Principles of Accounting I Asst.Prof.Dr. Panchat Akarak p.thipnew1@hotmail.com School of Accounting Chiang Rai Rajabhat University Principles of Accounting I
Principles of Accounting I Introductions Principles of Accounting I
Principles of Accounting I Introductions ลำดับนำเสนอ วิวัฒนาการการบัญชี ความหมาย ประโยชน์ของการบัญชี ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 รายการค้า การบันทึกรายการค้า Principles of Accounting I
Principles of Accounting I วิวัฒนาการก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 13 ช่วง ค.ศ. 1340 (พ.ศ. 1883) พบว่ามีการบันทึกทางการเงินตามระบบบัญชีคู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ และเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี ปัจจุบันเขียนไว้ในตำราของ Luca ซึ่งนักคณิตศาสตร์และบาทหลวง ชาวอิตาเลี่ยน และ มีการตั้งธนาคารที่กรุงเวนิส Principles of Accounting I
Principles of Accounting I ศตวรรษที่ 13-17 Luca Pacioli เขียนตำราชื่อ “Summa de Arithmetica Geoetria, Proportioniet Proportionalite” ในตำรามีบทหนึ่งว่าด้วยการคำนวณและการบัญชีคู่ และได้รับความนิยมแพร่หลายในยุโรป Principles of Accounting I
Principles of Accounting I ศตวรรษที่ 13-17 ในปลายศตวรรษที่ 15 ประเทศอิตาลี เริ่มเสื่อมอำนาจทางการค้า เพราะมีการค้นพบเส้นทางการค้าใหม่ๆ ศูนย์กลางการค้าจึงย้ายจากประเทศอิตาลีไปอยู่แถบสเปน โปรตุเกส และฮอลันดา ทำให้ระบบบัญชีคู่แพร่หลายไปประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น Principles of Accounting I
Principles of Accounting I การถือกำหนดของระบบการบัญชีคู่ ระบบบัญชีคู่ (Double-entry System) หมายถึง การบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นแต่ละรายการ สองด้านเสมอ ด้านซ้ายเรียกว่า “เดบิต” และด้านขวาเรียกว่า “เครดิต” บัญชีหนึ่งหรือหลายบัญชี ทั้งนี้ยอดจำนวนเงินรวมกันในแต่ละด้านต้องเท่ากันเสมอ Debit มาจาก Debitor เขียนย่อว่า Dr. Credit มาจาก Creditor เขียนย่อว่า Cr. Principles of Accounting I
การบัญชีในประเทศไทย(ต่อ) การบัญชีคู่ในประเทศไทยสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นในรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้มีการปฏิรูปการเงิน การคลังและที่กำหนดให้ธุรกิจการค้านำส่งรายได้ให้กับรัฐบาล โดยต้องจัดเก็บข้อมูลรายได้และค่าใช้จ่ายเพื่อยื่นต่อรัฐบาล ซึ่งเป็นผลให้เกิด การพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลในธุรกิจเอกชน Principles of Accounting I
การบัญชีในประเทศไทย(ต่อ) สมัยรัชกาลที่ 5 ให้มีการจัดทำรายรับ รายจ่าย และตั้งสำนักงานตรวจสอบบัญชีต่างๆ ที่นำขึ้นทูลเกล้าให้ทรงทราบทุกปี พ.ศ. 2418 ให้มีการบรรจุการบัญชีในโรงเรียนหลวง พ.ศ. 2428 ให้เปิดสอนการค้าขายและเริ่มการสอนการบัญชี ตามหลักการบัญชีคู่โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศส สมัยรัชกาลที่ 6 ตั้งโรงเรียนพาณิชยการ เพื่อให้ความรู้ใน วิชาการค้าขาย
การบัญชีในประเทศไทย(ต่อ) การบัญชีในประเทศไทย จึงน่าจะมีการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของรัฐบาลเป็นสำคัญ นั่นคือ ด้านกฎหมายและภาษีอากร มีผลต่อการปฏิบัติการทางบัญชีของธุรกิจในสมัยนั้น Principles of Accounting I
การบัญชีในประเทศไทย(ต่อ) เมื่อธุรกิจการค้าเริ่มมีมากขึ้น การจัดเก็บและการบันทึกข้อมูลที่แตกต่างกัน ทำให้การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานรัฐบาลเริ่มมีปัญหามากขึ้น เนื่องจากมีวิธีการบัญชีที่แตกต่างกัน จนทำให้ไม่สามารถประเมินความถูกต้องของบัญชีที่ยื่นรายงานต่อหน่วยงานรัฐบาลได้ Principles of Accounting I
การบัญชีในประเทศไทย (ต่อ) พ.ศ. 2455 มีพระราชบัญญัติลักษณะการเข้าหุ้นส่วนและบริษัท กำหนดให้บริษัทจำกัดต้องจัดทำบัญชีและมีผู้สอบบัญชี ตรวจสอบ (เรียกว่า รัตนโกสินทร์ ศก 130) พ.ศ. 2467 ยกเลิก รัตนโกสินทร์ ศก 130 และประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 22 ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัทและกำหนดให้มีการบันทึกบัญชี จำนวนเงินรับจ่าย และจัดทำงบดุล บัญชีกำไรขาดทุนอย่างน้อยปีละครั้ง งบดุลจะต้องมีผู้สอบบัญชีตรวจสอบ
การบัญชีในประเทศไทย (ต่อ) พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 24 มิ.ย. 2475 ทำให้มีการตื่นตัวทางเศรษฐกิจ และเนื่องจากมีผู้สำเร็จการศึกษาทางการบัญชีจากต่างประเทศ เช่น พระยาไชยยศสมบัติ หลวงดำริอิศรานุวรรต นายห้อง บุนนาค นายจรูญ วิมลศิริ นายยุกต์ ณ ถลาง ได้รวมกลุ่มกันตั้งสมาคมวิชาชีพบัญชี
การบัญชีในประเทศไทย (ต่อ) พ.ศ. 2482 รัฐบาลได้ออกประมวลรัษฎากรบังคับใช้จัดเก็บภาษีเงินได้นิติ บุคคลจากกำไรสุทธิสำหรับปี และจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยประเมินจากยอดรายรับ พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2482 เป็นกฎหมายว่าด้วย การบัญชีฉบับแรก และมีการแก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ. 2496 และถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2515 (ใช้ ปว.285) และ ปว.285 ถูกยกเลิกด้วย พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ.2543 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2543 เป็นต้นมา Principles of Accounting I
การบัญชีในประเทศไทย(ต่อ) ประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 22 ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัทและกำหนดให้มีการบันทึกบัญชี จำนวนเงินรับจ่าย และจัดทำงบดุล บัญชีกำไรขาดทุนอย่างน้อยปีละครั้ง งบดุลจะต้องมีผู้สอบบัญชีตรวจสอบ พ.ร.บ. ผู้สอบบัญชี พ.ศ. 2505 เพื่อให้มีผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และตรวจสอบงบดุลของห้างหุ้นส่วนและบริษัท จนกระทั่งมีการปรับปรุงกฎหมายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลง จึงได้มี พ.ร.บ. วิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 จึงทำให้ พ.ร.บ.ผู้สอบบัญชี พ.ศ. 2505 ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2547 Principles of Accounting I
Definitions of Accounting ราชบัณฑิตยสถาน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 “ หมายถึง สมุดหรือกระดาษสำหรับจดรายการต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน “การบัญชี” หมายถึง เรื่องที่เกี่ยวกับการจดรายการไว้ในสมุดหรือกระดาษ เพื่อเป็นหลักฐาน หมายถึง งาน สิ่ง หรือเรื่องที่ทำ ถ้าอยู่หน้านาม หมายความว่า เรื่อง ธุระ หน้าที่ “การ” “บัญชี” + = Principles of Accounting I
Definitions of Accounting คณะกรรมการศัพท์บัญชีของสมาคม ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งสหรัฐอเมริกา (AICPA) “การบัญชี” คือ ศิลปะของการบันทึก การจัดประเภท และการสรุปในลักษณะที่มีนัยสำคัญและในรูปของจำนวนเงินของรายการและเหตุการณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะ ทางการเงินและการแปลความหมายของผลลัพธ์ดังกล่าว Principles of Accounting I
Definitions of Accounting สมาคมการบัญชีสหรัฐอเมริกา (AAA) “การบัญชี” เป็นกระบวนการของการระบุ การวัดมูลค่า และการสื่อสารข้อมูลหรือสารสนเทศทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้ใช้สารสนเทศนั้น มีดุลยพินิจและตัดสินใจ Principles of Accounting I
Definitions of Accounting สภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สบช.) “การบัญชี” คือ ศิลปะของการเก็บรวบรวม บันทึก จำแนก และทำสรุปข้อมูล อันเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสุดท้ายของการบัญชีคือ การให้ข้อมูลทางการเงินที่เป็นประโยชน์แก่บุคคลหลายฝ่ายและ ผู้ที่สนใจในกิจกรรมงบการเงิน Principles of Accounting I
Definitions of Accounting การบัญชีมีความหมายที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1) การรวบรวม (Collecting) 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) 4) การสรุป (Summarizing) เพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย การทำบัญชี การให้ข้อมูลทางการเงิน Principles of Accounting I
Definitions of Accounting 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) การทำบัญชี 1) การรวบรวม (Collecting) 4) การสรุป (Summarizing) Principles of Accounting I
Definitions of Accounting 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) การทำบัญชี 1) การรวบรวม (Collecting) 4) การสรุป (Summarizing) การรวบรวมข้อมูลหรือรายการค้าที่เกิดขึ้นประจำวัน และหลักฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ เช่น หลักฐานการซื้อเชื่อ และ ขายเชื่อ หลักฐานการรับและจ่ายเงิน เป็นต้น Principles of Accounting I
Definitions of Accounting 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) การทำบัญชี 1) การรวบรวม (Collecting) 4) การสรุป (Summarizing) การจดบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งให้ถูกต้องตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน พร้อมกับบันทึกข้อมูลให้อยู่ในรูปของหน่วยเงินตรา Principles of Accounting I
Definitions of Accounting 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) การทำบัญชี 1) การรวบรวม (Collecting) 4) การสรุป (Summarizing) การนำข้อมูลที่จดบันทึกไว้แล้ว มาจำแนกให้เป็นหมวดหมู่บัญชีประเภทต่างๆ ได้แก่ สินทรัพย์ (Assets) หนี้สิน (Liabilities) ส่วนของเจ้าของ (Owners’ Equity) รายได้ (Revenues) และค่าใช้จ่าย (Expenses) Principles of Accounting I
Definitions of Accounting 2) การบันทึก (Recording) 3) การจำแนก (Classifying) การทำบัญชี 1) การรวบรวม (Collecting) 4) การสรุป (Summarizing) การนำข้อมูลที่ได้จำแนกให้เป็นหมวดหมู่บัญชีประเภทต่างๆ มาสรุปเป็นรายงานทางการเงิน ซึ่งแสดงถึงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ ตลอดจนการได้มาและการใช้ไปของเงินสดในรอบระยะเวลาบัญชีหนึ่ง Principles of Accounting I
เพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย Financial Information Benefit of Accounting เพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย Investor Public Sector Financial Information Lender Revenue Sector Creditor Government Supplier Customer Employee Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (Generally Accepted Accounting Principles : GAAP) 2481 - 2521 มาตรฐานการบัญชี (Thai Accounting Standards : TAS) 2522 - 2551 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน (Thai Financial Reporting Standards : TFRS) 2552 - ปัจจุบัน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน 2 ชุด (PAEs & NPAEs) 2554 - ปัจจุบัน Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (Generally Accepted Accounting Principles : GAAP) 2481 - 2521 ใช้ GAAP ซึ่งมาจากหลักการบัญชีของอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ผ่านทางตำราเรียนทางการบัญชี และอาจารย์ผู้สอนทางการบัญชี ที่สำเร็จการศึกษามาจาก 2 ประเทศดังกล่าว Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน มาตรฐานการบัญชีไทย (Thai Accounting Standards : TAS) 2522 - 2551 - ในช่วงแรก ส.บช. ออกมาตรฐานการบัญชีไทย (Thai Accounting Standards : TAS) โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานการบัญชีของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Accounting Standards : IAS) - ในระยะหลังตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ประเทศไทยพัฒนา TAS โดยอ้างอิงจาก IAS เป็นหลัก จึงมีมาตรฐานการบัญชีเพียงชุดเดียวที่ใช้กับทุกกิจการตามแนวคิดที่ว่า “One size fits all” (มาตรฐานการบัญชีชุดเดียวเหมาะกับกิจการทุกขนาดทุกประเภท ด้วยเหตุผลที่ว่า มาตรฐานการบัญชีมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะนำไปใช้ได้กับทุกกิจการ) Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน มาตรฐานการรายงานทางการเงินไทย (Thai Financial Reporting Standards : TFRS) 2552 - ปัจจุบัน สภาวิชาชีพบัญชีออกมาตรฐานการรายงานทางการเงิน (Thai Financial Reporting Standards : TFRS) โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards : IFRS) ซึ่งออกโดย IASB ที่ยังคงยึดแนวคิดเดิมคือ “One size fits all” Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน 2 ชุด 2554 - ปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2554 สภาวิชาชีพบัญชีฯ ได้กำหนดมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (TFRS for NPAEs) ขึ้นมาชุดหนึ่งเรียกว่า ชุดเล็ก และมาตรฐานการรายงานทางการเงินเดิมใช้สำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (TFRS for PAEs) เรียกว่า ชุดใหญ่ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป ประเทศไทยมีมาตรฐานการรายงานทางการเงิน 2 ชุด คือ ชุดใหญ่ (TFRS for PAEs) และชุดเล็ก (TFRS for NPAEs) Principles of Accounting I
ความเป็นมาของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน สภาวิชาชีพบัญชี กำหนดให้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน เป็น 2 ระดับ 1 PAEs (Public Accountable Entities) = กิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ชุดใหญ่ TFRSs for PAEs แปลและเรียบเรียงจาก IFRSs + US GAAP + Local GAAP NPAEs (Non-Public Accountable Entities) = กิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ = กิจการที่ไม่ใช่ PAEs 2 ชุดเล็ก TFRSs for NPAEs Principles of Accounting I
Principles of Accounting I 1) กิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (Publicly Accountable Entities : PAEs) 1.1 กิจการที่มีตราสารทุนหรือตราสารหนี้ของกิจการ ซึ่งมีการซื้อขายในตลาด สาธารณะ (ไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ในประเทศหรือต่างประเทศ หรือการซื้อขายนอก ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งตลาดในท้องถิ่นหรือในภูมิภาค) หรือกิจการที่นำส่งหรืออยู่ใน กระบวนการของการนำส่งงบการเงินของกิจการให้แก่สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) หรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการออกขาย หลักทรัพย์ใดๆ ในตลาดสาธารณะ 1.2 กิจการที่ดำเนินธุรกิจหลักในการดูแลสินทรัพย์ของกลุ่มบุคคลภายนอกในวง กว้าง เช่น สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนรวม ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น 1.3 บริษัทมหาชนจำกัด ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด 1.4 กิจการอื่นที่กำหนดเพิ่มเติม (ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด) Principles of Accounting I
บริษัท มหาชน จำกัด (Listed Company) แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ จดทะเบียนเป็น บริษัทมหาชนจำกัด แต่ยังไม่ได้เข้าตลาด ยื่นเรื่องต่อ กลต. เพื่อเข้าตลาด (IPO : Initial Public Offering) 3) บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดแล้ว 4) เคยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ แล้วออกมา Principles of Accounting I
Principles of Accounting I 2) กิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (Non-Publicly Accountable Entities : NPAEs) หมายถึง กิจการที่ไม่ใช่กิจการที่มี ส่วนได้เสียสาธารณะ (Publicly Accountable Entities : PAEs) Principles of Accounting I
กฎหมายการบัญชี : พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 -มีผลบังคับใช้ 10 สิงหาคม 2543 (บังคับใช้แทน ปว. 285 พ.ศ. 2515) -เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการทำบัญชีของธุรกิจ -แบ่งเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี และ ผู้ทำบัญชี Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี 1) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน 2) บริษัท จำกัด 3) บริษัท มหาชน จำกัด 4) นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ แต่ประกอบธุรกิจ ในประเทศไทย 5) กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร 6) สถานที่ประกอบธุรกิจเป็นประจำ (สาขา) 7) บุคคลธรรมดา/ห้างหุ้นส่วนสามัญ ที่เป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย นำเข้ามา หรือ ส่งออก สินค้าประเภทแถบเสียง แถบวีดีทัศน์ 8) กิจการประกอบธุรกิจ “งาช้าง” Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 ผู้ทำบัญชี 1) พนักงานของกิจการ ผู้อำนวยการบัญชี/ สมุห์บัญชี /หัวหน้าแผนกบัญชี 2) สำนักงานบริการทำบัญชี หัวหน้าสำนักงาน/ หุ้นส่วนที่รับผิดชอบ 3) ผู้รับจ้างอิสระ ผู้ประกอบวิชาชีพ กรณีรับทำบัญชีเกินกว่า 100 ราย จะต้องมีผู้ช่วยทำบัญชีและรับผิดชอบด้วย Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 หน้าที่ความรับผิดชอบของ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี 1. ควบคุมดูแลการจัดทำบัญชี ดังนี้ 1) การจัดทำบัญชี -วันที่เริ่มจัดทำบัญชี -ประเภทบัญชีที่ต้องจัดทำ -การลงรายการในบัญชี 2) จัดทำบัญชีให้มีการแสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินตาม ความเป็นจริงและมีเอกสารหลักฐานประกอบการลงบัญชีครบถ้วน 3) จัดเก็บเอกสารและสมุดบัญชีไว้ ณ สถานประกอบธุรกิจ Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 หน้าที่ความรับผิดชอบของ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี (ต่อ) 4) บัญชีและเอกสารฯ สูญหายจะต้องแจ้งภายใน 15 วัน 5) บัญชีและเอกสารฯ จะต้องจัดเก็บไว้ไม่ต่ำกว่า 5 ปีนับแต่วันปิดบัญชี 6) นิติบุคคลต่างประเทศ กิจการร่วมค้า บุคคลธรรมดาฯ เมื่อเลิกกิจการ จะต้องส่งมอบบัญชีและเอกสารฯภายใน 90 วันนับแต่วันเลิกประกอบธุรกิจ 7) ปิดบัญชีทุก 12 เดือน Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 หน้าที่ความรับผิดชอบของ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี 2. จัดทำและจัดส่งงบการเงิน 1) งบการเงินที่ต้องจัดทำ 2) รูปแบบงบที่ต้องจัดทำตามรายการย่อ (ตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2554) 3) งบการเงินต้องผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี 4) การนำส่งงบการเงินและสถานที่จัดส่ง Principles of Accounting I
Principles of Accounting I รูปแบบงบที่ต้องจัดทำตามรายการย่อ (ตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2554) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน รายการย่อตามแบบ ๑ บริษัทจำกัด รายการย่อตามแบบ ๒ บริษัทมหาชนจำกัด รายการย่อตามแบบ ๓ นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ รายการย่อตามแบบ ๔ กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร รายการย่อตามแบบ ๕ Principles of Accounting I
ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีแต่ละประเภทต้องจัดทำงบการเงิน ดังนี้ แบบ/ ผู้มีหน้าที่จัดทำ บัญชี งบแสดง ฐานะการเงิน งบกำไร ขาดทุน เบ็ดเสร็จ งบกำไร ขาดทุน งบแสดง การเปลี่ยนแปลง ส่วนของเจ้าของ งบกระแส เงินสด งบการเงิน รวม หมายเหตุ ประกอบ งบการเงิน งบการเงิน เปรียบเทียบ กับปีก่อน ๑ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน / - ๒ บริษัทจำกัด ๓ บริษัทมหาชนจำกัด ๔ นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ๕ กิจการร่วมค้าตาม ประมวลรัษฎากร Principles of Accounting I
Principles of Accounting I พ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 คุณสมบัติของผู้ทำบัญชี -สำเร็จการศึกษาสาขาการบัญชี ระดับ ปวส. ปริญญาตรี หน้าที่ของผู้ทำบัญชี -จัดทำบัญชีให้แสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน -ลงรายการบัญชีเป็นภาษาไทย -เขียนด้วยหมึก ดีดพิมพ์ ตีพิมพ์ -ทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี Principles of Accounting I
Business Transaction รายการค้า (Business Transaction) หมายถึง เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และมีผลกระทบต่อ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ และค่าใช้จ่าย
Business Transaction Analysis การวิเคราะห์รายการค้า (Business Transaction Analysis) หมายถึง การแยกแยะว่าเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง มีผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ และค่าใช้จ่าย อย่างไร ซึ่งต้องอาศัยความสัมพันธ์ในรูปของสมการบัญชี (Accounting Equation)
ตัวอย่างรายการค้า 25x5 มกราคม 5 นำเงินสดมาลงทุน 50,000 บาท 12 นำเงินเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2,000 บาท 13 ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน 3,000 บาท 15 จ่ายเงินเดือนพนักงาน งวดครึ่งเดือน 5,000 บาท 15 รับรายได้ค่าบริการตั้งแต่วันที่ 6-15 15,000 บาท 16 ซื้อวัสดุสิ้นเปลืองเป็นเงินเชื่อ 5,000 บาท 18 จ่ายค่าน้ำมันรถ 100 บาท 20 จ่ายค่ารับรองลูกค้า 200 บาท 25 รับรายได้ค่าบริการ วันที่ 16-25 18,000 บาท
= = + Accounting Equation สินทรัพย์ (Assets) หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ (Liabilities) ส่วนของเจ้าของ (Equity) = = +
= + Accounting Equation ซ้าย= Debit (Dr.) ขวา= Credit (Cr.) หนี้สิน (Liabilities) สินทรัพย์ (Assets) = + ส่วนของเจ้าของ (Equity)
บันทึกบัญชีด้านเครดิต (Cr.) Accounting Equation วิเคราะห์รายการค้า บันทึกบัญชีด้านเดบิต (Dr.) สินทรัพย์ เพิ่มขึ้น หนี้สิน ลดลง ส่วนของเจ้าของ ลดลง บันทึกบัญชีด้านเครดิต (Cr.) สินทรัพย์ ลดลง หนี้สิน เพิ่มขึ้น ส่วนของเจ้าของ เพิ่มขึ้น
Accounting Equation Assets Liabilities + Equity Assets Increase Assets Decrease Liabilities Decrease Liabilities Increase Equity Decrease Equity Increase
Accounting Equation Assets Liabilities + Equity Assets Increase Assets Decrease Liabilities Decrease Liabilities Increase Equity Decrease Equity Increase Revenue Decrease Revenue Increase Expense Increase Expense Decrease
Accounting Equation Assets Liabilities + Equity Assets + Assets - Revenue - Revenue + Expense + Expense -
แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่รายงาน Financial Position Assets Liabilities + Equity Assets + Assets - Liabilities - Liabilities + Equity - Equity + งบแสดงฐานะการเงิน แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่รายงาน
แสดงผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาหนึ่งๆ Income Statement Revenue - Revenue + Expense + Expense - งบกำไรขาดทุน แสดงผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาหนึ่งๆ
Principles of Accounting I Next Week Principles of Accounting I
Principles of Accounting I กรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงินThe Conceptual Framework for Financial Reporting (ฉบับปรับปรุง) สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ Principles of Accounting I