ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยOpal Mosley ได้เปลี่ยน 6 ปีที่แล้ว
1
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
2
Psalm เพลงสดุดีบทที่ 100
3
A Psalm for giving thanks
A Psalm for giving thanks. 1Make a joyful noise to the LORD, all the earth! 1เพลงสดุดีเพื่อการถวายเครื่องบูชาโมทนา ชาวโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงเปล่งเสียง ชื่นบานถวายแด่พระเจ้า
4
2Serve the LORD with gladness. Come into His presence with singing
5
Matthew มัทธิว 28: And Jesus came and said to them, “All authority in heaven and on earth has been given to me. 18พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า “ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
6
19Go therefore and make disciples of all nations, baptizing them in the name of the Father and of the Son and of the Holy Spirit, 19เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์
7
20teaching them to observe all that I have commanded you
20teaching them to observe all that I have commanded you. And behold, I am with you always, to the end of the age.” 20สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
8
Mark มาระโก 16:15 15And He said to them, “Go into all the world and proclaim the gospel to the whole creation. 15ฝ่ายพระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกว่า “เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน
9
3Know that the LORD, He is God
3Know that the LORD, He is God! It is He who made us, and we are His; we are His people, and the sheep of His pasture. 3จงรู้เถิดว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลาย และเราก็เป็นของพระองค์ เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์
10
4Enter His gates with thanksgiving, and His courts with praise
4Enter His gates with thanksgiving, and His courts with praise! Give thanks to Him; bless His name! 4จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการโมทนา และเข้าบริเวณพระนิเวศของพระองค์ด้วยการสรรเสริญจงถวายโมทนาขอบพระคุณพระองค์ จงถวายสาธุการแด่พระนามของพระองค์
11
5For the LORD is good; His steadfast love endures forever, and His faithfulness to all generations. 5เพราะพระเจ้าประเสริฐ ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ และความสัตย์สุจริตของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์
12
Ephesians เอเฟซัส 5:18-6:9 18And do not get drunk with wine, for that is debauchery, but be filled with the Spirit, 18และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ
13
19addressing one another in psalms and hymns and spiritual songs, singing and making melody to the Lord with all your heart, 19จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญ คือร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจของท่าน ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
14
20giving thanks always and for everything to God the Father in the name of our Lord Jesus Christ, 20จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
15
21submitting to one another out of reverence for Christ
16
22Wives, submit to your own husbands, as to the Lord
17
23For the husband is the head of the wife even as Christ is the head of the church, his body, and is Himself its Savior. 23เพราะว่าสามีเป็นศีรษะของภรรยา เหมือนพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคริสตจักร
18
4Now as the church submits to Christ, so also wives should submit in everything to their husbands. 24คริสตจักรยอมฟังพระคริสต์ฉันใด ภรรยาก็ควรยอมฟังสามีทุกประการฉันนั้น
19
25Husbands, love your wives, as Christ loved the church and gave himself up for her, 25ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร
20
26that he might sanctify her, having cleansed her by the washing of water with the word, 26เพื่อจะได้ทรงทำให้คริสตจักรบริสุทธิ์ โดยการทรงชำระด้วยน้ำและพระวจนะ
21
27so that he might present the church to himself in splendor, without spot or wrinkle or any such thing, that she might be holy and without blemish. 27เพื่อพระองค์จะได้มีคริสตจักรที่มีสง่าราศี ไม่มีตำหนิริ้วรอย หรือมลทินใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ
22
28In the same way husbands should love their wives as their own bodies
28In the same way husbands should love their wives as their own bodies. He who loves his wife loves himself. 28เช่นนั้นแหละ สามีจึงควรจะรักภรรยาของตนเหมือนกับรักกายของตนเอง ผู้ที่รักภรรยาของตนก็รักตนเอง
23
29For no one ever hated his own flesh, but nourishes and cherishes it, just as Christ does the church, 29เพราะว่าไม่มีผู้ใดเกลียดชังเนื้อหนังของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทนุถนอม เหมือนพระคริสต์ทรงกระทำแก่คริสตจักร
24
30because we are members of His body
25
31“Therefore a man shall leave his father and mother and hold fast to his wife, and the two shall become one flesh.” 31เพราะเหตุนี้ ผู้ชายจึงจะละบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน
26
32This mystery is profound, and I am saying that it refers to Christ and the church. 32ความจริงที่ฝังอยู่ในข้อนี้สำคัญ ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงพระคริสต์และคริสตจักร
27
33However, let each one of you love his wife as himself, and let the wife see that she respects her husband. 33ถึงอย่างไรก็ดี ท่านทุกคนจงต่างก็รักภรรยาของตนเหมือนรักตนเอง และภรรยาก็จงยำเกรงสามีของตน
28
1Children, obey your parents in the Lord, for this is right
29
2“Honor your father and mother” (this is the first commandment with a promise), 2จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย
30
3“that it may go well with you and that you may live long in the land
31
4Fathers, do not provoke your children to anger, but bring them up in the discipline and instruction of the Lord. 4ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า
32
5Slaves, obey your earthly masters with fear and trembling, with a sincere heart, as you would Christ, 5ฝ่ายพวกทาส จงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายฝ่ายโลกด้วยใจเกรงกลัวจนตัวสั่น ด้วยน้ำใสใจจริงเหมือนที่กระทำแก่พระคริสต์
33
6not by the way of eye-service, as people-pleasers, but as servants of Christ, doing the will of God from the heart, 6ไม่เหมือนอย่างคนที่ทำแต่ต่อหน้า อย่างคนที่ทำให้ชอบใจคน แต่จงทำเหมือนอย่างทาสของพระคริสต์ คือกระทำตามชอบพระทัยพระเจ้าด้วยความเต็มใจ
34
7rendering service with a good will as to the Lord and not to man, 7จงปรนนิบัตินายด้วยจิตใจชื่นบาน เหมือนกับปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่ปรนนิบัติมนุษย์
35
8knowing that whatever good anyone does, this he will receive back from the Lord, whether he is a slave or free. 8เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าผู้ใดกระทำความดีประการใด ผู้นั้นก็จะได้รับบำเหน็จอย่างนั้นจากองค์พระผู้เป็นเจ้าอีก ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นไท
36
9Masters, do the same to them, and stop your threatening, knowing that He who is both their Master and yours is in heaven, and that there is no partiality with Him. 9ฝ่ายนายจงกระทำต่อทาสในทำนองเดียวกัน คืออย่าขู่เข็ญเขาเพราะท่านก็รู้แล้วว่า พระองค์ผู้ทรงเป็นนายของเขาและของท่านนั้นอยู่ในสวรรค์ และพระองค์ไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใดเลย
37
Colossians โคโลสี 3: Let the word of Christ dwell in you richly, teaching and admonishing one another in all wisdom, singing psalms and hymns and spiritual songs, with thankfulness in your hearts to God.
38
16จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า
39
17And whatever you do, in word or deed, do everything in the name of the Lord Jesus, giving thanks to God the Father through Him.
40
17และเมื่อท่านจะกระทำสิ่งใดด้วยวาจาหรือด้วยกายก็ตาม จงกระทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูเจ้า และขอบพระคุณพระบิดาเจ้า โดยพระองค์นั้น
41
18Wives, submit to your husbands, as is fitting in the Lord
42
19Husbands, love your wives, and do not be harsh with them
43
20Children, obey your parents in everything, for this pleases the Lord
44
21Fathers, do not provoke your children, lest they become discouraged
45
22Slaves, obey in everything those who are your earthly masters, not by way of eye-service, as people-pleasers, but with sincerity of heart, fearing the Lord.
46
22ฝ่ายพวกทาส จงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายของตนตามเนื้อหนังทุกอย่าง ไม่ใช่ตามอย่างคนที่ทำแต่ต่อหน้า อย่างคนประจบสอพลอ แต่ทำด้วยน้ำใสใจจริง ด้วยความเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า
47
23Whatever you do, work heartily, as for the Lord and not for men, 23ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนกระทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์
48
24knowing that from the Lord you will receive the inheritance as your reward. You are serving the Lord Christ. 24ท่านรู้ว่าท่านจะได้รับมรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบำเหน็จ ท่านปรนนิบัติพระคริสต์เจ้าอยู่
49
25For the wrongdoer will be paid back for the wrong he has done, and there is no partiality. 25ส่วนผู้ที่ทำความผิดก็จะได้รับผลตามความผิดที่เขาได้ทำนั้น และไม่มีการทรงเห็นแก่หน้าผู้ใดเลย
50
Psalm เพลงสดุดีบทที่ 101
51
A Psalm of David. 1I will sing of steadfast love and justice; to you, O LORD, I will make music. 1เพลงสดุดีของดาวิด ข้าพระองค์จะร้องเพลงเรื่องความจงรักภักดี และความยุติธรรม ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะร้องเพลงถวายพระองค์
52
2I will ponder the way that is blameless, Oh when will you come to me
2I will ponder the way that is blameless, Oh when will you come to me? I will walk with integrity of heart within my house; 2ข้าพระองค์จะเอาใจใส่ในมรรคาที่ดีรอบคอบ เมื่อไรพระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะดำเนินด้วยใจซื่อสัตย์ภายในเรือนของข้าพระองค์
53
Matthew มัทธิว 5:8 8“Blessed are the pure in heart, for they shall see God. 8“บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้า
54
Ephesians เอเฟซัส 1:4 4even as He chose us in Him before the foundation of the world, that we should be holy and blameless before Him. In love
55
4ในพระเยซูคริสต์นั้น พระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะทรงเริ่มสร้างโลก เพื่อเราจะบริสุทธิ์และปราศจากตำหนิในสายพระเนตรของพระองค์
56
Philippians ฟีลิปปี 1:10 10so that you may approve what is excellent, and so be pure and blameless for the day of Christ, 10เพื่อท่านทั้งหลายจะสังเกตได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด และเพื่อท่านจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ และไม่เป็นที่ติได้ในวันแห่งพระคริสต์
57
Philippians ฟีลิปปี 2:15 15that you may be blameless and innocent, children of God without blemish in the midst of a crooked and twisted generation, among whom you shine as lights in the world,
58
15เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆในโลก
59
3I will not set before my eyes anything that is worthless
3I will not set before my eyes anything that is worthless. I hate the work of those who fall away; it shall not cling to me. 3ข้าพระองค์จะไม่ตั้งสิ่งใดๆที่ชั่วช้า ไว้ต่อหน้าต่อตาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เกลียดกิจการของผู้ที่บิดตะกูด กิจการนั้นจะไม่ติดข้าพระองค์
60
4A perverse heart shall be far from me; I will know nothing of evil
61
5Whoever slanders his neighbor secretly I will destroy
5Whoever slanders his neighbor secretly I will destroy. Whoever has a haughty look and an arrogant heart I will not endure. 5บุคคลที่ใส่ร้ายเพื่อนบ้านลับๆนั้น ข้าพระองค์จะทำลายเสีย คนที่เห่อเหิมและใจที่จองหอง ข้าพระองค์จะไม่ยอมทนด้วย
62
6I will look with favor on the faithful in the land, that they may dwell with me; he who walks in the way that is blameless shall minister to me.
63
6ข้าพระองค์จะมองหาคนที่ซื่อตรงในแผ่นดิน เพื่อเขาจะอาศัยอยู่กับข้าพระองค์ ผู้ใดดำเนินในทางที่ดีรอบคอบ ผู้นั้นจะปรนนิบัติข้าพระองค์
64
7No one who practices deceit shall dwell in my house; no one who utters lies shall continue before my eyes. 7ผู้ที่ประพฤติหลอกลวง จะไม่ได้อาศัยอยู่ในเรือนของข้าพระองค์ คนใดที่อ้าปากพูดเท็จ จะไม่ยั่งยืนอยู่ต่อหน้าข้าพระองค์
65
8Morning by morning I will destroy all the wicked in the land, cutting off all the evildoers from the city of the LORD. 8ทุกๆเช้า ข้าพระองค์จะทำลายคนอธรรมทั้งสิ้นในแผ่นดิน ตัดผู้กระทำชั่วออกเสียให้หมดจากนครของพระเจ้า
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.