ระบบต้นทุนปกติ และ บัญชีต้นทุนงานสั่งทำ ระบบต้นทุนปกติ และ บัญชีต้นทุนงานสั่งทำ
ชนิดของต้นทุนกิจการอุตสาหกรรม Types of Product-Costing Systems ต้นทุนงานสั่งทำ Job order Costing ต้นทุนกระบวนการ(ช่วง) Process Costing
ลักษณะสำคัญของวิธีการบัญชีต้นทุนงาน 1. สินค้าแต่ละคำสั่งการผลิตมีลักษณะแตกต่างกัน 2. สินค้ามักมีราคาสูง 3. ผลิตสินค้าตามคำสั่งลูกค้าเท่านั้น ไม่ผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อรอขาย(Mass Production) 4. ใช้บัตรต้นทุนงานควบคุมต้นทุนการผลิตแต่ละคำสั่งแยกออก จากกัน ตัวอย่าง กิจการที่ใช้วิธีต้นทุนงานสั่งทำ - โรงพิมพ์ พิมพ์งานตามคำสั่งพิมพ์ของลูกค้า - ธุรกิจก่อสร้าง - ธุรกิจทนายความ
การบัญชีต้นทุนงานสั่งทำ การบัญชีต้นทุนงานสั่งทำ คือ วิธีการบัญชีเก็บรวบรวมและสะสมต้นทุน การผลิตของงานตามคำสั่งผลิตของลูกค้า เนื่องจากคำสั่งการผลิตแต่ละ งานจะแตกต่างกัน จึงจะต้องรวบรวมและสะสมต้นทุนแยกตามคำสั่งผลิต
ต้นทุนงานสั่งทำ (Job order costing) วิธีต้นทุนปกติ (Normal costs method)
องค์ประกอบต้นทุนผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายการผลิต ต้นทุนจริง จริง ต้นทุนปกติ ประมาณการ
สาเหตุการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน 1. ไม่มีต้นทุนใช้เพื่อกำหนดราคาสินค้าขึ้นล่วงหน้าเพื่อใช้ในการประมูลงาน 2. หากใช้วิธีต้นทุนตามจ่ายจริง กว่าจะทราบต้นทุนผลิตทั้งหมดจะต้องรอจนกว่า จะสิ้นงวดเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายบางตัวถูกกำหนดด้วยงวดเวลา เช่น ค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยจ่าย เงินเดือนพนักงานประจำ เป็นต้น 3. ไม่มีข้อมูลเพื่อเตรียมสำหรับการวางแผนงานล่วงหน้า 4. นอกจากนี้การปิดบัญชีต้นทุนจ่ายจริงทุกเดือนจะมีข้อจำกัด ทางด้าน - ปริมาณขายที่เป็นฤดูกาล เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ เช่น เครื่องปรับอากาศขายดีหน้าร้อน มีปริมาณการผลิตมากต้นทุนการผลิตสูง การแบ่งต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนสินค้าต่ำกว่าที่ควร เพราะคิดเฉพาะต้นทุนคงที่ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในเดือนนั้น - ต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เช่นค่าไฟฤดูร้อนสูงกว่าฤดูหนาว เป็นต้น
ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน คำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานขึ้นใช้ อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน = งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต งบประมาณกิจกรรมตัวผลักดันต้นทุน นำอัตราไปใช้ในการคิดต้นทุนผลิตภัณฑ์ ต้นทุนค่าใช้จ่ายผลิตเป็น = ปริมาณกิจกรรมตัวผลักดัน x อัตราค่าใช้จ่ายการ ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ต้นทุนเกิดขึ้นจริง ผลิตคิดเข้างาน
คิดเข้างานสูง(ต่ำ)ไป บัตรต้นทุนงาน บัญชีคุมยอดวัตถุดิบ D /M WIP Goods คุมยอดค่าแรง D / L อัตราค่าใช้จ่าย การผลิตคิดเข้างาน A/OH ต้นทุนขาย ขาย ค่าใช้จ่ายการผลิต คิดเข้างานสูง(ต่ำ)ไป ค่าใช้จ่ายขาย และบริหาร OH กำไรขาดทุน กำไรสะสม
วิธีต้นทุนปกติ (Normal Costs) คือ การกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตไว้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวก ในการปฏิบัติงาน ในด้านต่างๆ คำนวณต้นทุนอาคารชุด 10 ชั้น เพื่อกำหนดราคายื่นซองประกวดราคา ต้นทุนสินค้าประกอบด้วย : วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายการผลิต แต่เราไม่รู้ค่าใช้จ่ายการผลิตนี่!! ต้องรอให้สิ้นงวดก่อน, ทำไงดี
รู้แล้ว…… ต้องใช้ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน ก่อนอื่นต้องหาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานก่อน
ตัวอย่างการคำนวณ - อัตราค่าใช้จ่ายการผลิต กิจการก่อสร้างแห่งหนึ่งตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตประจำปี 2544 เท่ากับ 9,000,000 บาท โดยเลือกตัวผลักดันต้นทุน คือชั่วโมงแรงงานทางตรง คาดว่าในปี 2544 จะมีชั่วโมงแรงงานทางตรงเท่ากับ 200,000 ชั่วโมง อัตราค่าใช้จ่าย = งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต การผลิตคิดเข้างาน ตัวผลักดันต้นทุน = 9,000,0000 200,000 = 45 บาท/ชั่วโมง
ราคายื่นประกวดราคาเท่ากับ รู้แล้ว…… ต้องใช้ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน ก่อนอื่นต้องหาอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานก่อน ต้นทุนอาคาร 10 ชั้น D/M 150,000 ต่อชั้น10 ชั้น 1,500,000 D/L 60,000 ชั่วโมง@ ฿20 1,200,000 A/OH 60,000 ชั่วโมง@ ฿45 2,700,000 รวมต้นทุนการผลิต 5,400,000 Markup (180%) 9,720,000 เพราะฉะนั้น ราคายื่นประกวดราคาเท่ากับ 9,720,000 บาท
วิธีการคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน อัตราค่าใช้จ่าย = งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต การผลิตคิดเข้างาน ประมาณกิจกรรมตัวผลักดันต้นทุน งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต การคาดการณ์งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิตที่จะใช้เพื่อการผลิตตลอดทั้งปี โดยอาศัยข้อมูลสถิติและการวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตประกอบ
ตัวผลักดันต้นทุน กิจการสามารถกำหนดต้นผลักดันต้นทุนได้ โดยเลือกใช้ตัวผลักต้นทุนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ตัวผลักดันต้นทุนที่สำคัญได้แก่ ชั่วโมงแรงทางตรงที่ใช้ในการผลิต ยิ่งมีชั่วโมงการผลิตมากก็จะมีค่าใช้จ่ายการผลิตสูงตามไปด้วย โดยทั่วไปชนิดของตัวผลักดันต้นทุนที่เป็นที่นิยมใช้ได้แก่ 1. ชั่วโมงแรงานทางตรง 2. ต้นทุนแรงงานทางตรง 3. ต้นทุนวัตถุดิบทางตรง 4. ชั่วโมงเครื่องจักร 5. หน่วยผลิตเสร็จ
ชนิดตัวผลักดันต้นทุน ก่อสร้าง ชนิดตัวผลักดันต้นทุน -ชั่วโมงแรงงานทางตรง -ต้นทุนแรงงานทางตรง -ต้นทุนวัตถุดิบ
ภัตตาคาร ชนิดตัวผลักดันต้นทุน -ชั่วโมงการทำการงานของพ่อครัว ต้นทุนวัตถุดิบ จำนวนจานที่ถูกเสริฟ จำนวนโต๊ะที่บริการ
โรงงานอุตสาหกรรม ชนิดตัวผลักดันต้นทุน -ชั่วโมงเครื่องจักร -กำลังการผลิตของเครื่องจักรต่อปีงบประมาณ
ระดับกำลังการผลิต (Capacity) ระดับอุดมคติ ระดับที่มีประสิทธิภาพ ระดับปกติ ระดับงบประมาณ
การบันทึกข้อมูลต้นทุน ตามระบบต้นทุนงานสั่งทำ บัตรต้นทุนงาน เอกสารสำคัญสำหรับการบันทึก รวบรวมข้อมูลของงานแต่ละงานที่ผลิต ติดตามกระบวนการ
การคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิต อัตราค่าใช้จ่าย= งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต การผลิต ประมาณกิจกรรมตัวผลักดันต้นทุน = $3,200,000 800,000 DLH = $4 per DLH
Job-Order Cost Accounting
Job-Order Cost Accounting A materials requisition form is used to authorize the use of materials on a job. Let’s see one
Materials Requisition Form Will E. Delite
Materials Requisition Form Cost of material is charged to job A-143. Will E. Delite
Materials Requisition Form Type, quantity, and total cost of material charged to job A-143. Will E. Delite
Materials Requisition Form The materials requisition form also serves as the source document for recording material usage in the accounting records. Will E. Delite
Job-Order Cost Accounting
Job-Order Cost Accounting Accumulate direct labor costs by means of a work record, such as a time ticket, for each employee. Let’s see one
Employee Time Ticket
Job-Order Cost Accounting
Job-Order Cost Accounting Apply manufacturing overhead to jobs using a predetermined overhead rate based on direct labor hours (DLH). Let’s do it
Job-Order Cost Accounting
รับจ้างผลิตมากกว่า 1 งาน เมื่อบริษัทนี้ รับจ้างผลิตมากกว่า 1 งาน
Accumulating Costs in a Job-Order Costing System Charge direct material costs to each job as the materials are used. Direct Materials Job No. 1 Direct Labor Job No. 2 Manufacturing Overhead Job No. 3
Accumulating Costs in a Job-Order Costing System Direct Materials Charge direct labor costs to each job as the work is performed. Job No. 1 Direct Labor Job No. 2 Manufacturing Overhead Job No. 3
Accumulating Costs in a Job-Order Costing System Direct Materials Apply overhead to each job using a predetermined rate. Job No. 1 Direct Labor Job No. 2 Manufacturing Overhead Job No. 3
Accumulating Costs in a Job-Order Costing System Direct Materials Job No. 1 Special documents are used to track costs for each job. Direct Labor Job No. 2 Manufacturing Overhead Job No. 3
คิดเข้างานสูง(ต่ำ)ไป บัตรต้นทุนงาน บัญชีคุมยอดวัตถุดิบ D /M WIP Goods คุมยอดค่าแรง D / L อัตราค่าใช้จ่าย การผลิตคิดเข้างาน A/OH ต้นทุนขาย ขาย ค่าใช้จ่ายการผลิต คิดเข้างานสูง(ต่ำ)ไป ค่าใช้จ่ายขาย และบริหาร OH กำไรขาดทุน กำไรสะสม
ตัวอย่างต้นทุนงานสั่งทำ
บริษัท สไตล์เฟอร์นิเจอร์ จำกัด บริษัท สไตล์เฟอร์นิเจอร์ จำกัด เมื่อดำเนินงานมาได้เป็นเวลา 1 ปีก็พบกับปัญหาการคำนวณ และตีราคาสินค้าที่ผลิต เนื่องจากบริษัทใช้ระบบบัญชีต้นทุนงานสั่งทำตามจ่ายจริงบริษัทจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมาเป็นวิธีต้นทุนงานสั่งทำวิธีต้นทุนปกติก่อนจะเปลี่ยนมาใช้วิธีต้นทุนปกติบริษัทจึงจัดการผลิตสินค้าตามที่ลูกค้าสั่งให้เสร็จ และส่งมอบสินค้าทั้งหมดที่ผลิตเสร็จเรียบร้อย โดยจะแสดงวิธีคิดบัตรต้นทุนงานสั่งทำ จากข้อมูลมีงานสั่งทำ 4 งาน 2 เดือนคือ 1. เตียงนอนไม้สัก(ม.ค.) 3. ฉากกั้นห้อง(ก.พ.) 2. ตู้ไม้สัก(ม.ค.) 4. โต๊ะเครื่องแป้ง(ก.พ.)
ในเดือนมกราคม งานเลขที่ 2/001 ใส่ข้อมูลรายระเอียดต่างๆเกี่ยวกับงาน
งานเลขที่ 2/001 ใส่ยอดที่เบิกวัตถุดิบ
งานเลขที่ 2/001 ใส่ค่าแรงงานทางตรงจากใบสรุปค่าแรง
งานเลขที่ 2/001 นำจำนวนชั่วโมงค่าใช้จ่ายการผลิตมาจากจำนวนชั่วโมงแรงงานทางตรง ส่วนอัตราค่าใช่จ่ายการผลิตขึ้นอยู่ที่การประมาณการของบริษัทในที่นี้คือ 9
งานเลขที่ 2/001 รวมยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยแยกค่าใช้จ่ายแต่ละตัว
งานเลขที่ 2/001 นำเอาค่าใช้จ่ายสามอย่างข้างต้นมารวมกันเป็นต้นทุนการผลิต
งานเลขที่ 2/001 นำต้นทุนมา Makeup เป็นราคาขาย 518,000 X (170/100)
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002 ขีดเส้นไว้ก่อนเนื่องจากงานที่ทำยังไม่เสร็จภายในเดือนมกราคม
จากบัตรต้นทุนงานสั่งทำใช้วัตถุดิบเพื่อการผลิต โดยบัตรเลขที่ 2/001 จำนวน 400,000 บาท และบัตรเลขที่ 2/002 จำนวน 400,000 บาท
รวมค่าแรงจากบัตรต้นทุนงานเลขที่ 2/001 จำนวน 100,000 บาท และบัตรเลขที่ 2/002 จำนวน 25,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายจากบัตรต้นทุนเลขที่ 2/001 จำนวน 18,000 บาท และบัตรเลขที่ 2/002 จำนวน 4,500 บาท
เนื่องจากบัตรเลขที่ 2/002 ยังผลิตไม่เสร็จที่มีต้นทุนรวมเท่ากับ 429,500 บาท
ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน 22,500 บาท ค่าใช้จ่ายการผลิตจ่ายจริง 21,700 บาท คิดเข้างานสูงไป 800 บาท ต้องนำไป หัก ออก ต้องมีการปรับปรุงต้นทุนขายก่อนเพราะต้นทุนขายที่เกิดขึ้นจริง ไม่เท่ากับที่เราคำนวณโดยวิธีต้นทุนปกติ ซึ่งในที่นี้ต่างกันอยู่ 800 บาท
เดือนกุมภาพันธ์
เดือนกุมภาพันธ์ งานเลขที่ 2/002 นำบัตรต้นทุนเลขที่ 2/002 ที่ยังผลิตไม่เสร็จมาผลิตต่อในเดือนกุมภาพันธ์
งานเลขที่ 2/002 นำต้นทุนที่ใช้ในเดือนกุมภาพันธ์มาบันทึกเพิ่ม
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/002
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/003
งานเลขที่ 2/004
งานเลขที่ 2/004
งานเลขที่ 2/004
งานเลขที่ 2/004
งานเลขที่ 2/004 ขีดเส้นไว้ เพราะยังผลิตไม่เสร็จ
รวมต้นทุนวัตถุดิบจาก บัตรต้นทุนเลขที่ 2/003 จำนวน 2,000บาท และบัตรเลขที่ 2/004 จำนวน 500,000 บาท รวม 502,000 บาท
รวมต้นทุนค่าแรงจาก บัตรเลขที่ 2/002 จำนวน 35,000 บาท บัตรเลขที่ 2/003 จำนวน 40,000 บาท บัตรเลขที่ 2/004 จำนวน 50,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานจาก บัตรเลขที่ 2/002 จำนวน 6,300 บาท บัตรเลขที่ 2/003 จำนวน 7,200 บาท บัตรเลขที่ 2/004 จำนวน 9,000 บาท
จากบัตรต้นทุนเลขที่ 2/002 ที่มีต้นทุนมาแล้วบางส่วนจากเดือนมกราคม จึงต้องนำมาบวกเพิ่มในเดือนนี้
จากที่สิ้นงวด งานเลขที่ 2/004 ยังผลิตไม่เสร็จ แต่มีการใช้ต้นทุนไปบางส่วนแล้วเป็นจำนวน 559,000 บาท
สิ้นงวดมีงานเลขที่ 2/003 ที่ผลิตเสร็จแล้วแต่ยังมิได้ส่งมอบลูกค้า
ส่วนต่างระหว่างการคำนวณวิธีต้นทุนปกติกับต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง
สรุป
การบัญชีต้นทุนงานสั่งทำ การบัญชีต้นทุนงานสั่งทำ คือ วิธีการบัญชีเก็บรวบรวมและสะสมต้นทุน การผลิตของงานตามคำสั่งผลิตของลูกค้า เนื่องจากคำสั่งการผลิตแต่ละ งานจะแตกต่างกัน จึงจะต้องรวบรวมและสะสมต้นทุนแยกตามคำสั่งผลิต
องค์ประกอบต้นทุนผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายการผลิต ต้นทุนจริง จริง ต้นทุนปกติ ประมาณการ
ค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน คำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างานขึ้นใช้ อัตราค่าใช้จ่ายการผลิตคิดเข้างาน = งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต ปริมาณกิจกรรมตัวผลักดันต้นทุน นำอัตราไปใช้ในการคิดต้นทุนผลิตภัณฑ์ ต้นทุนค่าใช้จ่ายผลิตเป็น = ปริมาณกิจกรรมตัวผลักดัน x อัตราค่าใช้จ่ายการ ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ต้นทุนเกิดขึ้นจริง ผลิตคิดเข้างาน
Accumulating Costs in a Job-Order Costing System Direct Materials Job No. 1 Special documents are used to track costs for each job. Direct Labor Job No. 2 Manufacturing Overhead Job No. 3