สตริง (String).

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
โครงสร้างโปรแกรมภาษา JAVA
Advertisements

C# เบื้องต้น ก่อนการเขียนเกมด้วย XNA
Suphot Sawattiwong Function ใน C# Suphot Sawattiwong
โครงสร้างโปรแกรมภาษา C
โดยอาจารย์ศิริพร ศักดิ์บุญญารัตน์ ครูชำนาญการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
ตัวแปรชุด การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1
การเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งเบื้องต้น
ข้อมูลชนิดสตริง String บทที่ 8
Introduction to C Programming
การรับค่าและแสดงผล.
สายอักขระและ การประมวลผลสายอักขระ (String and String manipulation)
Data Type part.II.
หลักการโปรแกรม 1 Lecture 3: ตัวแปร, นิพจน์คณิตศาสตร์, การคำนวณทางคณิตศาสตร์,การดำเนินการกับสายอักขระ.
Week 6 ประกาศค่าตัวแปร.
รับและแสดงผลข้อมูล.
PHP LANGUAGE.
Lab 3: คำสั่งพื้นฐานสำหรับการรับและการแสดงผลข้อมูล
ตัวชี้ P O I N T E R Created By Tasanawan Soonklang
การเขียนโปรแกรมภาษาจาวาตอนที่ ๓
ครั้งที่ 7 Composition.
เรื่อง ประเภทของข้อมูล
การประกาศตัวแปร “ตัวแปร” คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เก็บค่าต่างๆและอ้างอิงใช้งานภายในโปรแกรม ตามที่เรากำหนดขึ้น การสร้างตัวแปรขึ้นมาเราเรียกว่า.
บทที่ 12 Structure and union Kairoek choeychuen
SCC : Suthida Chaichomchuen
การจัดการข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ด้วยภาษาจาวา
ตัวแปรชุดของอักขระ String
บทที่ 2 ประเภทข้อมูล (DATA TYPE)
บทที่ 11 การเขียนโปรแกรมภาษาซี
บทที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
อาร์เรย์และข้อความสตริง
Javascript.
ตัวแปร (variable) ตัวแปร เป็นชื่อที่เราตั้งขึ้น เพื่อให้คอมพิวเตอร์เตรียมที่ใน หน่วยความจำไว้สำหรับเก็บข้อมูลที่นำไปประมวลผล การตั้งชื่อตัวแปร ชื่อตัวแปรในภาษา.
อาร์เรย์ (Array).
ตัวแปร (Variable) คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ สามารถเก็บข้อมูลชนิดใดก็ ได้ ลักษณะที่สำคัญ ค่าที่จัดเก็บ เมื่อปิดโปรแกรมข้อมูลจะหายไป.
String Class มหาวิทยาลัยเนชั่น การโปรแกรมเชิงวัตถุด้วยภาษา JAVA
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
ชนิดของข้อมูล ตัวแปร และตัวดำเนินการ
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ตัวแปรในภาษา JavaScript
แถวอักขระ (string) ง30212 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
ง30212 พื้นฐานการเขียนโปรแกรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงเรียนปลวกแดงพิทยาคม
ง30212 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนปลวกแดงพิทยาคม
Liang, Introduction to Java Programming, Sixth Edition, (c) 2007 Pearson Education, Inc. All rights reserved Java Programming Language.
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
Week 2 Variables.
การประมวลผลสายอักขระ
Computer Programming for Engineers
ความหมาย การประกาศ และการใช้
2 /* ข้อความนี้เป็นเพียงคำอธิบาย ไม่มีผลต่อขั้นตอนการ ทำงานของโปรแกรม */ /* A simple program to display a line of text */ #include void main ( ) { printf.
บทที่ 3 Class and Object (2).
บทที่ 3 ชนิดข้อมูล ตัวแปร นิพจน์และตัวดำเนินการ
คำสั่งเกี่ยวกับการรับ และแสดงผล
Computer Programming การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Output of C.
ตัวแปร Array แบบ 1 มิติ การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ
Java collection framework
Java Programming Java Structure and Datatype,Variable
CHAPTER 7 String Functions and Regular Expression
สายอักขระ เขียนโปรแกรม Java เบื้องต้น.
การแสดงผลและการรับข้อมูล (Data Output and Input)
หน่วยที่ 4 โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
บทที่ 2 โครงสร้างของภาษา C.
ตัวแปร และชนิดข้อมูล.
บทที่ 11 การจัดการข้อมูลสตริง
1 สตริง (String) การประกาศค่าตัวแปรสตริง การกำหนดค่าสตริง การอ้างอิงตัวอักษรแต่ละตัวในสตริง ฟังก์ชั่นที่ใช้ในการจัดการสตริง ฟังก์ชั่นในการเปลี่ยนรูปแบบของสตริง.
บทที่ 6 ตัวแปรชุดและ สตริง รายวิชา ง การเขียนโปรแกรมเชิง วัตถุ Reading: ใบความรู้ บทที่ 6.
Programming assignments ชื่องาน (subject) : program เขียนด้วยภาษา C หรือ C++ มีทั้งหมด 7 ข้อ กำหนดส่ง 29 กรกฎาคม 2554.
Variable, Constant. Variable คือชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจองพื้นที่ใน หน่วยความจำสำหรับ พักข้อมูล.
ใบสำเนางานนำเสนอ:

สตริง (String)

ความหมายของสตริง สตริง (string) หรือ ข้อความ หมายถึง ชุด(array)ของตัวอักขระ(character) ที่เรียงต่อ กัน การกำหนด string คือ การกำหนดอาร์เรย์ของข้อมูลชนิด char หลาย ๆ ตัวนำมา เชื่อมต่อกัน 'C','o','m','p','u','t','e','r' เก็บไว้ในอาร์เรย์รวมเป็นข้อมูล string ซึ่งจะได้สตริงคือ "Computer" [0] C [1] O [2] M [3] P [4] U [5] T [6] E [7] R

Class String ข้อมูลประเภทสตริง หรือ ข้อความนั้น ในภาษาจาวาจะต้องสร้างออบเจ็กต์ของคลาส สตริง โดยใช้ keyword คำว่า new ในการสร้าง String name1 = new String(“coffee”); String name2; name2 = new String (“Espresso”); มีข้อยกเว้นในคลาสนี้ ยกเว้นการใช้ new ได้ String name1 = “coffee”; name2 = “Espresso”;

การเปลี่ยนอักขระ เป็นสตริง char c = ‘a’; String s; int x =3; s = c + “ ”; System.out.print(s); s = ‘s’+ “pin”

Object และการอ้างอิง การประกาศและให้ค่าตัวแปรแบบทั่วไป จะเป็นการจองพื้นที่ในหน่วยความจำแล้ว นำค่าไปเก็บใส่พื้นที่บริเวณนั้นที่จองไว้ แต่การประกาศและให้ค่า object จะเป็นการจองพื้นที่หน่วยความจำไว้สำหรับอ้างอิง ไปยังพื้นที่หน่วยความจำอีกส่วนหนึ่งที่เก็บ object นั้นไว้

length() หาจำนวนอักขระในสตริง return เป็น int String s1 = “Hello"; int len = s1.length(); System.out.println(len);

charAt(int index) หาตัวอักขระในตำแหน่ง index ที่ระบุในสตริง return เป็นตัวอักขระที่พบ (char) String s1 = "Hello"; System.out.println(s1.charAt(0)); System.out.println(s1.charAt(3)); System.out.println(s1.charAt(5));

toUpperCase() และ toLowerCase() toUpperCase() เปลี่ยนข้อความสตริงให้เป็นตัวใหญ่ทั้งหมด return เป็น String toLowerCase() เปลี่ยนข้อความสตริงให้เป็นตัวเล็กทั้งหมด return เป็น String String s1 = “Hello"; String s2 = "WorlD"; s1 = s1.toUpperCase(); System.out.println(s1); System.out.println(s2.toLowerCase());

concat(String str) นำข้อความสตริง str ไปต่อท้ายสตริงที่กำหนด return เป็นสตริงที่ต่อกันแล้ว String fullname; String first = "John"; String last = "Terry"; fullname = first.concat(last); System.out.println(fullname); System.out.println("Hello ".concat("Mr. ").concat(fullname));

replace(char oldchar, char newchar) และ replaceAll(String oldstr, String newstr) replace : แทนค่าตัวอักขระ oldchar ด้วยอักขระ newchar ในสตริงที่กำหนด replaceAll : แทนค่าสตริง oldstr ด้วยสตริง newstr ในสตริงที่กำหนด String str1 = "Tom tried to get in the train"; String str2,str3; str2 = str1.replace('t','D'); str3 = str1.replaceAll("tr","aaa"); System.out.println(str2); System.out.println(str3);

trim() จะตัดเว้นวรรค หรือ space ของสตริงออกไป return เป็นสตริงที่ไม่มีช่องว่างในข้อความ String g1 = " Hello "; String g2 = g1.trim(); System.out.println("*" + g1 + "*"); System.out.println('*' + g2 + '*');

startsWith(String str) และ endsWith(String str) startsWith(String str) คืนค่าเป็นจริง หากสตริงที่กำหนดเริ่มต้นด้วยสตริง str endsWith(String str) คืนค่าเป็นจริง หากสตริงที่กำหนดลงท้ายด้วยสตริง str String a = "I met you seven years ago."; if (a.startsWith("Im")) System.out.println("begin with I"); else System.out.println("does not begin with I");

indexOf() และ lastIndexOf() ใช้ค้นหาตัวอักขระหรือสตริง ในข้อความที่ต้องการ return ค่าเป็นตำแหน่ง index ที่พบ String target = "banana mango"; System.out.println(target.indexOf('n')); System.out.println(target.indexOf("an")); System.out.println(target.indexOf(‘n’,6)); System.out.println(target.indexOf("an",5)); System.out.println(target.indexOf('e')); System.out.println(target.indexOf("x")); System.out.println(target.lastIndexOf('n')); System.out.println(target.lastIndexOf("an")); System.out.println(target.lastIndexOf(‘n’,6)); System.out.println(target.lastIndexOf("an",5));

indexOf() และ lastIndexOf() String sentence= "I like computer programming"; int position; System.out.println("letter r appears at "); position = sentence.indexOf('r',0); //หา r ตั้งแต่ index ที่ 0 while (position != -1) { System.out.println(position); position = sentence.indexOf('r',++position); //หา r ต่อโดยขยับ index }

substring() substring(int start) คืนค่าข้อความในสตริงตั้งแต่ตำแหน่ง start ในสตริง substring(int start, int end) คืนค่าข้อความในสตริงตั้งแต่ตำแหน่ง start ถึง end ใน สตริง String name = "Rajamangala University of Technology Tawan-ok"; System.out.println(name.substring(14)); System.out.println(name.substring(4,10));

valueOf() เปลี่ยนข้อมูลแบบต่างๆ ให้กลายเป็นสตริง valueOf(boolean b): Returns the string representation of the boolean argument. valueOf(char c) : Returns the string representation of the char argument. valueOf(char[] data) : Returns the string representation of the char array argument. valueOf(double d) : Returns the string representation of the double argument. valueOf(float f) : Returns the string representation of the float argument. valueOf(int i) : Returns the string representation of the int argument. valueOf(long l) : Returns the string representation of the long argument. valueOf(Object obj) : Returns the string representation of the Object argument.

valueOf() double d = 102939939.939; boolean b = true; long l = 1232874; char[] arr = {'a', 'b', 'c', 'd', 'e', 'f','g' }; System.out.println("Return Value : " + String.valueOf(d) ); System.out.println("Return Value : " + String.valueOf(b) ); System.out.println("Return Value : " + String.valueOf(l) ); System.out.println("Return Value : " + String.valueOf(arr) );

เปรียบเทียบสตริง ใช้เครื่องหมาย == ตรวจสอบว่าสตริงสองตัวมีออบเจ็กต์ตัวเดียวกันหรือไม่ (เช็คจาก addr ของสตริง) ใช้คำสั่ง equals() และ compareTo() ตรวจสอบสตริงจากค่าของข้อมูล (ไม่เช็คจาก address) String word1, word2; word1 = "Java"; word2 = "Java"; System.out.println(word1==word2); System.out.println(word1.equals(word2)); System.out.println(word1.compareTo(word2)); String word3, word4; word3 = new String("Java"); word4 = new String("Java"); System.out.println(word3==word4); System.out.println(word3.equals(word4)); System.out.println(word3.compareTo(word4));

แบบฝึกหัด 1 จงเขียนโปรแกรมตรวจสอบว่าสตริงสองค่าที่ผู้ใช้กรอกเข้ามานั้นเหมือนกันหรือไม่ โดยตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่ตัวเดียวกัน ให้มองว่าเหมือนกัน

แบบฝึกหัด 2 เขียนโปรแกรมรับ sentence จากผู้ใช้ และ keyword ที่ผู้ใช้ต้องการค้นหา โดย ตรวจสอบว่า sentence จากผู้ใช้นั้น พบ keyword ที่ต้องการค้นหากี่ครั้ง Challenge! ลองเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมว่าพบในตำแหน่งใดบ้าง