Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Psalm เพลงสดุดี 54
To the choirmaster: with stringed instruments To the choirmaster: with stringed instruments. A Maskil of David, when the Ziphites went and told Saul, Is not David hiding among us? 1O God, save me, by Your name, and vindicate me by Your might.
1ถึงหัวหน้านักร้อง ใช้เครื่องสาย มัสคิลบทหนึ่งของดาวิด เมื่อพวกชาวศิฟิมไปทูลซาอูลว่า “ดาวิดซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเราไม่ใช่ หรือ” ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด ด้วยพระนามของพระองค์ และแก้แทนข้าพระองค์ด้วยอานุภาพของพระองค์
1 Samuel ซามูเอล 23:13-29
13 Then David and his men, who were about six hundred, arose and departed from Keilah, and they went wherever they could go. When Saul was told that David had escaped from Keilah, he gave up the expedition.
13 แล้วดาวิดกับคนของท่านซึ่งมีประมาณหกร้อยคน ก็ลุกขึ้นไปเสียจากเคอีลาห์และเขาทั้งหลายก็ไป ตามแต่ที่เขาจะไปได้ เมื่อมีคนไปทูลซาอูลว่า ดาวิดหนีไปจากเคอีลาห์แล้ว ซาอูลก็ทรงเลิกการติดตาม
14 And David remained in the strongholds in the wilderness, in the hill country of the Wilderness of Ziph. And Saul sought him every day, but God did not give him into his hand.
14 และดาวิดก็อยู่ในถิ่นทุรกันดารตามที่กำบังเข้มแข็ง และอยู่ในแดนเทือกเขาแห่งถิ่นทุรกันดาร และซาอูลก็ทรงแสวงท่านทุกวัน แต่พระเจ้ามิได้มอบท่านไว้ในมือของซาอูล
15 David saw that Saul had come out to seek his life 15 David saw that Saul had come out to seek his life. David was in the Wilderness of Ziph at Horesh. 15 และดาวิดเห็นว่าซาอูลได้ทรงออกมาแสวงชีวิตของเธอ ดาวิดอยู่ในป่าศิฟที่โฮเรช
16 And Jonathan, Saul's son, rose and went to David at Horesh, and strengthened his hand in God. 16 และโยนาธานราชบุตรของซาอูลได้ลุกขึ้นไป หาดาวิดที่โฮเรช และสนับสนุนมือของเธอให้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า
17 And he said to him, “Do not fear, for the hand of Saul my father shall not find you. You shall be king over Israel, and I shall be next to you. Saul my father also knows this.”
17 โยนาธานพูดกับเธอว่า “อย่ากลัวเลยเพราะว่ามือของซาอูลเสด็จพ่อของฉันจะหา เธอไม่พบ เธอจะได้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล และฉันจะเป็นอุปราช ซาอูลเสด็จพ่อของฉันก็ทราบเรื่องนี้ด้วย”
18 And the two of them made a covenant before the LORD 18 And the two of them made a covenant before the LORD. David remained at Horesh, and Jonathan went home. 18 และทั้งสองก็กระทำพันธสัญญาต่อ พระพักตร์พระเจ้า ดาวิดยังค้างอยู่ที่โฮเรช และโยนาธานก็กลับไปวัง
19 Then the Ziphites went up to Saul at Gibeah, saying, “Is not David hiding among us in the strongholds at Horesh, on the hill of Hachilah, which is south of Jeshimon?
19 ฝ่ายชาวศิฟได้ขึ้นไปหาซาอูลที่กิเบอาห์ทูลว่า “ดาวิดได้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพวกข้าพระบาท ในที่กำบังเข้มแข็งที่โฮเรช บนเนินเขาฮาคีลาห์ซึ่งอยู่ใต้เยชิโมนมิใช่หรือ
20 Now come down, O king, according to all your heart's desire to come down, and our part shall be to surrender him into the king's hand.”
20 ข้าแต่พระราชา เพราะฉะนั้นขอเสด็จลงไปตามพระทัยปรารถนาที่จะลงไป ฝ่ายพวกข้าพระบาทจะมอบเขาไว้ในหัตถ์ของพระราชา”
21 And Saul said, “May you be blessed by the LORD, for you have had compassion on me. 21 และซาอูลตรัสว่า “ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่พวกท่าน เพราะพวกท่านปรานีเรา
22 Go, make yet more sure. Know and see the place where his foot is, and who has seen him there, for it is told me that he is very cunning. 22 จงไปหาดูให้แน่นอนยิ่งขึ้น ดูให้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ใครเห็นเขาที่นั่นบ้าง เพราะมีคนบอกข้าว่า เขาฉลาดนัก
23 See therefore and take note of all the lurking places where he hides, and come back to me with sure information. Then I will go with you. And if he is in the land, I will search him out among all the thousands of Judah.”
23 เพราะฉะนั้นจงไปสังเกตดูที่ซุ่ม ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหนและกลับมา เอาเนื้อความแน่นอนมาบอกเรา แล้วเราจะไปกับท่าน ถ้าเขาอยู่ในเขตแผ่นดิน เราจะค้นหาเขาในหมู่คนตระกูลยูดาห์”
24 And they arose and went to Ziph ahead of Saul 24 And they arose and went to Ziph ahead of Saul. Now David and his men were in the wilderness of Maon, in the Arabah to the south of Jeshimon.
24 เขาทั้งหลายก็ลุกขึ้นไปยังศิฟก่อนซาอูล ฝ่ายดาวิดกับคนของท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดารมาโอนใน อาราบาห์ใต้เยชิโมน
25 And Saul and his men went to seek him 25 And Saul and his men went to seek him. And David was told, so he went down to the rock and lived in the wilderness of Maon. And when Saul heard that, he pursued after David in the wilderness of Maon.
25 ซาอูลกับคนของพระองค์ก็แสวงท่าน มีคนบอกดาวิด ท่านจึงลงไปยังศิลาและอยู่ในถิ่นทุรกันดารมาโอน เมื่อซาอูลทรงทราบดังนั้นก็ทรงติดตามดาวิดไปใน ถิ่นทุรกันดารมาโอน
26 Saul went on one side of the mountain, and David and his men on the other side of the mountain. And David was hurrying to get away from Saul. As Saul and his men were closing in on David and his men to capture them,
26 ซาอูลเสด็จไปฟากภูเขาข้างหนึ่ง ดาวิดกับคนของท่านอยู่ที่ภูเขาอีกฟากหนึ่ง ดาวิดก็รีบหนีจากซาอูล เพราะซาอูลกับคนของพระองค์เข้ามาใกล้ ดาวิดกับคนของท่านเพื่อจะจับ
27 a messenger came to Saul, saying, “Hurry and come, for the Philistines have made a raid against the land.” 27 แต่มีผู้สื่อสารคนหนึ่งมาทูลซาอูลว่า “ขอรีบเสด็จกลับ เพราะพวกฟีลิสเตียยกกองทัพมาปล้นแผ่นดิน”
28 So Saul returned from pursuing after David and went against the Philistines. Therefore that place was called the Rock of Escape. 28 ซาอูลจึงเสด็จกลับจากการไล่ตามดาวิดไปรบกับฟีลิสเตีย เขาจึงเรียกที่นั้นว่าศิลาพ้นภัย
29 And David went up from there and lived in the strongholds of Engedi
2O God, hear my prayer; give ear to the words of my mouth
3For strangers have risen against me; ruthless men seek my life; they do not set God before themselves. Selah 3เพราะคนหยิ่งยโสได้ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์ คนไร้ความปรานีเสาะชีวิตของข้าพระองค์ เขามิได้ประดิษฐานพระเจ้าไว้ตรงหน้าเขา
4Behold, God is my helper; the Lord is the upholder of my life
5He will return the evil to my enemies; in your faithfulness put an end to them. 5พระองค์จะทรงให้การชั่วร้ายของพวกศัตรูของข้าพเจ้า กลับสนองเขาเอง ขอทรงทำลายเขาเสียโดยความเที่ยงธรรมของพระองค์
6With a freewill offering I will sacrifice to you; I will give thanks to your name, O LORD, for it is good.
6ข้าพระองค์จะถวายสัตวบูชาตามใจสมัครแก่พระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะถวายโมทนา ขอบพระคุณพระนามของพระองค์ เพราะพระนามนั้นประเสริฐ
7For He has delivered me from every trouble, and my eye has looked in triumph on my enemies. 7เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากความ ทุกข์ยากลำบากทุกอย่าง และนัยน์ตาของข้าพระองค์มองเห็นพวกศัตรูของ ข้าพระองค์แพ้
Psalm เพลงสดุดี 55
2 Samuel ซามูเอล 15:30-3130 But David went up the ascent of the Mount of Olives, weeping as he went, barefoot and with his head covered. And all the people who were with him covered their heads, and they went up, weeping as they went.
30 ฝ่ายดาวิดเสด็จขึ้นไปตามทางขึ้นภูเขามะกอกเทศ เสด็จพลางกันแสงพลางมีผ้าคลุมพระเศียรเสด็จโดยพระบาทเปล่า และประชาชนทั้งสิ้นที่อยู่กับ พระองค์ก็เอาผ้าคลุมศีรษะเดินไปพลางร้องไห้พลาง
31 And it was told David, “Ahithophel is among the conspirators with Absalom.” And David said, “O LORD, please turn the counsel of Ahithophel into foolishness.”
31 มีคนมากราบทูลดาวิดว่า “อาหิโธเฟลอยู่ในพวกคิดกบฏของอับซาโลมด้วย” ดาวิดกราบทูลว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดให้คำปรึกษาของอาหิโธเฟลฟั่นเฝือไป”
To the choirmaster: with stringed instruments. A Maskil of David To the choirmaster: with stringed instruments. A Maskil of David. 1Give ear to my prayer, O God, and hide not Yourself from my plea for mercy!
1ถึงหัวหน้านักร้อง ใช้เครื่องสาย มัสคิลบทหนึ่งของดาวิด ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเงี่ยพระกรรณ ฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ อย่าซ่อนพระองค์เสียจากคำวิงวอนของข้าพระองค์
2Attend to me, and answer me; I am restless in my complaint and I moan, 2ขอทรงสดับ และขอทรงตอบข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยอมแพ้ความทุกข์ยากลำบากแล้ว
3because of the noise of the enemy, because of the oppression of the wicked. For they drop trouble upon me, and in anger they bear a grudge against me.
3ข้าพระองค์บ้าไปเพราะเสียงของศัตรู เพราะการบีบบังคับของคนอธรรม เหตุว่าเขานำความทุกข์ยากลำบากมาให้ข้าพระองค์ และเขาบ่มความเกลียดชังข้าพระองค์โดยความโกรธ
4My heart is in anguish within me; the terrors of death have fallen upon me. 4จิตใจของข้าพระองค์ระทมอยู่ในข้าพระองค์ ความสยดสยองของมัจจุราชตกเหนือข้าพระองค์
5Fear and trembling come upon me, and horror overwhelms me
6And I say, “Oh, that I had wings like a dove 6And I say, “Oh, that I had wings like a dove! I would fly away and be at rest; 6และข้าพระองค์ว่า “โอ ข้าอยากมีปีกอย่างนกพิราบ จะได้บินหนีไปและอยู่สงบ
7yes, I would wander far away; I would lodge in the wilderness; Selah 7เออ ข้าจะได้พเนจรไปไกล ข้าจะได้พักอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
8I would hurry to find a shelter from the raging wind and tempest
9Destroy, O Lord, divide their tongues; for I see violence and strife in the city. 9ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทำลายเสีย และให้ภาษาของเขายุ่งเหยิงไป เพราะข้าพระองค์เห็นความทารุณ และการโกลาหลที่ในนคร
10Day and night they go around it on its walls, and iniquity and trouble are within it; 10เขาเดินบนกำแพงรอบนครอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน และความบาปผิดกับความทุกข์ยากลำบากอยู่ภายในนคร
11ruin is in its midst; oppression and fraud do not depart from its marketplace. 11การทำลายมีอยู่ท่ามกลางเธอ การบีบบังคับและการฉ้อโกง ไม่พรากไปจากตลาดของเธอ
12For it is not an enemy who taunts me—then I could bear it; it is not an adversary who deals insolently with me—then I could hide from him.
12มิใช่ศัตรูผู้เยาะเย้ยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะได้ทนได้ มิใช่ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าผู้พองตัวใส่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะได้หลบเขาได้
13But it is you, a man, my equal, my companion, my familiar friend
14We used to take sweet counsel together; within God's house we walked in the throng. 14เราเคยสนทนาปราศรัยกันอย่างชื่นใจ เราดำเนินในพระนิเวศของพระเจ้าฉันมิตรสนิท
15Let death steal over them; let them go down to Sheol alive; for evil is in their dwelling place and in their heart. 15ขอมัจจุราชมาหาเขาเหล่านั้น ให้เขาลงไปยังแดนผู้ตายทั้งเป็น เพราะความโหดร้ายอยู่ในบ้านของเขาและอยู่ในใจของเขา
20My companion stretched out his hand against his friends; he violated his covenant. 20เกลอของข้าพเจ้ายื่นมือของเขาออกต่อสู้เพื่อนของเขา เขาฝ่าฝืนพันธสัญญาของเขา
21His speech was smooth as butter, yet war was in his heart; his words were softer than oil, yet they were drawn swords.
21คำพูดของเขาเรียบลื่นยิ่งกว่าเนย แต่สงครามอยู่ภายในใจของเขา ถ้อยคำของเขาอ่อนนุ่มยิ่งกว่าน้ำมัน แต่ทว่าเป็นดาบที่ชักออกมาแล้ว
16But I call to God, and the LORD will save me
17Evening and morning and at noon I utter my complaint and moan, and He hears my voice. 17ทั้งเวลาเช้า เวลาเย็น และเวลาเที่ยง ข้าพเจ้าร้องทุกข์และคร่ำครวญ และพระองค์จะทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า
18He redeems my soul in safety from the battle that I wage, for many are arrayed against me. 18พระองค์จะทรงช่วยกู้จิตวิญญาณของข้าพเจ้า ให้ปลอดภัยจากสงครามที่ข้าพเจ้า ต่อสู้อยู่ เพราะคนเป็นอันมากตั้งแถวสู้ข้าพเจ้า
19God will give ear and humble them, He who is enthroned from of old, Selah because they do not change and do not fear God. 19พระเจ้าจะทรงสดับฟังและลดเขาลง คือพระองค์ผู้ประทับบนบัลลังก์ตั้งแต่โบราณกาล เพราะเขาไม่เปลี่ยน และไม่ยำเกรงพระเจ้า
22Cast your burden on the LORD, and He will sustain you; He will never permit the righteous to be moved. 22จงมอบภาระของท่านไว้กับพระเจ้า และพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน พระองค์จะไม่ทรงยอมให้ คนชอบธรรมคลอนแคลนเลย
23But You, O God, will cast them down into the pit of destruction; men of blood and treachery shall not live out half their days. But I will trust in You.
23ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์จะทรงเหวี่ยงเขาลง สู่ปากแดนพินาศ คนที่ทำให้โลหิตตกและคนทรยศ จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งจำนวนเวลาของเขา แต่ข้าพระองค์จะวางใจในพระองค์
1 Peter เปโตร 5:7 7casting all your anxieties on him, because he cares for you. 7จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย