บทที่ 6 ต้นทุนการผลิตและรายรับจากการผลิต บทที่ 6 ต้นทุนการผลิตและรายรับจากการผลิต
แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับต้นทุน ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity cost) สิ่งที่มีมูลค่าสูงสุดที่ต้องเสียไป หรือผลประโยชน์สูงสุดที่ผู้ผลิตไม่ได้รับจากการเลือกใช้ทรัพยากรการผลิตไปในทางอื่น ต้นทุนชัดแจ้งและต้นทุนไม่ชัดแจ้ง (Explicit Cost and Implicit Cost) ต้นทุนชัดแจ้ง(Explicit cost) : ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงและมีการจ่ายออกไปเป็นตัวเงินจริงๆ
ต้นทุนไม่ชัดแจ้ง (Implicit Cost) : ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการผลิตจริงๆ แต่ไม่มีการจ่ายออกไปเป็นตัวเงิน เกิดจากการนำปัจจัยการผลิตที่ตนเองเป็นเจ้าของมาใช้ในการผลิต ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์และต้นทุนทางบัญชี (Economics Cost and Accounting Cost) ต้นทุนทางเศรษฐกิจ (Economics Cost) : ต้นทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการผลิตสินค้านั้น ไม่ว่าจะมีการจ่ายไปจริงหรือไม่ก็ตาม ~ (Explicit Cost + Implicit Cost) ต้นทุนทางบัญชี (Accounting Cost) : ต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ผู้ผลิตได้มีการจ่ายจริงและได้ลงบันทึกรายการทางบัญชีไว้ ~ (Explicit Cost)
ต้นทุนทางเอกชนและต้นทุนทางสังคม (Private Cost and Social Cost) ต้นทุนสังคม (Social Cost) : ในการผลิตสินค้าและบริการ อาจมีต้นทุนจากการผลิตบางส่วนเกิดขึ้นกับสังคม เป็นผลให้ต้นทุนสังคมไม่เท่ากับต้นทุนเอกชน ต้นทุนที่ตกแก่บุคคลอื่นในสังคมเรียกว่า ผลกระทบภายนอก (Externalities) Social Cost = Private Cost + Externalities
การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตในระยะสั้น ระยะสั้น คือ ระยะของเวลาการผลิตที่อย่างน้อยจะต้องมีปัจจัยคงที่ อย่างน้อยหนึ่งตัว ทำงานร่วมกับปัจจัยแปรผัน ต้นทุนการผลิตระยะสั้น จะประกอบด้วยต้นทุนคงที่ และต้นทุนแปรผัน ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost : FC) : ต้นทุนในการจัดหาปัจจัยคงที่เพื่อการผลิต เช่น ค่าก่อสร้าง , ค่าที่ดิน , ค่าเครื่องจักร เป็นต้น ต้นทุนแปรผัน (Variable Cost : VC) : ต้นทุนในการจัดหาปัจจัยแปรผัน เช่นค่าจ้างแรงงาน , ค่าวัตถุดิบ เป็นต้น
ต้นทุนทั้งหมดในระยะสั้น (Total Cost : TC) คือ ผลรวมของต้นทุนคงที่และต้นทุนแปรผัน TC = FC + VC ต้นทุนเพิ่ม (Marginal Cost : MC) คือ ต้นทุนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงจากการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย MCn = TCn – TC n-1 MC = TC / Q ในระยะสั้น MC = VC / Q เพราะ FC จะคงที่ ต้นทุนเฉลี่ย (Average Cost : AC) คือ ต้นทุนการผลิตทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยสินค้า
ต้นทุนเฉลี่ย จะเท่ากับ ผลรวมของต้นทุนคงที่เฉลี่ย และต้นทุนแปรผันเฉลี่ย AC = AFC + AVC หรือ AC = TC / Q ต้นทุนคงที่เฉลี่ย (Average Fixed Cost : AFC) คือ ต้นทุนคงที่ทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยสินค้า, AFC decreases when Q increases ต้นทุนแปรผันเฉลี่ย (Average Variable Cost : AVC) คือ ต้นทุนแปรผันทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยสินค้า AVC = VC / Q
ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนชนิดต่างๆ จำนวนผลผลิต ต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน ต้นทุนทั้งหมด Q FC VC TC=FC+VC 0 4 0 4 1 4 5 9 2 4 8 12 3 4 15 19 4 4 32 36 5 4 65 69
กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง TC , FC , VC
ความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนการผลิตชนิดต่างๆ Q TC TFC TVC MC AC=TC/Q AFC= TFC/Q AVC= TVC/Q 4 1 9 5 2 12 8 3 6 19 15 7 19/3=6.33 4/3=1.33 36 32 17 69 65 33 13. 4/5 13
ความสัมพันธ์ระหว่าง AC ,AVC , AFC , MC
ความสัมพันธ์ระหว่าง AC ,AVC , AFC , MC (continued) Q increases, when AFC decreases At min. AC, AC = MC At min. AVC, AVC = MC Gap bt. AC and AVC = AFC MC, AC, AVC : U shape AFC : rectangular
ต้นทุนการผลิตระยะยาว ระยะยาว คือ ระยะเวลาที่ผู้ผลิตสามารถเปลี่ยนปัจจัยการผลิตทุกชนิดได้หมด นั่นคือ สามารถเลือกขนาดของโรงงานได้ ต้นทุนการผลิตระยะยาว (Long Run Total : LTC) จึงมีเฉพาะต้นทุนแปรผันเท่านั้น
ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยระยะยาว (Long Run Average Cost) คือ ต้นทุนการผลิตทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยผลผลิตในระยะยาว LAC = LTC / Q, at point B : LAC=SAC=LMC=SMC : Optimum scale of plant (ขนาดของโรงงานที่เหมาะสมในระยะยาว)
รายรับจากการผลิต (Total Revenue) รายรับจากการผลิต (Total Revenue : TR) รายได้ที่ผู้ขายได้รับจากการขายสินค้าและบริการในราคาตลาด = P x Q รายรับเพิ่ม (Marginal Revenue : MR) รายรับทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงจากการที่ผู้ผลิตขายสินค้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย MR = TR / Q MRn = TRn – TR n-1 รายรับเฉลี่ย (Average Revenue : AR) รายรับทั้งหมดที่ผู้ผลิตได้รับคิดเฉลี่ยต่อหน่วยผลผลิต AR = TR / Q
การวิเคราะห์รายรับจากการผลิต (Total Revenue) กรณีราคาสินค้า (P) คงที่ กรณีราคาสินค้า (P) ไม่คงที่
ตารางความสัมพันธ์ระหว่าง MR , AR ,TR กรณีราคาสินค้าคงที่
เส้นรายรับรวม (TR) กรณีที่ราคาสินค้าคงที่ Q
ความสัมพันธ์ของเส้นรายรับต่างๆ กรณีราคาสินค้าคงที่ เส้นรายรับเฉลี่ย เส้นรายรับเพิ่มจะเป็นเส้นเดียวกัน คือ เป็นเส้นตรงขนานกับแกนนอน เนื่องจากราคาสินค้าที่ผู้ผลิตขายสินค้าทุกหน่วยมีราคาเดียวกันตลอด P P1 MR=AR=D=P Q
ตารางความสัมพันธ์ระหว่าง MR , AR ,TR เมื่อราคาสินค้าลดลง
เส้นรายรับรวม กรณีที่ราคาสินค้าลดลง เส้นรายรับรวม กรณีที่ราคาสินค้าลดลง
กรณีที่ราคาสินค้าที่ขายมีราคาลดลงตามกฎของอุปสงค์ P P1 AR=D=P MR Q
เงื่อนไขการผลิตที่ได้รับกำไรสูงสุด (1) กำไร (Profit) : คือ ผลต่างระหว่างรายรับทั้งหมดกับต้นทุน ทั้งหมด กำไรสูงสุดเมื่อ TR ห่างจาก TC มากที่สุด กำไรรวม = TR – TC, กำไรต่อหน่วย = (TR/Q) –(TC/Q) = AR-AC ที่จุด A และ B TR ห่างจาก TC มากที่สุด Slope TR = Slope TC MR = MC
เงื่อนไขการผลิตที่ได้รับกำไรสูงสุด (2) กำไร (Profit) : คือ ผลต่างระหว่างรายรับทั้งหมดกับต้นทุน ทั้งหมด กำไรสูงสุดเมื่อ TR ห่างจาก TC มากที่สุด กำไรรวม = TR – TC, กำไรต่อหน่วย = (TR/Q) –(TC/Q) = AR-AC ที่จุด A และ B TR ห่างจาก TC มากที่สุด Slope TR = Slope TC MR = MC
เงื่อนไขการผลิตที่ได้รับกำไรสูงสุด คือ MR=MC