ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยนีราชา สมิท ได้เปลี่ยน 8 ปีที่แล้ว
1
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบ รายบุคคลทางการคำนวณและ การใช้สูตรฟังชั่นอย่างง่ายโดย โปรแกรม Microsoft Excel ในวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ ผู้วิจัย นางสาวพรพิมล แก้วกลัด วิทยาลัยอาชีวศึกษาเซนต์จอห์น
2
จุดประสงค์การวิจัย 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้คำสั่งคำนวณและการ ใช้สูตรได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน 2. เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถทางการเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ เรื่องการคำนวณและการใช้สูตรที่ ดีขึ้น
3
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ใน ระดับชั้นปวช.1 สาขางานเทคโนโลยีสารสนเทศ วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ นักเรียนที่ กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปวช.1 สาขางาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2558 จำนวน 5 คน โดยใช้การเลือก แบบเจาะจง
4
ผลวิเคราะห์ข้อมูล 1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ตารางที่ 1 การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิชา คอมพิวเตอร์ เรื่อง การคํานวณและการใช้สูตรฟังก์ชัน อย่างง่ายด้วยโปรแกรม Microsoft Excel รหัสประจำตัวคะแนนก่อนเรียนคะแนนหลังเรียน 6421648 64352510 6435659 6436159 6436549 N = 5 S.D. = 0.55S.D. = 0.71
5
ผลวิเคราะห์ข้อมูล 2. แบบสังเกตพฤติกรรม ตารางที่ 2 ค่าความถี่ (f) และค่าร้อยละ (%) ของระดับพฤติกรรมนักเรียน พฤติกรรม ดีพอใช้ปรับปรุง f%f%f% 1. ความสนใจ 361200 2. การวางแผนงาน 242412 3. การตอบคำถาม 362400 4. การยอมรับฟังผู้อื่น 243600 5. ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมาย 481200 รวม 145.6093.6010.40
6
ผลวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินผลงาน สมบูรณ์ ชัดเจน ค่อนข้าง สมบูรณ์ ค่อนข้าง สมบูรณ์ และ มี ข้อบกพร่อ ง มีข้อ บกพร่อง บางส่วน ข้อบกพร่อ ง f%f%f%f%f% 1. การป้อนสูตรการคำนวณ 2436000000 2. การเลือกใช้ฟังก์ชั่น 3624000000 3. การวิเคราะห์ข้อมูล 1236120000 รวม 62.483.210.40000 3. แบบประเมินผลงาน ตารางที่ 3 ค่าความถี่ (f) และค่าร้อยละ (%) ของ ระดับคุณภาพการปฏิบัติ
7
สรุปผลการวิจัย การเรียนวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ เรื่อง การใช้สูตรคำนวณตัวเลข โดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel พบว่า นักเรียนมีความเข้าใจและ สามารถใช้คำสั่งการคำนวณและใช้สูตรได้ถูกต้องมากขึ้น ตามระยะเวลาและจำนวนกิจกรรมที่ฝึก ผลจากการทำวิจัย พบว่าทดสอบก่อนเรียน กลุ่ม ตัวอย่างมีค่าเฉลี่ย 4.60 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.55 และ เมื่อทดสอบหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ย 9.0 ค่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.71 จึงกล่าวว่า ค่าเฉลี่ยหลังเรียน สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเรียน แสดงว่า การใช้แบบฝึกทักษะ ต่างๆ ช่วยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
8
ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ 1.1 ผู้สอนควรศึกษาทำความเข้าใจและวิเคราะห์ เนื้อหาสาระของแผนการจัดการเรียนรู้ และจัดเตรียมสื่อที่ ใช้ในการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1.2 ผู้สอนจะต้องชี้แจงให้นักเรียนทราบว่า การ ได้มาซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูง มิได้เกิดขึ้นจากการ แข่งขันกันในระหว่างผู้เรียนแต่ต้องเป็นการร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันในการเรียน 1.3 ผู้สอนควรศึกษาขั้นตอน วิธีการการจัดการเรียน การสอนแบบจิกซอว์ให้เข้าใจดีเสียก่อน จึงจะสามารถ จัดการเรียนการสอนได้ประสบผลสำเร็จตามที่ ตั้งเป้าหมายไว้ได้
9
ข้อเสนอแนะ 2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาค้นคว้าต่อไป 2.1 ควรมีการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบ รายบุคคล ที่มีประสิทธิภาพในเนื้อหารายวิชาอื่น ๆ ในแต่ ละระดับชั้น 2.2 ควรมีการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติต่อวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกิจกรรมการเรียนรู้ แบบรายบุคคลในรูปแบบต่าง ๆ ในแต่ละเนื้อหาและ ระดับชั้น 2.3 ควรมีการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบกระบวนการ การทำงานของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอน แบบรายบุคคล กับนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบ ต่าง ๆ
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.