การตั้งท้องและการคลอดลูก (Gestation & Parturition) เนื้อหาที่ทำการสอน การฝังตัวของลูก/การยอมรับของแม่ ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้อง สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง รก & การพัฒนาของตัวอ่อน การคลอด การเปลี่ยนแปลงมดลูกหลังคลอด การกลับมาเป็นสัดหลังคลอด
กลไกการเกาะตัว Zona hatching ---> Trophoblast cell ขยายตัวเข้า เจาะ uterine epitherium โดยตัวอ่อนสร้าง protelytic enzyme ในสุกรเกิด Zona hatching วันที่ 7 และ endometrium สัมผัสกับ Trophoblast วันที่ 12 การเกาะตัวสมบูรณ์ ใน วันที่ 18-24 ในสุกร chorion และ uterine epitherium จะทาบตลอด แต่ในแกะ โค จะมี caruncle เป็นจุดๆเพื่อเกาะตัว
กลไกการเกาะตัว (ต่อ) ในโคจะเริ่มเกาะวันที่ 20 และใช้เวลา 2-3 วัน เกาะเสร็จ ในม้า blastocyst จะทาบกับผนังมดลูกโดยไม่เกาะ 2 เดือน และจะเริ่มเกาะประมาณสัปดาห์ที่ 10 และเสร็จสัปดาห์ที่ 14
การฝังตัวของตัวอ่อน (implantation) ในสัตว์ทั่วไป เป็นการทาบหรือเกาะ ส่วนคนและสัตว์ฟันแทะ เป็นลักษณะการฝังตัว ระหว่างการเกาะตัวกับผนังมดลูกตัวอ่อนจะผลิตสารบางอย่างออกมาเพื่อป้องกันการหลั่ง/ลดการตอบสนองต่อ Prostaglandin (maternal recognition) - สุกร ตัวอ่อนผลิต Estrogen หลังปฏิสนธิ 11-12 วัน - ม้า ผลิต Estrogen หลังปฏิสนธิ 8-20 วัน และผลิตสาร กลุ่ม protein ระหว่างวันที่ 12-14 - โค ตัวอ่อนผลิต bovine trophoblast protein 1(bTP-1) หลังปฏิสนธิ 15-21 วัน
ตัวลูกอ่อนถือเป็นเนื้อเยื่อแปลกปลอม ร่างกายแม่จะต่อต้านผ่าน T-cell แต่ทำไมลูกไม่ถูกกำจัดออกจนกว่าจะถึงกำหนดคลอด? จึงมีหลายทฤษฎีพยายามจะอธิบาย - ตัวอ่อนเป็น antigen ไม่สมบูรณ์ - ระบบภูมิคุ้มกันของแม่ไม่ทำงานหรือทำงานลดลงระหว่างการตั้งท้อง - มดลูกเป็นบริเวณพิเศษนอกเหนือระบบภูมิคุ้มกันปกติ มีการสร้างฉนวนทางภูมิคุ้มกันระหว่างแม่กับลูก
สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง 1. Vulva & Vagina ช่วงแรกจะแห้ง ซีด แต่หลัง5-6 เดือนจะมีระบบหมุนเวียนเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น 2. Cervix ปิดด้วย mucous plug / pregnancy plug 3. มดลูก ขยายตัวตามขนาด fetus และไม่บีบตัวจนกว่าใกล้คลอด proliferation, growth and stretch
สรีรวิทยาของแม่ขณะท้อง (ต่อ) 4. รังไข่ CL จะคงอยู่จน สัปดาห์ที่ 2 ก่อนคลอด (โค สุกร แพะ) ส่วนในม้า CL จะหายไปในเดือนที่ 7 5. Pelvic ligament & Pubic symphysis ใกล้คลอด Estrogen & Relaxin ---> คลายตัว
ฮอร์โมนในเลือด/ปัสสาวะขณะท้อง Estrogen: ต่างชนิดสัตว์ ต่างชนิดของ estrogen และมีระดับต่าง กันตามระยะการตั้งท้อง สัตว์ส่วนใหญ่จะมีการหลั่งเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้คลอด Pregnant mare serum gonadotropin (PMSG) หรือ Equine chorionic gonadotropin (eCG) ผลิตโดย Trophoblastic cell พบ 40-130 วันของท้อง ทำหน้าที่ให้มีการคงอยู่ของ 2nd CL
Progesterone
รกและบทบาทหน้าที่ (placenta & role) Amniotic cavity amniochorion พัฒนามาจาก Extraembryonic membrane หรือ Fetal membrane ประกอบด้วย 1. Amnion 2. Chorion 3. Yolk sac 4. Allantois 5. Umbilical cord chorion cotyledon Allantoic cavity
1203 312 Reprod. Physio. of Domestic Animal ชนิดของรก: แบ่งตามรูปร่าง 1203 312 Reprod. Physio. of Domestic Animal โค แกะ ม้า Convex Concave Diffuse S.Suwanlee, Anim. Sci., Agriculture Ubon Univ.
1203 312 Reprod. Physio. of Domestic Animal ชนิดของรก : แบ่งตามรูปร่าง S.Suwanlee, Anim. Sci., Agriculture Ubon Univ.
แบ่งตามรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ของ placentomes ชนิดของรก แบ่งตามรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเซลล์ของ placentomes
แบ่งตามการสูญเสียเนื้อเยื่อของแม่ระหว่างการคลอด ชนิดของรก แบ่งตามการสูญเสียเนื้อเยื่อของแม่ระหว่างการคลอด 1. ไม่สูญเสีย (nondeciduate): สุกร ม้า 2. สูญเสียปานกลาง (moderate): สุนัข แมว 3. สูญเสียรุนแรง(extensive) : คน ลิง
การแลกเปลี่ยนสารเคมีที่รก หน้าที่ของรก ทำหน้าที่แทนระบบย่อยอาหาร ปอด ตับ ไต ต่อมไร้ท่อ และแยกเนื้อเยื่อแม่กับลูกออกจากกัน การแลกเปลี่ยนสารเคมีที่รก Gas Fluid to Fluid O2 : Haemoglobin ของลูกมีประสิทธิภาพในการจับ ได้ดีกว่าของแม่ CO2 : แพร่ (diffuse) จากเลือดลูกสู่เลือดแม่ เลือดแม่รวมตัวกับ CO2 ได้ดีกว่า
โค: ตั้งท้อง 26 วัน
โค:ตั้งท้อง 37 วัน
โค: ตั้งท้อง 37 วัน
โค: ตั้งท้อง 60 วัน
โค: ตั้งท้อง 78 วัน
โค: ตั้งท้อง 105 วัน
การแลกเปลี่ยนโภชนะและของเสีย Glucose, Vitamin & Amino acid Active transport & carrier system ที่รกมีการสร้าง glycogen และเปลี่ยน glucose เป็น fructose (70-80 % ของน้ำตาลในเลือดตัวอ่อน) Free fatty acids & glycerol : diffusion Polypeptide ผ่านได้ช้าๆ แต่โปรตีนผ่านไม่ได้ ในคน immunoglobulin ผ่านหาตัวลูกอ่อนได้ วิตามินที่ละลายในไขมันผ่านได้น้อยมาก วิตามินละลายในน้ำผ่านได้สะดวก
บทบาทฮอร์โมนจากรก ในช่วงท้ายของการตั้งท้องของม้า โค สุกร แกะ จะเปลี่ยน P4 เป็น Estrogen มากขึ้น โดยการกระตุ้นของ Cortisol จากตัวอ่อน ผลิต Placental lactogen (Chorionic somatomammotropin) รกของม้าและแกะสามารถผลิต P4 ได้เพียงพอสำหรับอุ้มชู การตั้งท้อง
การพัฒนาของลูกในท้อง แบ่งเป็น 3 ระยะ 1. Ovum period : ปฏิสนธิจนถึงเริ่มเกาะตัว 2. Embryonic period : โค วันที่ 15-45 ของการตั้งท้อง แกะ 12-34 “” ม้า 12-60 “” 3. Fetal period : โค วันที่ > 45 ของการตั้งท้อง แกะ > 34 “” ม้า > 60 “” ** ช่วง 1/3 เดือนสุดท้ายลูกโตเร็วมาก ส่วนหัว& ขาพัฒนาดีกว่ากล้ามเนื้อ
ระบบไหลเวียนเลือดของลูกในท้อง เลือดไม่ผ่านตับโดยเปลี่ยนเส้นทางไปออก ductus venosus ไม่ผ่านปอด แต่ตรงไปยัง ductus arteriosus อัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าสัตว์เมื่อโตเต็มวัย โค 120-140 ครั้ง/นาที แกะ 170-220 ครั้ง/นาที
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของลูกในท้อง
ระยะเวลาตั้งท้อง(Gestation /Pregnancy)
ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของการตั้งท้อง
การตรวจการตั้งท้อง 1. สังเกตการไม่กลับสัด : 60 หรือ 90 วันหลังผสม 2. สังเกตการเปลี่ยนแปลงสรีระของแม่ 3. มือล้วงตรวจทางทวารหนัก 4. ใช้ Radiography 5. Ultrasonograghy: คลื่นเสียง 1-10 MHz 6. ตรวจเนื้อเยื่อผนังช่องคลอด (vagina biopsy) 7. ตรวจหาฮอร์โมน : ม้า eCG, คน hCG, โค P4 สุกร prostaglandins, สัตว์ฟาร์ม estrone sulfate 8. Laparoscopy เจาะช่องท้อง
การคลอด (parturition) ลักษณะอาการเมื่อใกล้คลอด 1. การจัดตำแหน่งของลูก 2. การเปลี่ยนแปลงของเต้านม 3. กระดูกเชิงกรานขยาย อวัยวะเพศบวมน้ำ 4. โค แกะ แยกตัวออกจากฝูง/ พฤติกรรมสร้างรังในสุกร
ทฤษฎีเบื้องต้นของขบวนการคลอด การกระตุ้นเริ่มจากลูกและทำให้เสร็จสมบูรณ์โดยการทำงานร่วมกันของต่อมไร้ท่อและ ระบบประสาท ทฤษฎีเบื้องต้นของขบวนการคลอด การลดลงของฮอร์โมน P4 การเพิ่มขึ้นของ Estrogen การหลั่งของ Oxytocin และ PGF 2alpha การทำงานของ hypothalamic-pituitary-adrenal axis ของลูก ขนาดและน้ำหนักลูก
การขับลูกออก (stage of labor) แบ่งเป็น 3 ระยะ 1. การถ่างของคอมดลูก(dilation of the cervix) 2. การบีบลูกออก (expulsion of the fetus) 3. การขับรกออก (expulsion of the placenta) 1 2 3 มดลูกเข้าอู่ ม้า 1-4 0.2-0.5 1 - โค-กระบือ 2-6 0.5-1.0 6-12 35-45 แกะ 2-6 0.5-2.0 0.8-8 25-30 สุกร 2-12 2.5-3.0 1-4 25-28
การปรับตัวของลูกหลังคลอด 1. ระบบการไหลเวียนของเลือด/การทำงานของปอด 2. การควบคุมอุณหภูมิ 3. การสร้างพลังงาน: glycogen ที่ตับและกล้ามเนื้อ 4. ระบบภูมิคุ้มกัน: passive immunity หนู กระต่าย คน ผ่านรก แต่สัตว์ฟาร์มต้องรับจาก colostrum ภายใน 36 ชม.หลังคลอด
การคืนสู่สภาพปกติของแม่หลังคลอด 1. มดลูกเข้าอู่ (uterine involution) กลับตำแหน่งและขนาดเดิม : การสลายตัว ของ Caruncle, Myometrium (PGF2alpha) บีบตัวเพื่อขับ bacteria, เมือก และเนื้อเยื่อเก่าออก สร้าง uterine epithelium ใหม่ สัตว์ที่มีรกแบบ diffuse placenta จะคืนสภาพเร็วกว่า แบบ cotyledonary placenta
2. การกลับมามีวงรอบการเป็นสัดหลังคลอด โค : ภายใน 50 วันหลังคลอด ~ 95 %ของโคนม ~ 40 %โคเนื้อ ลูกดูดนม & รีดนมบ่อยครั้งขึ้น จะกลับสัดช้ากว่า ม้า : ภายใน 6-13 วัน สุกร : ระหว่างเลี้ยงลูกอาจเป็นสัดแต่ไม่มีการตกไข่ จะเป็นสัด/ตกไข่ 3-5 วันหลังหย่านม ** การไม่เป็นสัดหลังคลอดส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการ GnRH ไม่หลั่ง/ gonadotropins หลั่งไม่มากพอ
การเหนี่ยวนำการคลอด สำหรับโค การใช้ Corticosteriod : กระตุ้นการเปลี่ยน P4 เป็น estrogen เพิ่มขึ้น ใช้ฉีด 2-3 wk ก่อนคลอด ส่วนใหญ่จะ คลอดภายใน 72 ชม.หลังฉีด การใช้ Prostaglandins : กำจัด CL, คลอด2-3 วันหลังฉีด การใช้ P4 + PG : ลดบทบาทและทำลาย CL
การเหนี่ยวนำการคลอด (ต่อ) สำหรับสุกร การใช้ Glucocorticoiod : กระตุ้นให้ผลิต PGF2alpha ใช้ ฉีดเมื่อต้งท้อง>100 วัน ส่วนใหญ่จะเกิดรกค้าง ลูกตายมาก การใช้ Oxytocin : ฉีด 2-3 ชม.ก่อนคลอดและมักฉีดหลัง PG การใช้ PGF2alpha และ analogues (cloprosrenol): 2-3 วันก่อนคลอด การใช้ PG + Xylazine (rompun, alpha-2-adrenergic agonist) การใช้ estradiol+ PG