ตำนานนกกระเรียงพันตัว ของ ด.ญ.ซาซากิ ซาดาโกะ
การพับกระดาษเป็นนกกระเรียน เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อใด ไม่สามารถยืนยันได้ ภาพนกระเรียนพับกระดาษ ปรากฏในเอกสารเป็นครั้งแรก ในปี คศ. 1700 โดยเป็นภาพที่เป็นลวดลายในชุดกิโมโน การพับนกกระเรียนจำนวนมากๆ และร้อยติดกันเป็นพวง เรียกว่า นกกระเรียนพันตัว (千羽鶴 : senba tzuru) ซึ่งจะมีจำนวนน้อยหรือมากกว่า 1,000 ตัวก็ได้
ความเชื่อของนกกระเรียง ในอดีต เคยมีประเพณีในการถวายนกกระเรียนพันตัว แก่วัดหรือศาลเจ้า เพื่อเป็นสิ่งสักการะในการขอให้มีชีวิตยืนยาว
ความเชื่อของนกกระเรียง ปัจจุบัน นกกระเรียนพันตัว มักใช้เป็นสิ่งที่มอบให้ในตอนที่ไปเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อเป็นการปลอบประโลมและให้กำลังใจ นอกจากนี้ นกกระเรียนพันตัว ยังใช้เป็นสัญญาลักษณ์แสดงมุ่งหวังสันติภาพ และคัดค้านต่อต้านระเบิดปรมาณูอีกด้วย
ซาซากิ ซาดาโกะ วันที่ 6 สิงหาคม คศ.1945 B29 ที่บรรทุกระเบิดปรมาณูได้มุ่งไปยังประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้น ซากาโกะอายุ 2 ขวบ ซาดาโกะถูกแรงลมระเบิด และเปียกฝนกัมมันตรังสีระหว่างที่อพยพหนี จากนั้น ซาดาโกะเติบโตขึ้นโดยมีสุขภาพแข็งแรง แต่ร่างกายของซาดาโกะก็เริ่มมีอาการผิดปกติ ลำคอบวม ก้อนเนื้อไม่ยุบลง
เธอเข้าโรงพยาบาลในเดือนกุมภาพันธ์ คศ เธอเข้าโรงพยาบาลในเดือนกุมภาพันธ์ คศ.1955 ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว "อยู่ได้อีก 3 เดือน นานที่สุดก็ไม่เกิน 1 ปี"
เรื่องของการพับนกเรียง การพับเป็นนกกระเรียนพันตัว สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นจากความเชื่อว่า นกกระเรียนเป็นสัตว์มงคล อันหมายถึงการมีชีวิตที่ยืนยาว ดังเช่นสุภาษิต "นกกระเรียนพันปี เต่าหมื่นปี"
เรื่องของการพับนกเรียง(ต่อ) การพับนกกระเรียนจึงหมายถึงการต่ออายุให้ยืนยาว เช่นเดียวกับคำในสุภาษิต แต่คำว่า นกกระเรียนพันตัว (senba tzuru) นี้ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องมีจำนวนครบ 1,000 ตัว แต่หมายถึงการพับในปริมาณมากๆ
ซาดาโกะเอง เชื่อมั่นว่า หากเธอพับนกกระเรียนได้พันตัว ก็จะหายป่วยจากโรคร้าย เธอจึงเริ่มพับนกกระเรียนขึ้น
เช้าวันที่ 25 ตุลาคม ครอบครัวของซาดาโกะสังเกตุเห็นว่าอาการของเธอทรุดหนักมาก พ่อของซาดาโกะพยายามกระตุ้นให้เธอทานอาหาร ซึ่งเธอก็ตอบว่าอยากทานข้าวราดน้ำชา พ่อของเธอจึงรีบไปซื้อข้าวสวยจากโรงอาหารมาทำข้าวราดน้ำชา และป้อนให้เธอทาน 1 คำ เธอกล่าวว่า "อร่อย" และทานคำที่สอง พร้อมกับหลับตาลง และจบชีวิตลงท่ามกลางการเฝ้าดูแลของครอบครัว
ซาดาโกะเสียชีวิตลง ก่อนที่เธอพับนกกระเรียนได้ครบ 1,000 ตัว เพื่อนในชั้นเรียนของเธอจึงได้ช่วยกันพับต่อจนครบ และใส่ไปในโลงศพ
เมื่อเรื่องราวของซะดะโกะแพร่หลายออกไป ก็ได้มีการบริจาคเงินสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงซะดะโกะ และเด็กๆ อีกหลายคนที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู
ตั้งที่ใจกลางสวนสาธารณะสันติภาพฮิโระชิมะ โดยอนุสาวรีย์นี้เป็นรูปของซะดะโกะกำลังยืนและยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นไปบนฟ้า ที่มือของเธอถือนกกระเรียนสีทองไว้
ที่แท่นหินหน้ารูปปั้น มีคำแกะสลักไว้ว่า ที่แท่นหินหน้ารูปปั้น มีคำแกะสลักไว้ว่า "จะต้องไม่ทำให้เด็กๆ กลายเป็นเหยื่อของระเบิดปรมาณูอีก" ข้อความนี้ เปรียบเสมือนคำพูดของเด็กๆที่เสียชีวิตว่า นี่คือเสียงร้องของพวกผม นี่คือคำขอร้องของพวกหนู ที่ต้องการเห็นสันติสุขบนโลกใบนี้ และไม่ต้องการให้มีเด็กๆคนไหน ต้องเสียชีวิตเช่นพวกเธออีก ที่แท่นหินหน้ารูปปั้น มีคำแกะสลักไว้ว่า "จะต้องไม่ทำให้เด็กๆ กลายเป็นเหยื่อของระเบิดปรมาณูอีก" ข้อความนี้ เปรียบเสมือนคำพูดของเด็กๆที่เสียชีวิตว่า นี่คือเสียงร้องของพวกผม นี่คือคำขอร้องของพวกหนู ที่ต้องการเห็นสันติสุขบนโลกใบนี้ และไม่ต้องการให้มีเด็กๆคนไหน ต้องเสียชีวิตเช่นพวกเธออีก
เรื่องของซาดาโกะกับการพับนกกระเรียน ถูกเผยแพร่ในสื่อต่างๆทั่วโลก ในหลายรูปแบบ และหลายภาษา ซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสันติภาพ และความหวังมาจนถึงทุกวันนี้
จัดทำโดย น.ส.วิลาสินี หลิ่วน้อย 56070268 คณะสาธารณสุขศาสตร์ กลุ่ม 20