งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

การใช้งานฐานข้อมูล Web of Science

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "การใช้งานฐานข้อมูล Web of Science"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 การใช้งานฐานข้อมูล Web of Science
โดย จิรวัฒน์ พรหมพร แผนกสนับสนุนฝ่ายทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา บริษัท บุ๊ค โปรโมชั่น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย (ThaiLIS) ปรับปรุงครั้งล่าสุด 07/01/53

2 สารบัญ Web of Science คืออะไร การลงทะเบียน (Register)
วิธีการสืบค้นเอกสาร Search Cited Reference Search หน้าแสดงผลลัพธ์ (Search Results) Marked List พิมพ์/อีเมล/บันทึก/ดาวน์โหลดรายการบรรณานุกรม Search History Log Out

3 Content เป็นฐานข้อมูลบรรณานุกรมและสาระสังเขปพร้อมการอ้างอิงและอ้างถึง ที่ครอบคลุมสาขาวิชาหลักทั้งวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ มนุษยศาสตร์ จากวารสารมากกว่า 10,000 รายชื่อ ให้ข้อมูลตั้งแต่ปี ปัจจุบัน

4 Sign In/Register คลิกปุ่ม Register

5 ระบุ E-mail Address ที่จะใช้งาน แล้วคลิก Continue
Register/Sign In ระบุ Address ที่จะใช้งาน แล้วคลิก Continue

6 พิมพ์ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และคลิกปุ่ม Submit Registration
Register พิมพ์ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และคลิกปุ่ม Submit Registration

7 แสดงสถานะการ Log in เฉพาะบุคคล

8 หน้าจอหลักของ Web of Science
1. Search เป็นการสืบค้นบทความวารสารจากชนิดข้อมูลต่างๆ ได้แก่ Topic (ข้อมูลบรรณานุกรมและบทคัดย่อ) Author (ชื่อผู้แต่ง) Source Title (ชื่อวารสาร) Publication Year (ปีที่พิมพ์) และ Address (ที่อยู่ชื่อหน่วยงานที่ผู้แต่งสังกัด) เป็นต้น 2. Cited Reference Search เป็นการค้นหาข้อมูลที่บทความนำมาอ้างอิง ซึ่งอาจเป็นบทความ หนังสือ หรือ สิทธิบัตร เป็นต้น หรือ ต้องการค้นหาว่ามีใครนำผลงานนี้ไปอ้างอิงในบทความ 1 2

9 การสืบค้นโดยแถบเมนู Search
1. พิมพ์คำหรือวลี 2. ระบุเขตข้อมูลที่ต้องการสืบค้น เช่น Topic, Title, Author, Publication Name, Address เป็นต้น 3. ระบุตัวเชื่อม AND OR หรือ NOT เพื่อสร้างเงื่อนไขความสัมพันธ์ระหว่างคำในการสืบค้น 4. ระบุช่วงเวลาของปีที่พิมพ์ และจำกัดข้อมูลในการสืบค้น 5. คลิกที่ Search เพื่อสืบค้น 1 2 3 5 4

10 หน้าแสดงผลลัพธ์ของ Search
1. แสดงจำนวนผลลัพธ์ที่พบ 2. สืบค้นเฉพาะภายในรายการผลลัพธ์ปัจจุบัน จากส่วน Search within results for เพื่อจำกัดผลลัพธ์ให้แคบลง โดยพิมพ์คำหรือวลี และคลิกที่ปุ่ม Search 1 2

11 หน้าแสดงผลลัพธ์ของ Search (ต่อ)
3. ผลลัพธ์ที่ได้จากการสืบค้นเดิม สามารถทำการปรับปรุง หรือกรองรายการผลลัพธ์ให้แคบลงได้จากส่วน Refine Results โดยเลือกกรองผลลัพธ์จาก Subject Areas, Document Types, Authors, Source Titles, Publication Years, Institutions, Funding Agencies, Languages, Countries/Territories โดยคลิกเครื่องหมายถูกหน้าหัวเรื่องที่ต้องการ หรือ คลิกที่ more options/values เพื่อแสดงหัวเรื่องทั้งหมด จากนั้นคลิกที่ Refine เพื่อแสดงผล 3

12 หน้าแสดงผลลัพธ์ของ Search (ต่อ)
Analyze Results เป็นการวิเคราะห์จากผลลัพธ์ที่ได้ปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการจำแนกผลลัพธ์ที่มีจำนวนมากตามกลุ่มข้อมูลที่สนใจ เช่น จำแนกตามหัวเรื่อง (Subject) ชื่อสิ่งพิมพ์ หรือชื่อวารสาร (Source Title) เป็นต้น คลิกที่ปุ่ม เพื่อทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์

13 หน้าแสดงการวิเคราะห์ผลลัพธ์: Analyze Results
2 3 4 1 5 1. เลือกเขตข้อมูลที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์และจำแนก ได้แก่ Author : ชื่อผู้แต่ง Country/Territory: ประเทศ Funding Agency: ผู้ให้ทุนทำวิจัย Grant Number: หมายเลขของการทำวิจัยที่ออกโดยผู้ให้ทุน Document Type: ประเภทของเอกสาร Institution Name: ชื่อสถาบัน Language: ภาษาต้นฉบับ Publication Year: ปีที่พิมพ์ Source Title: ชื่อสิ่งพิมพ Subject Area: กลุ่มหัวเรื่อง 2. Analyze: เลือกจำนวนบทความที่จะทำการวิเคราะห์ 3. Set display options: ตั้งค่าการแสดงจำนวนผลลัพธ์ และจำนวน records ขั้นต่ำที่ให้พบ 4. Sort by: การจัดเรียงลำดับผลลัพธ์ คลิกที่ปุ่ม เพื่อทำการวิเคราะห์

14 หน้าผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ผลลัพธ์: Analyze Results (ต่อ)
6. ผลลัพธ์การวิเคราะห์จะจำแนกการแสดงข้อมูลตามคอลัมน์ดังนี้ Field: แสดงข้อมูลตามเขตข้อมูลที่เลือก Record Count: แสดงเป็นจำนวน Records ที่พบ % of xxx: แสดงสัดส่วนการพบจากจำนวน Records โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ Bar Chart: แสดงผลลัพธ์เป็นแผนภูมิแท่ง 7. คลิกที่ช่องหน้ารายการผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยสามารถเลือกได้มากกว่าหนึ่งรายการ จากนั้น คลิกที่ View Records เพื่อแสดงข้อมูลเป็นรายการบทความ 8. คลิกที่ปุ่ม Save Analysis Data to File เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่วิเคราะห์ 8 6 7

15 หน้าแสดงผลลัพธ์ของ Search (ต่อ)
Sort by: การจัดเรียงลำดับรายการผลลัพธ์ตาม Latest Date: วันที่ตีพิมพ์ล่าสุด Times Cited : จำนวนครั้งที่ได้รับการอ้างถึง Relevance: ตามความเกี่ยวข้องกับคำค้น First Author: ชื่อผู้แต่งลำดับแรก Source Title: ชื่อของสิ่งพิมพ์ Publication Year: ปีที่ตีพิมพ์

16 หน้าแสดงผลลัพธ์ของ Search (ต่อ)
ในหน้าการแสดงผลลัพธ์ จะแสดงข้อมูลที่สำคัญดังนี้ 1. ข้อมูลบรรณานุกรมของแต่ละบทความ คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อเข้าดูข้อมูลของบทความโดยละเอียด ดังตัวอย่าง คลิกที่บทความลำดับที่ 4 2. จำนวนครั้งที่บทความนี้ได้รับการอ้างถึง คลิกที่ตัวเลขของ Times Cited เพื่อดูบทความที่อ้างถึง ดังเช่นตัวอย่าง คลิกที่ 47 3. คลิกที่ปุ่ม Full Text เพื่อเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลที่มีการบอกรับ เพื่อเข้าดูบทความฉบับเต็ม 1 2 3

17 หน้าแสดงรายละเอียดบทความ
ประกอบไปด้วยข้อมูลที่สำคัญดังนี้ 1. Title : ชื่อเรื่อง 2. Author: ผู้แต่ง ซึ่งสามารถเรียกดูรายการบทความอื่นๆที่เป็นผลงานของผู้แต่งคนนี้โดยคลิกไปที่ชื่อผู้แต่งแต่ละคน 3. Source: ชื่อสิ่งพิมพ์ 4. Time Cited: จำนวนครั้งที่ได้รับการอ้างถึงจากบทความอื่น ซึ่งสามารถคลิกเพื่อเรียกดูได้ 5. References: สามารถคลิกเพื่อดูรายการอ้างอิงที่ใช้ 6. Abstract: บทคัดย่อ 7. Document Type: ประเภทสิ่งพิมพ์ 8. Language: ภาษาต้นฉบับ 9. Author Keywords: คำสำคัญของบทความ 10. Keywords Plus: คำสำคัญที่พบบ่อยจาก Title ของรายการอ้างอิง 11. Addresses: ที่อยู่ของผู้แต่ง 12 Publisher: สำนักพิมพ์ 13. Subject Category: หัวเรื่องของบทความ

18 หน้ารายการอ้างอิง: Cited References
ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้ 1. บรรณานุกรมของบทความหลัก คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อกลับไปยังหน้าของบทความหลัก 2. รายการอ้างอิงที่ใช้ของบทความหลัก 1 2

19 หน้ารายการบทความที่อ้างถึง: Citing Articles
1 ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้ 1. บรรณานุกรมของบทความหลัก ที่ได้อ้างถึง คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อกลับไปยังหน้า ของบทความหลัก 2. จำนวนรายการบทความที่อ้างถึงบทความหลักในข้อ 4 2

20 หน้ารายการบทความที่ใช้รายการ อ้างอิงเดียวกัน : Related Records
1 ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้ 1. บรรณานุกรมของบทความหลัก คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อกลับไปยังหน้าของบทความหลัก 2. จำนวนรายการบทความที่ใช้รายการอ้างอิงเดียวกันกับบทความหลักในข้อ 4 โดยแต่ละบทความจะมีตัวเลขแสดงจำนวนรายการอ้างอิงเดียวกันในคอลัมน์ Shared Refs 2

21 Cited Reference Search
1. Cited Author: ชื่อผู้แต่งที่ได้รับการอ้างถึง โดยใช้นามสกุล และอักษรแรกของชื่อในการสืบค้น 2. Cited Work: ชื่อของสิ่งพิมพ์ที่ได้รับการอ้างถึง เช่น ชื่อวารสาร ชื่อหนังสือ เป็นต้น 3. Cited Year(s): ปีที่พิมพ์ของเอกสารที่ได้รับการอ้างถึง 4. คลิกที่ปุ่ม Search เพื่อสืบค้น 1 2 3 4

22 หน้าผลลัพธ์ของ Cited Reference Search
ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้ 1. Select: คลิกที่ช่องหน้า Record ที่ต้องการเลือกได้มากกว่าหนึ่ง และคลิกที่ปุ่ม Finish Search เพื่อเรียกดูรายการบทความที่อ้างถึง (Citing Article) 2. Cited Author: รายชื่อผู้แต่งที่ได้รับการอ้างอิง 3. Cited Work: ชื่อของสิ่งพิมพ์ ซึ่งสามารถเรียกแสดงชื่อเรื่องไปพร้อมกันด้วยคลิกที่ Show Expanded Titles 4. Year: ปีที่พิมพ์ 5. Volume : เลข Volume 6. Page: เลขหน้า 7. Citing Articles: จำนวนบทความที่อ้างถึง 8. View Record : คลิกที่ View Record ในรายการที่ปรากฏเพื่อดูข้อมูลโดยละเอียด 7 8 1 4 5 6 3 2

23 หน้าผลลัพธ์ของ Cited Reference Search (ต่อ)
Show Expanded Titles

24 Marked List บรรณานุกรมของแต่ละบทความในรายการผลลัพธ์ ผู้ใช้สามารถเลือกจัดเก็บบทความที่ต้องการได้ เพื่อจัดการบทความภายหลัง โดย 1. คลิกเลือกหน้ารายการที่ต้องการ 2. คลิกที่ Add to Marked List เพื่อจัดเก็บเอกสาร 2 1

25 3. คลิกที่ Marked List เพื่อดูรายการเอกสารที่จัดเก็บ

26 Marked List 4 5 4. เลือกรูปแบบข้อมูลที่ต้องการ 5. เลือกรูปแบบการจัดการ เช่น Print, , Save หรือ Save to EndNote

27 Print/ E-mail/ Save/ Export to Reference Software
บรรณานุกรมของแต่ละบทความในรายการผลลัพธ์ ผู้ใช้สามารถเลือกจัดการบทความที่ต้องการได้โดย 1. คลิกเลือกหน้ารายการที่ต้องการ 2. เลือกรูปแบบการจัดการ เช่น Print, , Save to EndNote Web, Save to EndNote หรือ คลิกที่ more options เพื่อเพิ่มทางเลือกในการจัดการ 2 1

28 Print/ E-mail/ Save/ Export to Reference Software
จากการคลิกที่ More Options สามารถเลือกจัดการผลลัพธ์ได้ในส่วนช่อง Output Records โดย 1. กำหนดรายการบทความที่ต้องการตามรายละเอียดใน Slide ก่อน 2. กำหนดรูปแบบข้อมูลที่ต้องการ 3. เลือกรูปแบบการจัดการบทความ ได้แก่ สั่งพิมพ์ ส่งอีเมล์ บันทึกข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ถ่ายโอนไป EndNote Web ถ่ายโอนไป EndNote, RefMan, Procite 1 2 3

29 Print

30

31 Save

32 Search History

33 เลิกใช้งานทุกครั้งให้คลิกที่ปุ่ม Log Out

34 Web of Science


ดาวน์โหลด ppt การใช้งานฐานข้อมูล Web of Science

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google