บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กว่าจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ ความหมายของคอมพิวเตอร์ วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ชนิดของคอมพิวเตอร์
กว่าจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ ประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนได้ ประดิษฐ์ ลูกคิด ซึ่งได้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยคำนวณที่ เก่าแก่ที่สุดในโลก ปีพ.ศ. 2158 นักคณิตศาสตร์ชื่อ John Napier ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยใน การคำนวณขึ้นมาเรียกว่า Napier’s Bones ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตารางสูตรคูณ ในปี พ.ศ. 2185 นักคณิตศาสตร์ชื่อ Blaise Pascal ได้ออกแบบเครื่องมือช่วยในการคำนวณ โดยใช้หลักการหมุนของฟันเฟือง
กว่าจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ ในปีพ.ศ. 2344 นักประดิษฐ์ชื่อ Joseph Marie Jacquard ได้พัฒนาเครื่องทอผ้าโดยใช้บัตรเจาะรูในการบันทึกคำสั่ง ควบคุมเครื่องทอผ้าให้ทำตามแบบที่กำหนดไว้ ในปีพ.ศ. 2373 Charles Babbage ศาสตราจารย์ทาง คณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ได้สร้างเครื่องหา ผลต่าง ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้คำนวณและพิมพ์ตารางทาง คณิตศาสตร์อย่างอัตโนมัติ แต่ก็ไม่สำเร็จตามแนวคิด แต่ ได้พัฒนาเครื่องมือชนิดหนึ่งว่า เครื่องวิเคราะห์ (Analytical Engine)
กว่าจะมาเป็นคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วนคือ 1. ส่วนเก็บข้อมูล 2. ส่วนประมวลผล 3. ส่วนควบคุม เป็นส่วนที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายข้อมูล ระหว่างส่วนเก็บข้อมูลและส่วนประมวลผล 4. ส่วนรับข้อมูลและแสดงผลลัพธ์ จากการคำนวณด้วย เครื่องวิเคราะห์นี้มีลักษณะใกล้เคียงกับส่วนประกอบ ของระบบคอมพิวเตอร์
ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computer ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก เช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ยุคแรก เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสูญญากาศ จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้ หลอดขาดบ่อย การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลข คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์ บรรจุอยู่ภายใน
วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรความจุสูงมากทำให้ขนาด เครื่องคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กลง สามารถตั้งบนโต๊ะใน สำนักงาน หรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการ ตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
ชนิดของคอมพิวเตอร์ 1. ไมโครคอมพิวเตอร์ 2. สถานีงานวิศวกรรม 3. มินิคอมพิวเตอร์ 4. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ 5. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์