งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ยุคกลาง : Medieval Ages

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ยุคกลาง : Medieval Ages"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรม Literature อาจารย์สอง Satit UP

2 ภาษาละติน Latin language

3 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก

4 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาละติน (Latin language) วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก

5 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาลาติน (Latin language) วรรณกรรมสมัยกลาง นิยมแต่งเป็นภาษาละติน(Latin) มีทั้งวรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก

6 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน

7 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาลาติน (Latin langguge) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน

8 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน

9 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน และใช้ต่อมาในยุคกลาง โดยภาษาต่าง ๆ หลายภาษาในยุโรป มีรากฐานมาจากภาษาลาติน

10 ยุคกลาง : Medieval Ages
ภาษาละติน (Latin language) คำหลาย ๆ คำที่ใช้ในทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการแพทย์ มักมีรากคำศัพท์มาจากภาษาละตินหรือสร้างจากภาษาละติน ภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน พัฒนามาจากภาษาละติน ซึ่งจะเรียกกลุ่มภาษาเหล่านี้ว่า ภาษากลุ่มโรมานซ์ ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมาเนีย ภาษาอิตาลี ภาษาโปรตุเกส และภาษาสเปน ภาษาส่วนใหญ่ในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับภาษาละติน

11 ยุคกลาง : Medieval Ages
ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) ภาษาละติน(Latin) เป็นภาษาที่ใช้ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน เป็นภาษาทางการที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันในดินแดนจักรวรรดิโรมัน ภาษาละติน คือ ภาษาที่ชาวละติน(ซึ่งเดิมอยู่แถบคาบสมุทรอิตาลี)ใช้มาแต่เดิม ซึ่งต่อมาได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาราชการของจักรวรรดิโรมัน จึงกลายเป็นภาษาวรรณคดี ภาษาวิชาการ ตำราความรู้ กฎหมาย ภาษาศาสนา จารีตลาติน และศาสตร์ต่าง ๆ ของจักรวรรดิโรมัน

12 ยุคกลาง : Medieval Ages
ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคกลาง ศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นศาสนาที่มีอิทธิมากในยุคกลางก็ภาษาลาตินในการจดบันทึก คัมภีร์ไบเบิ้ล ทำให้ภาษาลาตินเป็นภาษาที่จำเป็นต้องใช้ในการศาสนาอย่างมากตลอดยุคกลาง พระ(บาทหลวง) ต้องอ่านภาษาลาตินได้ และผู้ที่ต้องการศึกษา หรือจดบันทึกความรู้หรือ ศาสตร์ด้านต่าง ๆ ก็ใช้ภาษาลาตินในการจดบันทึก

13 ยุคกลาง : Medieval Ages
ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) วรรณกรรม งานเขียนต่าง ๆ ทั้งงานเขียนทางศาสนา และวรรณกรรมที่เขียนในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา ของในยุคสมัยกลางจะเขียนโดยใช้ภาษาละติน ซึ่งถือว่าเป็นภาษาหนังสือชั้นสูงสมัยนั้น

14 ยุคกลาง : Medieval Ages
ความสำคัญ : ภาษาละติน (Latin language) มหาวิทยาลัยแรก ๆ ที่ก่อตั้งในปลายยุคกลาง เช่น มหาวิทยาลัยโบโลญญา ในอิตาลี มหาวิทยาลัยปารีส ในฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และ มหาวิทยาลัยเคมเบิดจ์ ในอังกฤษ ก็สถานบันอันเป็นที่รวบรวมวิทยาการความรู้ และ ตำราความรู้ในด้านศาสตร์ต่าง ๆ ไม่เฉพาะทางด้านที่เกี่ยวกับศาสนาเท่านั้น ซึ่งตำราส่วนใหญ่ก็บันทึกโดยภาษาลาติน

15 วรรณกรรม Literature

16 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง แบ่งออกเป็น วรรณกรรมยุคต้น ของยุคกลาง วรรณกรรมยุคปลาย ของยุคกลาง

17 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมช่วงต้น ของยุคกลาง (คริสต์ศตวรรษที่ 6-10)

18 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมยุคต้น ของยุคกลาง วรรณกรรมทางศาสนา วรรณกรรมทางโลก เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา นับตั้งแต่กำเนิดของคริสต์ศาสนา ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของพระเจ้า การไถ่บาป และวันพิพากษาครั้งสุดท้าย ตลอดจนหลักธรรมคำสั่งสอน ซึ่งสะท้อนถึงความศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า วรรณกรรมทางโลก เป็นเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตของสังคมในระบอบฟิวดัล เน้นการต่อสู้ การผจญภัย และการสั่งสอนค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อขุนนางเจ้านาของตน งานเขียนที่สำคัญ "เทวนคร" (The City of God) ของ นักบุญออกัสติน “Summa Theologiæ” ของ นักบุญโธมัส อไควนัส วรรณกรรมที่สำคัญ โรมานซ์ (Romance) คีตกานต์(Lyric) นิทานฟาบลิโอ(Fabliau) นิทานฟลาเปิล(Fable)

19 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางศาสนา ได้แก่ De civitate dei (The city of god) หรือ เทวนคร ของ St. Augustine Summa Theologiæ (Summa Theologica) หรือ มหาเทววิทยา ของ St. Thomas Aquinas

20 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางโลก ได้แก่ 1) มหากาพย์(epic) เป็นเรื่องราวของการสร้างวีรกรรมของวีรบุรุษในอดีต ได้แก่ ชาซอง เดอ โรลองด์ (chason de roland) เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ของโรลองค์ ทหารของสนิทของพระเจ้าซาร์ลมาร์ลกับกองทัพมุสลิมที่เดินทัพมาจากสเปนเพื่อพิชิตยุโรปตะวันตก 2) นิยายโรมานซ์(Romance) นิยายประเภทเพ้อฝันเป็นเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาว ความจงรักภักดีของอัศวินต่อเจ้าและขุนนาง เวทมนตร์คาถา นิยายที่เป็นที่นิยมกันมาก ได้แก่ เรื่องเกี่ยวกับสงครามโทรจันในสมัยกรีก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยทั่วไปเป็นเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาวที่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ความรักสมปรารถนาส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องชู้สาว

21 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมสมัยกลาง ที่เป็น วรรณกรรมทางโลก ได้แก่ 3) คีตกานท์(lyric) เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักแบบเทิดทูนต่อสตรีสูงศักดิ์ การเทิดทูนสตรีที่สูงศักดิ์ก่อให้เกิดระเบียบวิธีปฏิบัติที่บุรุษควรมีต่อสตรีเพศ หรือที่เรียกว่า ธรรมเนียมวีรคติ ซึ่งถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครันในหมู่อัศวินนักรบของสมัยกลางในภายหลังซึ่งบุรุษชั้นสูงจะแสวงหาความรักแบบเทิดทูนต่อสตรีผู้สูงศักดิ์โดยไม่ ปรารถนาความรักตอบแทน เพราะถือว่าว่าการอุทิศตนเพื่อสตรีที่รักทำให้ชีวิตของการเป็นอัศวินมีคุณ ค่าและมีเกียรติยศยิ่งนัก 4) นิทานฟาบลิโอ(Fabliau) เป็นวรรณกรรมของชาวบ้านทั่วไป เป็นนิทานสั้น ๆ เขียนเป็นโคลงกลอน ซึ่งเป็น เรื่องเสียดสีสังคมชนชั้นสูง ตลกขบขัน เล่ห์เหลี่ยม ความไม่ดีงามและบางครั้ง ค่อนข้างหยาบ งานประพันธ์ที่ได้รับอิทธิพลในเวลาต่อมา ได้แก่ นิทานแห่งแคนเทอร์เบอรี(The Canterbury Tales) 5) นิทานสัตว์(Fable) เป็นนิทานในลักษณะของนิทานอีสป(Aesop)เนื้อหาล้อเลียนเสียดสีสังคมฝรั่งเศสในสมัยกลาง ประณามระบบฟิวดัล กระบวนการยุติธรรม และวงการศาสนา

22 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลาง วรรณกรรมช่วงปลาย ของยุคกลาง (คริสต์ศตวรรษที่ 13-14)

23 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมสมัยยุคกลางตอนปลาย เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลกมากขึ้น มีลักษณะทางมนุษยนิยม มิใช่หมกมุ่นกับเรื่องทางศาสนาเหมือนแต่ก่อน เป็นงานเขียนทั้งประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง มักนิยมใช้ภาษาท้องถิ่นของตนเขียนแทนภาษาละติน เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาเลียน เป็นต้น นักเขียนและผลงานสำคัญ ได้แก่ ดังเต (Dante) ชอเซอร์ (Chaucer) บอคคัชชิโอ (Boccaccio)

24 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง ดังเต (Dante Alighieri) (ค.ศ ) กวีชาวอิตาเลียน เมืองฟลอเรนซ์ ผลงานสำคัญคือ “ The Divine Comedy “ เนื้อหาเป็นจิตนาการเกี่ยวกับการเดินทางไปนรกและสวรรค์ กล่าวถึงชีวิตหลังความตาย สะท้อนถึงความสามารถในด้านจินตนาการและการใช้เหตุผล งานเขียนส่วนใหญ่เขียนด้วยภาษาอิตาลี

25 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง เจฟฟรีย์ ชอเซอร์ (Geoffrey Chaucer) ( ค.ศ ) กวีชาวอังกฤษ ผลงานชิ้นสำคัญ คือ นิยายแคนเทอร์เบอรี(The Canterbury Tale) ซึ่งเป็นการบรรยายถึงชีวิตในศตวรรษที่ 14 โดยคณะจาริกแสวงบุญในจินตนาการคณะหนึ่ง นักจาริกแสวงบุญเหล่านี้ เล่าเรื่องในระหว่างการเดินทางไปยังปูชณียสถาน ที่นักบุญโทมาสอา เบ็คเค็ท ถูกสังหาร ณ เมืองแคนเทอร์เบอรี่ กวีนิพนธ์เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้รื่นรมย์ แต่ยังเผยให้เป็นนิสัยใจคอของนักแสวงบุญแต่ละคน ซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่องอีกด้วย

26 ยุคกลาง : Medieval Ages
วรรณกรรมช่วงปลายของยุคกลาง บอคคัชชิโอ (Giovanni Boccaccio) ( ค.ศ ) นักเขียนชาวอิตาลี เป็นนักเขียนแนวมานุษยนิยม(Humanist) ได้รับสมญานามว่า "บิดาแห่งมนุษยวิทยา" ผลงานชิ้นสำคัญ คือ “ตำนานสิบราตรี” หรือ เดคาเมรอน (Decameron) และ “On Famous Women” งานเขียนของเขาเป็นงานเขียนนิยายเสียดสีสังคม นิยายชวนหัวล้อสังคมที่เฉียบแหลมที่สุดแห่งยุค


ดาวน์โหลด ppt ยุคกลาง : Medieval Ages

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google