เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจารย์พุทธิวัฒน์ ไวยวุฒิธนาภูมิ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจารย์พุทธิวัฒน์ ไวยวุฒิธนาภูมิ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจารย์พุทธิวัฒน์ ไวยวุฒิธนาภูมิ
การบรรยายครั้งที่ 13 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจารย์พุทธิวัฒน์ ไวยวุฒิธนาภูมิ

2 เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลทางการวิจัย
สิ่งที่ช่วยให้ผู้วิจัยสามารถวัดค่าหรือแสดงค่าของตัว แปรหรือสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา นั้นให้มีผลออกมา จากการวัดหรือการวิเคราะห์ได้ โดยสิ่งที่วัดผลออกมา ได้นั้นเราเรียกว่า ข้อมูล

3 ข้อมูล ข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจเป็นตัว เลขหรือข้อความเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่จะนำมาเป็นหลักฐาน ในการหาข้อยุติ ซึ่งจะเป็นคำตอบหรือเป็นประโยชน์ต่อสิ่งที่ผู้ วิจัยกำลังศึกษา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจะสามารถตอบ ปัญหาการวิจัยได้อย่างถูกต้องหรือไม่นั้นก็จะขึ้นอยู่กับแหล่งที่ มา ของข้อมูลที่ผู้วิจัย นำมาวิเคราะห์ว่าเป็นอย่างไร และวิธี การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้วิจัยนั้นเป็นอย่างไร

4 ข้อมูลและแหล่งที่มาของข้อมูลทางการวิจัย
แบ่งตามแหล่งที่มาของข้อมูล แบ่งตามลักษณะของข้อมูล

5 1. แบ่งตามแหล่งที่มาของข้อมูล
ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นข้อมูลที่ผู้วิจัยทำการเก็บขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ตรงประเด็นกับเรื่องที่กำลังศึกษาอยู่ หรือแหล่งข้อมูลโดยตรง ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ข้อมูลที่ผู้อื่นได้ทำการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลไว้แล้วและผู้วิจัย ไปทำการรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นเพื่อมาทำการวิเคราะห์ในประเด็นที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา

6 2. แบ่งตามลักษณะของข้อมูล
ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) ข้อมูลที่บอกข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆในลักษณะของคำพูด หรือคำบรรยาย เช่น ความคิดเห็นที่มีต่อบัณฑิตคณะนิเทศศาสตร์ ความคิดเห็นที่มีต่อ เศรษฐกิจในปัจจุบัน ฯลฯ ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) ข้อมูลที่บ่งบอกถึงข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆในรูปของตัวเลข หรือปริมาณเช่น น้ำหนัก ความสูง อายุ ทัศนคติต่อการให้บริการของ ขสมก ฯลฯ

7 ประเภทของเครื่องมือ 1. แบบสอบถาม(Questionnaire) 2. แบบสัมภาษณ์ (Interview Schedule) 3. แบบสังเกต (Observation)

8 แบบสอบถาม(Questionnaire)
เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อใช้สอบถามความคิดเห็น และ ใช้บันทึกคำตอบจากหรือผู้ที่ถูกถาม ซึ่งอาจเป็นชุดคำถามที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้นในรูปของแบบฟอร์มที่มีโครงสร้างของคำถามก็ ได้ ลักษณะของคำถามจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ คำถามปลายเปิด คำถามปลายปิด

9 คำถามปลายเปิด (Open-end Question)
ลักษณะคำถามในแบบสอบถามลักษณะนี้ไม่กำหนด คำตอบไว้แน่นอน แต่เปิด โอกาสให้ผู้ตอบ ตอบได้อย่างอิสระด้วยคำพูดของผู้ตอบเอง ซึ่งอาจจะเป็นคำแนะนำ ของผู้ตอบเกี่ยวกับ งานวิจัย หรืออาจจะให้ผู้ตอบบ่งบอกถึงตัวแปรตัวอื่นที่ผู้ตอบคิด ว่าสำคัญกว่าที่ผู้วิจัยกล่าวถึง นอกเหนือไปจากนั้นบางครั้งผู้วิจัยไม่สามารถคาดเดา คำตอบได้ ผู้วิจัยก็จะทำการ Pretest โดยใช้คำถามปลายเปิดถามผู้ตอบแล้วนำคำตอบ มาเป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถามในลักษณะปลายปิดต่อไป

10 ตัวอย่าง คำถามปลายเปิด
ตัวอย่าง คำถามปลายเปิด 1.ท่านตัดสินใจประกอบอาชีพส่วนตัวเพราะ…………… 2.เพราะเหตุใดท่านจึงชอบอ่านหนังสือฉบับนี้มากที่สุด 3.ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อประกาศของกรมประชาสัมพันธ์ “ในส่วนการจัดระเบียบการโฆษณา และการขายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ และเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน” 4. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อ “สนามบินสุวรรณภูมิ” 5.โปรดให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงรายการวิทยุในด้านเนื้อหาการจัดการ ฯลฯ

11 คำถามปลายปิด (Close – end Question)
แบบสอบถามลักษณะนี้มีลักษณะเหมือนข้อสอบแบบเลือกตอบคือจะมี ข้อความซึ่งเป็นคำถามและมีคำตอบที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว โดยให้ผู้ตอบ เลือกตอบข้อใดข้อหนึ่งที่ตรงตามความเป็นจริงเกี่ยวกับผู้ตอบซึ่งผู้ตอบ เลือกตอบจากคำตอบที่ผู้วิจัยกำหนดไว้ให้เท่านั้น คำถามที่ผู้วิจัยกำหนดขึ้นมา นั้น อาจจะได้มาจากการทดลองใช้คำถามในลักษณะที่เป็นปลายเปิดแล้ว นำมาจัดกลุ่มคำตอบ หรือได้มาจาการศึกษาผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง หรือจาก ความคิดของผู้วิจัยเองก็ได้ ซึ่งคำถามปลายปิดนั้น เป็นคำถามที่กำหนดคำตอบ ให้ผู้ตอบเลือกตามที่ผู้วิจัยกำหนด เช่น

12 ตัวอย่าง คำถามปลายปิด
ตัวอย่าง คำถามปลายปิด เพศ [ ] ชาย [ ] หญิง อาชีพ [ ] รับราชการ [ ] รัฐวิสาหกิจ [ ] เอกชน ท่านรับฟังข่าวสารจากสื่อใดมากที่สุด [ ] วิทยุ [ ] โทรทัศน์ [ ] หนังสือพิมพ์ ลักษณะของคำถามปลายปิดสามารถแบ่งได้ออกเป็น 5 แบบคือ

13 1. Check – lists เป็นคำถามที่ให้ผู้ตอบเลือกตอบเพียงคำตอบเดียวจากคำตอบที่มีให้เลือก 2 คำตอบ EX ท่านเคยเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพหรือไม่ ( ) 1. เคย ( ) 2. ไม่เคย EX จำนวนบุตร ( ) 1-2 คน ( ) มากกว่า 2 คน EX เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง

14 2. Multiple Choice เป็นคำถามที่ให้ผู้ตอบเลือกตอบเพียงข้อเดียวจากคำตอบที่มีให้เลือกมาก กว่า 2 คำตอบ EX อาชีพหลักของท่านคือ ( ) 1. รับราชการ ( ) 2. พนักงานรัฐวิสาหกิจ ( ) 3. ค้าขาย ( ) 4. ลูกจ้างเอกชน ( ) 5. รับจ้างทั่วไป ( ) 6. ไม่ได้ประกอบอาชีพ ( ) 7. อื่นๆ โปรดระบุ EX สถานภาพสมรส ( ) โสด ( ) แต่งงาน ( ) หย่า/ม่าย

15 ตัวอย่างMultiple Choice
EX อายุ ( ) ต่ำกว่า 20 ปี ( ) 20 – 30 ปี ( ) 31 – 40 ปี ( ) 41 – 50 ปี ( ) อย่างน้อย 51 ปี EX ยี่ห้อเครื่องสำอางที่ใช้ ( ) A ( )B ( ) C ( ) D ( )อื่น ๆโปรดระบุ……… EX ระดับการศึกษา ( ) ประถมศึกษา ( ) มัธยมศึกษาตอนต้น ( ) มัธยมศึกษาตอนปลาย ( ) ปวช. /ปวส. ( ) ปริญญาตรี ( ) ปริญญาโท/เอก

16 3. Multi – Response เป็นคำถามที่ให้ผู้ตอบเลือกตอบได้หลายข้อ EXท่านต้องการเปลี่ยนอาชีพใหม่เพราะ……….(ตอบได้หลายข้อ) ( ) 1. รายได้น้อย ( ) 2. ไม่มั่นคง ( ) 3. สวัสดิการไม่ดี ( ) 4. ไม่มีเกียรติ ( ) 5. ไม่อิสระ ( ) 6. ไม่ชอบอาชีพนี้

17 4. Rank Priority เป็นคำถามที่ให้ผู้ตอบจัดเรียงลำดับความสำคัญ EX ท่านต้องการเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอะไรมากที่สุด(ให้หมายเลข 1, 2, 3,ตามลำดับความต้องการมากไปหาน้อย) ( ) 1. รับราชการ ( ) 2. พนักงานรัฐวิสาหกิจ ( ) 3. ลูกจ้างเอกชน ( ) 4. ธุรกิจส่วนตัว ( ) 5. อื่นๆ โปรดระบุ………. EX กรุณาระบุความชอบให้แก่แชมพูสระผมยี่ห้อต่อไปนี้ โดยให้ลำดับที่ 1 หมายถึงชอบมากที่สุด ( ) ยี่ห้อ A ( ) ยี่ห้อ B ( ) ยี่ห้อ C

18 5. Rating Scale เป็นคำถามที่มีลักษณะการตอบเป็นการประเมินความมาก – น้อย โดยวัดดู ว่าผู้ตอบมีคุณลักษณะในสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการศึกษาหรือมีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับสิ่งที่จะถามอยู่ในระดับใด EX ฉันเชื่อว่า Teamwork เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทของฉันเจริญรุ่งเรือง ( ) 1. ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ( ) 2. ไม่เห็นด้วย ( ) 3. เฉยๆ ( ) 4. เห็นด้วย ( ) 5. เห็นด้วยอย่างยิ่ง

19 EX กรุณาระบุความสำคัญของผ้าอ้อมสำเร็จรูป
มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด 1.       ขนาดกล่อง (# ชิ้น) 2.       ราคา 3.       คุณภาพ 4.       ใช้ได้ทั้ง 2 เพศ (Unisex) 5.       รูปแบบ/สีสัน 6.       การซึมซับ 7.       การรั่ว 8.       ขนาด/ความสบาย 9.       เทปที่ติด (Taping)

20 ความต้องการของผู้ประกอบการทางด้านสายงานสื่อสารมวลชน
มาก ปานกลาง น้อย 1. มีความรู้ความสามารถใน การฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษ 2. มีความรู้ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ 3. มีความรู้ความสามารถในการถ่ายภาพ/อัด-ขยายภาพ 4. มีความรู้ความสามารถในการวิจัย 5. มีความรู้ความสามารถในการวางแผนสื่อ 6. มีความรู้ความสามารถในการบริหาร 7. มีความรู้ความสามารถใน การฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษ

21 ขั้นตอนการสร้างแบบสอบถาม
1. ศึกษาจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำการวิจัย 2. ตัดสินใจว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้างโดยพิจารณาจาก * ปัญหาที่จะทำการวิจัย (Element of the Problem) * จุดมุ่งหมาย หรือวัตถุประสงค์ของการวิจัย (Statement of the Problem) 3. พิจารณาว่าจะใช้คำถามชนิดใดกับแต่ละข้อมูล 4. ร่างแบบสอบถาม 5. ตรวจสอบและปรับปรุงแบบสอบถามฉบับร่าง * ตรวจสอบโดยผู้วิจัย * ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 6. ทดสอบแบบสอบถาม (Pre-test) 7. วิเคราะห์แบบสอบถามที่ได้ทดสอบแล้ว 8. สร้างแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์

22 โครงสร้างแบบสอบถาม ส่วนที่ 1: หนังสือนำหรือคำชี้แจง เป็นส่วนของแนะนำตนเองและบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ของการวิจัย รวมไปถึงรายละเอียดของแบบสอบถามว่ามีกี่ตอน อะไรบ้างให้แก่กลุ่มตัวอย่างได้รับรู้ก่อนที่กลุ่มตัวอย่างจะแสดงความคิดเห็นต่อไป ส่วนที่ 2: ส่วนที่เป็นคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ 3: ชุดคำถามเกี่ยวกับความคิดเห็นหรือพฤติกรรมของผู้ตอบ (ข้อมูลที่ต้องการศึกษา) ซึ่งในส่วนนี้ผู้วิจัยอาจจะแยกเป็นส่วนย่อยอีกได้ตามลักษณะของคำถามที่ผู้วิจัยต้องการศึกษา

23 หลักการเขียนข้อคำถามในแบบสอบถาม
1. ควรถามเฉพาะเรื่องสำคัญหรือคำถามที่ใช้วัดตัวแปรเฉพาะที่อยู่ในกรอบความคิดของการวิจัย 2. ควรใช้ภาษาง่ายๆ อ่านแล้วเข้าใจทันที มีความหมายชัดเจน ไม่ตีความได้หลายด้าน 3. ควรใช้ประโยคสั้นและกะทัดรัดชัดเจน ข้อความไม่วกวนหรือกำกวนหรือประโยคที่ทำให้ผู้ตอบแต่ละคนมีความเข้าใจไม่เหมือนกันควรหลีกเลี่ยงคำคุณศัพท์ที่ทำให้ผู้ตอบตีค่างต่างกันเช่น เสมอๆ ไม่เคย บ่อยครั้ง ประจำ ฯลฯ ควรกำหนดคำเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม

24 หลักการเขียนข้อคำถามในแบบสอบถาม(ต่อ)
4. ควรหลีกเลี่ยงประโยคปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ เพราะจะทำให้ผู้ตอบเกิดความสับสนและประโยคนี้หมายความว่าอย่างไร 5. หลีกเลี่ยงการถามนำที่มีแนวโน้มจูงใจให้ผู้ตอบในทางใดทางหนึ่ง 6. หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ส่อไปในทางนามธรรมเช่น สวย สกปรก รวย จน เพราะคนแต่ละคนตีค่านามธรรมต่างกัน 7. ควรหลีกเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับค่านิยมหรือเป็นความลับของผู้ตอบ เพราะอาจจะทำให้ผู้ตอบเกิดความลำเอียงในการที่จะตองความจริงที่เป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของสังคมหรือค่านิยมของสังคม 8. ควรตั้งถามชนิดที่คำตอบที่ได้จากคำถามสามารถนำมาแปลงเป็นตัวเลขได้เพื่อนำผลมาสรุปวิเคราะห์เชิงสถิติ

25 วิธีสร้างแบบสอบถาม วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของโครงการหรือข้อมูลที่ต้องการนำมากำหนดเป็นคำถามหลักที่ต้องการในแบบสอบถาม จากคำถามหลัก นำมาสร้างเป็นข้อคำถามในแบบสอบถาม ซึ่งอาจใช้รูปแบบต่าง ๆ เช่น การเติมคำ หรือเขียนเป็นตัวเลือกให้ผู้ตอบเลือก หรืออาจทำเป็นตารางก็ได้ ลักษณะของคำถามควรจะแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่

26 แบบสัมภาษณ์ ลักษณะเหมือนการสอบปากเปล่าต้องอาศัยการโต้ตอบทางวาจา
การสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มี ลักษณะเหมือนการสอบปากเปล่าต้องอาศัยการโต้ตอบทางวาจา เป็นหลัก เครื่องมือชนิดนี้ใช้ได้ดีสำหรับการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ ความ รู้สึก ความสนใจ ความคิดเห็น และทัศนคติในเรื่องต่างๆ

27 วิธีการเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ (Interview Method)
1.การสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview) 2. การสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Interview)

28 ประเภทของการสัมภาษณ์
1. การสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล (Personal interviews) 2. การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์

29 การสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล (Personal interviews)
การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การติดต่อกับบุคคลแต่ละคน แบบเผชิญหน้า (face-to-face contact) วิธีการสัมภาษณ์เป็น รายบุคคลนี้เป็นการสนทนากันแบบ 2 ทาง ระหว่างผู้สัมภาษณ์ และผู้ตอบคำถาม การสัมภาษณ์เป็นรายบุคคลอาจเกิดขึ้นใน โรงงานอุตสาหกรรม บ้านที่พักอาศัย ศูนย์การค้า หรือสถานที่ อื่นๆ

30 ลักษณะของการสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล
1. การสัมภาษณ์แบบเคาะประตูบ้าน (Door-to-door interviews) 2. การสัมภาษณ์ในแหล่งศูนย์การค้าและเขตที่มีชุมชนหนาแน่นอื่นๆ (Intercept interviews in malls and other high-traffic areas)

31 การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
การเก็บรวบรวมคำตอบจากการสำรวจคำถามด้วยวิธีการ ติดต่อกับผู้ตอบโดยทางโทรศัพท์ การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กำลังกลายเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและมีหลักฐานยืนยัน ว่าการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถูกนำมาเสนอแนะในวิธีเริ่มแรก ของการวิจัยเชิงสำรวจ

32 แบบสังเกต เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพและ การวิจัยเชิงทดลอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียด ครบถ้วนและถูกต้อง สิ่งที่ ผู้วิจัยทำการสังเกตและบันทึกข้อมูล เช่น พฤติกรรมของคน บริบทของ สังคม/ชุมชน รูปแบบประเพณีและพิธีกรรม เป็นต้น นอกจากนั้นแล้ว การ สังเกตเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสของ ผู้เก็บรวบรวมข้อมูลหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสาทสัมผัสทางตา และหู

33 วิธีการสังเกต เป็นการเก็บข้อมูลโดยผู้วิจัยเฝ้าดูปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ถูกสังเกตอย่างตั้งใจ และมีการวางแผนเป็นระบบเพื่อหาคำตอบที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ของการวิจัย โดยการอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้วิจัยเอง (การมอง การฟัง การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส) การสังเกตใช้ได้ดีกับการศึกษา คุณลักษณะและพฤติกรรมของบุคคลรวมถึงปรากฏการณ์และพิธีการต่างๆ

34 วิธีการเก็บข้อมูลโดยการสังเกต
1. การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) 2. การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-Participant Observation)


ดาวน์โหลด ppt เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจารย์พุทธิวัฒน์ ไวยวุฒิธนาภูมิ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google