พระอาทิตย์กับลมพายุ
มีอยู่วันหนึ่งพระอาทิตย์กับลมพายุ ได้เกิดการทะเลาะและถกเถียงกันขึ้นมาว่า ใครจะเป็นผู้ที่มีพลังและ เก่งกล้าเหนือกว่ากันขึ้นมา ลมพายุได้เอ่ยขึ้นมาก่อนเลยว่า " เรานี่สิถึงจะเรียกว่ามีพลังมากกว่า อย่าง แน่นอนเพราะเพียงแค่ถ้าเราตั้งใจหรือจงใจที่จะเป่าลมใส่ให้แล้วละก็ทุกคนก็จะต้องหนาวสั่นและเดินถลาปริว กันไปหมดทุกคนเลยนั่นหละ " พระอาทิตย์เมื่อได้ฟังดังนั้นก็หาที่จะยอมแพ้ให้เลยสักนิดไม่ " เราต่างหาก เล่าที่มีพลังและเก่งกล้าเหนือกว่าท่าน ฮ่า ๆๆ เพราะถ้าเราจงใจหรือตั้งใจที่จะส่องแสงอันร้อนแรง เข้าใส่ให้แล้วละก็...ทุกคนจะต้องร้อน แล้วดีไม่ดีก็อาจโดนย่างจนตายไปก็ได้นะจะบอกให้ " เรียกว่าไม่มี ใครยอมแพ้ลดละ และยอมลงให้แก่กันเลยสักนิดเดียว
ลมพายุจึงพูดว่า " ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมาลองดวลประทะฝีมือประลองกันสักตั้งจะดีกว่ามั้ง " พระอาทิตย์ก็เห็นด้วยและตกลงใจตามความคิดของลมพายุเหมือนกัน " โน่นทางโน้น เห็นไหม ? กำลังมีชายคนเดินทางกำลังจะเดินผ่านมาทางนี้พอดีเลย ถ้าใครเป็น ผู้ที่สามารถทำให้ชายคนนั้นถอดเสื้อผ้าออกจนหมดได้ ผู้นั้นก็จะได้เป็น ผู้ที่เก่งกล้าและมีความ สามารถเหนือกว่าและเป็นผู้ชนะไปแล้วกัน " ลมพายุจึงขอเป็นผู้ที่เริ่มก่อน โดยบอกว่า " ถ้าอย่างนั้น การต่อสู้ครั้งนี้ ความชนะเป็นของเราเลยทีเดียว เพราะชายคนนั้นใส่เสื้อคลุมอยู่แค่ตัวเดียวเท่านั้นเอง ฮ่า ๆๆ โดนเราเป่าเพียงแค่ฟู่เดียวเสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยออกจนหมดแล้วแหละ...ฮ่า ๆๆๆ "
ว่าแล้วลมพายุก็ป้องปากแล้วพ่นลมอันแรงกล้าและหนาวเย็นอย่างสุดกำลัง พัดกระโชกเข้าปะทะกับชาย นักเดินทางผู้นั้น " ฮู่ ๆๆๆทำไมรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างกระทันหันอย่างนี้นะ ใส่เสื้อตัวเดียวนี่คงจะช่วยกัน ความหนาวให้ไม่ได้เสียแล้วหละ " เมื่อชายผู้นั้นยิ่งโดนลมพัดเข้าปะทะมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งกอดกระชับ เสื้อผ้าให้แนบแน่นติดตัวเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น แล้วด้วยคงเกิดความรู้สึกว่าหนาวสะท้านจนไม่สามารถที่จะ ทนต่อไปได้อีกแล้วขึ้นมา ชายคนนั้นจึงได้ดึงเสื้อที่อยู่ในย่ามของเขาออกมาสวมใส่เข้าไปด้วยอีกหลายตัว ลมพายุเมื่อเห็นดังนั้น " อ้าว...อะไรทำไมถึงกลายเป็นพลิกล๊อกไปอย่างนั้นได้เล่า ? ถ้าอย่างนั้น ต้องเป่าลม เข้าใส่อีกครั้งเป็นการแถมท้าย " ว่าแล้วลมพายุจึงรวบรวมพลังขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วเป่าลมเข้าใส่ชายผู้นั้น อย่างแรงเลยทีเดียว
ผลปรากฏว่า แทนที่เสื้อผ้าของชายคนนั้นจะโดนถอดออก ก็กลับกายเป็นยิ่งสวมใส่เข้าไปให้อีกตั้ง หลายตัวเสียอีกด้วย พระอาทิตย์จึงพูดขัดจังหวะขึ้นว่า " ท่านลมพายุ เปล่าประโยชน์เสียแล้วหละท่าน ฮ่า ๆๆๆ ต่อมาถึงเวลาที่เป็นคราวของเราแล้วหละ " พูดแล้วพระอาทิตย์จึงเริ่มโดยการแผ่ความร้อน ที่อบอุ่นฉายแสง ให้ส่องไปทางชายคนเดินทางผู้นั้นทีละน้อย...ทีละน้อย... และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จน ชายผู้นั้นเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมา เขาจึงถอดเสื้อออกเสียตัวหนึ่ง และแหงนหน้าขึ้นมองดูพระอาทิตย์แล้วพูดว่า " ว้าว...แดดเปรี้ยงดีจัง วันนี้เป็นวันอะไรน้าอ้า...เริ่มจะร้อนขึ้นมาแล้วนะนี่.. " เขาเดินเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้น ปาดเช็ดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาอย่างไม่ยอมหยุดนั้น แล้วเดินต่อไปเรื่อย ๆ...
เมื่อเห็นดังนั้นพระอาทิตย์จึงยิ่งแผ่กระแสความร้อนให้ส่องเข้าไปให้อีกเป็นการตบท้าย... "ว้า...โอ้ย..ร้อน...ร้อนจริง ๆเลยนะเนี่ย ถอดเสื้อผ้าพวกนี้ออกทิ้งให้หมดเลย ไม่ใส่แล้ว" ชายคนเดิน ทางผู้นั้นด้วยความที่รู้สึกร้อนอย่างมาก เขาจึงถอดเสื้อผ้าของเขาที่ใส่อยู่นั้นออกทิ้งเสียทั้งหมด จนไม่มีอะไร หลงเหลือติดตัวอยู่เลย เรียกว่าร่อนจ่อนเลยทีเดียว แล้วได้กระโดดลงไปลอยคออยู่กลางแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ๆ นั้นทันที...ลมพายุให้เป็นยกย่องสรรเสริญในพลังของพระอาทิตย์เป็นอย่างมาก และพูดว่า " แม้พลังของเรา จะมีมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถที่จะบงการให้คนทำตามคำสั่งอย่างที่ต้องการได้เลยสักนิดเดียวจริง ๆ " ...ดังนั้นงานนี้..พระอาทิตย์จึงได้เป็นผู้ชนะลมพายุไปอย่างขาดลอยในที่สุด...
ไม่ใช่ว่ามีพลังอยู่เท่าไหร่ ๆก็ใช้หักโหมเข้าใส่แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ว่ามีพลังอยู่เท่าไหร่ ๆก็ใช้หักโหมเข้าใส่แต่เพียงอย่างเดียว....แล้วทุกอย่างจะสำเร็จสมความมุ่งหมาย ท่านว่าให้ค่อย ๆทำ ไปทีละเล็กทีละน้อยทีละขั้นทีละตอน ตั้งเข็มด้วยความสงบและมั่นคง แล้วความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นมาตามความมุ่งหมาย ที่ตนต้องการอย่างแน่นอน....