บทเรียนการทำงานเป็นทีม จากนิทานอีสป กระต่ายกับเต่า
กาลครั้งหนึ่งมีกระต่ายกับเต่าถกเถียงกันว่า ใครจะวิ่งเร็วกว่ากัน ข้าเป็นนักวิ่ง ที่วิ่งเร็วที่สุด ไม่จริง ฉันต่างหาก ที่วิ่งได้เร็วที่สุด
เพื่อยุติการโต้เถียง จึง ตกลงกันว่าต้องวิ่งแข่งกัน โดยกำหนดจุดเริ่มต้นและเส้นชัย ตกลงเรามา วิ่งแข่งกันนะ ย่อมได้
กระต่ายกระโจนพรวดวิ่งออกไปอย่างเร็วเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณที่ตกลงกัน ทิ้งเจ้าเต่าจนมองไม่เห็น มันคิดว่าแวะพักใต้ต้นไม้ก่อนค่อยวิ่งต่อ เจ้าเต่าผู้น่าสงสาร ถึงข้าจะนอนสักงีบ เจ้าก็คง ตามข้าไม่ทันอยู่ดีหรอก
มันนั่งลงใต้ต้นไม้ ในไม่ช้าก็หลับไป
เจ้าเต่าคลานต้วมเตี้ยมโดยไม่หยุด ในที่สุดก็ถึงเส้นชัย เป็นผู้ได้รับชัยชนะอย่างขาวสะอาด
กระต่ายตื่นขึ้นมา จึงรู้ตัวว่า ตัวเองแพ้ มีความเสียใจอย่างยิ่ง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงแม้จะเชื่องช้า แต่มั่นคงและมุ่งมั่นก็สามารถชนะได้ นี่คือต้นฉบับเดิมที่ทุกคนคงจะรู้มาก่อนแล้ว
แต่นิทานนี้ยังมีต่อในภาค 2
กระต่ายผิดหวังมากที่แพ้เต่า มันจึงกลับมาทบทวนสาเหตุที่แพ้เต่า ก็พบว่า ตนประมาท เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป ซึ่งถ้าแก้ไขข้อบกพร่องนี้ได้ ตนจะชนะเต่าได้อย่างแน่นอน ทำไมนะ ถึงแพ้เต่าได้ ?
ขอแข่งแก้ตัวอีกครั้ง ดังนั้น กระต่ายจึงไปท้าเต่า ขอแข่งแก้ตัวอีกครั้ง เจ้าเต่า ข้าขอท้าแข่งแก้ตัว อีกสักครั้ง จะได้ไหม ? ไม่มีปัญหา.
คราวนี้ กระต่ายวิ่งรวดเดียว ไม่หยุด ถึงเส้นชัยอย่างรวดเร็วทิ้งเจ้าเต่าตามหลังหลายสิบไมล์ ได้รับชัยชนะ แก้ตัว ลบรอยแค้นได้สำเร็จ
นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า ภาค 2 สอนให้รู้ว่า ความรวดเร็ว ที่มุ่งมั่น สม่ำเสมอต่อเนื่อง จะชนะผู้ที่เชื่องช้าถึงแม้จะมุ่งมั่นก็ตาม เป็นสิ่งที่ดีที่ช้าและต่อเนื่อง แต่จะดีกว่านั้นถ้ารวดเร็วและเชื่อถือได้ในผลงาน
แต่นิทานเรื่องนี้ยังไม่จบ นิทานกระต่ายกับเต่ายังมี ภาค 3 แต่นิทานเรื่องนี้ยังไม่จบ นิทานกระต่ายกับเต่ายังมี ภาค 3
ฉันจะชนะเจ้ากระต่ายได้อย่างไรหนอ ? เต่ายังไม่ยอมแพ้ ครุ่นคิดแก้ไขและเชื่อว่า จะไม่มีวันชนะถ้ายังใช้การแข่งขันรูปแบบเดิม จึงวางแผนใหม่เพื่อสู้ต่อไป ฉันจะชนะเจ้ากระต่ายได้อย่างไรหนอ ?
เต่าคิดอยู่ไม่นาน จึงกลับไปท้ากระต่ายอีกครั้ง แต่คราวนี้ขอเปลี่ยนเส้นทางแข่งขันใหม่ กระต่ายตอบตกลงด้วยความลำพองใจ. สบายมาก ฉันขอท้าแข่งอีกสักครั้งให้หายข้องใจ แต่ครั้งนี้เราจะแข่งเส้นทางใหม่ ที่วิบากกว่าเส้นทางเดิม ตกลงไหม ?.
เมื่อเริ่มการแข่งขัน สัตว์ทั้งสองต่างไม่ประมาทกัน กระต่ายวิ่งนำไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องหยุดตรงแม่น้ำกว้างขวางกั้นอยู่ โดยที่เส้นชัยอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกหลายไมล์ กระต่างจึงต้องหยุดอยู่แค่นั้นหาหนทางข้ามไปไม่ได้ Goal
เจ้ากระต่ายนั่งลงด้วยความมึนทำอะไรไม่ถูก ขณะเดียวกันเต่าก็ตามมาทัน แล้วว่ายข้ามแม่น้ำและเดินต่อไปไปถึงเส้นชัย ทำอย่างไร ดีนะ
นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า ภาค 3 สอนให้เรารู้ว่า จงค้นหาจุดแข็งของเราให้ได้ แล้วปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะกับความสามารถของเรา การทำงานโดยใช้จุดแข็งตนเอง ไม่เพียงได้รับความสนใจ โดดเด่น แต่ยังหมายถึงโอกาสความเจริญก้าวหน้าของเราด้วย
ยัง......ยังไม่จบ โปรดติดตามนิทานกระต่ายกับเต่า ภาคสุดท้าย
ตั้งแต่นั้นมากระต่ายกับเต่าก็กลายเป็นเพื่อนที่ดี แต่คิดปรึกษากันว่า เรามาแข่งขันกันอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย จะทำอย่างไรให้โดยชนะด้วยกันไม่มีผู้แพ้
ดังนั้น เมื่อวางแผนกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มแข่งขันกันเป็นทีมโดยเอาเส้นชัยเป็นเป้าหมาย ตามเวลาที่กำหนด Hi, buddy. How about doing our last race again? ยอดเยี่ยม ฉันคิดว่าจะดีมากถ้าเราช่วยเหลือกัน เต่า เพื่อนรัก รู้สึกอย่างไร กับการแข่งขันนัดสุดท้าย คู่แข่งของเรา คือ เป้าหมายกับเวลา
การแข่งขันเริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย คราวนี้เริ่มต้นด้วยกระต่ายให้เต่าขึ้นขี่หลังแล้วนำวิ่งไปถึงฝั่งแม่น้ำ
เมื่อถึงริมฝั่งแม่น้ำ เต่าสลับให้กระต่ายขึ้นขี่หลังเต่าบ้างและเต่าก็พากระต่ายข้ามฝั่งไปได้อย่างปลอดภัย
เมื่อถึงฝั่งตรงข้าม กระต่ายก็กระโดดลงจากหลังเต่าและให้เต่าขึ้นขี่หลังตัวเองอีก ต่อจากนั้นจึงนำเต่าวิ่งไปสู่เส้นชัยทั้ง 2 ตัว ทั้งเต่าและกระต่ายต่างก็ภาคภูมิใจในการแข่งขันครั้งนี้มากกว่าทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา
นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าภาคสุดท้าย สอนให้รู้ว่า จงแปรเปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่คิดหรือคู่ค้า แล้วจะได้ชัยชนะร่วมกัน ไม่มีผู้แพ้ งานจะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าทำงานกันเป็นทีม เพราะ Nobody’s Perfect - but a team can be.
ฐานทีมงาน รู้สึกผูกพัน FEEL คิดร่วมกัน THINK ช่วยกันทำ WORK
การสร้างทีม (TEAM BUILDING) ก่อตัว (Forming) ข้องขัด (Storming) Feel Think ปฏิบัติ (Performing) หลอมรวม (Norming) Work
Let’s go and build stronger teams!