การถ่ายทอดทางพันธุกรรม

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
ลักษณะพันธุกรรมนอกเหนือกฎของเมนเดล
Advertisements

Texture การประมวลผลภาพแบบดิจิตอล Ian Thomas
รายงานผลการฝึกอบรมที่ U of Illinois at Chicago, Chicago, Illinois, USA ระหว่างวันที่ 2 ก. ค ม. ค.52.
พันธุกรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ
Automatic Photo Maker This program will produce a photo of you by using the data you insert, describing your facial features.
การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
โครโมโซม.
The Genetic Basis of Evolution
Replication 25/11/00 Molecular Genetics
The Genetic Basis of Evolution
วิทยาศาสตร์พันธุกรรม ดีเอ็นเอ และ จีเอ็มโอ (Molecular Biotechnology)
ซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย ให้กลับสู่ original state
Hereditary Spherocytosis (HS)
THALASSEMIA 1 ตุลาคม 2552.
พันธุกรรมและวิวัฒนาการ
7.Cellular Reproduction
ตอนที่ 2.
List ADTs By Pantharee S..
การเกิดมิวเทชัน (mutation).
ลักษณะทางพันธุกรรม นอกเหนือจากกฎของเมนเดล
พันธุศาสตร์เบื้องต้น (Principle of genetics)
Chi-square Test for Mendelian Ratio
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
มัลติเพิลอัลลีล MULTIPLE ALLELES
Animal Breeding and Improvement การปรับปรุงพันธุ์สัตว์
Overview of Animal Breeding Stop and think ?... ทำไมต้องมีการปรับปรุงพันธุ์ สัตว์ ? ต้องการผลิตลูกสัตว์ที่มี ลักษณะดีเด่นขึ้น.
การตรวจยืนยันและการแปลผลตรวจ ธาลัสซีเมียและการระบุคู่เสี่ยง
สมาชิก น.ส. กานต์ธีรา ปัญจะเภรี รหัสนักศึกษา ลำดับที่ 21 น.ส. มินลดา เหมยา รหัสนักศึกษา ลำดับที่ 22 น.ส. กรกฎ อุดมอาภาพิมล รหัสนักศึกษา
Case study 3:A rare case of thalassemia minor with leg ulcer
Mating System Dr.Wuttigrai Boonkum Department of Animal Science
การทดสอบซอฟต์แวร์ Software Testing
ISC2102 สถิติเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
กฎพันธุกรรมของ Mendel
Genetic counselling ให้นักศึกษาทำกลุ่มละหนึ่ง family อนุญาตให้ปรึกษากันข้ามกลุ่มได้ค่ะ ให้ส่งใบรายงานผลก่อนบ่ายโมงตรง อภิปรายผลร่วมกันหลังปิดแล็บ.
โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากยีนบน Sex Chromosome
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทาง DNA ในเชิงการเกษตร
สุขสันต์วันครบรอบคริสตจักร 19 ปี คริสตจักรเรมากรุงเทพฯ
Object-Oriented Programming Paradigm
บทที่ 17 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง DNA
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ความสำคัญของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่มีต่อคุณภาพชีวิต
การแบ่งเซลล์และวัฏจักรของเซลล์(3)
ผู้ช่วยสอน : นางสาวอมรรัตน์ ตันบุญจิตต์
ว33241 ชีววิทยา 4 บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
การตรวจสอบพันธุ์ปนในข้าว ด้วยการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ
การบริหารจัดการ “THALASSEMIA”
เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
อ.ณัฐวัฒน์ ธนสารโชคพิบูลย์
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีทาง DNA
Incomplete Dominance -While much of genetics deals with dominant and recessive traits where the offspring will resemble one of the parents, sometimes there.
ความผิดปกติทางพันธุกรรม
โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากยีนบน Autosome
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล
โรคที่เกิดจากความผิดปกติ บนออโตโซม (Autosome)
โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากรูปร่าง โครงสร้าง หรือจำนวนโครโมโซมผิดปกติ
ต่าง รูปร่าง Allele = Allelomorph
(เมล็ดเรียบสีเหลือง)
โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากยีนบน Autosome
กลไกการเกิดวิวัฒนาการ
การคัดเลือกและ การประมาณพันธุศาสตร์ปริมาณ
เกรกอร์ โยฮันน์ เมนเดล
การสืบพันธุ์ของพืช.
Introduction to Quantitative Genetics
ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทางการจัดการ โลจิสติกส์
การนำเสนอผลงานการวิจัยครั้งที่ ๘
การถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม
Natural Selection and Mutation
การข่มร่วมกัน คุณครูอรุณี จันทร์หอม นางสาวปิยะนุช คงเจริญ เลขที่ 32
ใบสำเนางานนำเสนอ:

การถ่ายทอดทางพันธุกรรม บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม

MENDEL AND THE GENE IDEA เมนเดลได้ศึกษาการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของสิ่งมีชีวิตโดยวิธีวิทยาศาสตร์ทุกขั้นตอน ทำให้เกิดสาขาวิชาชีววิทยาแขนงใหม่ เรียกว่า วิชาพันธุศาสตร์ Genetics)

A genetic cross แผนภาพแสดงการทดลองการผสมข้ามระหว่างละอองเรณูจากพันธุ์ดอกสีขาว กับเกสรตัวเมียจากพันธุ์ดอกสีม่วง เมื่อได้เมล็ดและนำไปปลูก ได้ลูกผสม F1 ซึ่งให้ดอกสีม่วงทั้งหมด หรือถ้าผสมในทางกลับกัน คือผสมละอองเรณูจากพันธุ์ดอกสีม่วงกับเกสรตัวเมียจากพันธุ์ดอกสีขาว จะได้ผลการทดลองเหมือนกัน

เมนเดลทำการศึกษาลักษณะทางกรรมพันธุ์ของต้นถั่ว 3 รุ่น คือรุ่นพ่อแม่ ดอกสีม่วง และดอกสีขาว รุ่นลูกผสม F1 ดอกม่วงทั้งหมด และเมื่อ F1 ผสมกันเอง จะได้รุ่น F2 ซึ่งอัตราส่วนของดอกสีม่วง : สีขาว = 3:1

เมนเดลได้อธิบายผลการทดลองของเขา เป็น 4 ข้อ ดังนี้ (ในการอธิบายต่อไปนี้จะใช้คำว่า ยีน แทนคำที่เมนเดลใช้คือ heritable factor) 1. สิ่งที่ควบคุมลักษณะกรรมพันธุ์ เช่น ลักษณะสีดอก คือยีน ซึ่งต่างกัน 2 รูปแบบ (อัลลีล) อัลลีลหนึ่งควบคุมดอกสีม่วง อีกอัลลีลหนึ่งควบคุมดอกสีขาว 2. สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยยีน 2 อัลลีล อัลลีลหนึ่งมาจากพ่อ และอีกอัลลีลหนึ่งมาจากแม่ จากความรู้ในปัจจุบัน ทำให้อธิบายความคิดของเมนเดลได้ว่า ในสิ่งมีชีวิตที่เป็น diploid ซึ่งมีโครโมโซมคู่เหมือนกัน โครโมโซมแท่งหนึ่งมาจากพ่อ และอีกแท่งหนึ่งมาจากแม่ โครโมโซมคู่เหมือนนี้อาจมีอัลลีลเหมือนกัน เรียกว่าพันธุ์แท้ เช่นเดียวกับพันธุ์ในรุ่นพ่อแม่ของการทอดลองของเมนเดล หรืออาจจะมีอัลลีลต่างกัน เช่นในลูกผสม F1 3. ถ้าอัลลีลต่างกัน อัลลีลหนึ่งจะเป็นอัลลีลเด่นซึ่งจะแสดงสมบัติของลักษณะให้เห็น อีกอัลลีลหนึ่งเป็นอัลลีลด้อยซึ่งจะถูกข่มไม่แสดงลักษณะ 4. อัลลีลทั้ง 2 จะถูกแยกไปในเซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์

เรียกหลักการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ข้อนี้ว่า Law of segregation (กฏการแยกยีน)

Alleles, contrasting versions of a gene

Mendel’s law of segregation

Mendel’s law of segregation ในการศึกษานี้เมนเดลศึกษาลักษณะสีของดอกเพียงลักษณะเดียว (monohybrid cross) ซึ่งดอกสีม่วงควบคุมโดยยีนเด่น (P) และดอกสีขาวโดยยีนด้อย (p) ในพืชประกอบด้วย 2 อัลลีลที่ควบคุมลักษณะสีดอกซึ่งได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ ในรุ่นพ่อแม่เป็นพันธุ์แท้ของดอกสีม่วง (PP) และดอกสีขาว (pp) ซึ่งสร้างเซลล์สืบพันธุ์ประกอบด้วยอัลลีลเดียว การผสมของรุ่นพ่อแม่ จะได้ลูกผสม F1 ซึ่งประกอบด้วย Pp แสดงดอกสีม่วงตามลักษณะยีนเด่น เมื่อ F1 สร้างเซลล์สืบพันธุ์อัลลีลทั้ง 2 จะถูกแยกออกไป เซลล์สืบพันธุ์ครึ่งหนึ่งจะมีอัลลีล P และอีกครึ่งหนึ่งเป็นอัลลีล p และจากการผสมพันธุ์กันเองในรุ่น F1 ได้รุ่น F2 ดังแสดงในตาราง ได้อัตราส่วนดอกสีม่วง: ดอกสีขาว = 3:1

Flower color เมนเดลเลือกลักษณะกรรมพันธุ์ทั้งหมด 7 คู่ลักษณะ ซึ่งในปัจจุบันทราบว่าเป็นลักษณะที่ควบคุมโดยยีนที่อยู่บนโครโมโซมต่างคู่กัน Flower position Seed color Seed shape Pod shape Pod color Stem length

Some useful genetic vocabolary ในสิ่งมีชีวิตที่เป็น diploid ลักษณะกรรมพันธุ์ควบคุมโดยยีน 2 รูปแบบ (allele=อัลลีล) หรือมากกว่า 2 รูปแบบ เช่น ลักษณะสีดอกถั่วลันเตามียีนรูปแบบหนึ่งควบคุมดอกสีม่วงเข้ม (P) และยีนอีกรูปแบบหนึ่งควบคุมลักษณะดอกสีขาว (p) อัลลีล : ยีนคู่ที่มีรูปแบบต่างกันและที่ตำแหน่งโลกัส (locus) เดียวกัน homozygous : พวกพันธุ์แท้ที่มีคู่อัลลีลเหมือนกัน heterozygous : ลูกผสมที่มีอัลลีลต่างกัน phenotype : ลักษณะกรรมพันธุ์ที่แสดงออกมาให้เห็น genotype : องค์ประกอบคู่ยีนหรือคู่อัลลีลที่อยู่ภายในเซลล์

A testcross ในการทดสอบว่า ดอกสีม่วงที่เห็นมี genotype เป็น PP หรือ Pp โดยการนำพืชที่สงสัยนี้ไปผสมกับพันธุ์ที่ทราบ genotype โดยเฉพาะ pp สังเกต F1 ว่ามีลักษณะอย่างไร ถ้า F1 มีสีม่วงทั้งหมดแสดงว่าพันธุ์ทดลองเป็น PP ถ้า F1 มีสีม่วงครึ่งหนึ่งและสีขาวครึ่งหนึ่งแสดงว่าพันธุ์ทดลองเป็น Pp

Law of independent assortment (กฏการแยกยีนเพื่อการเรียงตัวกันใหม่อย่างอิสระ) เมนเดลทดลองผสมพันธุ์ถั่วลันเตาขั้นต่อไปโดยพิจารณาลักษณะที่แตกต่างกัน 2 คู่ พร้อมกัน เรียกว่า (dihybrid cross) ตัวอย่างเช่น ลักษณะเมล็ดเรียบ สีเหลือง กับ เมล็ดขรุขระ สีเขียว

HYPOTHESIS: DEPENDENT ASSORTMENT parent ถ้าเป็นไปตามสมมุติฐาน dependent assortment คือเป็นการแยกยีนเพื่อการรวมตัวกันใหม่ไม่เป็นอย่างอิสระ ลูกผสม F1 จะสามารถสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้เพียง 2 แบบ คือ YR และ yr ที่เหมือนกับรุ่นพ่อแม่เท่านั้น และรุ่น F2 จะแสดงลักษณะเมล็ดเรียบ สีเหลือง : เมล็ดขรุขระ สีเขียว ในอัตราส่วน 3:1 F1 F2

HYPOTHESIS: INDEPENDENT ASSORTMENT parent ถ้าเป็นไปตามสมมุติฐาน independent assortment คือ ยีนแต่ละคู่จะแยกจากกัน และกลับเข้ามารวมกันได้อย่างอิสระ ลูกผสม F1 จะสามารถสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้ 4 แบบ และมีอัตราส่วนของ Phenotype = 9:3:3:1 ซึ่งการทดลองของเมนเดลได้ผลสอดคล้องตามสมมุติฐานข้อนี้ F1 F2

สรุป หลักการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ 2 ข้อ ได้แก่ Law of segregation Law of independent assortment

หลักการถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์ตามกฏของเมนเดล เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้นำเอาหลักการของเมนเดลมาเป็นพื้นฐานศึกษาวิจัยเพิ่มเติมมากขึ้น และพบปรากฏการณ์ใหม่ๆหลายอย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อมูลสนับสนุนข้อเสนอของเมนเดลทั้งสิ้น ได้แก่

Incomplete dominance พืชลิ้นมังกร เมื่อเอาพันธุ์ดอกสีแดงผสมกับพันธุ์ดอกสีขาว จะได้ลูกผสมรุ่นF1 มีดอกสีชมพู และเมื่อ F1 ผสมกันเอง จะได้ลูกผสม F2 มีดอกทั้ง 3 ลักษณะ คือ ดอกสีแดง ชมพู และขาว ในอัตราส่วน 1:2:1 ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าอัตราส่วนของ phenotype ตรงกับอัตราส่วน genotype ในกรณีนี้ยีนที่ควบคุมลักษณะดอกสีแดงไม่แสดงสมบัติเด่นอย่างแท้จริง

Multiple alleles for the ABO blood groups

Multiple allele กับระบบหมู่เลือดระบบ ABO ในคน หมู่เลือดระบบ ABO เป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ยีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการสังเคราะห์แอนติเจนบนผิวเม็ดเลือดแดง ประกอบด้วย 3 อัลลีล ในแต่ละคนมี 2 อัลลีล ดังนั้น genotype ที่เป็นไปได้มี 6 แบบ IA และ IB มีสมบัติเด่นด้วยกันทั้งคู่ (codiminance) ดั้งนั้นคนที่มี genotype IAIB (หมู่เลือดAB) จะมีทั้งแอนติเจน A และ B ส่วน i มีสมบัติด้อยกว่า IA และ IB คนที่มี genotype ii (หมู่เลือด O) จึงไม่มีแอนติเจน แต่สร้างแอนติบอดี้ทั้ง A และ B เมื่อผสมเมล็ดเลือดของคนหมู่เลือดอื่นๆกับเซรุ่มของหมู่เลือด O จะทำให้เกิดการตกตะกอน

A simplified model for polygenic inheritance of skin color ลักษณะกรรมพันธุ์ที่ควบคุมโดยยีนหลายยีน หรือ polygene ซึ่งอาจมีตั้งแต่ 3 ยีน ถึง 40 ยีน เรียก กรรมพันธุ์แบบโพลียีน (polygenic inheritance) รูปที่แสดงเป็นรูปแบบง่ายๆในเรื่องสีผิว สีผิวควบคุมโดยยีน 3 ยีน ในแต่ละยีนมีสมบัติการแสดงออกไม่เต็มที่ (imcomplete dominance) การถ่ายทอดลักษณะสีผิวนี้จะเห็นได้ชัดเจนจากผลการผสมพันธุ์ระหว่างลักษณะต่ำสุดกับลักษณะสูงสุด โดยสังเกตได้จากลูกผสม F1 มี genotype แบบ AaBbCc ซึ่งมีหน่วยสีดำอยู่ 3 หน่วย และเมื่อ F1 ผสมกันเองได้ F2 พบว่ามีความแตกต่างแปรผันของสีผิวต่อเนื่องในลักษณะคล้ายเส้นโค้งปกติ

Pedigree analysis reveals Mendelian patterns in human inheritance

Pedigree analysis (a) pedigree tracing a dominant trait (widow’s peak) Pedigree เขียนขึ้นมาจากประวัติการถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์ที่แสดงออกทาง phenotype อย่างใดอย่างหนึ่งโดยใช้สัญลักษณ์ต่างๆแทนลักษณะ phenotype ของแต่ละคนในวงศ์ตระกูลนั้น ตามหลักมาตรฐานสากลดังนี้ สี่เหลี่ยม หมายถึง ผู้ชาย วงกลม หมายถึง ผู้หญิง แต่ละคู่แต่งงานเชื่อมด้วยเส้นเดี่ยวจากผู้ชายไปผู้หญิง ลำดับของลูกแต่ละคนเรียงจากซ้ายไปขวา ผู้ที่แสดงลักษณะกรรมพันธุ์แสดงด้วยสีเข้ม (a) pedigree tracing a dominant trait (widow’s peak) (b) Pedigree tracing a recessive trait (attached earlobes)

Many human disorders follow Mendelian patterns of inheritance Recessive inherited disorders ลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากยีนด้อยทาง autosome Cystic fibrosis โรคนี้พบมากในคนผิวขาว พบในอัตรา 1 คนใน 2,500 คน มีคนผิวขาวเป็นพาหะของโรคนี้ถึง 4% สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสังเคราะห์ membrane protein ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ chloride ion transport ระหว่างภายในเซลล์กับของเหลวภายนอกเซลล์ ผลคือทำให้ภายนอกเซลล์มีปริมาณ chloride สูง มีผลต่อเนื่องทำให้เมือกที่คลุมเซลล์เหนียวข้นกว่าปกติ สะสมอยู่ในตับอ่อน ปอด ทางเดินอาหาร และอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียได้ง่าย เด็กที่เป็นโรคนี้มักจะตายก่อนอายุ 5 ขวบ การที่ทราบวาเป็นโรคนี้และให้การดูแล รักษา ป้องกันการติดเชื้อเป็นอย่างดี ทำให้สามารถมีอายุยืนยาวขึ้นได้

Tay-Sachs disease สาเหตุของโรคเกิดจากความผิดปกติของเอนไซม์ที่ไม่สามารถสลายไขมันบางชนิดในสมองได้ ทำให้เกิดความเสื่อมของระบบประสาท อาจทำให้ตาบอด สติปัญญาเสื่อม กล้ามเนื้อหมดแรงจนเป็นง่อยได้ ซึ่งจะแสดงอาการในเด็กเล็กประมาณ 2-3 เดือนหลังคลอด และมีอาการรุนแรงจนทำให้เด็กเสียชีวิตได้ภายในอายุ 2-3 ขวบ โรคนี้พบมากในกลุ่มชาวยิว ประมาณ 1 คนใน 3,600 คนของเด็กเกิดใหม่ ซึ่งสูงกว่าเด็กกลุ่มอื่นๆ 100 เท่า Sickle cell disease เป็นโรคที่พบบ่อยในอัฟริกา เกิดจากกรดอะมิโน val ไปแทนที่ glu ที่ตำแหน่งที่ 6 ในสายบีตาของฮีโมโกลบิน เป็นผลทำให้เม็ดเลือดแดงบิดเบี้ยวเป็นรูปเคียว ทำให้มีผลกระทบต่อการนำออกซิเจน คนที่เป็น heterozygous มีความต้านทานสูงต่อการติดเชื้อไข้มาลาเรีย และสามารถถ่ายทอดยีนต่อไปได้

Dominants inherited disease ลักษณะผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากยีนเด่นของ autosome Huntington’s disease โรคนี้พบในอัตรา 1 คนใน 10,000 คน อาการของโรคจะแสดงออกในช่วงอายุ 35-45 ปี โดยแสดงอาการผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง และเป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย การแสดงอาการออกล่าช้าของยีนนี้มีผลกระทบต่อโครงสร้างทางพันธุกรรมของประชากร เพราะกว่ายีนนี้จะแสดงออกก็ผ่านระยะสืบพันธุ์และถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์นั้นไปสู่รุ่นลูกแล้ว

Multifactorial disorders บางคนอาจเป็นโรคบางโรค ได้แก่ โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง alcoholism ฯลฯ ได้ง่ายกว่าคนอื่น โรคเหล่านี้เป็นโรคที่เกิดจากหลายสาเหตุ คือเกิดจากกรรมพันธุ์ร่วมกับสิ่งแวดล้อมเป็นสาเหตุสำคัญของโรค (Multifactorial disorders) โรคเหล่านี้อาจควบคุมโดยยีนหลายตัว เช่นในปัจจุบันพบแล้วว่ายีนที่ควบคุมการทำงานของหัวใจมีหลายยีน ดังนั้นการดำรงชีวิตแบบต่างๆในแต่ละคนทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ไม่เหมือนกัน พบว่าการออกกำลังกาย การควบคุมชนิดของอาหาร การไม่สูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงอาการเครียดต่างๆ ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดได้ ในปัจจุบันยังมีความรู้ไม่มากนักเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันเหล่านี้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้ความรู้แก่ประชาชนในการควบคุมสิ่งแวดล้อมและมีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ดีจะทำให้ไม่เป็นโรคต่างๆได้

Technology is providing new tools for genetic testing and counseling ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเอื้อประโยชน์ในการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมและการให้คำปรึกษา

Fetal diagnosis เปรียบเทียบระหว่างวิธี aminocentesis กับวิธี chorionic villus sampling

Fetal diagnosis เทคนิคการนำเอาตัวอย่างเซลล์ของทารก มาหาความผิดปกติทางกรรมพันธุ์กระทำได้โดยวิธี aminocentesis ทำได้โดยใช้เข็มดูดเอาน้ำคร่ำที่มีเซลล์ที่หลุดออกมาจากผิวหนังของทารก นำมาเพาะเลี้ยงให้แบ่งเซลล์เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพียงพอสำหรับนำไปวิเคราะห์ตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมและทางชีวเคมี วิธีนี้กระทำในช่วง 14-16 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์และต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์กว่าจะรู้ผล อีกเทคนิคหนึ่งคือ การเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อโคเรียน (chorionic villi sampling, CVS) กระทำโดยใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปทางปากมดลูกแล้วดูดเอาตัวอย่างเนื้อเยื่อของเยื่อหุ้ม chorion ที่หุ้มถุงน้ำคร่ำออกมา เนื้อเยื่อนี้สามารถนำไปวิเคราะห์และตรวจสอบได้ทันที วิธีนี้สามารถใช้ตรวจสอบทารกที่มีอายุเพียง 8-10 สัปดาห์ และรู้ผลการตรวจสอบได้ภายใน 1-2 วันเท่านั้น

The chromosomal basis of inheritance

The chromosomal basis of Mendel’s law

โครโมโซมเป็นตัวกลางสำคัญสำหรับการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ ภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างการทดลองผสมพันธุ์ถั่วลันเตา โดยพิจารณาลักษณะที่ต่างกัน 2 ลักษณะพร้อมกัน (dihybrid cross) ของเมนเดล กับพฤติกรรมของโครโมโซม โดย 2 ลักษณะนี้ควบคุมโดยยีนที่อยู่บนโครโมโซมต่างแท่งกัน (จริงๆแล้วถั่วลันเตามีโครโมโซม 7 แท่ง แต่ในรูปแสดงเพียง 4 แท่ง)ในรูปแสดง metaphase I (ช่องสีเหลือง) และการแยกออกจากกันของโครโมโซมคู่เหมือน (homologous chromosome) ในระยะ anaphase I ซึ่งเป็นแบบ segregation และ independent assortment ผลสุดท้าย F1 สร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้ 8 แบบ และแต่ละแบบมีจำนวนเท่าๆกัน ถ้าศึกษาต่อจนถึงรุ่น F2 จะได้อัตราส่วน phenotype = 9:3:3:1

หลักความน่าจะเป็นไปได้ สิ่งมีชีวิตพวก diploid ถ่ายทอดสารพันธุกรรมหรือยีนไปตามโครโมโซมโดยผ่านเซลล์สืบพันธุ์ การแยกโครโมโซมคู่เหมือนในกระบวนการไมโอซิส เป็นแบบสุ่มนั้น การคาดคะเน genotype หรือ phenotype ในรุ่นลูกอาจคำนวณได้ตามหลักความน่าจะเป็นไปได้ (probability) ซึ่งมีหลักสำคัญ 2 ประการ คือ 1. กฏการคูณ 2. กฏการบวก

Morgan traced a gene to a specific chromosome Thomas Hunt Morgan เป็นนัก embryologist ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบยีนที่อยู่ในโครโมโซม X (sex linkage) ของแมลงหวี่ (Drosophila melanogaster) โดยขณะศึกษาพันธุกรรมของแมลงหวี่ เขาพบแมลงหวี่ตัวผู้ตัวหนึ่งมีตาสีขาว (mutant phenotype) ซึ่งแตกต่างไปจากแมลงหวี่ตาสีแดงปกติทั่วไป (wild type)

Morgan’s first mutant แมลงหวี่ตาสีแดงเป็นลักษณะปกติ เรียกว่า wild type และลักษณะตาสีขาวเป็น mutant phenotype จากลักษณะนี้ที่ทำให้เขาค้นพบยีนที่อยู่ในโครโมโซม X

Sex-linked inheritance Morgan ทำการทดลองผสมพันธุ์แมลงหวี่ตัวผู้ตาสีขาวกับตัวเมียตาสีแดงปกติ ได้ลูกผสมรุ่น F1 ทุกตัวมีตาสีแดง และรุ่น F2 มีตาสีแดงและตาสีขาว ในอัตราส่วนประมาณ 3:1 แต่ที่น่าสนใจมากคือ ตัวเมียทุกตัวมีตาสีแดง ส่วนตัวผู้มีทั้งตาสีแดงและตาสีขาวอย่างละเท่าๆกัน Morgan ตั้งสมมุติฐานว่า ยีนที่ควบคุมสีตานี้อยู่ในโครโมโซม X (ในรูป w+ = dominant allele (ตาสีแดง), w = recessive allele (ตาสีขาว))

Morgan เลือกศึกษาแมลงหวี่เพราะแมลงหวี่มีคุณสมบัติที่เป็นข้อดีหลายประการ ดังนี้ แมลงหวี่พบได้ทั่วไปและกินราที่ขึ้นบนผลไม้เป็นอาหาร ช่วงชีวิตสั้น และให้ลูกหลานจำนวนมาก แมลงหวี่คู่หนึ่งสามารถให้ลูกได้เป็นร้อยตัว และรุ่นใหม่สามารถผสมพันธุ์ได้อีกภายใน 2 สัปดาห์ แมลงหวี่มีโครโมโซมเพียง 4 คู่ ซึ่งศึกษาได้ง่ายจาก กล้องจุลทรรศน์ 3คู่เป็น autosome และ 1 คู่เป็น sex chormosome ตัวเมียเป็น XX และตัวผู้เป็น XY

ต่อมาได้มีการศึกษาทดลองในสัตว์อื่นๆอีก และเป็นที่ยอมรับว่า ยีนที่อยู่ในโครโมโซม X มีแบบแผนการถ่ายทอดจากพ่อและแม่ไปสู่ลูกรุ่นถัดไปต่างจากยีนที่อยู่ใน autosome

Linked gene trend to be inherited together because they are located on the same chormosome ยีนที่เป็นลิงเกจกันมีแนวโน้มที่จะถูกถ่ายทอดไปด้วยกันเนื่องจากยีนนั้นอยู่บนโครโมโซมเดียวกัน การศึกษาต่อมาของ Morgan และผู้ร่วมงาน แสดงให้เห็นการถ่ายทอดลักษณะของยีนที่เป็นลิงเกจกัน โดยเลือกศึกษา 2 ลักษณะที่แตกต่างกัน คือ สีตัว และขนาด wild type มีตัวสีเทาและปีกยาวปกติ ส่วน mutant phenotype มีตัวสีดำ ปีกสั้นและมีขนาดเล็กกว่า ยีนที่ควบคุม b+ = gray, b = black, vg+ = normal wing, vg = vestigial wing ยีนเหล่านี้อยู่บน autosome

Evidence of linked genes in Drosophilia Morgan ทำการผสมพันธุ์ตัวเมียที่มี genotype = b+ b vg+ vg กับตัวผู้ที่มี genotype = b b vg vg ถ้าเป็นไปตามกฏของเมนเดิล (Mendel’s law of independent assortment) รุ่น F1 มี 4 ลักษณะในอัตราส่วน 1:1:1:1 แต่จากการทดลองไม่ได้ผลตามนั้น แสดงว่ายีนที่ควบคุมลักษณะทั้ง 2 ลักษณะนี้ไม่ได้แยกออกจากกันเพื่อการรวมตัวใหม่อย่างอิสระ เป็นเพราะยีนทั้ง 2 ยีนอยู่ในโครโมโซมเดียวกัน ที่เรียกว่า linked gene หรือ linkage ยีนที่เป็นลิงเกจกันมีแนวโน้มจะถูกถ่ายทอดไปด้วยกัน แต่มีโอกาสแยกจากกันได้บ้างโดย crossing over

Independent assortment of chormosomes and crossing over produce genetic recombination The recombination of linked gene: crossing over ยีนต่างๆในโครโมโซมเดียวกันแสดงความถี่ของการเกิด recombination แตกต่างกันในยีนแต่ละคู่ที่ใช้ทดลอง และโอกาสของการเกิด gene recombination มีความสัมพันธ์โดยตรงกับระยะทางระหว่างยีนในโครโมโซมเดียวกัน โดย recombination ระหว่างยีนที่อยู่ใกล้กันมีโอกาสน้อยกว่ายีนที่อยู่ห่างกัน

Recombination due to crossing over (a) Production of recombinant gametes

(b) Production of recombinant offspring ผลคือได้รุ่นลูกที่มีลักษณะที่ถูกถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ และลักษณะที่เป็น recombination ที่เกิดจาก crossing over โดย ความถี่ของ recombination หมายถึง จำนวนลูกที่มีลักษณะ recombination ในจำนวนลูกทั้งหมด คิดเป็น %

Geneticists can use recombination data to map a chromosome genetic loci Alfred H. Sturtevant ลูกศิษย์ของ Morgan ได้ทำการทดลองผสมพันธุ์แมลงหวี่เพื่อหาตำแหน่งและระยะทางระหว่างยีน (genetic map) ในกลุ่มลิงเกจด้วยกัน โดยใช้หลักการที่ว่าความถี่ของการเกิด recombination หรือความถี่ของ crossing over ระหว่างยีน 2 ยีนมีความหมายแสดงถึงระยะทางระหว่างยีนทั้งสอง กล่าวคือ ค่าความถี่ของการเกิด recombination 1 % = 1 map unit ตัวอย่างเช่น

Using recombination frequencies to construct a genetic map: ศึกษา gene recombination ของแมลงหวี่ของยีน b vg และ cn ที่อยู่บนโครโมโซมเดียวกัน พบว่า ความถี่ของ recombination ระหว่าง cn กับ b = 9%, cn กับ vg = 9.5 % และ b กับ vg = 17 % สามรถทำ genetic map ที่เรียกว่า linkage map ได้ดังรูป นักพันธุศาสตร์ในยุคปัจจุบันได้นำหลักการดังกล่าวมาใช้อย่างกว้างขวางเพื่อศึกษา genetic map ของสิ่งมีชีวิตต่างๆรวมทั้งในคนด้วย

Sex chromosomes The chromosomal basis of sex varies with organism Some chromosomal systems of sex determination ระบบการกำหนดเพศแบบต่างๆในสัตว์ต่างชนิดกัน การกำหนดเพศ (sex determination) ในสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับชนิดของโครโมโซมเพศ

(a) ระบบ x-y ในคนและสัตว์เลี้ยงลูกลูกด้วยน้ำนมชนิดอื่นๆรวมทั้งพวกแมลงบางชนิด เพศของลูกขึ้นอยู่กับว่าสเปิร์มของพ่อมีโครโมโซม X หรือ Y

(b) ระบบ X-O ในพวกตั๊กแตน จิ้งหรีด แมลงสาป และแมลงอื่นๆบางชนิด มีโครโมโซมเพศแบบเดียว ตัวเมียเป็น XX ตัวผู้เป็น XO (O= ศูนย์ ตัวผู้มีโครโมโซม X เพียงอย่างเดียว) เพศของลูกกำหนดโดยสเปิร์มมีหรือไม่มีโครโมโซม X

(c) ระบบ Z-W ในพวกนก ปลาบางชนิด และแมลงบางชนิดรวมถึงพวกผีเสื้อ ในสัตว์เหล่านี้เพศถูกกำหนดโดยโครโมโซมเพศที่มีอยู่ในเซลล์ไข่ เพื่อให้เห็นความแตกต่างของระบบการกำหนดเพศจึงนิยมใช้อักษร Z และ W แทน X และ Y ตัวผู้เป็น ZZ และตัวเมียเป็น ZW

(d) ระบบ haploid – diploid ในพวกผึ้งและมดไม่มีโครโมโซมเพศ ตัวเมียเกิดมาจากไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ดังนั้นจึงเป็น diploid ส่วนตัวผู้เกิดมาจากไข่ที่ไม่ได้รับการปฏิสนธิจึงเป็น haploid

ในคน การเจริญและพัฒนาเปลี่ยนแปลงของอวัยวะสืบพันธุ์จะเริ่มตั้งแต่เอมบริโอระยะ 1-2 เดือนในครรภ์มารดา ซึ่งจะเจริญเป็นอัณฑะหรือรังไข่ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนของเอมบริโอ ความแตกต่างของฮอร์โมนเป็นได้ 2 ทางขึ้นอยู่กับว่ามีโครโมโซม Y หรือไม่ ในปี ค.ศ. 1990 นักวิจัยชาวอังกฤษพบยีนที่ควบคุมการเจริญของอัณฑะ มีชื่อว่า SRY ยีนนี้อยู่บนโครโมโซม Y ถ้าไม่มียีน SRY เนื้อเยื่อของอวัยวะสืบพันธุ์ (gonads) จะเจริญไปเป็นรังไข่ ดังนั้นสรุปว่าการมีหรือไม่มี SRY เป็นตัวกำหนดการเจริญของเนื้อเยื่อของอวัยวะสืบพันธุ์ การเจริญพัฒนาเปลี่ยนแปลงของอวัยวะสืบพันธุ์ค่อนข้างซับซ้อนเกี่ยวข้องกับการทำงานของยีนหลายยีนด้วยกัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า SRY มีบทบาทควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนซึ่งควบคุมการทำงานของยีนอื่นๆอีกมาก

Sex linked genes have unique patterns of inheritance ยีนที่อยู่ในโครโมโซมเพศมีแบบแผนการถ่ายทอดกรรมพันธุ์แตกต่างไปจากยีนที่อยู่ใน autosome

The transmission of sex linked recessive traits การถ่ายทอดลักษณะทางกรรมพันธุ์โดยยีนด้อยที่เกี่ยวเนื่องกับเพศ อธิบายเครื่องหมายต่างๆที่ใช้ X และ Y = โครโมโซมเพศ, A = ยีนเด่น, a =ยีนด้อย กรอบสีขาว = ลักษณะปกติ, กรอบสีอ่อน = เป็นพาหะ, กรอบสีเข้ม = เป็นโรค (a) แม่ที่มีลักษณะปกติและเป็น dominant homozygote แต่งงานกับพ่อที่เป็นโรค จะถ่ายทอดยีนด้อยให้ลูกสาวทุกคน แต่ไม่ถ่ายทอดไปยังลูกชาย ลูกสาวทุกคนจะมีลักษณะปกติแต่เป็นพาหะ

(b) แม่ที่เป็นพาหะแต่งงานกับพ่อที่เป็นปกติ ในจำนวนลูกชายและลูกสาวทั้งหมดครึ่งหนึ่งจะมียีนด้อย อีกครึ่งหนึ่งเป็นปกติ ลูกชายทุกคนที่มียีนด้อยจะเป็นโรค ส่วนลูกสาวมียีนด้อยตัวเดียวมีลักษณะปกติแต่เป็นพาหะเหมือนแม่

(c) แม่ที่เป็นพาหะแต่งงานกับพ่อที่เป็นโรค ครึ่งหนึ่งของลูกจะเป็นโรค ลูกสาวที่ไม่เป็นโรคจะเป็นพาหะ ส่วนลูกชายที่ไม่เป็นโรคจะเป็นปกติโดยไม่มียีนด้อยของโรคนี้เลย

Sex linked disorder in humans โรคทางกรรมพันธุ์ที่เกิดจากยีนด้อยในโครโมโซมเพศในคน ปัจจุบันพบแล้วมีหลายโรคด้วยกัน เช่น ตาบอดสี โรคกล้ามเนื้อแขนขาลีบ (Duchenne muscular dystrophy) ฯลฯ โรคกล้ามเนื้อแขนขาลีบนี้พบในสหรัฐอเมริกาในอัตราค่อนข้างสูง คือคนผู้ชายเป็นโรคนี้ 1 คนในทุกๆ 3,500 คน คนที่เป็นโรคนี้มักมีอายุไม่เกิน 20 ปี อาการของโรคนี้คือกล้ามเนื้อแขนขาลีบ นักวิจัยพบว่าโรคนี้เกิดจากการขาดโปรตีนในกล้ามเนื้อที่สำคัญ คือ dystrophin ยีนที่ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนนี้อยู่บนโครโมโซม X

โรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) โรคนี้เกิดจากการขาดโปรตีนจำเป็นสำหรับการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นคนที่เป็นโรคนี้จึงมีอาการเลือดไหลออกง่ายหรือหยุดได้ยาก ถึงแม้มีบาดแผลเพียงเล็กน้อยก็ตาม โรคนี้รู้จักกันมานานและมีประวัติน่าสนใจ คือประวัติการถ่ายทอดยีนด้อยนี้ในราชวงศ์ของพระนางเจ้าวิกตอเรีย (1819-1901) ที่ยีนนี้ถ่ายทอดแพร่กระจายต่อไปในราชวงศ์ของสเปนและรัสเซีย

แผนภาพการถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์ hemophilia ในราชวงศ์พระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษ

X-inactivation in female mammals แม้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมทั้งคนด้วยจะมีโครโมโซม X 2 แท่ง แต่แท่งหนึ่งจะไม่ทำหน้าที่หรืออยู่ในสภาพ inactive ระหว่างการเจริญของเอมบริโอ ดังนั้นทั้งในตัวผู้และตัวเมียจะมียีนเพียง 1 ชุดที่อยู่ในโครโมโซม X ที่ทำหน้าที่ Inactive-X ในตัวเมียจะถูกกำจัดออกมองเห็นเป็นจุดดำอยู่ตรงขอบด้านในของนิวเคลียส เรียกว่า Barr body ยีนที่อยู่บนโครโมโซม X แท่งที่เป็น Barr body นี้จะไม่ทำหน้าที่ แต่จะ active ขึ้นมาใหม่ได้อีกในเซลล์ที่จะเจริญเป็นไข่

นักพันธุศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ Mary Lyon แสดงให้เห็นว่า การที่โครโมโซม X แท่งใดจะกลายเป็น Barr body หรือ inactive-X จะเป็นแบบสุ่มในแต่ละเซลล์ของเอมบริโอ ดังนั้นจึงเป็นผลให้ในตัวเมียประกอบด้วยเซลล์ 2 แบบ คือแบบที่ inactive-X มาจากพ่อ และแบบที่ inactive-X มาจากแม่ หลังจากที่ inactive-X กลายเป็น Barr body แล้วและแบ่งตัวแบบไมโอซีสต่อไป กลุ่มเซลล์ต่อมาจะมี inactive –X เหมือนกันหมด ดังนั้นในตัวเมียที่เป็น heterozygous ของลักษณะกรรมพันธุ์ที่เกี่ยวกับโครโมโซมเพศ ครึ่งหนึ่งของเซลล์จะแสดง allele ตัวหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งแสดง allele อีกตัวหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การเกิดสีของแมว 3 สี (Calico cat) และ อาการที่ต่อมเหงื่อไม่เจริญในคน อาการต่อมเหงื่อไม่เจริญนี้เป็น recessive X-linked mutation ผู้หญิงที่เป็น heterozygous จะมีผิวหนังที่บางส่วนมีต่อมเหงื่อและบางส่วนไม่มีต่อมเหงื่อ

X-inactivation and the calico cat บนโครโมโซม X มียีนที่ควบคุมสีขน อัลลีลหนึ่งควบคุมสีดำอีกอัลลีลหนึ่งควบคุมสีส้ม แมวตัวผู้ (XY) จะมีเพียงอัลลีลเดียว ดังนั้นแมวที่มีทั้ง 2 สี (heterozygous) จึงมักเป็นตัวเมียเสมอ ตัวเมียที่เป็น heterozygous นี้ ในระหว่างการเจริญของเอมบริโอโครโมโซม X ตัวหนึ่งในเซลล์ต่างๆกลายเป็น Barr body ซึ่งเป็นแบบสุ่ม และเมื่อเซลล์แบ่งตัวเซลล์บริเวณใกล้ๆกันนั้นจะมีโครโมโซม X แบบเดียวกัน ทำให้ตัวแมวเกิดเป็นบริเวณด่างมีสีต่างกัน แล้วแต่ว่ามีโครโมโซม X สีใด

Inactive-X เกี่ยวข้องกับการเกาะของ methyl group (-CH3) กับ cytosine ซึ่งเป็น nitrogenous base ตัวหนึ่งของ DNA การกำหนดว่าโครโมโซมแท่งใดจะเป็นเป้าหมายของกระบวนการ methylation นักวิจัยได้ค้นพบยีนตัวหนึ่งที่ active เฉพาะในโครโมโซมที่เป็น Barr body ยีนนี้เรียกว่า XIST (X inactive specific transcript) ผลผลิตของยีนนี้ (specific transcript) คือ RNA ซึ่งจะเกาะอยู่ที่โครโมโซม X ตรงตำแหน่งที่ RNA นี้ถูกสร้างขึ้นมา ทำให้โครโมโซม X แท่งนั้น inactive แต่สมมุติฐานนี้ยังมีข้อสงสัยอีกมากมายที่ยังไม่ทราบแน่ชัด

Alteration of chromosome number ปกติสิ่งมีชีวิตมีจำนวนโครโมโซมจำเพาะและคงที่สำหรับสปีซี่ส์หนึ่งๆ แต่บางครั้งพบว่ามีจำนวนโครโมโซมแตกต่างไปจากจำนวนปกติ สาเหตุเกิดจากความผิดปกติในกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ในพ่อหรือแม่ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Nondisjunction ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วง Meiosis I หรือ II ยังผลให้เกิดเซลล์สืบพันธุ์ที่มีจำนวนโครโมโซมมากหรือน้อยกว่าปกติ เมื่อเซลล์สืบพันธุ์ที่ผิดปกตินี้ผสมกับเซลล์สืบพันธุ์เพศตรงข้าม จะได้ไซโกตที่มีจำนวนโครโมโซมผิดปกติ ซึ่งมีผลกระทบต่อการเจริญของเอมบริโอในลักษณะต่างๆกัน

การเปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. Aneuploidy คือปรากฏการณ์ที่มีจำนวนโครโมโซม 1 หรือ 2 แท่งแตกต่างไปจากจำนวนปกติ (2n) เช่น 2n+1 หรือ 2n+2 พบได้ทั้งในพืชและสัตว์ ตัวอย่างเช่น Down syndrome 2. Polyploidy คือปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงจำนวนโครโมโซม โดยเพิ่มขึ้นหรือลดลงครั้งละชุดจากจำนวนปกติ ปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นในพืช ซึ่งมีผลต่อการเกิดวิวัฒนาการของพืช ดังจะเรียนต่อไป

Alterations of chromosome structure

Alteration of chromosome structure การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโครโมโซม สามารถจำแนกเป็น 4 แบบ Deletion การที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซมขาดหายไป ตัวอย่างเช่น cri-chat syndrome ส่วนหนึ่งของโครโมโซมคู่ที่ 5 หายไป Duplication การมียีนหรือส่วนโครโมโซมเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

Duplication มีบทบาทสำคัญในกระบวนการวิวัฒนาการ ยีนที่เพิ่มขึ้นมาซ้ำกับยีนเดิมมักเป็นยีนที่ไม่ทำหน้าที่เพราะเป็นส่วนเกิน แต่เมื่อการกาลเวลาผ่านไปองค์ประกอบของยีนนั้นอาจเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย จนถึงขั้นที่มีสมบัติแตกต่างจากยีนเดิม และสามารถทำหน้าที่เป็นยีนใหม่ได้ การเพิ่มจำนวนยีนทีละเล็กทีละน้อยเช่นนี้ ยังผลให้สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากบรรพบุรุษ

Inversion เกิดจากการเปลี่ยนทิศชองส่วนโครโมโซม ซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อมีรอยคอด 2 แห่งบนโครโมโซม และส่วนของโครโมโซมนั้นต่อกลับเข้าไปแต่กลับทิศในโครโมโซมเดิม การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ไม่มีผลต่อการแสดงออกของ phenotype แต่อาจแสดงผลได้ถ้าได้รับอิทธิพลจากยีนข้างเคียง Translocation เกิดจากการสลับที่ระหว่างส่วนของโครโมโซมต่างคู่กัน ตัวอย่างเช่น chronic myelogenous leukemia (CML) แบบนี้ไม่พบบ่อยนักในธรรมชาติ เพราะมีผลต่อการสร้างเซลล์สืบพันธุ์

Down syndrome

Down syndrome เกิดจากการที่มีโครโมโซมคู่ที่ 21 เพิ่มขึ้นอีก 1 แท่ง (Trisomy, 47,+21) เด็กที่เป็นโรคมีอาการ ปัญญาอ่อน ลักษณะทั่วไปเตี้ย สมองและกล้ามเนื้อเจริญช้ากว่าปกติ ประมาณ 40 % มีอาการหัวใจผิดปกติ และเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจได้ง่าย ทำให้อายุไม่ยืนยาว นักวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่า แม่ที่มีอายุมากระหว่าง 35-45 ปีมีโอกาสให้กำเนิดลูกเป็น Down syndrome สูงกว่าแม่อายุน้อย