความั่นคงของรัฐ - เมื่อสมาคมหยุดดำเนินกิจการติดต่อกันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป - เมื่อปรากฏว่าสมาคมให้หรือปล่อยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่กรรมการของสมาคม เป็นผู้ดำเนินกิจการของสมาคม - เมื่อสมาคมมีสมาชิกเหลือน้อยกว่าสิบคนมาเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 2 ปี
เอกสารประกอบการเลิกสมาคม 1. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสมาคม 2. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ซึ่งเป็นกรรมการที่อยู่ในตำแหน่งขณะมีการเลิกสมาคม 3. ข้อบังคับของสมาคม 4. เอกสารการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี 5. สำเนารายงานการประชุมของสมาคมที่มีมติให้เลิกสมาคม 6. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี)
อัตราค่าธรรมเนียมมูลนิธิ 1. ค่าคำขอ ฉบับละ 10 บาท 2. ค่าจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ 200 บาท 3. ค่าจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิและค่าจดทะเบียนแก้ไข เพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ 50 บาท 4. ค่าขอตรวจเอกสารเกี่ยวกับมูลนิธิ สำหรับมูลนิธิหนึ่ง ครั้งละ 50 บาท 5. ค่าคัดและรับรองสำเนาเอกสาร ฉบับละ 10 บาท 6. ค่าขอให้นายทะเบียนดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับมูลนิธิซึ่งมิใช่ตามข้อ 2, 3, 4 หรือ 5 รายการหนึ่งครั้งละ 50 บาท ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียม สำหรับมูลนิธิดังต่อไปนี้ 1. มูลนิธิที่ตั้งขึ้นตามพระราชดำริ 2. มูลนิธิที่ตั้งขึ้นตามพระประสงค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอขึ้นไป หรือ มูลนิธิที่มีพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอขึ้นไปเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการ 3. มูลนิธิที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์หรือพระบรมราชินูปถัมภ์
อัตราค่าธรรมเนียมสมาคม 1. ค่าคำขอให้นายทะเบียนดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับสมาคม ครั้งละ 5 บาท 2. ค่าจดทะเบียนสมาคม 2,000 บาท 3. ค่าจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม และค่าจดทะเบียนแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลง กรรมการของสมาคม 200 บาท 4. ค่าขอตรวจเอกสาร ครั้งละ 50 บาท 5. ค่าคัดสำเนาเอกสาร พร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง แผ่นละ 10 บาท แต่ไม่เกิน 500 บาท
กรณีศึกษาการดำเนินการมูลนิธิ/สมาคม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ถามตอบเรื่องมูลนิธิ/สมาคม
ท่านผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน จบการบรรยาย ขอขอบคุณ ท่านผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน
- การคัดและรับรองเอกสารมูลนิธิ/สมาคม - การออกตรวจตราการดำเนินงานของมูลนิธิและการออกตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสมาคมในพื้นที่ การตรวจสอบคุณสมบัติผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิและของสมาคม - สมาคมกีฬา ตาม พรบ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ฯลฯ