งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

เว็บไซต์ ( WEBSITE ). เว็บไซต์ ( WEBSITE ) นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปี 1 ห้อง ก สมาชิกในกลุ่ม 6 1.นางสาวจีรภรณ์ บุตรดี เลขที่ 22 2.นางสาวพรพรรณ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "เว็บไซต์ ( WEBSITE ). เว็บไซต์ ( WEBSITE ) นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปี 1 ห้อง ก สมาชิกในกลุ่ม 6 1.นางสาวจีรภรณ์ บุตรดี เลขที่ 22 2.นางสาวพรพรรณ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1

2 เว็บไซต์ ( WEBSITE )

3 นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปี 1 ห้อง ก
สมาชิกในกลุ่ม 6 1.นางสาวจีรภรณ์ บุตรดี เลขที่ 22 2.นางสาวพรพรรณ จัตตุลาภา เลขที่ 56 3.นางสาวพิมพ์โพยม เจริญยิ่ง เลขที่ 63 นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปี 1 ห้อง ก

4 ความหมาย... ของเว็บไซต์

5 เว็บไซต์ ( website หรือ Web site )
หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์

6 ประเภทของเว็บไซต์

7 เว็บไซต์สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 8 ประเภท
ตามลักษณะของเนื้อหาและรูปแบบของเว็บไซต์ กลุ่มเว็บทั้ง 8 ประเภท 1. เว็บท่า (Portal site) หรือ เว็บวาไรตี้ (variety web) ซึ่งหมายถึงเว็บที่ให้บริการต่างๆ ไว้มากมาย มักประกอบไปด้วยบริการเครื่องมือค้นหา ที่รวบรวมลิงค์ของเว็บไซต์ที่น่าสนใจไว้มากมายให้ได้ค้นหา รวมถึงบริการที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่มีสาระและบันเทิงหลากหลายประเภท เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ดูดวง ท่องเที่ยว IT เกม สุขภาพ หรืออื่นๆ นอกจากนั้นแล้วเว็บท่ายังมีลักษณะในการเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้คนในสังคมในเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ซึ่งเรียกว่าเว็บชุมชน (community web) คือเป็นเว็บที่ให้บริการพื้นที่แก่กลุ่มคนผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันได้เข้ามาแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกัน

8          2.  เว็บข่าว (News site) มักเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรข่าวหรือสถาบันสื่อสารมวลชนต่างๆ ที่มีสื่อมวลชนประเภทต่างๆ ของตนอยู่เป็นหลัก เช่น สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแม้กระทั่งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แต่องค์กรเหล่านี้ได้นำเว็บไซต์มาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าวและสาระที่เป็นการสรุปใจความสำคัญหรือรวบรวมเนื้อหาจากข่าวในรอบเดือนหรือรอบปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและติดตามข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

9         3. เว็บข้อมูล (Information site) เว็บข้อมูลนั้นเป็นเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร หรือข้อเท็จจริงต่างๆ ตนเองขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตนได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดแก่ประชาชนในสังคมอีกด้วย

10      4. เว็บธุรกิจหรือการตลาด (Business/ Marketing site)
เป็นเว็บไซต์ที่มักสร้างขึ้นโดยองค์กรธุรกิจต่างๆ มีจุดมุ่งหมายหลักในการประชาสัมพันธ์องค์กรและเพิ่มผลกำไรทางการค้า โดยเนื้อหาส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมักจะเป็นการนำเสนอที่มีความน่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อผลกำไรทางธุรกิจนั่นเอง

11         5. เว็บการศึกษา (Education site) มักเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีนโยบายในการเผยแพร่ความรู้ และให้โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป เว็บการศึกษาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เว็บที่เกี่ยวกับการศึกษาโดยตรงนั้น ได้แก่เว็บของสถาบันการศึกษา ห้องสมุด และเว็บที่ให้บริการการเรียนรู้แบบออนไลน์ที่เรียกว่า   อี-เลิร์นนิ่ง (e-learning)

12        6. เว็บบันเทิง (Entertainment site) มุ่งเสนอและให้บริการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความบันเทิง โดยทั่วไปอาจนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการบันเทิงทั่วไป เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เรื่องขำขัน รวมถึงการให้บริการดาวน์โหลดโลโก้และริงโทนสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกด้วย เว็บประเภทนี้อาจมีรูปแบบที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟที่ตื่นตาตื่นใจ หรือใช้เทคโนโลยีมัลติมิเดียได้มากกว่าเว็บประเภทอื่น 

13 7. เว็บองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (None-profit organization site)

14           8. เว็บส่วนตัว (personal site) อาจเป็นเว็บของคนๆ เดียว เพื่อนฝูง หรือครอบครัวก็ได้ โดยอาจจัดทำขึ้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน เช่น แนะนำกลุ่มเพื่อน โชว์รูปภาพ แสดงความคิดเห็น เขียนไดอารี่ประจำวัน นำเสนอผลงาน ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เชี่ยวชาญหรือสนใจ โดยทั้งหมดนี้อาจทำเป็นเว็บไซต์หรือเป็นเพียงเว็บเพจหน้าเดียวก็ได้

15 ส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ดี

16 รูปโครงสร้างของเว็บไซต์ มีส่วนหลักๆอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ส่วนดังนี้

17 1. Containing block โดยปรกติเราจะเขียน <div> หรือ <table> ต่อจาก <body> เพื่อเอาไว้เก็บเนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์ก่อน เพื่อเอาไว้เป็นกล่องในการเก็บเนื้อหาทั้งหมด โดยกล่องของเราจะมีข้อดีอยู่ตรงที่ สามารถทำให้ปรับเปลี่ยนขนาดในการแสดงผลของเนื้อหาได้ หรือตำแหน่งการแสดงผลของเว็บไซต์ได้เช่น จัดกลาง ชิดซ้าย หรือชิดขวา หากนึกภาพไม่ออก ลองเขียนเว็บไซต์โดยเริ่มที่ใส่ตัวหนังสือลงไปก่อน จากนั้นหากต้องการจัดตัวหนังสือเหล่านั้นจะทำได้ยากมาก ดังนั้นทุกครั้งที่ออกแบบเว็บไซต์อย่างลืมที่จะสร้าง containing block เอาไว้ใส่เนื้อหาทั้งหมดก่อน เพื่อความสะดวกของเราเอง

18 2. Logo เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตัวตนของเรา ทำให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานจดจำเราได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การออกแบบเว็บไซต์นั้นจำเป็นต้องมีโลโก้ ของเว็บไซต์เป็นอย่างยิ่ง ส่วนตำแหน่งที่ควรจะวางโลโก้ไว้คือตำแหน่งที่เป็นสีม่วงทั้งหมดนั่นเอง จะสังเกตได้ว่าจะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนของเว็บไซต์ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้งานจำได้ และสะดุดตา เรื่องที่ต้องเตือนให้รู้กันก็คือ โลโก้ของเว็บไซต์เมื่อคลิกจะนำไปสู่หน้าแรกของเว็บไซต์เสมอ

19 3. Navigation เป็นส่วนที่จะนำผู้เข้าชมเว็บไซต์ไปยังส่วนต่างของเว็บไซต์ โดยสามารถทำให้อยู่ในแนวนอน หรือแนวตั้งก็ได้ หากสังเกต hellomyweb.com เราจะทำทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยแนวนอนจะนำไปสู่เนื้อหาหน้าอื่นของเว็บไซต์ ส่วนแนวตั้งจะนำไปสู่เนื้อหาย่อยในหน้านั้น ตำแหน่งที่ควรจะวาง navagation เอาไว้คือสีเขียวทั้งหมด ถ้าสังเกตดูจะพบว่าการวางตำแหน่งต้องพยายามให้อยู่ในส่วนด้านบนของเว็บไซต์ หรือจะพูดอีกอย่างคือส่วนที่เมื่อผู้ใช้เปิดมาก็ต้องเจอได้ทันที ไม่ควรวางไว้ในตำแหน่งที่ผู้ใช้จะต้องเลื่อนขึ้นลง ซ้ายขวา

20 4. Content ส่วนเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด หากผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายผู้ใช้งานจะเปลี่ยนไปชมเว็บใหม่ทันที ตำแหน่งที่ควรวางเนื้อหาไว้คือสีแดง หรือตำแหน่งอื่นๆที่คิดว่าจะทำให้ผู้หาเจอได้โดยไม่ลำบาก หากสังเกตดูจะพบว่าเว็บไซต์บางเว็บไซต์มีโฆษณาที่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ใช้งานหาเนื้อหาไม่เจอ นั่นถือเป็นการออกแบบที่ผิดพลาด

21 5. Footer คือส่วนล่างสุดของหน้าเว็บไซต์ ส่วนใหญ่จะเก็บลิงก์ต่างๆเอาไว้ หรือเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับเว็บไซต์เช่นลิขสิทธิ์ต่างๆ ถามว่าจำเป็นต้องมีหรือไม่ บอกได้ว่าจำเป็นอย่างยิ่ง footer จะเป็นตัวบอกผู้ชมว่าส่วนนี้คือล่างสุดของหน้าที่กำลังแสดงอยู่แล้วนะ ไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมแล้ว ทำไม่ต้องบอกเนื่องจากการแสดงเว็บไซต์ในบางครั้งนั้นหน้านั้นอาจโหลดได้ไม่หมด อาจแสดงได้แค่เนื้อหาภายใน หากเราออกแบบให้มี footer ตั้งแต่แรกผู้ใช้งานก็จะรู้ได้ทันทีว่าหน้าที่แสดงผลนี้อาจแสดงได้ไม่สมบูรณ์เพราะยังไม่เห็น footer และยังมีผลต่อภาพลักษณ์ของเว็บไซต์โดยตรง เราจะสังเกตได้ว่าเมื่อเข้าไปดูเว็บไซต์ที่ไม่มี footer จะรู้สึกเหมือนกับว่าเว็บไซต์นั้นยังทำไม่เสร็จ หรือขาดอะไรบางอย่าง

22 6. Whitespace พื้นที่ว่างในเว็บไซต์ คนส่วนใหญ่มักไม่เห็นความสำคัญของการเว้นพื้นที่ว่างไว้ในเว็บไซต์ เรามักจะใส่ภาพหรือตัวหนังสือเข้าไปให้มากที่สุดเพราะคิดว่าจะทำให้เว็บดูสวยงามขึ้น หรือใช้พื้นที่มีมีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด หากเราออกแบบโดยไม่ได้คำนึงว่าต้องมีพื้นที่ว่างอยู่ในเว็บไซต์ จะทำให้เว็บของเรานั้นดูอึดอัดทันที การเว้นช่องว่างเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างระหว่างตัวอักษร หรือช่องว่างระหว่างภาพ เนื้อหาต่างๆ นอกจากจะทำให้เว็บของเราดูสบายตาขึ้นแล้ว ยังทำให้เราสามารถกำหนดจุดที่จะให้ผู้ใช้งานเว็บรู้สึกสนใจในจุดนั้นได้อีกด้วย เช่นหากเราเว้นช่องว่างเอาไว้ตรงกลาง และนำภาพหรือตัวหนังสือเล็กๆไปวางไว้ ตรงจุดนั้นจะเป็นที่สนใจของผู้ใช้ทันที

23 ตัวอย่างเว็บไซต์

24

25

26

27 ประโยชน์ของเว็บไซต์มีอะไรบ้าง

28 ส่งเสริมศักยภาพทางด้านธุรกิจ
ส่งเสริมศักยภาพทางด้านธุรกิจ การมีเว็บไซต์สามารถช่วยในการเพิ่มเสริมศักยภาพของธุรกิจของคุณ ให้แข่งแกร่งมากยิ่งขึ้นได้ เนื่องจากเป็นโลกที่เปิดกว้างทางด้านข้อมูล ทำให้สินค้าและบริการของคุณเป็นที่รู้จักในท้องตลาดมากยิ่งขึ้นไปได้

29 การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ง่ายมากยิ่งขึ้น
การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ง่ายมากยิ่งขึ้น คุณสามารถที่จะมีเว็บไซต์เป็นของตนเองและ สามารถที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณค้นเว็บของคุณเจอผ่าน Search Engine โดยกลุ่มคำที่เจาะจงกับธุรกิจของคุณได้ เป็นการเพิ่มกลุ่มลูกค้าที่กำลังสนใจกับสินค้าและบริการของคุณ ให้ตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตาม

30 ช่วยให้ขายสินค้าได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน
ช่วยให้ขายสินค้าได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน เว็บไซต์เปรียบเสมอร้านค้าออนไลน์หรือสำนักงาน ที่ใครๆก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและค้าหาข้อมูลของสินค้าได้ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนเปิดหน้าร้านที่ต้องมีการเช่าห้องและมีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย

31 ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
สมัยนี้บริษัทที่ไม่มีเว็บเป็นของตนเองเปรียบเสมือน บริษัทที่มันต่อโลกภายนอก การมีเว็บไซต์บริษัทสามารถแสดงให้กลุ่มลูกค้าของคุณเข้าใจถึงภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทได้ และเว็บไซต์ยังช่วยในการสร้างความรู้สึกประทับใจกับผู้เยี่ยมชมได้อีกด้วย

32 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ จะดีหรือไม่ถ้าคุณไม่ต้องเสียค่าโฆษณาที่แพงๆ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โดยคุณหันมาสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง ลงทุนสร้างเว็บแค่ครั้งเดียวแต่ใครๆก็สามารถที่จะเข้ามาเยี่ยมชมได้โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากมาย เสียเพียงค่าบริการรายปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

33 ช่วยให้เป็นเสมือนที่ปรึกษาของลูกค้า
ช่วยให้เป็นเสมือนที่ปรึกษาของลูกค้า คุณสามารถให้คำปรึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ให้กับลูกค้าของคุณ

34 จบการนำเสนอ..^^

35 มีคำถามไหมคะ?


ดาวน์โหลด ppt เว็บไซต์ ( WEBSITE ). เว็บไซต์ ( WEBSITE ) นักศึกษาพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปี 1 ห้อง ก สมาชิกในกลุ่ม 6 1.นางสาวจีรภรณ์ บุตรดี เลขที่ 22 2.นางสาวพรพรรณ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google