Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน 886201 หลักการโปรแกรม 1 Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน
Nested Loops Nested loop มักจะถูกใช้กับข้อมูลที่มีลักษณะเป็นตาราง มีแถวและคอลัมน์ การประมวลผลข้อมูลแต่ละแถวแต่ละหลักจะเป็นลักษณะ loop ซ้อน loop มี loop นอก และ loop ใน สำหรับวนประมวลผลข้อมูลแต่ละแถวแต่ละหลัก
ลองเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลดังตารางต่อไปนี้ Nested Loops ลองเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลดังตารางต่อไปนี้
Nested Loops จากโจทย์ข้างต้น จะเห็นว่าข้อมูลมี 4 คอลัมน์ สำหรับแสดงค่า x1 ถึง x4 ข้อมูลแต่ละแถวในตาราง เป็นค่า x ตั้งแต่ 1 ถึง 10
Nested Loops ข้อมูลแต่ละแถวในตาราง เป็นค่า x ตั้งแต่ 1 ถึง 10
Nested Loops
The Complete Program for Table of Powers #include <iostream> #include <iomanip> #include <cmath> using namespace std; int main() { const int NMAX = 4; const double XMAX = 10; // Print table header for (int n = 1; n <= NMAX; n++) cout << setw(10) << n; } cout << endl; cout << setw(10) << "x "; cout << endl << endl;
for (double x = 1; x <= XMAX; x++) { // Print table row // Print table body for (double x = 1; x <= XMAX; x++) { // Print table row for (int n = 1; n <= NMAX; n++) cout << setw(10) << pow(x, n); } cout << endl; return 0; The program run would be:
ตัวอย่าง 1 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ n for i from 1 to n for j from 1 to n print “A” end for for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( int j = 1; j <= n; j++ ) { cout << “A”; } cout << endl;
ตัวอย่าง 2 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i for i from 1 to n for j from 1 to i print “A” end for for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( int j = 1; j <= i; j++ ) { cout << “A”; } cout << endl;
แบบฝึกหัดที่ 1 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i
แบบฝึกหัดที่ 2 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i
แบบฝึกหัดที่ 3 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ n
ตัวอย่าง 3 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n เขียนโปรแกรมรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดแรก หรือ บรรทัดสุดท้าย แสดง * จำนวน n ตัว บรรทัดอื่น ๆ แสดง A จำนวน n ตัว for i from 1 to n for j from 1 to n if i = 1 or i = n print * else print A end if end for จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n
ตัวอย่าง 4 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ เขียนโปรแกรมรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคี่ แสดง ^ จำนวน n ตัว ถ้าเป็นบรรทัดคู่ แสดง v จำนวน n ตัว for i from 1 to n for j from 1 to n if i is odd print ^ else print v end if end for จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n
แบบฝึกหัดที่ 4 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i ลองเขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคี่ แสดง [ ] จำนวนเท่ากับ หมายเลขบรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคู่ แสดง ( ) จำนวนเท่ากับ หมายเลขบรรทัด จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i
ตัวอย่าง 5 เขียนโปรแกรมรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้ int j; ช่องว่าง ตัวเลข 1 3 2 4 int j; for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( j=1; j<=n-i; j++ ) { cout << “ ”; } for( ; j <= n; j++) { cout << i; cout << endl;
ตัวอย่าง 6 เขียนโปรแกรมรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้ i ช่องว่าง ตัวเลข 4 1 3 2 for ( int i = 0; i < n; i++ ) { for ( int j=0; j < i; j++ ) { cout << “ ”; } for ( int j = i ; j < n ; j++ ) { cout << n - i; cout << endl;
แบบฝึกหัดที่ 5 ลองเขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้
แบบฝึกหัดที่ 6 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร for (i = 1; i <= 4; i++) for (j = 1; j <= i; j++) cout << "*"; cout << endl;
โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร for (i = 1; i <= 4; i++) for (j = 1; j <= i; j++) cout << "*"; cout << endl; * * * * * * * * * *
แบบฝึกหัดที่ 7 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร for (i = 1; i <= 3; i++) { for (j = 1; j <= 5; j++) { if (i + j % 2 == 0) { cout << "*"; } else { cout << " "; } cout << endl;
โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร for (i = 1; i <= 3; i++) { for (j = 1; j <= 5; j++) { if (i + j % 2 == 0) { cout << "*"; } else { cout << " "; } cout << endl; The output will be: * * * * *