ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ประวัติการศึกษาไทย
2
วิวัฒนาการของการศึกษาไทย
1. การศึกษาของไทยสมัยโบราณ (พ.ศ พ.ศ. 2411) 2. การศึกษาของไทยสมัยปฏิรูปการศึกษา (พ.ศ พ.ศ. 2474) 3. การศึกษาของไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (พ.ศ ปัจจุบัน)
3
การศึกษาของไทยสมัยโบราณ ( พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 2411)
การศึกษาของไทยสมัยโบราณ ( พ.ศ พ.ศ. 2411) การศึกษาสมัยนี้เป็นการศึกษาแบบสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่มีมากแต่เดิม จำเป็นที่คนไทยในสมัยนั้นต้องขวนขวายหาความรู้จากผู้รู้ในชุมชนต่างๆ บ้าน - พ่อและแม่ วัง – นักปราชญ์ (ขุนนาง) วัด - พระ
4
การศึกษาของไทยสมัยโบราณ ( พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 2411)
การศึกษาของไทยสมัยโบราณ ( พ.ศ พ.ศ. 2411) แบ่งออกเป็น การศึกษาสมัยกรุงสุโขทัย (พ.ศ พ.ศ. 1921) การศึกษาสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ พ.ศ. 2310) การศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ –พ.ศ. 2411)
5
การศึกษาในสมัยสุโขทัย (พ.ศ. 1781 – พ.ศ. 1921)
6
รูปแบบการจัดการศึกษาในสมัยสุโขทัย แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายอาณาจักร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนทหาร และ ส่วนพลเรือน ฝ่ายศาสนาจักร เป็นการศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เน้นพระพุทธศาสนาและศิลปศาสตร์
7
การศึกษาสมัยสุโขทัย (1800-1981)
ตารางเปรียบเทียบลักษณะการศึกษา การศึกษาฝ่ายศาสนจักร การศึกษาฝ่ายอาณาจักร วัตถุประสงค์ : เพื่อความรู้ทางศาสนา นักเรียน : ส่วนมากเป็นเพศชาย ซึ่งได้แก่ บุตรหลานขอขุนนางและราษฎร ทั่วไปที่สนในศึกษาเล่าเรียนความ รู้ทางศาสนา วัตถุประสงค์ : เพื่อความรู้ทางด้านอักษรศาสตร์ หรือวิชาชีพบางอย่าง นักเรียน : ส่วนมากเป็นเจ้านายและบุตรหลานข้าราชการ
8
การศึกษาฝ่ายพุทธจักร การศึกษาฝ่ายอาณาจักร
การศึกษาสมัยสุโขทัย ( ) ตารางเปรียบเทียบลักษณะการศึกษา การศึกษาฝ่ายพุทธจักร การศึกษาฝ่ายอาณาจักร ครู : พระภิกษุ สถานศึกษา : การศึกษาฝ่ายพุทธจักรอยู่ในวัดเท่านั้น ครู : นักปราชญ์ในสำนักราชบัณฑิตทั้งหลาย สถานศึกษา : ส่วนมากอยู่ในวัง
9
สถานศึกษาในสมัยสุโขทัย
(1) บ้าน (2) สำนักสงฆ์ (3) สำนักราชบัณฑิต (4) พระราชสำนัก
10
วิชาที่สอนในสมัยสุโขทัย
วิชาที่สอน ไม่ได้กำหนดตายตัว พอแบ่งออกได้ดังนี้ วิชาความรู้สามัญ สันนิษฐานว่าในช่วงต้นสุโขทัยใช้ภาษาบาลีและสันสกฤตในการศึกษา ต่อมาในสมัยหลังจากที่พ่อขุนรามคำแหงได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใช้เมื่อ พ.ศ จึงมีการเรียนภาษาไทยกัน วิชาชีพ เรียนกันตามแบบอย่างบรรพบุรุษ วิชาจริยศึกษา สอนให้เคารพนับถือบรรพบุรุษ การรู้จักกตัญญูรู้คุณการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม และการรู้จักทำบุญให้ทาน ถือศีลในระหว่างเข้าพรรษา วิชาศิลปะป้องกันตัว เป็นการสอนให้รู้จักการใช้อาวุธ การบังคับสัตว์ที่ใช้เป็นพาหนะในการออกศึกและตำราพิชัยยุทธ
11
การศึกษาในสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 - พ.ศ. 2310)
การศึกษาในสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ พ.ศ. 2310)
12
กรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นราชธานีอันยาวนาน 417 ปี
มีความเจริญทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม มีชนชาติต่าง ๆ ในเอเชียเข้ามาติดต่อค้าขายและเข้ามาเพื่อตั้งหลักแหล่งหากิน ชาติตะวันตกได้เริ่มเข้ามาติดต่อค้าขาย
13
รูปแบบการจัดการศึกษาสมัยกรุงศรีอยุธยา
การศึกษาวิชาสามัญ เน้นการอ่าน เขียน เรียนเลข พระโหราธิบดีได้แต่งแบบเรียนภาษาไทย ชื่อ จินดามณี ถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช การศึกษาทางด้านศาสนา ชายไทยต้องบวชเรียนเขียนอ่านมาก่อน จึงมีโอกาสได้เป็นข้าราชการ มีนักสอนศาสนาหรือมิชชันนารีได้จัดตั้งโรงเรียนมิชชันนารี เพื่อชักจูงให้ชาวไทยหันไปนับถือศาสนาคริสต์ การศึกษาทางด้านภาษาศาสตร์และวรรณคดี การศึกษาของผู้หญิง มีการเรียนวิชาชีพ การศึกษาวิชาการด้านทหาร
14
สถานศึกษาในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ยังคงเหมือนกับสมัยสุโขทัยที่ต่างออกไป คือ มีโรงเรียนมิชชันนารี เป็นโรงเรียนที่ชาวตะวันตกได้เข้ามาสร้างเพื่อเผยแพร่ศาสนาและขณะเดียวกันก็สอนวิชาสามัญด้วย
15
เนื้อหาวิชาที่สอนในสมัยกรุงศรีอยุธยา
วิชาสามัญ มีการเรียนวิชาการอ่าน เขียน เลข ใช้แบบเรียนภาษาไทยจินดามณี (สอนโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน) วิชาชีพ เรียนรู้กันในวงศ์ตระกูล สำหรับเด็กผู้ชายได้เรียนวิชาวาดเขียน แกะสลัก และช่างฝีมือต่าง ๆ ที่พระสงฆ์เป็นผู้สอนให้ ส่วนเด็กผู้หญิงเรียนรู้การบ้านการเรือนจากพ่อแม่สมัยต่อมาหลังชาติตะวันตกเข้ามาแล้วมีการเรียนวิชาชีพชั้นสูงด้วย เช่น ดาราศาสตร์ การทำน้ำประปา การทำปืน การพาณิชย์ แพทยศาสตร์ ตำรายา การก่อสร้าง ตำราอาหาร เป็นต้น ด้านอักษรศาสตร์ มีการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ มีวรรณคดีหลายเล่มที่เกิดขึ้น เช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ และกำศรวลศรีปราชญ์ เป็นต้น อีกทั้งมีการสอนภาษาไทย บาลี สันสกฤต ฝรั่งเศส เขมร พม่า มอญ และจีน
16
เนื้อหาวิชาที่สอนในสมัยกรุงศรีอยุธยา
3. วิชาจริยศึกษา เน้นการศึกษาด้านพระพุทธศาสนามากขึ้น เช่นในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงกวดขันในเรื่องการศึกษาหลักธรรมของพระพุทธศาสนามาก มีการกำหนดให้ผู้ชายที่เข้ารับราชการทุกคนจะต้องเคยบวชเรียนมาแล้ว เกิดประเพณีการอุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี นอกจากนี้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ทรงให้เสรีภาพไม่กีดกันศาสนา ทรงอุปถัมภ์พวกสอนศาสนา เพราะทรงเห็นว่าศาสนาทุกศาสนาต่างสอนให้คนเป็นคนดี 4. วิชาพลศึกษา ยังคงเหมือนสมัยสุโขทัย เน้นสอนด้านการทหาร
17
การศึกษาในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ. 2311 – พ.ศ. 2411)
การศึกษาในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ – พ.ศ. 2411)
18
การศึกษากรุงธนบุรี (พ.ศ.2313 – 2325)
ในด้านการจัดการศึกษาในยุคกรุงธนบุรีนี้ ยังคงใช้รูปแบบเดิมในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นช่วงระยะสั้น ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แบบเรียนหนังสือไทย เข้ากันว่าในสมัยกรุงธนบุรีปรากฏมีแบบเรียนหนังสือไทย 2 เล่ม คือ 1. หนังสือประถม ก. กา 2. หนังสือประถม มาลา สถาบันการสอนยังคงเป็นบ้าน วัด วัง และมีพระเป็นผู้สอน
19
การจัดการศึกษาในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์
สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นระยะเก็บรวบรวมสรรพตำราจากแหล่งต่าง ๆ ที่รอดพ้นจากการทำลายของพม่า เน้นการทำนุบำรุงตำราทางศาสนา ศิลปะและวรรณคดี สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงฟื้นฟูการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี มีการแต่งรามเกียรติได้เค้าโครงเรื่องมาจากอินเดียเรื่อง รามายณะ ศิลปะ กฎหมาย เช่น กฎหมายตรา 3 ดวง และหลักธรรมทางศาสนา มีการสังคายนาพระไตรปิฎก
20
สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เริ่มมีชาวยุโรป เช่น ชาติโปรตุเกสเข้ามาติดต่อทางการค้ากับไทยใหม่ หลังจากเลิกราไปเมื่อประมาณปลายสมัยอยุธยา และชาติอื่น ๆ ตามเข้ามาอีกมากมาย เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา เป็นต้น เนื่องจากยุโรปมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เปลี่ยนระบบการผลิตจากการใช้มือมาใช้เครื่องจักร พลังงานจากไอน้ำสามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้นจึงต้องหาแหล่งระบายสินค้า ในสมัยนี้ได้ส่งเสริมการศึกษาทั้งวิชาสามัญ โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ จริยศาสตร์ มีการตั้งโรงทานหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังเป็นที่ให้การศึกษา
21
สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงส่งเสริมการศึกษาด้านศาสนาเป็นพิเศษ มีการจารึกวิชาความรู้สามัญและวิชาชีพลงในแผ่นศิลาประดับไว้ตามระเบียงวัดพระเชตุพน จนมีผู้กล่าวว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย มีการใช้หนังสือไทยชื่อ ประถม ก กา และประถมมาลา นับเป็นแบบเรียนเล่มที่ 2 และ 3 ต่อจากจินดามณีของพระโหราธิบดี ต่อมานายแพทย์ ดี บี บรัดเลย์ได้นำกิจการแพทย์สมัยใหม่ เช่น การผ่าตัดเข้ามารักษาคนไข้และการตั้งโรงพิมพ์หนังสือไทยเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ โดยรับจ้างพิมพ์เอกสารทางราชการเรื่องห้ามสูบฝิ่น จำนวน 9,000 ฉบับ เมื่อปีพ.ศ. 2382
22
การศึกษาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
(พ.ศ.2325 – 2511)) หนังสือที่ใช้เรียนได้แก่ ประถม ก กา ประถม มาลา สุบินทกุมาร ประถมจินดามณี เล่ม 1 และเล่ม 2 ฯลฯ จินดามณี หรือประถม จินดามณี ฉบับนี้รวมหนังสือจินดามณี เล่ม 1 เล่ม 2 บันทึกเรื่องหนังสือจินดามณีและจินดามณีฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
23
สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนี้ชาวยุโรป และอเมริกันเริ่มเข้ามาติดต่อค้าขายและสอนศาสนา มีการนำวิทยาการสมัยใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ในเมืองไทยเพิ่มขึ้น และพระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษาจึงทรงจ้างนางแอนนา เอช เลียวโนเวนส์ มาสอนสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เมื่อ พ.ศ จนรอบรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ลักษณะการจัดการศึกษาเป็นแบบเดิมทั้งวัดและบ้าน ในส่วนวิชาชีพและวิชาสามัญ มีอักษรศาสตร์ ธรรมชาติวิทยาหรือวิทยาศาสตร์
24
สรุปการศึกษาในยุคสุโขทัย-รัตนโกสินทร์ตอนต้น
สภาพการศึกษา สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี,รัตนโกสินทร์ การศึกษาที่บ้านวัด และวัง บ้าน วัง และเปลี่ยนจากวัดเป็นโรงเรียน ลักษณะเช่นเดียวกับสุโขทัยและอยุธยา โครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง ในสมัยสุโขทัย มีความอุดมสมบูรณ์ มีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก มีการปกครองคล้ายกับประชาธิปไตย และกระจายอำนาจ เป็นสังคมเกษตรกรรม มีอิสระในการประกอบอาชีพ สำหรับสมัยอยุธยา จะสลับซับซ้อนมากกว่า เพราะได้รวมอาณาจักรสุโขทัยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรศรีอยุธยา และจะมีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชชัดเจน
25
การศึกษาของไทยสมัยปฏิรูปการศึกษา (พ.ศ. 2412 – พ.ศ. 2474)
26
การศึกษาของไทยสมัยปฏิรูปการศึกษา
มุ่งให้คนเข้ารับราชการและมีความรู้ทัดเทียมฝรั่งแต่ไม่ใช่ฝรั่ง แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้ การศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การจัดการศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
27
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การศึกษาไทย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สภาพทั่วไปของการจัดการศึกษาไทยรัชกาลที่ 5 แบ่งเป็น 2 ยุค ดังนี้ ยุคก่อนตั้งกระทรวงศึกษาธิการ 2 ต.ค 2411 ยุคหลังตั้งกระทรวงศึกษาธิการ
28
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
สภาพทั่วไปและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในยุคก่อนตั้งกระทรวงศึกษาธิการ ( ) แผนจัดตั้งโรงเรียนปัจจุบัน สร้างแบบเรียนหลวง วางหลักสูตรและระเบียบการสอบไล่ ปรับปรุงการสอนของครู จัดตั้ง ร.ร.หลวง สำหรับราษฎร ตั้งกรมศึกษาธิการ แก้ไขหลักสูตรสำหรับสอบไล่ การเปลี่ยนแบบเรียนหลวง ประกาศตั้งกระทรวงธรรมการ ย้ายกรมศึกษาธิการไปรวมอยู่ในกรมธรรมการ เริ่มต้นวิชาการพยาบาลและแพทย์แผนใหม่
29
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
โครงสร้างสังคมไทย เกษตรกรรม ยึดมั่นในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นสังคมแบบ มีอุดมการณ์ในการจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ แบ่งชนชั้นเช่นเดียวกับสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
30
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
แผนการศึกษา มีวัตถุประสงค์ด้านนักเรียนหรือบุคคลที่มีโอกาสได้รับการศึกษา วัตถุประสงค์ในการนำผลการศึกษาไปใช้ในการบริหารประเทศ การศึกษาภายในพระบรมมหาราชวัง ( ) ผลิตคนเข้ารับราชการในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ( ) การศึกษาสำหรับปวงชน ( ) ผลิตคนเข้ารับราชการในการทรวงต่าง ๆ ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร ( )
31
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
หลักสูตรและการสอบไล่ จัดตั้งหลักสูตรและระเบียบการสอบไล่ พ.ศ.2427 เป็นปีแรกที่จัดให้มีการสอบไล่ขึ้น ณ ร.ร.ตำหนักสวนกุหลาบ (สอบได้ให้ประกาศนียบัตร) วิธีการสอบไล่ อนุโลมตามวิธีสอบพระปริยัติธรรม
32
ประถมมาลา เป็นหนังสือสอนอ่านแก่กุลบุตรสมัยก่อน
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5 ประถม ก กา สำหรับมูลศึกษา ร.ศ.124 (พ.ศ.2449) ฉบับเจ้าหมื่นศรีสรรัตน์ ประถมมาลา เป็นหนังสือสอนอ่านแก่กุลบุตรสมัยก่อน
33
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
วาหนิติ์นิกร เป็นหนังสือเรียนเล่มที่ 2 ในชุดแบบเรียนหลวง มูลบทบรรพกิจ หนังสือเล่มแรกในชุดแบบเรียนหลวงสำหรับหัดอ่านเป็นครั้งแรก
34
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
สังโยคพิธานแปล (แปลคำศัพท์) เป็นแบบเรียนหลวง เช่นกัน อักษรประโยค หนึ่งใน 6 เล่มของแบบเรียนหลวง
35
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
ไวพจน์พิจารณ์ และพิศาลการันต์ รวมพิมพ์เป็นเล่มเดียวกัน เป็นแบบเรียนหลวง ของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) หนึ่งในหกเล่ม
36
การศึกษาไทยในรัชกาลที่ 5
“แบบเรียนหลวง 6 เล่ม” (คือเริ่มต้นจากมูลบทบรรพกิจ จนจบ พิศาลการันต์) สรุปแนวความคิดทางการศึกษา หลักสูตรชั้นประโยคต้น วิชาเรียงความ คัดลายมือ วิชาเลขคณิต เขียนตามคำบอก วิชาบัญชี การตรวจทานหนังสือ หลักสูตรชั้นประโยคสอง การบันทึกข้อความ, การคัดลอกและสรุปใจความสำคัญ การเขียนจดหมาย
37
การศึกษาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
38
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา
(1) พระบรมราชโชบายในการปกครองประเทศ เพื่อให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยการส่งทหารไปร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 1 นอกจากนี้พระองค์ทรงสร้างความรู้สึกชาตินิยมในหมู่ประชาชนชาวไทยโดยมีสาระสำคัญของอุดมการณ์ชาตินิยม คือ ความรักชาติ ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และความยึดมั่นในพุทธศาสนา (2) พระองค์ทรงศึกษาวิชาการจากต่างประเทศ และเมื่อเสด็จกลับมาแล้วพระองค์ได้ทรงนำเอาแบบอย่างและวิธีการที่เป็นประโยชน์มาใช้เป็นหลักในการปรับปรุงการศึกษา เช่น ทรงนำเอาวิชาลูกเสือจากประเทศอังกฤษเข้ามาจัดตั้งกองเสือป่า
39
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา
(3) ผลอันเนื่องจากการจัดการศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคนส่วนมากที่ได้รับการศึกษา มีความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับการปกครองประเทศในระบอบรัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา จึงมีความปรารถนาจะเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบประชาธิปไตย (4) ปัญหาอันเกิดจากคนล้นงานและคนละทิ้งอาชีพและถิ่นฐานเดิม มุ่งที่จะหันเข้าสู่อาชีพราชการมากเกินไป
40
วิวัฒนาการในการจัดการศึกษา
ปี พ.ศ ประกาศตั้งโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเพื่อฝึกคนเข้ารับราชการตามกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ และต่อมาปี พ.ศ ได้ประกาศยกฐานะโรงเรียนข้าราชการพลเรือนนี้ ขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ปี พ.ศ ตั้งกองลูกเสือหรือเสือป่าขึ้นเป็นครั้งแรกโครงการศึกษาพ.ศ และฉบับแก้ไข พ.ศ โดยมุ่งให้ประชาชนมีความรู้ทางด้านการทำมาหาเลี้ยงชีพตามอัตภาพของตน พยายามที่จะเปลี่ยนค่านิยมของประชาชนไม่ให้มุ่งที่จะเข้ารับราชการอย่างเดียว ปี พ.ศ จัดตั้งกองลูกเสือหญิงและอนุกาชาดโรงเรียนกุลสตรีวังหลังและได้จัดตั้งกองลูกเสือหญิงขึ้น เรียกว่า เนตรนารี
41
วิวัฒนาการในการจัดการศึกษา
ปี พ.ศ มีการปรับปรุงและขยายฝึกหัดครูขึ้นโดยโอนกลับมาขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเดิมเป็นแผนกหนึ่งของโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ปี พ.ศ ประกาศใช้พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ และ ปี พ.ศ. 2464ปรับปรุงโครงการศึกษาชาติ โดยวางโครงการศึกษาขึ้นใหม่เพื่อส่งเสริมให้ทำมาหาเลี้ยงชีพ นอกเหนือจากทำราชการ ปี พ.ศ ใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาบังคับให้เด็กทุกคนที่มีอายุ 7 ปี บริบูรณ์หรือย่างเข้าปีที่ 8 ให้เรียนอยู่ในโรงเรียนจนถึงอายุ 14 ปีบริบูรณ์หรือย่างเข้าปีที่ 15 โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน และมีการเรียกเก็บเงินศึกษาพลีจากประชาชนคนละ 1- 3 บาทเพื่อนำไปใช้จ่ายในการจัดดำเนินการประถมศึกษา
42
การจัดการศึกษาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
43
แบบสอนอ่านใหม่ เล่ม 7 ปี พ.ศ.2456
44
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา
(1) ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศ (2) ปัญหาสืบเนื่องจากอิทธิพลจักรวรรดินิยมตะวันตก (3) ปัญหาสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (4) ปัญหาสืบเนื่องจากการประกาศใช้กฎหมายการศึกษา คือพระราชบัญญัติประถมศึกษา ทำให้การศึกษาแพร่หลายออกไป แต่ขาดความพร้อมทางด้านงบประมาณการศึกษา
45
วิวัฒนาการการจัดการศึกษา
(1) ปี พ.ศ ยกเลิกการเก็บเงินศึกษาพลีคนละ 1 – 3 บาท จากผู้ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง ปี โดยใช้เงินจากกระทรวงพระคลังมหาสมบัติอุดหนุนการศึกษาแทน (2) ปี พ.ศ ปรับปรุงกระทรวงธรรมการเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของประเทศ โดยยุบกรมสามัญศึกษาในตอนนั้น กระทรวงธรรมการจึงมีหน่วยงานเพียง 3 หน่วยคือ กองบัญชาการ กองตรวจการศึกษากรุงเทพ ฯ และกองสุขาภิบาลโรงเรียน (3) ยกเลิกระเบียบว่าด้วยการควบคุมแบบเรียน
46
การศึกษาสมัยการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญ (พ.ศ. 2475 –ปัจจุบัน)
การศึกษาสมัยการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญ (พ.ศ –ปัจจุบัน)
47
ปัจจัยของไทยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา
นโยบายการจัดการศึกษาของคณะราษฎร์ ดังจะเห็นได้จากคำแถลงนโยบายของรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา พ.ศ กล่าวไว้ว่า “….การจัดการศึกษาเพื่อจะให้พลเมืองได้มีการศึกษาโดยแพร่หลาย ก็จะต้องอนุโลมตามระเบียบการปกครองที่ให้เข้าลักษณะเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ หลักสูตรของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะต้องขยายให้สูงขึ้นเท่าเทียมอารยประเทศ ในการนี้จะต้องเทียบหลักสูตรของนานาประเทศ หลักสูตรใดสูงถือตามหลักสูตรนั้น” การเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
48
วิวัฒนาการการจัดการศึกษา
(1) มีการประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว โดยจัดตั้งคณะกรรมการการศึกษาและทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ๆ ให้ตั้งสภาการศึกษา พ.ศ ประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ ต่อมามีการปรับปรุงการจัดการศึกษาภาคบังคับจาก 6 ปี เหลือ 4 ปี และประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ พ.ศ (2) การมอบให้ท้องถิ่นจัดการศึกษา พ.ศ และยกฐานะท้องถิ่นขึ้นเป็นเทศบาลตราพระราชบัญญัติเทศบาลขึ้น และเทศบาลได้จัดการศึกษาอย่างแท้จริงใน พ.ศ (3) การปรับปรุงหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบในการจัดการศึกษา
49
การศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ พ.ศ. 2475 - ปัจจุบัน
50
สภาพการจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
สภาพการจัดการศึกษา ปัจจุบัน 2. แผนการศึกษาชาติ พ.ศ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 1. แผนการศึกษาชาติ พ.ศ และ 2479 สายสามัญ สายวิสามัญ ประถม (4 ปี) สายสามัญ มัธยมวิสามัญ สายอาชีวศึกษา
51
สภาพการจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
สภาพการจัดการศึกษา ปัจจุบัน 4. แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2503 3. การจัดตั้งการฝึกหัดครูและการปรับปรุงการฝึกหัดครู ปีพ.ศ. 2497 อนุบาลศึกษา ประถมต้น ประถมปลาย ประถมศึกษา มัธยมสายอาชีพ มัธยมสามัญ มัธยมศึกษา ตอนต้น (3) ม.ต้น (3) อุดมศึกษา ตอนปลาย (3) ม.ปลาย (2)
52
สภาพการจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
สภาพการจัดการศึกษา ปัจจุบัน แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2520 การปฎิรูปการศึกษา หลัง 14 ตุลาคม 2516 ระบบ 6-3-3 กรมการศึกษานอกโรงเรียนและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2522 และตั้งสำนักงานข้าราชการครู และสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2523
53
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน ยุคเริ่มการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แผนการศึกษาชาติ นโยบายการศึกษาในแผนการศึกษาชาติ แผนการศึกษาชาติ ปี 2475 แผนการศึกษาชาติ ปี 2479 มีความต้องการขยายการศึกษาภาคบังคับเป็น 7 ปี
54
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน นโยบายการศึกษาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แผนการศึกษาชาติ นโยบายการศึกษา ของรัฐ เป็นการแถลงนโยบายไว้กว้าง ๆ อย่างไรก็ตามยังคงคล้ายคลึงกับยุคเริ่มการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แตกต่างบ้าง เช่น เน้นการส่งเสริมพุทธศาสนา เร่งรัดการอบรมจิตใจ วินัย สามัคคี ปลูกฝังวัฒนธรรมตั้งแต่เด็ก ยังไม่มี (ใช้ปี 2479 เช่นเดิม)
55
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน นโยบายการศึกษาสมัยการปกครองโดยคณะปฏิวัติ ( ) แผนการศึกษาชาติ นโยบายการศึกษา ของรัฐบาลคณะปฏิวัติ นโยบายในแผนกำหนดให้ขยายการศึกษาภาคบังคับเป็นระยะตามกำลังเศรษฐกิจ / ไม่เก็บค่าเล่าเรียน สภาการศึกษาเสนอแผนการศึกษาและได้ประกาศใช้เมื่อ 20 ต.ค.2503 เปลี่ยนระบบการศึกษาจาก ประถมศึกษา 4 ปี เป็น 7 ปี โอนแผนการศึกษาให้สภาการศึกษาดูแล (2502)
56
นโยบายการศึกษาสมัยการปกครองโดยคณะปฏิวัติ (2500-2516)
ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ มีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรก (6 ปี ) ในปี 2512 จอมพลถนอม กิตติขจร ได้รับมอบหมายให้จัดตั้งคณะรัฐบาลได้มีการประกาศใช้แผนพัฒนาฯ อีก 2 ฉบับซึ่งเป็นแผน 5 ปี คือฉบับที่ 2 ( ) ฉบับที่ 3 ( ) โดยมุ่งขยายการศึกษาภาคบังคับให้ทั่วถึง นโยบายการศึกษาของคณะปฏิวัติ (ต่อ) ฉบับที่ 2 เป็นการจัดการศึกษาให้สอด คล้องกับแผนพัฒนาฯ เน้นการผลิตแรง งานระดับกลาง (ช่างฝีมือ) ระดับสูง (วิทยาศาสตร์)จึงเร่งรัดปรับปรุงคุณภาพครูและประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาผู้ใหญ่และการศึกษาต่อเนื่อง มีการโอน ร.ร.ประถมในเขตเทศบาลไปอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลในปี 2504 และโอน ร.ร.ประถมนอกเขตเทศบาลไปอยู่ในความรับผิดชอบการปกครองส่วนท้องถิ่น ในปี 2509 ฉบับที่ 3 ปรับปรุงภาคบังคับ เน้นขยายการศึกษาของระดับมัธยมและอุดม ส่งเสริมการฝึกอบรมและการศึกษานอกโรงเรียนโดยเน้นการเกษตร
57
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน แบบเรียนหลังการปกครอง ( ) นำแบบสอนอ่านใหม่มาปรับปรุงโดยมุ่งอบรมให้ นร.เป็นพลเมืองดีของสังคมไทย แบบเรียนประถมศึกษา ชุดบันไดก้าวหน้า ตีพิมพ์ พ.ศ.๒๔๙๗ หนังสือชุดนี้มี ๕ เล่ม ได้แก่ ไปโรงเรียน ฝนตกแดดออก เที่ยวรถไฟต้นทาง เที่ยวรถไฟปลายทาง และที่ไร่ลุง
58
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน แบบเรียนปัจจุบัน
59
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน หลักสูตร การศึกษา พ.ศ ปัจจุบัน หลักสูตรประถมศึกษา 2521 หลักสูตรมัธยมตอนปลาย 2524ปรับปรุงมาจาก หลักสูตร 2518 หลักสูตรประถมศึกษา 2521 (ฉบับ ปรับปรุง 2533) หลักสูตรมัธยมตอนต้น 2521 จัดเนื้อหาสาระ 4 กลุ่มคือกลุ่มทักษะ กลุ่ม สปช., สลน. และ กพอ. เป็นหลักสูตรต่อเนื่อง 12 ปี มี 4 ช่วงชั้น มี 8 กลุ่มสาระ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2544 หลักสูตรมัธยมตอนปลาย 2521 (ฉบับ ปรับปรุง 2533)
60
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน เมื่อรัชกาลที่ 9 ขึ้นเถลิงถวัลราชสมบัติเมื่อ 9 มิ.ย.2489 งานสำคัญที่พระองค์ท่านให้ความสำคัญเสมอมาคือ งานด้านการศึกษา ดังพระบรมราโชวาทเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2510 ตอนหนึ่งว่า “งานด้านการศึกษาเป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาติ เพราะความเจริญและความเสื่อมของชาตินั้นขึ้นอยู่กับการศึกษาของชาติเป็นข้อใหญ่...” ด้านสถานศึกษา ให้ตั้ง ร.ร.สำหรับพระราชโอรสและพระราชธิดา บุตรข้าราชบริพารในวัง และเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ร่วมเรียนด้วย (ร.ร.จิตรดา)
61
ด้านสถานศึกษา รับอุปถัมถ์ให้กำลังใจแก่เยาวชนที่ขาดแคลน “โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์” (มีทั้งรัฐบาลและเอกชน) เช่น ร.ร.ราชวินิต ร.ร.ไกลกังวล ร.ร.ราชประชาสมาสัย ร.ร. ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมถ์ ร.ร.เพื่อลูกหลานชนบท เป็นต้น ในเรื่องการศึกษานอกระบบ ทรงริเริ่มตั้ง “ศาลาร่วมใจ” ตามหมู่บ้านเพื่อให้ประชาชนได้อ่าน นอกจากนั้นยังมีโครงการพระดาบส (2519) ซึ่งต่อมาได้ขยายผลเป็นการศึกษานอกโรงเรียนในปัจจุบัน
62
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย 2482 ยุบกรมศึกษาธิการ ตั้งกรมวิชาการและกรมสามัญศึกษาจัดการสอบไล่ ผู้ผ่านจะได้ประกาศนียบัตร 2484 ประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม จึงงดการสอบไล่ประจำปี โดยให้ถือเวลาเรียนร้อยละ 60 เป็นเกณฑ์ตัดสิน 2485 น้ำท่วมหนัก ปรับเกณฑ์สอบไล่ให้เหมาะกับสถานการณ์ โดยให้สอบล่วงหน้า 3 เดือน ผลการสอบเป็น 45 จากเกณฑ์ 50 สำหรับการสอบไล่ปลายปีตามปกติ 2490 เกณฑ์ผ่านทุกวิชา 45% 2491 เกณฑ์ผ่านทุกวิชา 49.5% 2492 เกณฑ์ผ่านทุกวิชา 50%
63
การจัดการศึกษา 2475-ปัจจุบัน
การจัดการศึกษา ปัจจุบัน 2515 รัฐบาลคณะปฏิบัติได้ปรับปรุงระเบียบใหม่ มีการจัดการวัดผลและทดสอบความรู้ของนักเรียนและบุคคล ภายนอกทั้งระดับ ประถม มัธยม ทั่วประเทศ 2518 กระจายอำนาจให้ผู้สอน โดยรายงานผลเป็นคะแนนรายวิชา ซึ่งเป็นการประเมินผลการเรียนใหม่เป็นครั้งแรก 2495 แบ่งการสอบไล่เป็นชั้นสูง ชั้นต้นและประกาศนียบัตร 2526 มีการวัดคุณภาพทางการศึกษาระดับชาติ(National Assessment) ปัจจุบันมีการเตรียมเพื่อรองรับระบบ admission โดยนำผลการเรียน (GPAX) , (GPA), O-NET, A-NET มาใช้ 2535 จัดระบบการเทียบโอน และปี 2536 จัดทำแบบสอบวัดความถนัด SAT นำค่า GPA และ PR ไปใช้ในอุดมศึกษา
64
END
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2025 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.