OPERATOR ภาษาปาสคาล (Pascal)
การคำนวณเลขคณิต (Arithmatic Expression) การคำนวณค่าทางเลขคณิต ปาสคาลมีการกระทำหรือโอเปอเรชัน (operation) รวม 6 รายการ แต่ละรายการมีเครื่องหมายหรือโอเปอเรเตอร์ (operator) ดังตารางต่อไปนี้ โอเปอเรชัน โอเปอเรเตอร์ ตัวอย่าง บวก + Year + 1 ลบ - Year - 1 คูณ * Price * Quantity หาร อินทีเจอร์ DIV 8 DIV 3 { ได้ค่าเป็น 2 } หาร / 8/3 { ตอบ 2.6666} modulue MOD 17 MOD 12 { ได้ค่าเป็น 5}
Boolean (ตรรกศาสตร์) Boolean คือ ข้อมูลที่แสดงถึงการตัดสินใจแบบตรรกะ ( logic ) ว่าข้อความหรือนิพจน์นั้นเป็นจริงหรือเท็จ จะมีค่าได้เพียง 2 ค่า คือ true และ false โดยลำดับของ false จะมาก่อน เป็นลำดับที่ 0 ส่วน true เป็นลำดับที่ 1 ข้อมูลแบบตรรกศาสตร์ มีตัวดำเนินการเปรียบเทียบ เช่น < น้อยกว่า > มากกว่า = เท่ากับ <> ไม่เท่ากับ <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ >= มากกว่าหรือเท่ากับ No ไม่ And และ Or หรือ
นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ที่ใช้สัญลักษณ์ทางตรรกศาสตร์เป็นตัวเชื่อม ความหมาย AND ใช้เชื่อมโอเปอแรนด์ ตั้งแต่ 2 โอเปอแรนด์ขึ้นไป ซึ่งนิพจน์จะเป็นจริงก็ต่อเมื่อทุกโอเปอแรนด์จะต้องเป็นจริง OR ใช้เชื่อมโอเปอแรนด์ตั้งแต่ 2 โอเปอแรนด์ขึ้นไป ซึ่งนิพจน์จะเป็นจริงก็ต่อเมื่อ โอเปอแรนด์ตัวใดตัวหนึ่งหรือทุกตัวเป็นจริง NOT ใช้นำหน้าโอเปอแรนด์ ถ้านำหน้า โอเปอแรนด์ที่เป็นจริง จะทำให้นิพจน์เป็นเท็จ แต่ถ้านำหน้าโอเปอแรนด์ที่เป็นเท็จ จะทำให้นิพจน์เป็นจริง Company Logo www.themegallery.com
Character (ตัวอักษร ตัวอักขระ 1 ตัว) Character คือ อักษรตัวเดียว ( Char ) จะอยู่ในเครื่องหมาย single quotes ( ‘ ‘ ) เป็นได้ทั้งตัวอักษร, ตัวเลข, สัญลักษณ์พิเศษ ( Special symbols) เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถนำไปคำนวณได้ เช่น ‘A ‘ , ‘ 5 ‘ , ‘ * ‘ เป็นต้น String (สตริง) String คือ กลุ่มของตัวอักษรที่นำมาเรียงกันอยู่ภายในเครื่องหมายคำพูด ( ‘ ‘ ) และไม่สามารถนำไปคำนวณได้ มีความยาวสูงสุดถึง 255 ตัว ถ้ายาว 0 ตัว หมายถึง ช่องว่าง ( ‘ ’ ) จะเรียก String แบบนี้ว่า Null string เช่น ‘Bangkok’ , ‘*****’ , ‘1998’ เป็นต้น
ถ้ามีวงเล็บจะทำในวงเล็บก่อน เรียงลำดับการคำนวณดังนี้ ตัวดำเนินการและนิพจน์ การเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ จะประกอบด้วยตัวเลข หรือตัวแปร มากระทำกับตัวดำเนินการ ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์มีดังนี้ + , - , * , / , div , mod *** ลำดับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ของนิพจน์ทางเลขคณิต ถ้ามีวงเล็บจะทำในวงเล็บก่อน เรียงลำดับการคำนวณดังนี้ 1) * , / , div ,mod 2) + , - 3) ถ้าการคำนวณที่มีลำดับเดียวกันจะทำการคำนวณจากซ้ายไปขวา
ลำดับของเครื่องหมายในการคำนวณ () Not *,/,div,mod,and +,-,or =,<,<=,>,>=,<>
End