ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
Modals-Certainly (must, can't)
By T’Sumana Hanlamyuang
2
Must และ Mustn't must แปลว่า "ต้อง" ดังนั้น mustn't หรือ must not ก็จะต้องแปลว่า "ไม่ต้อง หรือ ต้องไม่" โครงสร้างของประโยคที่ใช้ must คือ ประโยคบอกเล่า : Subject + must + v.1 ประโยคปฏิเสธ คือ : Subject + mustn't + v.1
3
หลักการใช้ must คือ 1. ใช้แสดงความเป็นที่ต้องกระทำ เช่น You must do your work. (คุณต้องทำงานของคุณ) You must help me. (คุณต้องช่วยฉัน) You must pay attention in class. (คุณต้องตั้งใจเรียนในห้องเรียน)
4
2. ใช้ในการให้คำแนะนำหรือการสั่งกับตนเองหรือบุคคลอื่น เช่น You mustn't talk in the classroom. (คุณต้องไม่คุยในห้องเรียน) You mustn't tell him about my secret. (คุณต้องไม่บอกความลับของฉันให้เขาฟัง) I must study for my exam. (ฉันต้องตั้งใจเรียนเพื่อการสอบของฉัน) 3. ใช้ must เมื่อพูดถึงสิ่งที่เราแน่ใจ เช่น The boy keeps crying. He must be really sick. (ชายน้อยยังคงร้องไห้อยู่ เขาคงต้องป่วยจริง ๆ )
5
เรื่องของ must กับ have to 1
เรื่องของ must กับ have to 1. ในประโยคบอกเล่า must กับ have to (แปลว่าต้อง)สามารถใช้แทนกันได้ ตัวอย่างเช่น I must go. I have to go. ประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาพูด (แปลว่าฉันจะต้องไปล่ะนะ) I've got to go. I gotta go.
6
2. must have + V3 แปลว่า ต้องเป็น
2. must have + V3 แปลว่า ต้องเป็น....แน่ๆเลย เป็นการคาดการณ์เรื่องราวในอดีต ตัวอย่างเช่น : He must have seen us. เขาต้องเห็นเราแล้วแน่ๆเลย I must have done something wrong. ฉันต้องทำบางอย่าง(ในอดีต)ผิดแน่เลย 2.1 can't have + V3 แปลว่า ต้องไม่.....แน่ๆเลย ตัวอย่างเช่น : She can't have finished this work today. หล่อนต้องทำงานไม่เสร็จแน่ๆเลยวันนี้
7
3. should have + V3 แปลว่า น่าจะทำแต่ไม่ได้ทำในอดีต ทำให้ต้องมาเสียดายในภายหลัง ตัวอย่างเช่น : I should have told him. ฉันน่าจะบอกเขา(แต่ไม่ได้บอก ก็เลยพูดด้วยความเสียดาย) 4. might have + V3 คาดการณ์ว่าจะเกิดในอดีต(แบบไม่แน่ใจ) She might have seen your cat. เธออาจจะเห็นแมวของเธอแล้วก็ได้นะ
8
5) 5.1 could have + V3 น่าจะสามารถทำได้ในอดีต(แต่ไม่ได้ทำ) ตัวอย่างเช่น : I could have gone to Chulalongkorn University but I preferred Kasetsart. ฉันว่าฉันเข้าจุฬาได้นะแต่ฉันชอบเกษตรศาสตร์ 5.2 couldn't have +V3 ทำไม่ได้ในอดีต ตัวอย่างเช่น : I couldn't have sung without you. ไม่มีเธอด้วย ฉันร้องเพลงไม่ได้(ในอดีต)
9
ความแตกต่างระหว่าง must กับ have to คือ - have to สามารถทำให้อยู่ในรูป อดีตและอนาคตได้ แต่ must ทำไม่ได้ เช่น I had to go. การใช้ในลักษณะ nagative ในภาษาไทยคำว่า "ต้องไม่" มีความหมาย แตกต่างจาก "ไม่ต้อง" ภาษาอังกฤษก็มีวิธีการสื่อความหมายได้เช่นกัน เช่น You must not read. (คุณต้องไม่อ่าน = ห้ามอ่าน) You don't have to read. (คุณไม่ต้องอ่าน = ไม่จำเป็นต้องอ่าน)
10
can เป็นกริยาช่วย แปลว่า สามารถ หรือ ทำได้ ใช้ได้กับประธานทุกตัว และไม่มีการเติม S ที่กริยานั้นๆ เราใช้ can นำหน้าคำกริยาช่องที่ 1 (สิ่งที่ต้องจำคือ คำว่า can ถ้าเป็นคำนามก็ต้องหมายถึง กระป๋อง ) การใช้ Can เมื่อทำหน้าที่เป็นคำกริยาเท่านั้น
11
can ใช้ในรูป present simple tense (ปัจจุบัน) มีรูปโครงสร้างประโยคดังนี้ Affirmative sentence ( ประโยคบอกเล่า ) Form : Subj. + can + verb 1 (infinitive without to) I can swim. You can drive a car. We can run very fast. They can speak Italian. He can answer the questions. She can ride a horse. It play a ball. Negative sentence (ประโยคปฏิเสธ) Form : Subj. + cannot + verb 1 (infinitive without to) ** รูปย่อของ cannot คือ can't
12
Interrogative ( ประโยคคำถาม ) Form: Can + Subj. + verb 1
Interrogative ( ประโยคคำถาม ) Form: Can + Subj. + verb 1 ? Can you drive a car ? Yes, I can. ( No, I cannot) Can they speak Italian ? Yes, they can. (No, they cannot. ) Can she ride a horse ? Yes, she can. (No, she cannot. )
13
Fill in the blanks with MUST or MUSTN’T 1. She is ill , so she ……
Fill in the blanks with MUST or MUSTN’T 1. She is ill , so she …….. see the doctor. 2. It is raining. You …….. take your umbrella. 3. You …….. throw litter on the stairs. 4. This is a secret. You …….. tell anybody. 5. You …….. make noise in the library. 6. We …….. hurry or we will miss the bus. 7. You …….. eat fruit and vegetables. 8. The baby is sleeping. You …….. shout. 9. You …….. be friendly to everybody You …….. walk on the grass.
14
Fill in the blanks with MUST or MUSTN’T 1
Fill in the blanks with MUST or MUSTN’T 1. She is ill , so she must see the doctor. 2. It is raining. You must take your umbrella. 3. You mustn’t throw litter on the stairs. 4. This is a secret. You mustn’t tell anybody. 5. You mustn’t make noise in the library. 6. We must hurry or we will miss the bus. 7. You must eat fruit and vegetables. 8. The baby is sleeping. You mustn’t shout. 9. You must be friendly to everybody You mustn’t walk on the grass.
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.