การถ่ายเทพลังงาน โดย ดร.อรวรรณ ริ้วทอง :

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
Spectrofluorimeter และ Spectrophosphorimeter.
Advertisements

1st Law of Thermodynamics
ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพพลังงาน
งบดุลความร้อนของมหาสมุทร (Heat Budget of the Ocean)
การทดลองที่ 7 การวัดความร้อนด้วยเครื่องแคลอริมิเตอร์
ME Exp/Lab 1, Section 8, year 2009
Chapter 3 Solution by Series. Introduction Complementary Function Particular Integral  Chapter 2 If F(x),G(x) are constant.
A point is an equilibrium point (critical point) for a
Part II - พลังงานจากสารอาหาร
โครงการสอนการถ่ายเทความร้อน
การประมาณภาระความเย็นของเครื่องปรับอากาศ Cooling Load Estimation
หน่วยที่ 6 อุณหพลศาสตร์และการถ่ายเทความร้อน
รหัสวิชา ภาคต้น ปีการศึกษา 2556
Air Conditioning Training for
หน่วยการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง ตัวอักษรและสระ
Effect of Temperature dH = H dT = CpdT T Constant presure
Chemical Industrial Process, Chemeng, KKU, Mm.Thabuot CIP บทบาทของวิศวกรเคมี
บทบาทของวิศวกรเคมี Lecture1_intro_ Chemical Industrial Process, Chemeng, KKU, Mm.Thabuot CIP 1.
ความร้อนและอุณหพลศาสตร์
Microsoft® Office SharePoint® Server 2007 การฝึกอบรม
ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันและปราบรามการทุจริต
Physics Thermodynamics-1
อาจารย์ รุจิพรรณ แฝงจันดา
น้ำและไอน้ำ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน.
ความร้อนและอุณหภูมิ (Heat and Temperature)
การผลิตไอน้ำ Steam generation.
ความร้อน ความร้อน คือ รูปหนึ่งของพลังงาน เกิดจากการ
น้ำในดิน (Soil Water).
โครงสร้างโลก.
สารและสสาร.
พลังงาน (Energy).
สื่อเทคโนโลยีประกอบการสอน
หลักการของเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ
แนวทางการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำดื่ม และน้ำแข็งบริโภค ในสถานประกอบการ
รายงานผลตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ
งานและพลังงาน.
แนวทางการจัดทำรายงาน
งานก่อสร้างฯ / ซ่อมแซมฯ อาคาร สิ่งปลูกสร้าง และสาธารณูปโภค
งานเงินสมทบ การตรวจสอบ และงานกฎหมาย
วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๓๓๑๐๒ สาระการเรียนรู้ พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๑ หน่วยกิต Dr. Bualak Naksongkaew.
บทที่ 6 ความร้อนและอุณหพลศาสตร์
เปรียบเทียบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Internet
หากต้องการเริ่มต้นภาพนิ่ง บนเมนู การนำเสนอภาพนิ่ง คลิก ชมการนำเสนอ
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ วิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์
การตรวจสอบภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
เมื่อต้องการแทรกภาพนิ่งนี้ในงานนำเสนอของคุณ
วก. 300 ปฏิบัติการวิศวกรรมเครื่องกล 1
จาก Recommendation สู่การพัฒนาคุณภาพ
หน่วยที่ 5 เหล็กหล่อและโลหะนอกกลุ่มเหล็ก
บทที่ 1 อาหารกับการดำรงชีวิต
งานและพลังงาน.
ข้อกำหนดด้านสุขาภิบาลอาหาร สำหรับแผงลอยจำหน่ายอาหาร
ลบกล่องข้อความนี้ก่อนใช้ภาพนิ่งนี้ในงานนำเสนอ
คุณไม่สามารถสร้างชื่อเสียง จากสิ่งที่คุณกำลังจะทำ
ประชากร.
Operator นิพจน์และตัวดำเนินการ.
By Poonyaporn Siripanichpong
อาการของมะเร็งเต้านม ที่กลับเป็นซ้ำ และ หรือ แพร่กระจาย
เปรียบเทียบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
การเขียนบทความทางวิชาการ
จงลุกขึ้น ... ฉายแสง ภารกิจที่ท้าทาย ผู้วินิจฉัย 6: 12.
Slide PowerPoint_สื่อประกอบการสอน
ลบกล่องข้อความนี้ก่อนใช้ภาพนิ่งนี้ในงานนำเสนอ
โรค อ้วน.
ลบกล่องข้อความนี้ก่อนใช้ภาพนิ่งนี้ในงานนำเสนอ
สรุป การวัดความต้านทาน ด้วยวิธีการต่างๆ.
หากต้องการแทรกภาพนิ่งนี้ลงในงานนำเสนอของคุณ
สรุปผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ. ศ ของ ภ
ใบสำเนางานนำเสนอ:

การถ่ายเทพลังงาน โดย ดร.อรวรรณ ริ้วทอง : orrawanr@gmail.com สาขาวิชาฟิสิกส์ประยุกต์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ความร้อน ความร้อนเป็นพลังงานรูปหนึ่งที่เปลี่ยนมาจากพลังงานรูปอื่น เช่น พลังงานไฟฟ้า พลังงานกล (พลังงานศักย์และพลังงานจลน์) พลังงานเคมี พลังงานนิวเคลียร์ หรืองาน เป็นต้น พลังงานความร้อนมีหน่วยเป็นจูล (Joule, J ) ในระบบเอสไอ (SI) แต่บางครั้งอาจบอกเป็นหน่วยอื่นได้ เช่น แคลอรี (cal) และบีทียู (Btu) พลังงานความร้อน 1 แคลอรี คือพลังงานความร้อนที่ทำให้น้ำมวล 1 กรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส (°C ) พลังงานความร้อน 1 บีทียู คือ พลังงานความร้อนที่ทำให้น้ำที่มีมวล 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาฟาเรนไฮต์ (°F) 1 cal = 4.186 J 1 BTU = 252 cal = 1055 J

ความร้อน ความร้อนสัมผัส (sensible heat) คือ ปริมาณความร้อนจำนวนหนึ่งที่ทำให้สารหนึ่งๆมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง โดยไม่ทำให้สถานะของสารนั้นเปลี่ยนแปลง ความร้อนแฝง (latent heat) คือปริมาณความร้อนจำนวนหนึ่งที่ให้สารหนึ่งๆ แล้วทำให้สารนั้นเปลี่ยนแปลงสถานะภายใต้อุณหภูมิคงที่ ความร้อนจากปฏิกิริยาเคมี คือ พลังงานความร้อนของสารเชื้อเพลิง ขณะสารเชื้อเพลิงเผาไหม้จะปลดปล่อยพลังงานความร้อนออกมา

อุณหภูมิ อุณหภูมิ คือ ปริมาณที่แปรผันโดยตรงกับพลังงานจลน์เฉลี่ยของแก๊ส การที่เราจะบอกว่าวัตถุใดร้อนมากหรือน้อย เราสามารถบอกได้ด้วยอุณหภูมิของวัตถุนั้น คือ วัตถุที่มีระดับความร้อนมากจะมีอุณหภูมิสูง วัตถุที่มีระดับความร้อนน้อยจะมีอุณหภูมิต่ำ ดังนั้นพลังงานความร้อนจะถูกถ่ายโอนจากวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงไปยังวัตถุที่มีอุณหภูมิ ต่ำจนวัตถุทั้งสองมีอุณหภูมิเท่ากัน A B

การวัดอุณหภูมิ อุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิเรียกว่า เทอร์โมมิเตอร์ เทอร์โมมิเตอร์มีหลายชนิด โดยมีสเกลในการวัดอุณหภูมิ คือ 1. สเกลองศาเซลเซียส (Celsuis, °C) หรือบางที่เรียกว่าองศาเซนติเกรด (ที่ความดัน 1 บรรยากาศ จุดเยือกแข็งของน้ำเป็น 0 เซลเซียสและจุดเดือดเป็น 100 เซลเซียส ระหว่างจุดเยือกแข็งและจุดเดือดแบ่งเป็น 100 ส่วนเท่าๆ กัน ) 2. สเกลองศาเคลวิน (Kelvin, K) เป็นหน่วยของอุณหภูมิสัมบูรณ์ (ที่ความดัน 1 บรรยากาศ จุดเยือกแข็งของน้ำเป็น 273.16 เคลวินและจุดเดือดเป็น 373.16 เคลวิน ระหว่างจุดเยือกแข็งและจุดเดือดแบ่งเป็น 100 ส่วนเท่าๆ กัน ) ## หน่วยเคลวินเป็นหน่วยมาตรฐานในระบบเอสไอ

เปรียบเทียบอุณหภูมิในแบบสเกลต่างๆ C K F จุดเดือดของน้ำ จุดเยือกแข็งของน้ำ ศูนย์องศาสัมบูรณ์ 100 373.15 212 273.15 32 - 460 - 273.15

อุณหภูมิ T(C) = T(F) - 32 5 9 T(K) = T(C) + 273.15

ความจุความร้อน ( Heat capacity, C ) คือความร้อนที่ทำให้สารทั้งหมดที่กำลังพิจารณามีอุณหภูมิเปลี่ยนไปหนึ่งหน่วย โดยสถานะไม่เปลี่ยน ถ้าให้ปริมาณความร้อน ΔQ แก่วัตถุ ทำให้อุณหภูมิของวัตถุเปลี่ยนไป ΔT ดังนั้นถ้าอุณหภูมิของวัตถุเปลี่ยนไป 1 หน่วย จะใช้ความร้อน C คือ C = Q มีหน่วยเป็น จูล/เคลวิน (J/K) T

ความจุความร้อนจำเพาะ (Specific Heat capacity , c ) คือความร้อนที่ทำให้สาร(วัตถุ) มวลหนึ่งหน่วยมีอุณหภูมิเปลี่ยนไปหนึ่งองศาเคลวิน คือ C = Q ความจุความร้อนจ้าเพาะของสาร(J/kg-K) นั่นคือ เมื่อสารมวล m มีอุณหภูมิเพิ่มจาก T1 เป็น T2 และความจุความร้อนจำเพาะมีค่าคงตัว ความร้อนที่สารได้รับคือ Q = m C T mT

การเปลี่ยนสถานะของสาร สารและสิ่งของที่อยู่รอบตัวเราจะพบว่ามีอยู่ 3 สถานะ คือ ของแข็ง (น้ำแข็ง) ของเหลว (น้ำ) และ แก๊ส (ไอน้ำ) ได้ I. ของแข็ง แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลมีค่ามาก จึงทำให้รูปทรงของของแข็งไม่เปลี่ยนแปลงมากเมื่อมีแรงขนาดไม่มากนักมากระทำ เช่น เหล็ก ก้อนหิน เป็นของแข็ง II. ของเหลว แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลมีค่าน้อย โมเลกุลจึงเคลื่อนที่ไปมาได้บ้าง จึงทำให้รูปทรงของของเหลวเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่ที่บรรจุ น้ำ น้ำมัน เป็นของเหลว III. แก๊ส แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลมีค่าน้อยมาก จนโมเลกุลของแก๊สอยู่ห่างกันมากและเคลื่อนที่ได้ฟุ้งกระจายเต็มภาชนะที่บรรจุ เช่น อากาศ และแก๊สชนิดต่างๆ

พลังงานกับการเปลี่ยนสถานะ ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ : เป็นการดูดพลังงาน เมื่อสารที่มีสถานะเป็นของแข็งดูดพลังงานเข้าไป อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่ออุณหภูมิสูงถึงจุดหลอมเหลว อุณหภูมิจะไม่เพิ่มขึ้นไปอีกแต่พลังงานที่ดูดเข้าไปจะใช้ในการสลายแรงยึดเหนี่ยวออก ทำให้สารกลายเป็นของเหลว เราจะเรียกความร้อนที่ดูดเข้าไปเพื่อการนี้ว่า ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว เมื่อสารกลายเป็นของเหลวแล้ว อุณหภูมิก็จะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ จนถึงจุดเดือด อุณหภูมิก็จะไม่เพิ่มไปอีก ซึ่งพลังงานที่ยังดูดเข้าไปนั้นก็จะไปสลายแรงยึดเหนี่ยวของของเหลว เพื่อให้กลายเป็นก๊าซ เราจะเรียกความร้อนตรงนี้ว่า ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ ก๊าซ ของเหลว ของแข็ง : เป็นการคายพลังงาน จะพิจารณาได้เหมือนด้านบนทุกประการ แต่เป็นทางที่ตรงกันข้ามกันนั่นเอง โดยสารที่เป็นก๊าซจะคายพลังงานออกให้อุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ พอถึงจุดควบแน่นก็จะไม่ลดอุณหภูมิอีก แต่จะคายพลังงานออกเพื่อสร้างแรงยึดเหนี่ยวของของเหลวแทน ซึ่งความร้อนที่คายออกในช่วงนี้จะมีค่าเท่ากับความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ เมื่อสารกลายเป็นของเหลวหมดแล้ว อุณหภูมิก็จะลดลงเรื่อยๆอีก จนถึงจุดเยือกแข็ง พลังงานที่คายออกจะถูกนำไปสร้างแรงยึดเหนี่ยวของของแข็งแทน ซึ่งพลังงานที่คายออกนี้จะมีค่าเท่ากับ ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว เช่นกัน

การถ่ายโอนความร้อน

การถ่ายโอนความร้อน (Heat Transfer) ความร้อนจะถ่ายโอนหรือส่งผ่านจากวัตถุที่ระดับความร้อนสูง (อุณหภูมิสูง) ไปสู่วัตถุที่มีระดับความร้อนต่ำ (อุณหภูมิต่ำ) การถ่ายโอนความร้อนมี 3 แบบ คือ 1 การนำ 2 การพา 3 การแผ่รังสี

1. การนำ 1. การนำ เป็นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนผ่านตัวกลางจากอนุภาคหนึ่งไปสู่อีกอนุภาคหนึ่งซึ่งอยู่ติดกันไปเรื่อยๆ จากอุณหภูมิสูงไปสู่อุณหภูมิต่ำ ซึ่งโดยมากจะเป็นพวกโลหะต่างๆ เช่น เราเอามือไปจับช้อนโลหะที่ปลายข้างหนึ่งแช่อยู่ในน้ำร้อน มือเราจะรู้สึกร้อน เพราะความร้อนถูกส่งผ่านจากน้ำร้อนมายังมือเราโดยมีช้อนโลหะเป็นตัวนำความร้อน

สารที่นำความร้อนได้ไม่ดี เรียกว่า ฉนวนความร้อน

การพาความร้อน การถ่ายโอนความร้อนผ่านตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือแก๊สโดยที่ของเหลวหรือแก๊สส่วนที่ได้รับความร้อนจะเคลื่อนที่พาความร้อนไปด้วย

การแผ่รังสี เป็นการส่งพลังงานความร้อนที่อยู่ในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีอินฟราเรด) ดังนั้นจึงไม่ต้องอาศัยตัวกลางในการเคลื่อนที่ เช่นการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์มายังโลก โดยทั่วไปวัตถุที่แผ่รังสีได้ดีก็จะรับ(ดูดกลืน)รังสีได้ดีด้วย วัตถุชนิดนั้นเราเรียกว่าวัตถุดำ (Black Body) วัตถุดำไม่มีในธรรมชาติ มีแต่ในอุดมคติ ดังนั้นวัตถุที่มีลักษณะใกล้เคียงวัตถุดำ คือ วัตถุที่มีสีดำ ในทางกลับกันวัตถุขาวจะไม่ดูดกลืนรังสีและ ไม่แผ่รังสีที่ตกกระทบ มีแต่ในอุดมคติเท่านั้น

การถ่ายเทความร้อนโดยการแผ่รังสีความร้อน กฎของ Stefan-Boltzmann

ข้อมูลอ้างอิง eng.sut.ac.th/me/new/1_2552/425301/week%202.ppt www.damrong.ac.th/damrong50/.../การถ่ายโอนความร้อนEbook.ppt www.nubkk.nu.ac.th/.../s_1276222782.การอนุรักษ์พลังงาน course.ku.ac.th/lms/files/resources.../chapter_4-1_(intro-basic).ppt course.ku.ac.th/lms/files/resources_files/.../chapter_4_(4.1-4.2).ppt