งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

วิชากฎหมายอาญาภาคทั่วไป (177285)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "วิชากฎหมายอาญาภาคทั่วไป (177285)"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 วิชากฎหมายอาญาภาคทั่วไป (177285)
สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่

2 เค้าโครงการบรรยาย ทบทวนความผิดฐานฉ้อโกง 2. เฉลยแบบฝึกหัด 3. ความผิดฐานชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์

3 ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา ๓๔๑
องค์ประกอบภายนอก ๑) หลอกลวงด้วย ๑.๑) แสดงข้อความอันเป็นเท็จ ๑.๒) ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ๒) ผู้อื่น

4 ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา ๓๔๑
องค์ประกอบภายนอก (ต่อ) ๓) โดยการหลอกลวงนั้น ๓.๑) ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกหรือบุคคลที่สาม ๓.๒) ทำให้ผู้หลอกลวงหรือบุคคลที่สามถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ์ องค์ประกอบภายใน ๒.๑) เจตนาธรรมดา ๒.๒) ทุจริต

5 กรณีศึกษาที่ ๑ วาสินีมีเรื่องไม่สบายใจจึงไปปรึกษาหมอเดชจอมอาคม หมอเดชบอกกับ วาสินีว่า บ้านของวาสินีตั้งอยู่บนหลุมฝังศพ จึงทำให้วาสินีมีแต่เรื่องไม่ สบายใจเพราะวิญญาณของผู้ตายไม่พอใจ หากจะแก้ปัญหามีสองวิธีหนึ่ง คือขายบ้าน หรือย้ายไปอยู่ที่อื่น วิธีที่สองต้องทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ โดยเสียค่าครู ๕๐,๐๐๐ บาท วาสินีไม่ต้องการขายหรือย้ายบ้านที่เพิ่งซื้อ มาในราคา ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท จึงให้หมอเดชช่วยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ หลังสะเดาะเคราะห์วาสินีก็มีเรื่องไม่สบายใจน้อยลง ต่อมาเธอได้พบกับ เจ้าของที่ดินเดิมซึ่งยืนยันว่าที่ดินไม่เคยใช้ฝังศพใครเป็นที่บ้านมาตลอด เช่นนี้เธอจะดำเนินคดีกับหมอเดชได้หรือไม่อย่างไร

6 กรณีศึกษาที่ ๒ วาสินีมีเรื่องไม่สบายใจจึงไปปรึกษาหมอเดชจอมอาคม หมอ
วาสินีมีเรื่องไม่สบายใจจึงไปปรึกษาหมอเดชจอมอาคม หมอ เดชบอกกับวาสินีต้องทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์โดยเสียค่าครู ๕๐,๐๐๐ บาท แล้วอนาคตจะดีขึ้น วาสินียอมให้ให้หมอเดช ช่วยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้แต่หลังจากสะเดาะเคราะห์วาสินีก็ มีเรื่องไม่สบายใจมากขึ้น เกิดเรื่องร้าย ๆ ในชีวิตมากขึ้น เธอจึง สรุปว่าเธอถูกหมอเดชหลอกเอาเงินเช่นนี้เธอจะดำเนินคดีกับ หมอเดชได้หรือไม่อย่างไร

7 กรณีศึกษาที่ ๓ อำพล ป่าวประกาศในหมู่บ้าน ปางแดง หลอกชาวบ้านว่าเขาเป็นนัก ธุรกิจ เพิ่งมาลงทุนในพื้นที่นี้ จึงอยากสนับสนุนโดยการจ้างงานในพื้นที่ โดยในวันดังกล่าวเขานำรถบรรทุกมาขนดินไปจากที่ของเขา ถ้าใครมาช่วย เขาขนดินขึ้นรถเขาจะจ่ายเงินให้คนละ ๓,๐๐๐ บาท ชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน จึงไปช่วยเขาขนดินจนเสร็จภายใน ๑ ชม. จากนั้นอำพลก็หายตัวไปไม่ยอม มาจ่ายเงินให้ชาวบ้านดังที่รับปากไว้ ชาวบ้านมารู้ความจริงว่าอำพลไม่ใช่ นักธุรกิจ ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน แต่เป็นนักต้มตุ๋นที่มาขโมยดินของคนอื่นโดย ใช้ชาวบ้านช่วยคน เช่นนี้ชาวบ้านจะดำเนินคดีกับอำพลได้หรือไม่

8 กรณีศึกษาที่ ๔ นายสำราญ อดีตนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ป่วยเป็นโรคมะเร็งมานาน หมดหวังที่จะรักษาให้หายด้วยวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ เขาจึงไปยัง ตำหนักแม่พระ ซึ่งได้รับแนะนำจากเพื่อนว่ามีน้ำมนตร์วิเศษรักษา โรคมะเร็งได้ เมื่อไปถึงก็เข้าร่วมพิธีกรรมและพิธีกรรมสำคัญคือการรับ น้ำมนตร์จากเจ้าแม่ โดยก่อนที่เจ้าแม่จะพรมน้ำมนตร์ เจ้าแม่พูดว่า “น้ำมนตร์นี้เป็นของดี ดีต่อทรัพย์ ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ ขอให้ พวกเจ้าร่ำรวยและแข็งแรง” แล้วก็พรมน้ำมนตร์ให้ทุกคน ผู้เข้าร่วมพิธีต้อง จ่ายเงินค่าเข้าร่วมคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท หลังพรมน้ำมนตร์สำราญสุขภาพไม่ดี ขึ้น เช่นนี้เขาจะดำเนินคดีกับเจ้าแม่ได้หรือไม่

9 กรณีศึกษาที่ ๕ หมอลักษณ์ อ้างว่าตนดูหมอแม่น ทำนายอนาคตแม่น อารี มีปัญหาเรื่องเงินขาดมือประจำจึงไปปรึกษาหมอลักษณ์ให้ดูว่าในอนาคตอันใกล้นี้อารีจะมีโชคหรือไม่ หมอลักษณ์ ดูวันเดือน ปี เกิดและลายมือของอารีอย่างละเอียด แล้วทำนายว่า ในอนาคตนี้อารีจะมีโชคไม่เรื่องความรักก็ทรัพย์สิน โดยในการดูหมอนี้อารีต้องจ่ายค่าขึ้นครูจำนวน ๕,๐๐๐ บาท หลังดูดวงปัญหาการเงินก็ไม่ดีขึ้น ทั้งอารียังถูกจับดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์เพราะไปขโมยทรัพย์ของเดชา อารีจะดำเนินคดีกับหมอลักษณ์ได้หรือไม่อย่างไร

10 กรณีศึกษาที่ ๖ สมชาย ขอยืมเงิน สมหญิง จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท โดยบอกสมหญิงว่าจะคืนให้ภายใน ๕ วัน เพราะตนจะได้เงินจากลูกค้าที่ทำการค้ากันจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ภายในสามวันนี้ โดยจะให้ดอกเบี้ยสมหญิง ๑๐,๐๐๐ บาท สมหญิงให้ยืมไป แต่ถึงกำหนดสมชายไม่ยอมคืนเงินเพราะ ไม่มีเงิน ไม่เคยทำธุรกิจและไม่มีลูกค้าดังที่กล่าวอ้าง เช่นนี้สมชายมีความผิดฐานฉ้อโกงหรือผิดสัญญา

11 กรณีศึกษาที่ ๗ หน่อย ตกลงจะขายข้าวโพดให้ ฟ้า ในราคา ๓๐,๐๐๐ บาท ฟ้าชำระราคาไปแล้ว ครั้นถึงวันรับของ ฟ้านำรถบรรทุกมารับของที่บ้านหน่อย หน่อยกลับบอกว่าไม่ขายให้ฟ้าแล้ว ทั้งที่ข้าวโพดก็กองอยู่เต็มลานบ้านของหน่อย ฟ้าขอเงินคืนพร้อมเบี้ยปรับ ก็บอกว่าไม่มีเงินคืนให้เพราะใช้หมดแล้ว เช่นนี้หน่อยมีความผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร

12 กรณีศึกษาที่ ๘ ในงานประกาศเกียรติคุณ ศิษย์เก่าดีเด่นของคณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ กรรมการประกาศเรียกนายโกวิทย์ ไปรับรางวัล นายไกรวิทย์เพื่อนของโกวิทย์รู้ว่าโกวิทย์ป่วยและไม่มาร่วมงาน จึงเดินออกไปรับรางวัลดังกล่าวแล้วนำไปเป็นของตนเองไม่มอบให้โกวิทย์ เช่นนี้ไกรวิทย์มีความผิดอาญาหรือไม่อย่างไร

13 กรณีศึกษาที่ ๙ สมชาย ยืมเงิน ศศิน และมอบใบคู่มือทะเบียนรถยนต์ของตนให้ศศินยึดไว้เป็นประกันการชำระหนี้ ต่อมาสมชายพูดหลอกศศินว่าขอยืมเอกสารนี้ไปประกอบการขอตรวจสภาพรถและจะนำมาคืนให้ในวันรุ่งขึ้น ศศินหลงเชื่อจึงส่งมอบให้ หลังจากนั้นสมชายไม่คืนเอกสารให้ เช่นนี้สมชายมีความผิดหรือไม่อย่างไร

14 กรณีศึกษาที่ ๑๐ สมานเป็นลูกหนี้ ธกส. โดยใช้โฉนดเป็นหลักทรัพย์ วันหนึ่งสมานไปหลอกพนักงาน ธกส. ว่าตนให้ชำระหนี้หมดแล้ว มารับโฉนดที่ดินคืน ทั้งที่ยังชำระหนี้ไม่หมด พนักงานจึงสลักหลังปลดจำนอง และมอบโฉนด คืนให้สมาน เช่นนี้สมานมีความผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร

15 เฉลยแบบฝึกหัด อารีย์ ให้ ซื่อสัตย์ ยืมเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่พอถึงกำหนดชำระซื่อสัตย์ ไม่ชำระ โดยผ่อนผันเรื่อยมา จนเลยอายุความฟ้องคดี อารีย์ ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงหลอกซื่อสัตย์ว่า ถ้าซื่อสัตย์คืนเงินให้ อารีย์จะ มอบรถมอเตอร์ไซด์ของอารีย์คันที่ซื่อสัตย์อยากได้ให้ ซื่อสัตย์อยากได้รถคันนี้มากจึงคืนเงินให้อารีย์ แต่อารีย์กลับไม่ยอมมอบรถให้ เช่นนี้ซื่อสัตย์จะดำเนินคดีกับอารีย์ได้หรือไม่อย่างไร

16 แนวคำตอบ หลักกฎหมาย ม. ๓๔๑ ปรับหลักกฎหมายกับข้อเท็จจริง
จากข้อเท็จจริง แม้อารีย์จะหลอกลวงซื่อสัตย์ โดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ว่าจะมอบรถจักรยานยนต์ให้หากซื่อสัตย์ยอมชำระหนี้ ๑๐๐,๐๐๐ บาทให้ตน ทั้งที่อารีย์ไม่มีเจตนาที่จะมอบให้มาตั้งแต่ต้น เมื่อซื่อสัตย์มอบเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาทให้อารีย์เพื่อชำระหนี้และหวังจะได้รับรถจักรยานยนต์ กรณีจึงเป็นการหลอกลวงผู้อื่นและเพราะการหลอกลวงนั้นทำให้อารีย์ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น

17 เฉลยแบบฝึกหัด อย่างไรก็ตามแม้การกระทำของอารีย์จะครบองค์ประกอบภายนอก แต่ก็ขาดองค์ประกอบภายใน กล่าวคือ การจะเป็นฉ้อโกงนั้นผู้กระทำความผิดต้องมีเจตนาและมีมูลเหตุชักจูงใจ โดยทุจริต ซึ่งหมายถึง การแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่กรณีตามอุทธาหรณ์ อารีย์มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะได้รับการชำระหนี้จากซื่อสัตย์ แม้จะขาดอายุความแล้วก็ตาม อารีย์จึงไม่ได้กระทำการโดยทุจริต จึงขาดองค์ประกอบภายใน จึงไม่เป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง

18 แนวคำตอบ ๓. สรุป อารีย์ไม่มีความผิดฐานฉ้อโกง เพราะขาดองค์ประกอบภายใน ในส่วนของมูลเหตุชักจูงใจโดยทุจริต

19 องค์ประกอบฐานฉ้อโกงประชาชน ม.๓๔๓
องค์ประกอบภายนอก การฉ้อโกงตาม ม.๓๔๑ แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา และมูลเหตุชักจูงใจ โดยทุจริต

20 ประชาชน คือ ใคร General public คือ บุคคลทั่วไป ไม่จำกัดจำนวน
ไม่ถือจำนวนมากน้อยเป็นสาระสำคัญ

21 กรณีศึกษา ณ งานเลี้ยงปีใหม่ของศิษย์เก่านิติ มช. นายร่ำรวย ได้มาร่วมงาน
ณ งานเลี้ยงปีใหม่ของศิษย์เก่านิติ มช. นายร่ำรวย ได้มาร่วมงาน ดังกล่าวและชักชวนเพื่อนร่วมรุ่นให้ไปร่วมลงทุน “เจล มหัสจรรย์” ซึ่งร่ำรวย อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่สามารถรักษาโรคกระดูกได้(ทั้งที่ร่ำรวยรู้ว่าไม่ เป็นความจริง) และยังไม่เคยมีการนำเข้ามาในประเทศไทย หากเพื่อน ๆ ร่วมลงทุนหุ้นละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท จะได้กำไรเดือนละ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ โดย กำไรนี้จะได้ทันทีที่เพื่อนร่วมลงทุน เพราะเจลนี้ขายดีมากในประเทศเบลิซ เพื่อนร่วมรุ่นจำนวน ๒๐ คน ควักเงินร่วมลงทุนไปคนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท หลังจากนั้นร่ำรวยก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ เช่นนี้ร่ำรวยมีความผิด หรือไม่อย่างไร

22 องค์ประกอบ ฉ้อโกงแรงงาน ม.๓๔๔
องประกอบภายนอก ผู้ใดหลอกลวงบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ให้ไปประกอบการงานอย่างใด ๆ ให้แก่ตนหรือบุคคลที่สาม โดยไม่ใช้ค่าแรงหรือค่าจ้างหรือจะใช้ต่ำกว่าที่ตกลงกัน องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา มูลเหตุชักจูงใจ โดยทุจริต

23 กรณีศึกษาที่ ๓ อำพล ป่าวประกาศในหมู่บ้าน ปางแดง หลอกชาวบ้านว่าเขาเป็นนัก ธุรกิจ เพิ่งมาลงทุนในพื้นที่นี้ จึงอยากสนับสนุนโดยการจ้างงานในพื้นที่ โดยในวันดังกล่าวเขานำรถบรรทุกมาขนดินไปจากที่ของเขา ถ้าใครมาช่วย เขาขนดินขึ้นรถเขาจะจ่ายเงินให้คนละ ๓,๐๐๐ บาท ชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน จึงไปช่วยเขาขนดินจนเสร็จภายใน ๑ ชม. จากนั้นอำพลก็หายตัวไปไม่ยอม มาจ่ายเงินให้ชาวบ้านดังที่รับปากไว้ ชาวบ้านมารู้ความจริงว่าอำพลไม่ใช่ นักธุรกิจ ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน แต่เป็นนักต้มตุ๋นที่มาขโมยดินของคนอื่นโดย ใช้ชาวบ้านช่วยคน เช่นนี้ชาวบ้านจะดำเนินคดีกับอำพลได้หรือไม่

24 องค์ประกอบ ฉ้อโกงค่าอาหาร ม.๓๔๕
องค์ประกอบภายนอก สั่งซื้อ และบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม เข้าอยู่ในโรงแรม โดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระค่าอาหารได้ องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา

25 กรณีศึกษา ร่ำรวย นัดพบกับรุ่นน้องนิติ มช.ประมาณ ๑๐ คนเพื่อชวนทำธุรกิจ“เจลมหัศจรรย์” โดยนัดเจอที่ห้องอาหารหรูหราแห่งหนึ่งโดยบอกน้อง ๆ ว่าพี่คณะจะเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกัน แต่เนื่องจากรุ่นน้อง ๑๐ คนนี้ไม่มีใครมีเงินร่วมลงทุนเลย พอทานอาหารเสร็จ ร่ำรวยก็บอกให้น้อง ๆ ทยอยออกจากร้านไปทีละคน จากนั้นเขาก็หลบหนีออกจากร้านเป็นคนสุดท้าย แต่เขาถูก รปภ.ของร้านจับตัวไว้ได้ เขาบอกว่าไม่มีเงินสักบาท ทำ แต่ยินดีล้างจานใช้หนี้ค่าอาหารซึ่งสูงถึง ๒๕,๐๐๐ บาท เพราะน้อง ๆ กินกันไม่ยั้งมือ เช่นนี้เขามีความผิดฐานใด

26 องค์ประกอบความผิดฐาน ชิงทรัพย์ ม.๓๓๙
องค์ประกอบภายนอก ผู้ใดลักทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือ ขู่ว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา เจตนา พิเศษ ๕ ประการ ดังต่อไปนี้

27 องค์ประกอบความผิดฐาน ชิงทรัพย์ ม.๓๓๙
องค์ประกอบภายใน เจตนาพิเศษ ๕ ประการ ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์ หรือ พาทรัพย์ไป ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ ปกปิดการกระทำความผิดนั้น ให้พ้นจากการจับกุม

28 สาระสำคัญของการชิงทรัพย์
ต้องเป็นการลักทรัพย์ก่อนจึงจะเป็นชิงทรัพย์ได้ การใช้กำลังประทุษร้าย คือ การทำร้ายแก่ร่างกายหรือจิตใจของบุคคล ไม่ว่าด้วยแรงกายภาพหรือวิธีอื่น ไม่รวมถึงการทำลายชื่อเสียง เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน ต้องมีเจตนาพิเศษขณะกระทำความผิด การประทุษร้ายกับการลักทรัพย์ต้องไม่ขาดตอน ต้องเป็นเหตุคุกคามซึ่งหน้า ไม่ใช่ในอนาคต

29 กรณีศึกษา อำนวยอยากได้ SEIKO รุ่น AAA ราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท จึงนำป้ายราคาของรุ่น BBB ราค ๑๐,๐๐๐ บาท มาเปลี่ยนและนำSEIKO รุ่น AAA ไปชำระราคา ๑๐,๐๐๐ บาท ขณะที่อำนวยกำลังจะเดินออกจากห้าง พนักงานขายได้เดินตามอำนวยไปเพื่อขอตรวจสอบนาฬิกาอีกรอบ แต่อำนวยไม่ยอมและได้ชกหน้าพนักงานขายหนึ่งครั้งจนฟันหัก แล้วหนีไป เช่นนี้อำนวยมีความผิดหรือไม่อย่างไร

30 กรณีศึกษา อำนวยอยากได้ SEIKO รุ่น AAA ราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท จึงนำนาฬิกาเรือนดังกล่าวซ่อนไว้ในเครื่องป้องกันการตรวจจับ และผ่านด่านตรวจออกไปได้ ขณะที่อำนวยกำลังจะเดินออกจากห้างก็นำนาฬิกาเรือนดังกล่าวมาใส่ พนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดจึงเดินตามอำนวยไปเพื่อขอตรวจสอบนาฬิกา แต่อำนวยไม่ยอมและได้ชกหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยหนึ่งครั้งจนฟันหัก แล้วหนีไป เช่นนี้อำนวยมีความผิดหรือไม่อย่างไร

31 องค์ประกอบความผิดฐานปล้นทรัพย์ ม. ๓๔๐
องค์ประกอบภายนอก ผู้ใดชิงทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา เจตนาพิเศษ ๕ ประการ

32 สาระสำคัญของการปล้นทรัพย์
ต้องเป็นชิงทรัพย์ จึงจะเป็นปล้นทรัพย์ได้ หากขาดไม่เป็นชิงทรัพย์ ก็ไม่เป็นปล้นทรัพย์ ผู้ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป ต้องร่วมกันในฐานะตัวการในการกระทำความผิด ร่วมมือและร่วมใจ

33 กรณีศึกษา งานเต้นรำ ขณะที่ใจดีกำลังเต้นรำกับ รัศมี อยู่นั้น เขา
ใจดีสมาชิกแก๊งต้มตุ๋น วางแผนที่จะไปหาทรัพย์สินจาก งานเต้นรำ ขณะที่ใจดีกำลังเต้นรำกับ รัศมี อยู่นั้น เขา พบว่ารัศมีสวมสร้อยเพชรอยู่ เมื่อเพลงกำลังจะจบลง ใจดี จึงกระชายสร้อยเพชรดังกล่าวจากคอของรัศมี รัศมีร้องให้ คนช่วยแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเพราะใจดีนำบอดี้การ์ด มาด้วยกว่า ๑๐ คน ที่พร้อมจะจัดการกับผู้ที่เข้ามายุ่ง เช่นนี้ใจดี มีความผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร

34 กรณีศึกษา สมาน สมชาย และ สมิง เป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งพวกเขาไปเที่ยวป่าและได้พบกับ อำนวย ซึ่งหลงป่า อยู่บริเวณนั้น ทั้งสามเห็นปืนอัดลม กระเป๋าและรองเท้าของอำนวยก็อยากได้ จึงถือไม้คนละอัน เดินไปหาอำนวยแล้วพูดว่า “หวัดดีเพื่อน ปืน รองเท้ากับกระเป๋าพวกเราขอได้ไหม สิ่งของนอกกาย ไม่ตายคงหาใหม่ได้นะ” ขณะพูดทั้งสามก็ยกไม้เล็งที่หัวของอำนวย เพราะปืนไม่มีกระสุน อำนวยกลัวจึงมอบของให้ เช่นนี้ทั้งสามมีความผิดอาญาหรือไม่ฐานใด

35 กิจกรรมกลุ่มละ ๕ คน กิจกรรมเปิดโลกคณะนิติศาสตร์ มีนักเรียน ม.๖ ที่สนใจมาร่วมจำนวนมาก หนึ่งในกิจกรรม คือ ฐานกฎหมายเข้าใจง่าย โดยมีนศ.ทำหน้าที่อธิบายกฎหมายให้น้องนักเรียนฟังให้เข้าใจง่ายที่สุด โดยให้เพื่อนต่างกลุ่มเป็นตัวแทนนักเรียน กลุ่มที่ ๑ ให้ นศ. อธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างความผิดฐาน ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์และฉ้อโกง ในหนึ่งหน้ากระดาษ กลุ่มที่ ๒ ให้ นศ. อธิบายความเหมือนและความแตกต่างของความผิดฐาน ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้น ในหนึ่งหน้ากระดาษ

36 สรุปความเหมือนและความแตกต่างของ ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง
สรุปความเหมือนและความแตกต่างของ ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง ลักทรัพย์ : มุ่งทำร้ายการครอบครองและกรรมสิทธิ์ กล่าว คือ ได้การครอบครองและกรรมสิทธิ์มาโดยมิชอบ ยักยอกทรัพย์ : มุ่งทำร้ายกรรมสิทธิ์ กล่าว คือ ได้การครอบครองมาโดยชอบ แต่ได้กรรมสิทธิ์มาโดยมิชอบ ฉ้อโกง : มุ่งทำร้ายกรรมสิทธิ์ หรือ ทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ์ กล่าว ด้วยการหลอกลวงผู้อื่น โดยการหลอกลวงนั้นมุ่งให้ผู้อื่นส่งมอบกรรมสิทธิ์ให้แก่ตนตั้งแต่ต้น

37 สรุปความเหมือนและความแตกต่างของ ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์
ลักทรัพย์ : เอาไปซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ไปโดยทุจริต ชิงทรัพย์ : ลักทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่ว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อเจตนาพิเศษ ๕ ประการ เช่น ให้ยื่นทรัพย์ให้ ให้พ้นการจับกุม ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ : ชิงทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป

38 กรณีศึกษาที่ ๑ นายเหี้ยม เดินทางไปพบกับ นายสมาน และส่งนามบัตรให้นายสมานดู ในนามบัตร แสดงอาชีพของเหี้ยมว่า “มือปืน ตามใบสั่ง” เหี้ยมบอกกับสมานว่า มีคนจ้างเหี้ยมมาฆ่าสมานด้วยเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่เหี้ยมเห็นว่าสมานเป็นคนดีมีประโยชน์ต่อสังคมเลยให้โอกาสสมาน ถ้าสมานยอมจ่ายเงินเพียงครึ่งหนึ่งของ ๑๐๐,๐๐๐ บาทให้เหี้ยม เหี้ยมจะยอมทรยศวิชาชีพ ไม่ฆ่าสมานตามสัญญาจ้างนี้ สมานรู้เช่นนั้นก็ตกใจ แต่ก็พบว่าเหี้ยมไม่ได้นำปืนอะไรติดตัวมาด้วย เขาจึงต่อรองจนเหลือ ๑๐,๐๐๐ บาทและจ่ายตังค์ให้เหี้ยมไป เช่นนี้เหี้ยมมีความผิดอาญาหรือไม่ฐานใด

39 กรณีศึกษาที่ ๒ นศ.เทคนิค A ใช้มีดบังคับให้ นศ. เทคนิค B ถอดหัวเข็มขัด ให้กับเขาเพื่อจะได้เอาไปแสดงต่อรุ่นพี่ นศ. เทคนิค B กลัวจึงถอดหัวเข็มขัดมอบให้ เช่นนี้ นศ. เทคนิค A มีความผิดอาญาหรือไม่ ฐานใด

40 ตัวอย่างที่ ๓ นายสนอง บังเอิญไปพบนายเดชา กำลังพาหญิงสาวเข้าโรงแรมม่านรูด หลังเดชาออกจากโรงแรมสนองจึงไปพบเดชา พร้อมเสนอว่าถ้าเดชาไม่ให้เงินเขา ๕๐,๐๐๐ บาท เขาจะนำเรื่องนี้ไปบอกภรรยา พ่อตา แม่ยาย ของเดชา เดชากลัวจึงมอบเงินให้เช่นนี้สนองมีความผิดทางอาญาหรือไม่ฐานใด

41 ตัวอย่างที่ ๔ รัศมีกำลังเดินคุยโทรศัพท์อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน มี
รัศมีกำลังเดินคุยโทรศัพท์อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน มี คนร้ายเดินตามมา แต่รัศมีไม่ได้ระวังตัว คนร้ายจึงดัก ข้างหน้าและเอาปืนออกมาจี้รัศมี บอกให้รัศมีเอาทรัพย์สิน มีค่าออกมาให้เขาทั้งหมด รัศมีกลัวจึงมอบทรัพย์สินให้ ทั้งหมด เช่นนี้คนร้ายมีความผิดฐาน

42 ตัวอย่างที่ ๕ สนองและสนิท ขับรถไปเที่ยวงานวัดเขาจอดรถไว้หน้าวัด ขณะที่กำลังจะลงจากรถ มีวัยรุ่นเดินมาเรียกเก็บค่าจอดรถ ๒๐ บาท สนองกับสนิทไม่ยอมจ่าย วัยรุ่นบอกว่าถ้าไม่จ่ายก็ไปจอดที่อื่น ถ้าไม่ไปจอดที่อื่นไม่รับรองความปลอดภัยของรถนะ สนองกับสนิทกังวลว่ารถจะเสียหายจึงยอมจ่ายเงินไป เช่นนี้วัยรุ่นมีความผิดอาญาหรือไม่อย่างไร

43 องค์ประกอบกรรโชกทรัพย์ ม. ๓๓๗
องค์ประกอบภายนอก ๑) ข่มขืนใจ ๒) ผู้อื่น ๓) ให้ (ก) ยอมให้ หรือ (ข) ยอมจะให้ตนหรือผู้อื่น ได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน ๔) โดย (ก) ใช้กำลังประทุษร้าย หรือ (ข) ขู่ว่าจะทำอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่หรือบุคคลอื่น

44 องค์ประกอบกรรโชกทรัพย์ ม. ๓๓๗
องค์ประกอบภายใน : เจตนาธรรมดา เหตุเพิ่มโทษ วรรคสอง ๑) ขู่ฆ่า ขู่ทำอันตรายสาหัส ขู่ว่าจะเผาทรัพย์ ๒) มีอาวุธติดตัว

45 สาระสำคัญของการกรรโชกทรัพย์
๑) ต้องเป็นการข่มขืนใจผู้อื่น หมายถึง การบังคับใจผู้อื่นให้ตัดสินใจตามที่บังคับ ต้องมีการแจ้งสิ่งที่เขาต้องการให้ผู้ถูกข่มขืนใจทราบ ต้องมีการทำร้ายร่างกาย หรือข่มขู่ ก่อนให้ทำตาม ๒) ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ หมายถึง ในขณะนั้นหรือในอนาคตก็ได้ ๓) ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน หมายถึง ทั้งตัวทรัพย์ ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่เกี่ยวกับทรัพย์นั้น

46 สาระสำคัญของการกรรโชกทรัพย์
๔) ทำอันตราย หรือขู่ว่าจะทำอันตราย ต่อ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลอื่น ๕) จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น

47 ความแตกต่างของกรรโชก กับ ชิงทรัพย์
๑. การขู่ในเรื่องกรรโชกทรัพย์ กว้างกว่าชิงทรัพย์ เพราะชิงทรัพย์จำกัดเฉพาะการขู่ว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย แต่กรรโชกทรัพย์ไม่จำกัด ๒. วัตถุแห่งการขู่เรื่องกรรโชกทรัพย์ กว้างกว่าชิงทรัพย์ เพราะชิงทรัพย์จำกัดเพียง ร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่กรรโชกทรัพย์กว้างกว่า ให้นศ.ยกตัวอย่างการกระทำที่น่าจะผิดทั้งกรรโชกและชิงทรัพย์

48 องค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ม.๓๓๘
องค์ประกอบภายนอก ๑) ข่มขืนใจ ๒) ผู้อื่น ๓) ให้ (ก) ยอมให้ หรือ (ข) ยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน ๔) โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ ๕) ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย ๖) จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น

49 องค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ม.๓๓๘
องค์ประกอบภายใน : เจตนาธรรมดา

50 สาระสำคัญของการรีดเอาทรัพย์
องค์ประกอบส่วนใหญ่เหมือนกับกรรโชคทรัพย์ แตกต่างที่วิธีการ เฉพาะการเปิดเผยความลับเท่านั้นที่ผิดมาตรานี้ ความลับ หมายถึง ข้อเท็จจริงที่มิได้รู้กันทั่วไป เป็นสิ่งที่ผู้มีประโยชน์ได้เสียจะปกปิดหรือยอมให้รู้ในหมู่บุคคลจำกัด ถ้าการเปิดเผยความลับอาจทำให้เสียชื่อเสียงด้วยก็เป็นกรรโชคทรัพย์ด้วย

51 ตัวอย่างที่ ๓ นายสนอง บังเอิญไปพบนายเดชา กำลังพาหญิงสาวเข้าโรงแรมม่านรูด หลังเดชาออกจากโรงแรมสนองจึงไปพบเดชา พร้อมเสนอว่าถ้าเดชาไม่ให้เงินเขา ๕๐,๐๐๐ บาท เขาจะนำเรื่องนี้ไปบอกภรรยา พ่อตา แม่ยาย ของเดชา เดชากลัวจึงมอบเงินให้เช่นนี้สนองมีความผิดทางอาญาหรือไม่ฐานใด


ดาวน์โหลด ppt วิชากฎหมายอาญาภาคทั่วไป (177285)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google