งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

จัดทำโดย ด.ช.ชนวีร์ ใจเงี้ยวคำ เลขที่ 29 ¼ เสนอ อ.ดลหทัย อินทร์จันทร์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "จัดทำโดย ด.ช.ชนวีร์ ใจเงี้ยวคำ เลขที่ 29 ¼ เสนอ อ.ดลหทัย อินทร์จันทร์"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 จัดทำโดย ด.ช.ชนวีร์ ใจเงี้ยวคำ เลขที่ 29 ¼ เสนอ อ.ดลหทัย อินทร์จันทร์
ตำนานดาบซามูไร จัดทำโดย ด.ช.ชนวีร์ ใจเงี้ยวคำ เลขที่ 29 ¼ เสนอ อ.ดลหทัย อินทร์จันทร์

2 ประวัติดาบซามูไร อามากุนิพบว่า...การที่จะให้ได้ดาบคุณภาพดีต้องควบคุมของสามสิ่ง คือ การควบคุมความเย็น, การควบคุมปริมาณคาร์บอน และการนำสิ่งปะปนที่อยู่ในเหล็กออก ปริมาณคาร์บอนคือหัวใจสำคัญในการตีดาบ หากใส่คาร์บอนในเหล็กมากไปเหล็กจะเปราะ, ใส่น้อยไปเหล็กจะอ่อน จึงต้องใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ 

3 ยุคนี้ถือเป็นจุดเริ่มยุคทองของดาบซามูไร มีการพัฒนาดาบให้ดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อกว่า ๔๐๐ ปีก่อน ถือเป็นเทคนิคที่สุดยอดของดาบ มีการเพิ่มวิธีการผสมเหล็กสองชนิดเข้าด้วยกัน เหล็กที่มีความแข็งจะมีปริมาณคาร์บอนสูงใช้ทำเป็นตัวดาบ และเหล็กอ่อนที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำใช้ทำเป็นไส้ดาบเพื่อให้ยืดหยุ่น จากเหล็กสองชนิดที่ถูกนำมาพับและตีมากกว่าสิบชั้น ทำให้เกิดชั้นเล็กๆ เป็นทวีคูณเป็นหมื่นชั้น

4 ราวปี พ.ศ. ๑๘๔๐ ดาบของมาซามูเน่ถือเป็นดาบที่พัฒนาถึงขั้นสูงสุด ในญี่ปุ่นไม่มีช่างตีดาบคนใดจะเทียบได้ เขาสร้างความสมดุลของความแข็งของคมดาบ เคล็ดลับการทำดาบคือการผสมเหล็กสามชนิดเข้าด้วยกัน เหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนสูงจะใช้เป็นใบดาบด้านข้างที่เรียกว่า และด้านคมดาบ ใช้เหล็กที่แข็งมากโดยผ่านการพับและตีถึง ๑๕ ครั้ง ซึ่งสามารถสร้างชั้นของเหล็กที่ซ้อนกันถึง ๓๒,๗๖๘ ชั้น ทำให้เหล็กเหนียวและแกร่งมากกว่าส่วนอื่นๆ ส่วนเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำจะใช้เป็นส่วนไส้ใน ทำให้มีความยืดหยุ่นเรียกว่า Shi-gane แล้วนำไปหลอมที่อุณหภูมิประมาณ ๘๐๐ องศาเซลเซียสให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงนำมาตีแผ่ออกเป็นใบดาบ 

5 ช่างตีดาบในยุคเดียวกันที่มีชื่อเสียงเทียบเคียงมาซามูเน่ คือ "มารามาซะ" กล่าวกันว่าใครที่มีดาบของ "มารามาซะ" ไว้ครอบครอง เลือดจะสูบฉีดให้อยากที่จะชักดาบออกมาสังหารคู่ต่อสู้เพราะความงคงามของมัน ในขณะเดียวกันซามูไรที่ครอบครองดาบของ "มาซามูเน่" กลับสงบนิ่งเยือกเย็น 

6 ลวดลายน้ำบนใบดาบเรียกว่า "ฮามอน" ถูกประดิษฐ์ขึ้นมากว่าพันปีโดย "อามากุนิ" ไม่เป็นเพียงลวดลายที่งดงามอย่างเดียว แต่เป็นความลับของคมดาบด้วยในส่วนของที่กั้นมือเรียกว่า "มักทำจากเหล็ก ทองเหลือง ทองแดง หรือเงิน เป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยม มีการทำลวดลายต่อเนื่องทั้งสองด้านมาตั้งแต่โบราณ มีมากมายหลายแบบจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ยกเว้นของดาบทหารที่มีลวดลายเดียวเฉพาะเท่านั้น) ส่วนด้ามจับที่ทำด้วยไม้ หุ้มทับด้วยหนังปลากระเบนและผ้าไหม พับเว้นช่องเป็นรูปข้าวหลามตัด คือเอกลักษณ์ของดาบที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง 

7 ซามูไรนักรบขึ้นชื่อของญี่ปุ่น กับอาธคู่กายคือดาบ ดาบของซามูไรแบ่งออกเป็น3ประเภทดังนี้Tachi "ตาชิ"ดาบยาวของซามูไรบนหลังฟันจากบนหลังม้าจึงมีความยาวมากKatana "คะตะนะ"ดาบที่ดีที่สุดที่มาแทนตาชิของทหารม้า ใช้ต่อสู้บนพื้นดิน Wakizashi วากิซาชิ เป็นดาบขนาดสั้นมักจะพกคู่กับคะตะนะ

8 ความแตกต่างระหว่างดาบญีปุ่นกับดาบไทย
ความแตกต่างระหว่างดาบญีปุ่นกับดาบไทย  1.ว่าด้วยเนื้อเหล็ก มันเด่นกันคนละอย่างครับ เริ่มจากดาบไทยก่อน ดังจะเห็นว่า เหล็กชั้นสุดยอดของไทยคือ เหล็กน้ำพี้ ซึ่งมีลักษณะพิเศษตรงที่ เป็นเหล็กเหนียว ดังนั้น เราจึงได้ลักษณะดาบที่บางเบาแต่เหนียวคม ส่วนคาตานา(ชื่อเรียกดาบซามูไรอะนะ) จะต้องใช้เหล็ก 2 ชนิดมาตีประกบกันจึงจะได้คุณสมบัติ แข็งนอกอ่อนใน

9 2.ว่าด้วยความคม ผมว่าคงต้องยกให้คาตานา เพราะเรื่องการทดสอบดาบด้วยการปล่อยใบไม้นั้น เป็นวิธีทดสอบมาตรฐานของดาบชั้นสูงทีเดียว ส่วนดาบระดับรองลงมา จะใช้ฟางมัดกับท่อนไผ่และมัดกับต้นไม้ให้ห้อยลงมา แล้วฟันให้ขาดในครั้งดียว ในทางดาบไทยวิธีทดสอบดาบก็ใช่ย่อย ตั้งแต่ ตอกตะปูตอกฝาโลง(ตะปูแบบโบราณถ้าเทียบกับปัจจุบันก็ 5 นิ้วตัวอ้วน)ลงบนท่อนไม้แล้วตวัดในครั้งเดียวต้องขาด

10 3.ว่าด้วยฝีมือช่าง ผมว่าเท่าเทียมกัน ช่างไทยต้องตรากตรำหาวิธีตีเหล็กน้ำพี้ที่สุดแสนจะเหนียวแต่ต้องตีให้กลายเป็นเนื้อเดียวที่เบาแต่อานุภาพสุดยอด ส่วนช่างญี่ปุ่นก็เก่งที่อุตสาต์สันหากระบวนการผลิตที่แสนจะแยบยล เพื่อความเป็นสุดยอดเช่นกัน 

11 แหล่งอ้างอิง...


ดาวน์โหลด ppt จัดทำโดย ด.ช.ชนวีร์ ใจเงี้ยวคำ เลขที่ 29 ¼ เสนอ อ.ดลหทัย อินทร์จันทร์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google