ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism

ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism
พระคริสตธรรมล้านนา Lanna Theological Center ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism J.K. Stevens, Instructor

การพัฒนาโลกทัศน์ Worldview Development
เทวัสนิยม ลัทธิดีอิสม –พระเจ้าอยู่ห่าง ไกล Deism – God is distant ธรรมชาตินิยม-มีเพียงแค่สสาร Naturalism - Matter is all there is มนุษย์นิยม-มนุษย์ควบคุมชะตาของตนเอง Humanism – Man controls his destiny สูญนิยม-ชีวิตว่างเปล่า Nihilism – Life is nothing เส้นแห่งความหมดหวัง Line of Despair อัตถิภาวนิยม-ทั้งหมดมันเกี่ยวกับฉัน Existentialism – It is all about me นิวเอจ - คงเป็นไปได้มนุษย์สามารถเป็นพระเจ้า New Age – Maybe man can be god ยุคหลังความทันสมัย-ไม่มีสัจจะ Postmodernism – There is no truth Your own notes:

ยุคหลังความทันสมัย Postmodernism
ทำไมใช้คำศัพท์นี้ Why the term? ยุคทันสมัยนิยม Modernism ธรรมชาตินิยม Naturalism ยุคหลังความทันสมัย Postmodernism Your own notes:

เป็นคำศัพม์ที่ถูกใช้เริ่มต้นในเชิงสถาปัตยกรรมและการออกแบบเชิงศิลปะ ที่แยกวัตถุประสงค์ออกจากฟังก์เชั่น (การดำเนินการ) A term first used in architecture and art of designs that moved away from a purpose built around function Your own notes:

ตอนนี้ถูกใช้หมายถึงวัฒนธรรมพหุนิยมที่ได้ถูกยกเลิกการเชื่อมต่อและ ถูกครอบงำโดยปัจเจกนิยม Is now used to describe a disconnected & pluralistic culture that is dominated by individualism เป็นโลกทัศน์ที่ "ขโมยความคิด" เพราะมันยืมจากโลกทัศน์อื่นๆโดยไม่ อ้างอิง Is the “plagiarist” of worldviews—it borrows from others at will & without giving credit บางครั้งเรียกว่า “ทฤษฎีรื้อทิ้ง” เพราะเป็นการพยายามที่จะรื้อทิ้งเรื่อง เล่าหลักที่ทำให้วิฒนธรรมโลกเป็นเอกภาพ Is sometimes called deconstructionism —a move to take apart the metanarratives (the great & unifying stories) of world culture Your own notes:

ในยุคหลังความทันสมัย In postmodernism . . . ความจริงของความเป็นจริงถูกซ้อนไว้ ดังนั้นเราต้องงเล่าเรื่อง The truth of reality is hidden & so we tell stories การตีความหมายของความเป็นจริงได้ถูกทุจริตโดยอคติทางปัจเจกบุคคล และวิฒนธรรม (ที่ถูกขับเคลื่อนโดยเรื่องซึ่งฉ้อโกงจากสมัยโบราณ) Interpretation of reality has been corrupted by cultural & personal prejudice (driven by the delusionary metanarratives of old) เป้าหมายคือปลดปล่อยการตีความหมายชีวิตของเราโดยใช้ความหมายที่ สร้างขึ้นมาใหม่ Thus the goal is to liberate our interpretation of life through newly constructed meanings ยุคของเหตุผลได้สูญเสียไปพร้อมด้วยการมองในแง่ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ มนุษย์ The age of reason died & with it optimism about the human condition Your own notes:

การสูญเสียเอกภาพของวัฒนธรรม The loss of cultural unity . . . “ตอนนี้ไม่มีเรื่องหลักเดียว (ในแง่ของโลกทัศน์ของเรา) ที่ทำ ให้วัฒนธรรมตะวันตกมีเอกภาพ ในหลังนวนิยมไม่มีเรื่องหนึ่งที่น่าเชื่อถือมากกว่าเรื่องอื่นๆ ทุกเรื่องถูกต้องเท่าเทียมกัน” No longer is there a single story, a metanarrative (in our terms a worldview), that holds Western culture together. With postmodernism no story can have any more credibility than any other. All stories are equally valid . . .” James Sire The Universe Next Door, p Your own notes:

มีแนวโน้มที่จะใช้ลัทธิจริยธรรมและปรัชญาทางปฏิบัตินิยม (มนุษย์นิยม) Tends toward philosophical & ethical pragmatism (humanism) ชื่อว่ากฎของภาษาเป็นตามอำเภอใจสำหรับแต่ละกลุ่มที่ใช้ (ศูญนิยม) Believes the rules of language are arbitrary to each user-group (nihilism) ต้องการที่จะช่วยชีวิตมนุษย์ให้พ้นจากเหตุผลที่จยับยั้งเราและ ตรรกศาสตร์ของธรรมเนียม (อัตถิภาวนิยม) Wants to rescue man from the stifling rationalism & logic of tradition (existentialism) ละลายเส้นระหว่างข้อเท็จจริงและนวนิยาย (ยุคหลังความทันสมัย) Dissolves the line between fact & fiction (postmodernism) Your own notes:

ยุคหลังความทันสมัย Postmodernists “เพียงแค่ลบความจำเป็นของฐานราก และความ จำเป็นในการเลือกหนึ่งตำแหน่งเหนือตำแหน่งอื่น จะช่วยให้เรามีอิสระในการสร้างตำแหน่งของเรา เอง” “. . . simply remove the necessity of foundations and the necessity of choosing one position over another, allowing us the freedom to construct our own positions.” Fayaz Chagani, Postmodernism: rearranging the furniture of the universe Your own notes:

“เราต้องดูพิธีกรรมต่างๆของเราในแง่ซึ่งพวกมันเป็นจริงๆ: เป็นสิ่ง ตามอำเภอใจ เบื่อเกมและประชดเป็นเรื่องที่ดีที่จะสกปรกและมีเครา ที่จะมีผมยาวและมีลักษณะเหมือนเด็กผู้หญิงเมื่อเป็นเด็กชาย (และ ในทางกลับกัน) เราต้องเริ่มการ "ใช้ในการเล่น', เข้าร่วม, แปลง, และทำให้ย้อนกลับระบบซึ่งสั่งให้เราอย่างเงียบวิธีดำเนินชีวิต อย่างไร” We must see our rituals for what they are: completely arbitrary things, tired of games and irony, it is good to be dirty and bearded, to have long hair, to look like a girl when one is a boy (and vice versa); one must put ‘in play’, show up, transform, and reverse the systems which quietly order us about.” Michel Foucault Quoted by Fayaz Chagani, Postmodernism: rearranging the furniture of the universe Your own notes:

ยุคหลังความทันสมัยสอน....According to Postmodernism: เราไม่สามารถรู้ความหมาย-เราแต่ละคนต้องสร้างความหมายเอง (จาก ความหมายไปสู่ความเป็นอยู่) We cannot know meaning—we must construct it (from meaning to being) ความเป็นจริงซ่อนไว้-เราเพียงแค่สามารถเล่าเรืองราวให้ตนเอง ไม่ให้คน อื่นReality is hidden—all we can do is tell stories for ourselves, not for others มนุษย์สร้างตัวเองโดยสร้างสรรค์เรื่องของตนเอง Man makes himself by constructing his own story ความดีคืออะไรก็ตามซึ่งสังคมสร้างขึ้นเป็น Goodness is whatever society constructs it to be Your own notes:

ยุคหลังความทันสมัย P ostmodernism
ฉันอยู่ในนี่อย่างลำพัง! ไปให้พ้น! ฉันกำลังทำสิ่งของฉันเอง! พระเจ้า

อิทธิพลต่อปัจจุบัน Postmodernism’s influence today
การตีความหมายใหม่ของประวัติศาสตร์ Reinterpreting the past–

อิทธิพลในปัจจุบัน Postmodernism’s influence today
สร้างสรรค์ความเป็นจริงใหม่ของปัจจุบัน Remaking today’s reality –

ยุคหลังความทันสมัย P ostmodernism
กฎใหม่ทางศาสนา New Religious Rules . . . พระเจ้าไม่สามารถแทรกแซงชีวิตได้โดยตรง God cannot directly intervene in life. ความดีและความชั่วอยู่ร่วมกัน Good and evil co-exist พระเจ้าไม่สามารถระบุศาสนาใด ๆ ว่าถูกต้อง God can never identify one religion as being right. ทุกคนได้รับอนุญาตให้พูดกับพระเจ้าว่า “ไม่ได้” Everyone is allowed to say no to God. พระเจ้าไม่ใช่บุคคลและไม่มีบุคลิกภาพของมนุษย์ God is not a person and does not possess a human personality. พระเจ้าพูดกับทุกคนตลอดเวลาด้วยวิธีที่ต่างกัน God talks to everyone all the time in different ways.

ยุคหลังความทันสมัยสอน According to Postmodernism: เอกราชที่สมบูรณ์และอธิปไตยของแต่ละบุคคล คุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความอดทนต่อความคิดที่แตกต่างกัน (ซึ่งสำคัญกว่าเสรีการพูด) A complete autonomy & sovereignty of the individual – the greatest virtue is tolerance (which trumps free speech) การกดขี่ข่มเหงโดยผู้มีอำนาจ Oppression is perpetrated by those in power เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมีอำนาจทางศีลธรรมในการพูด Victims have the moral authority to speak การตั้งค่าทางเพศถือเป็นสิทธิบุคคลที่แน่นอน Sexual preference is an absolute right รัฐมีสิทธิเหนือครอบครัวที่จะกำหนดค่านิยม/คุณธรรม The state has the right over family to determine values Your own notes:

ประเด็นที่สำคัญ The issues at hand: ชีวิตเพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคล ซึ่งทำให้การถอนคำจำกัดความ ของครอบครัวและอัตราการเกิด Life is for personal satisfaction, uprooting family definitions & birthrates คำจำกัดความของชีวิตทำให้การฆ่าทารกและนาเซียนาเป็นทางเลือก สมเหตุสมผล The definition of life makes infanticide & euthanasia reasonable options การลดค่าของชีวิตมนุษย์ได้ลดระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และ นำไปสู่การใช้เป็นประโยชน์และการค้ามนุษย์ The devaluation of human life has downgraded human dignity & this leads to utilitarianism & trafficking Your own notes:

อนาคต The future . . . “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ความท้าทายของการตายของพระเจ้า การตายของ เหตุผล การตายของความจริง และการตายของตัวเอง-ทั้งหมดที่โดด เด่นของยุคหลังความสมัยมในปัจจุบัน-จะอยู่กับเราเป็นเวลานานๆ” In any case, the challenge of the death of God, the death of reason, the death of truth and the death of the self—all dominant in current postmodernism—is like to be with us for a very long time James Sire The Universe Next Door, p. 242 Your own notes:

หัวข้อ โลกทัศน์พระคัมภีร์ ยุคหลังความทันสมัย พระเจ้า นิรันดร์และความเป็นบุคคล อะไรก็ได้ที่คุณอยากทำให้พระองค์เป็น ชีวติ พระเจ้าสร้าง มันเกิดขึ้นเอง สัจจะ พระเจ้ากำหนดและสอดคล้องกัน ความจริงและความหมายเป็นตามอำเภอใจ อะไรถูกต้องและอะไรผิด ตั้งขึ้นบนสัจจะของพระเจ้าและดีเลิศตลอด อะไรถูกต้องและอะไรผิดเป็นตามอำเภอใจ

สิ่งที่ยากสำหรัลยุคหลังความทันสมัย The hard things of postmodernism: มนุษย์ยังคงแสวงหาวัตถุประสงค์ Mankind is still seeking a purpose ความหมายเป็นเป้าที่ขยับย้ายเรื่อยๆ Meaning is a moving target ความจริงเป็นตามอำเภอใจและมักจะขัดแย้งกัน Truth is arbitrary & often in conflict การหาความหมายของชีวิยากเหลือเกิน The meaning of life is elusive Your own notes:

ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism

งานนำเสนอที่คล้ายกัน

งานนำเสนอเรื่อง: "ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

งานนำเสนอที่คล้ายกัน

เรื่องโครงการ

การติดต่อกลับ

เข้าสู่ระบบ

ลงทะเบียนผ่านเครือข่ายสังคม:

ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism

งานนำเสนอที่คล้ายกัน

งานนำเสนอเรื่อง: "ยุคหลังความทันสมัยPostmodernism"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

งานนำเสนอที่คล้ายกัน

เรื่องโครงการ

การติดต่อกลับ