บานไม้โทบ้าน
พิโรธวาทัง (บทตัดพ้อ)
พิโรธวาทัง (บทตัดพ้อ) คือการกล่าวข้อความแสดงอารมณ์ไม่พอใจ ตั้งแต่น้อยไปจนมาก จึงเริ่มตั้งแต่ ไม่พอใจ โกรธ ตัดพ้อ ประขดประชัน กระทบกระเทียบเปรียบเปรย เสียดสี และด่าว่าอย่างรุนแรง
เมื่อได้ยินคนธรรพ์นาฏกุเวรขับเพลง “รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้ เมื่อได้ยินคนธรรพ์นาฏกุเวรขับเพลง “รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้...” พระยาครุฑก็รู้ว่านาฏกุเวรได้แอบขึ้นไปสมสู่กับกากีบนวิมานสิมพลีของตน จึงรำพันด้วยความโกรธและอาลัยรักกากี หลังจากนั้นก็ขึ้นไปตัดพ้อนางกากี ก่อนนำนางมาไว้ที่ หน้าพระลานของพระเจ้าพรหมทัต จากเรื่องกากีคำกลอน ครั้งนี้เสียรักก็ได้รู้ ถึงเสียรู้ก็ได้เชาวน์ที่เฉาฉงน เป็นชายหมิ่นชายต้องอายคน จำจนจำจากอาลัยลาน (เจ้าพระยาพระคลังหน)
บทตัดพ้อที่แสดงทั้งอารมณ์รักและแค้นของ อังคาร กัลป์ยาณพงษ์ จากบทกวีเสียเจ้า จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ (อังคาร กัลยาณพงษ์)
บทตัดพ้อที่แทรกอารมณ์ขันของ สุจิตต์ วงษ์เทศ จากบทกวีปากกับใจ เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน ไม่รักกูกูก็จักไม่รักใคร เอ๊ะน้ำตากูไหลทำไมฤา (สุจิตต์ วงษ์เทศ)
แล้วว่าอนิจจาความรัก เพิ่งประจักษ์ดังสายน้ำไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า
ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรา จะมีแต่เวทนาเป็นเนืองนิจ โอ้ว่าเสียดายตัวนัก เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิต จะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใคร จาก บทละครเรื่องอิเหนา
เมื่อแรกเชื่อว่าเป็นเนื้อทับทิมแท้ มาแปรเป็นพลอยหุงไปเสียได้ กาลวงว่าหงส์ให้ปลงใจ ด้วยมิได้ดูหงอนแต่ก่อนมา คิดว่าหงส์จึงหลงด้วยลายย้อม ช่างแปลงปลอมท่วงทีดีหนักหนา ดังรักถิ่นมุจลินท์ไม่คลาดคลา ครั้นลับตาฝูงหงส์ก็ลงโคลน จาก เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ ใจไม่ซื่อสมศักดิ์เท่าเส้นผม แต่ใจสัตว์มันยังมีที่นิยม สมาคมก็แต่ถึงฤดูมัน มึงนี้ถ่อยยิ่งกว่าถ่อยอีท้ายเมือง จะเอาเรื่องไม่ได้สักสิ่งสรรพ์ ละโมบมากตัณหาตาเป็นมัน สักร้อยพันให้มึงไม่ถึงใจ ว่าหญิงชั่วผัวยังคราวละคนเดียว หาตอมกันเกรียวเหมือนมึงไม่ หนักแผ่นดินกูจะอยู่ไย อ้ายไวยมึงอย่านับว่ามารดา ( บทพิโรธวาทัง พระพันวษาตรัสบริภาษนางวันทอง )