Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Psalm เพลงสดุดีบทที่ 77
To the choirmaster: according to Jeduthun. A Psalm of Asaph To the choirmaster: according to Jeduthun. A Psalm of Asaph. 1I cry aloud to God, aloud to God, and He will hear me.
1ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนองเยดูธูน เพลงสดุดีของอาสาฟ ข้าพเจ้าร้องทูลพระเจ้า ทูลต่อพระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงฟังข้าพเจ้า
2In the day of my trouble I seek the Lord; in the night my hand is stretched out without wearying; my soul refuses to be comforted.
2ในวันยากลำบากของข้าพเจ้า ข้าพเจ้า แสวงองค์พระผู้เป็นเจ้า ในกลางคืนมือข้าพเจ้าเหยียดไม่หยุด จิตใจของข้าพเจ้าไม่รับคำเล้าโลม
3When I remember God, I moan; when I meditate, my spirit faints 3When I remember God, I moan; when I meditate, my spirit faints. Selah 3ข้าพเจ้าคิดถึงพระเจ้า ข้าพเจ้าก็ครวญคราง ข้าพเจ้าตรึกตรอง จิตใจของข้าพเจ้าก็อ่อนระอาไป
4You hold my eyelids open; I am so troubled that I cannot speak
5I consider the days of old, the years long ago
6I said, “Let me remember my song in the night; let me meditate in my heart.” Then my spirit made a diligent search: 6ข้าพเจ้าภาวนาในใจของข้าพเจ้าในกลางคืน ข้าพเจ้าตรึกตรองและวิญญาณจิตของข้าพเจ้าก็เสาะหา
7“Will the Lord spurn forever, and never again be favorable
8Has His steadfast love forever ceased 8Has His steadfast love forever ceased? Are His promises at an end for all time? 8ความรักมั่นคงของพระองค์จะระงับอยู่เป็นนิตย์หรือ พระสัญญาของพระองค์สิ้นสุดตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์หรือ
9Has God forgotten to be gracious 9Has God forgotten to be gracious? Has He in anger shut up His compassion?” Selah 9พระเจ้าทรงลืมที่จะทรงพระกรุณาหรือ เพราะพระพิโรธ พระองค์จึงทรงปิดความสังเวชเสียหรือ”
Proverbs สุภาษิต 3:11-12 11My son, do not despise the LORD's discipline or be weary of His reproof, 11บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าดูหมิ่นพระดำรัสสอนของพระเจ้า หรือเบื่อหน่ายต่อพระดำรัสเตือนของพระองค์
12for the LORD reproves him whom He loves, as a father the son in whom he delights. 12เพราะพระเจ้าทรงตักเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก ดังบิดาตักเตือนบุตรผู้ที่เขาปีติชื่นชม
Psalm เพลงสดุดี 22:1 1My God, my God, why have you forsaken me Psalm เพลงสดุดี 22:1 1My God, my God, why have you forsaken me? Why are you so far from saving me, from the words of my groaning?
1พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย เหตุใดพระองค์ทรงเมินเฉยที่จะช่วยข้าพระองค์ และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์
Matthew มัทธิว 27:46 46And about the ninth hour Jesus cried out with a loud voice, saying, “Eli, Eli, lema sabachthani?” that is, “My God, my God, why have you forsaken me?”
46ครั้นประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามาสะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย”
Romans โรม 11:33-36 33Oh, the depth of the riches and wisdom and knowledge of God! How unsearchable are His judgments and how inscrutable His ways!
33โอ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้น ล้ำลึกเท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้
34“For who has known the mind of the Lord, or who has been His counselor?” 34เพราะว่า ใครเล่ารู้พระทัยของพระเจ้า หรือใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
35“Or who has given a gift to Him that he might be repaid
36For from Him and through Him and to Him are all things 36For from Him and through Him and to Him are all things. To Him be glory forever. Amen. 36เพราะสิ่งสารพัดมาจากพระองค์ โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริจงมีแด่พระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน
10Then I said, “I will appeal to this, to the years of the right hand of the Most High.” 10และข้าพเจ้าว่า “ที่พระหัตถ์ขวาของพระองค์ผู้สูงสุดเปลี่ยนไป นั่นแหละเป็นความทุกข์ของข้าพเจ้า”
11I will remember the deeds of the LORD; yes, I will remember your wonders of old. 11ข้าพเจ้าจะระลึกถึงพระราชกิจทั้งปวงของพระเจ้า พระเจ้าข้า ข้าพระองค์จะจดจำบรรดาการอัศจรรย์ของพระองค์ ในสมัยก่อนๆ
12I will ponder all Your work, and meditate on Your mighty deeds
13Your way, O God, is holy. What god is great like our God
14You are the God who works wonders; You have made known Your might among the peoples. 14พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์ ผู้ทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ท่ามกลาง ชนชาติทั้งหลาย
15You with your arm redeemed your people, the children of Jacob and Joseph. Selah 15พระองค์ได้ทรงไถ่ประชากร ของพระองค์ด้วยพระกรของพระองค์ คือเชื้อสายของยาโคบ และโยเซฟ
16When the waters saw you, O God, when the waters saw you, they were afraid; indeed, the deep trembled. 16ข้าแต่พระเจ้า เมื่อน้ำเห็นพระองค์ น้ำเห็นพระองค์ มันก็เกรงกลัว แน่ทีเดียว ที่ลึกก็สั่นสะท้าน
17The clouds poured out water; the skies gave forth thunder; your arrows flashed on every side. 17เมฆเทน้ำลงมา ท้องฟ้าก็คะนองเสียง ลูกธนูของพระองค์ก็ปลิวไปปลิวมา
18The crash of Your thunder was in the whirlwind; Your lightning lighted up the world; the earth trembled and shook. 18ฟ้าผ่าของพระองค์มีเสียงอยู่ในลมบ้าหมู ฟ้าแลบทำให้พิภพสว่าง แผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและหวั่นไหว
19Your way was through the sea, your path through the great waters; yet your footprints were unseen. 19พระมรรคาของพระองค์อยู่ในทะเล พระวิถีของพระองค์อยู่ในน้ำมหึมาทั้งหลาย ถึงกระนั้นรอยพระบาทของพระองค์ก็ไม่มีใครรู้
20You led your people like a flock by the hand of Moses and Aaron
Romans โรม 8:31-32 31What then shall we say to these things Romans โรม 8:31-32 31What then shall we say to these things? If God is for us, who can be against us? 31ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเรา
32He who did not spare His own Son but gave Him up for us all, how will he not also with Him graciously give us all things?
32พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลาย ด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ