งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

บทที่ 5 รายได้ประชาชาติ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "บทที่ 5 รายได้ประชาชาติ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 บทที่ 5 รายได้ประชาชาติ

2 5.1 ความหมายของรายได้ประชาชาติ
5.1 ความหมายของรายได้ประชาชาติ มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ประเทศผลิตได้ในระยะเวลาหนึ่ง โดยปกติคิดระยะเวลา 1 ปี มูลค่า : P x Q

3 สินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (Final Goods and Services)
สินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อไปเพื่อ การบริโภคหรือสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อไปมิใช่เพื่อการขายต่อ

4 5.2 การคำนวณรายได้ประชาชาติ
1) ทางด้านผลผลิต (Product Approach) 2) ทางด้านรายได้(Income Approach) 3) ทางด้านรายจ่าย (Expenditure Approach)

5 ครัวเรือน ผู้ผลิต ครัวเรือน Expenditure Approach Product Approach
ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ 600 ล้านบาท Expenditure Approach สินค้าและบริการ Product Approach สินค้าและบริการ ขั้นสุดท้าย 600 ล้านบาท ครัวเรือน ผู้ผลิต ครัวเรือน ปัจจัยการผลิต ค่าตอบแทนปัจจัยการผลิต Income Approach 600 ล้านบาท

6 = = มูลค่าสินค้าและบริการ ค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ
รายได้ที่นำไปซื้อสินค้าและบริการ

7 5.2.1การคำนวณรายได้ประชาชาติทางด้านผลผลิต (Product Approach)
มีวิธีการคำนวณได้ 2 แบบ 1) คิดเฉพาะมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (Final Goods and Services) ที่หน่วยธุรกิจขายให้แก่ผู้บริโภค 2) คิดจากมูลค่าเพิ่ม (Value Added) มูลค่าเพิ่ม คือ ผลต่างระหว่างมูลค่าขายหักด้วยมูลค่าวัตถุดิบหรือสินค้าขั้นกลาง วิธีนี้ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาการนับซ้ำ (Double Counting)

8 การคำนวณรายได้ประชาชาติทางด้านมูลค่าเพิ่ม
มูลค่าเพิ่มของการผลิตแต่ละขั้น มูลค่าของผลผลิตแต่ละขั้น ต้นทุนการผลิต ขั้นการผลิต ชาวไร่ฝ้าย - 25 25 โรงงานปั่นด้าย 25 55 30 โรงงานทอผ้า 55 100 45 โรงงานผลิตเสื้อ 100 200 100 ร้ายขายปลีก 200 250 50 รวม 380 630 250

9 ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP) 9,041,551
รายการ 2552 ล้านบาท 1. กสิกรรม ปศุสัตว์ป่าไม้ 831,823 2. การอุตสาหกรรม 3,490,039 3. ไฟฟ้า ก๊าซ และประปา 316,454 4. จักรยานยนตร์ ของใช้ส่วนบุคคลและอื่นๆ 1,265,817 5. โรงแรมและภัตตาคาร 343,579 6. การขนส่ง การเก็บรักษาสินค้าและการคมนาคม 877,030 7.อื่นๆ ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP) 9,041,551

10 ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้นในราคาตลาด (Gross Domestic Product at market price : GDP at market price) มูลค่ารวมตามราคาตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย ที่ผลิตขึ้นได้ภายในอาณาเขตของประเทศนั้นๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คำนึงว่าผู้ผลิตจะเป็นพลเมืองของประเทศนั้นหรือไม่

11 5.2.2 การคำนวณรายได้ประชาชาติด้านรายได้ (Income Approach)
การคำนวณรายได้ประชาชาติทางด้านรายได้รวมที่เจ้าของปัจจัยการผลิตได้รับในระยะเวลาหนึ่ง

12 การคำนวณรายได้ประชาชาติทางด้านรายได้ (Income Approach)
การรวมรายได้ที่เป็นผลตอบแทนจากการที่ปัจจัยการผลิตนั้นมีผลช่วยให้มีการผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง (แต่จะไม่รวมเงินโอน)

13 1. ค่าตอบแทนแรงงาน ค่าตอบแทนในรูปของตัวเงิน (ค่าจ้างและเงินเดือน) รวมถึงสิ่งตอบแทนอื่น ๆ ที่คนงานได้รับเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าตอบแทนในรูปตัวเงิน รวมถึงค่าตอบแทนที่จ่ายในรูปสิ่งของ

14 2. รายได้ของบุคคลในรูปค่าเช่า
ค่าเช่าที่เอกชนหรือบุคคลธรรมดาได้รับจาก การให้เช่าทรัพย์สินเพื่อการผลิต รวมถึง การประเมินค่าเช่าในกรณีที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้อยู่อาศัยเอง ค่าเช่าที่องค์การธุรกิจได้รับไม่นำมาคิดรวม เพราะคิดรวมแล้วในยอดกำไรขององค์การธุรกิจ

15 3. รายการดอกเบี้ยสุทธิ ดอกเบี้ยที่บุคคลได้รับจากองค์การธุรกิจและสถาบันการเงินต่าง ๆ หักด้วยดอกเบี้ยจาก หนี้สาธารณะ และหักด้วยดอกเบี้ยหนี้ของ ผู้บริโภค

16 4. กำไรของบริษัทก่อนหักภาษี
กำไรที่บริษัทได้รับจากการผลิตสินค้าและบริการโดยกำไรที่นำมาคิดรวมนี้จะต้องเป็นกำไรของบริษัทก่อนหักภาษี และก่อนจัดสรรจ่ายเป็น เงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น

17 กำไรของบริษัท = ภาษีเงินได้นิติบุคคล
+ เงินปันผล + กำไรที่มิได้จัดสรรเพื่อ สงวนไว้สำหรับบริษัท

18 5. รายได้ของรัฐบาล (Government Income)
รายได้จากทรัพย์สินและการประกอบการ เช่น ค่าเช่า ดอกเบี้ย และเงินปันผล หรือ กำไรจากการดำเนินกิจการรัฐวิสาหกิจ

19 5.2.3 การคำนวณรายได้ประชาชาติ ทางด้านรายจ่าย (Expenditure Approach)
การคำนวณรายได้ประชาชาติทางด้านรายจ่ายทั้งหมดที่เจ้าของปัจจัยการผลิตใช้ไปในการบริโภคสินค้าและบริการ และการลงทุน

20 GDP = C + I + G + ( X - M) โดยที่

21 รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชน (Personal Consumption Expenditures : C)
รายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิต ขึ้นใหม่ ในงวดที่คิดรายจ่ายนั้นโดย เอกชน บุคคลธรรมดา และสถาบันที่ตั้งขึ้นโดยไม่หวังกำไร ประกอบด้วย รายจ่ายสำหรับสินค้าถาวร สินค้าไม่ถาวร และการบริการ รวมถึงรายจ่ายที่ไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงินด้วย

22 Keynes ซึ่งเป็นบิดาแห่งเศรษฐศาสตร์มหภาคได้อธิบายทฤษฎีการบริโภคไว้ว่า รายจ่ายในการอุปโภคบริโภค (C) ขึ้นอยู่กับรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (Disposable Income : DI หรือ Yd ) และมีความสัมพันธ์ในทางเดียวกัน กล่าวคือ ถ้าผู้บริโภคมีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (DI หรือ Yd ) เพิ่มขึ้นรายจ่ายในการอุปโภคบริโภค (C)ก็เพิ่มขึ้นด้วย ในทางตรงข้าม ถ้าผู้บริโภคมีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงลดลง รายจ่ายในการอุปโภคบริโภคก็ลดลงด้วย

23 รายได้ C รายได้ C

24 รายจ่ายในการบริโภค (C) บาท
รายได้ (Yd) : บาท 500 1,500 1,000 3,000 1,500 4,500 2,000

25 การออม ( Saving = S ) การออม หมายถึงรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงในส่วนที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อการบริโภค Yd = C + S S = Yd - C

26 รายได้ S รายได้ S

27 รายจ่ายในการบริโภค (C)
รายได้ (Yd) รายจ่ายในการบริโภค (C) เงินออม (S) MPC 500 -500 - 1,000 0.5 2,000 1,500 3,000

28 ความโน้มเอียงส่วนเพิ่มในการบริโภค (Marginal Propensity to Consume : MPC)
อัตราส่วนของการเปลี่ยนแปลงรายจ่ายในการบริโภคต่อการเปลี่ยนแปลงของรายได้ C  Yd MPC =

29 MPC = 0.5 หมายความว่า เมื่อผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 บาท เขาจะมีรายจ่ายในการบริโภคเพิ่มขึ้น 0.5 บาท หรือถ้าเขามีรายได้ลดลง 1 บาท เขาจะมีรายจ่ายในการบริโภคลดลง 0.5 บาท

30 ความโน้มเอียงส่วนเพิ่มในการออม (Marginal Propensity to Save : MPS)
อัตราส่วนของการเปลี่ยนแปลงของการออมต่อการเปลี่ยนแปลงของรายได้ S  Yd MPS =

31 รายจ่ายในการบริโภค (C)
รายได้ (Yd) รายจ่ายในการบริโภค (C) เงินออม (S) MPS 500 -500 - 1,000 0.5 2,000 1,500 3,000

32 MPS = 0.5 หมายความว่า เมื่อผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 บาท เขาจะมีเงินออมเพิ่มขึ้น 0.5 บาท หรือถ้าเขามีรายได้ลดลง 1 บาท เขาจะมีเงินออมลดลง 0.5 บาท

33 เมื่อ Yd เพิ่มขึ้น C จะเพิ่มขึ้น
Keynes : 0 < MPC < 1 เมื่อ Yd เพิ่มขึ้น C จะเพิ่มขึ้น MPC > 0 แต่ C จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า Yd ที่เพิ่มขึ้น MPC < 1 MPC + MPS = 1 นั่นคือ 0 < MPS < 1

34 รายจ่ายเพื่อการลงทุนภายในประเทศของเอกชน (Personal Investment Expenditures : I)
รายจ่ายของเอกชน องค์การธุรกิจและสถาบันที่ตั้งขึ้นโดยไม่หวังกำไร ในการซื้อทรัพย์สินถาวรที่ใช้ในการลงทุน

35 รายจ่ายเพื่อการลงทุน ประกอบด้วย
รายจ่ายในการก่อสร้าง อาคาร สถานที่ทำการ สำนักงาน ขึ้นใหม่ รวมถึงการก่อสร้างบ้านที่พักอาศัยขึ้นใหม่ของบุคคลธรรมดาด้วย รายจ่ายในการซื้อเครื่องมือถาวรที่ใช้ในการผลิต ส่วนเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ (Change in business inventories)

36 ส่วนเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ
= สินค้าคงเหลือปลายปี สินค้าคงเหลือต้นปี

37 ตัวทวีของการลงทุน (Investment Multiplier)
ตัวเลขที่แสดงว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน (I) แล้วระดับรายได้ประชาชาติ (Y) จะเปลี่ยนแปลงไปในสัดส่วนเท่าใดของการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนนั้น ตัวเลขที่แสดงว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน (I) ระดับรายได้ประชาชาติ (Y) จะเปลี่ยนแปลงไปเท่ากับตัวทวีคูณด้วยปริมาณการเปลี่ยนแปลงในค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนนั้น

38 k = Y I Y = k x I ( k : Multiplier ) Y = 1 1 – MPC x  I 1 1 – MPC = k = Y I 1 MPS =

39 ถ้าประเทศมีการลงทุนสร้างถนนเพิ่มขึ้น 25 ล้านบาท และค่า MPC = 0

40 การทำงานของตัวทวี กำหนด MPC = 0.75 การออมที่เพิ่มขึ้น
การบริโภคที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของรายได้ Y รอบการใช้จ่าย การลงทุนที่เพิ่มขึ้น I 25 x 0.75 25 1 25.00 18.75 6.25 1 x = 2 18.75 14.06 4.69 0.75 x = 3 14.06 10.55 3.51 (0.75)2 x 25 = 2.64 7.91 10.55 4 (0.75)3 x 25 = 1.98 5.93 7.91 5 (0.75)4 x 25 = ... I = 25 รวม 100 75 25

41 (1 x 25) + (0. 75 x 25) + ((0. 75)2 x 25) + ((0. 75)3 x 25) + ((0
(1 x 25) + (0.75 x 25) + ((0.75)2 x 25) + ((0.75)3 x 25) + ((0.75)4 x 25) + ... 100 = ( n ) x 25 100 = 1 1 – 0.75 1 0.25 100 = x 25 x 25 = 1 1 – MPC Y = x  I

42 < k <  จาก 1 k = k < k > 0 < MPC < 1 MPC = 0.75 4

43 ถ้าประเทศมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท รายได้ประชาชาติจะเพิ่มขึ้นจำนวนเท่าใด ถ้า MPC = 0.8
k 1 1 – MPC = 1 1 – 0.8 = = 5 k = Y I 5 = Y 20 Y = 5 x = ล้านบาท

44 รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการภาครัฐ (Government Purchases of Goods and Services : G)
รายจ่ายประเภทเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าล่วงเวลา รายจ่ายสุทธิในการซื้อสินค้า และบริการจากองค์การธุรกิจ รายจ่ายสุทธิในการลงทุนและรายจ่ายใน การป้องกันประเทศ

45 การส่งออกสุทธิ (Net Export : X - M)
รายได้สุทธิที่เกิดจากการส่งสินค้าและบริการไปจำหน่ายต่างประเทศ

46 รายได้ประชาชาติทางด้านรายจ่าย ปี 2552
รายการ มูลค่า (ล้านบาท) รายจ่ายในการอุปโภคบริโภคของประชาชน (C)  4,993,302 รายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการของรัฐบาล (G) 1,213,928 รายจ่ายในการลงทุนในประเทศของเอกชน (I) 2,181,821 ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลือ -261,315 มูลค่าสินค้าและบริการส่งออก (X) 6,180,052 หัก มูลค่าสินค้าและบริการนำเข้า (M) 5,226,526 ความคลาดเคลื่อนทางสถิติ -39,711 ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP) 9,041,551

47 5.3 คำศัพท์เกี่ยวกับรายได้ประชาชาติ

48 1) ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้นในราคาตลาด (Gross Domestic Product at market price : GDP at market price) มูลค่ารวมตามราคาตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย ที่ผลิตขึ้นได้ภายในอาณาเขตของประเทศนั้นๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยไม่คำนึงว่าผู้ผลิตจะเป็นพลเมืองของประเทศนั้นหรือไม่

49 จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกัน พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ
ไทย จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกัน พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ

50 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
GDP ณ ราคาตลาดของบางประเทศในปี 2556 ประเทศ ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ร้อยละ สหรัฐอเมริกา 16.8 22.7 จีน 9.2 12.4 ญี่ปุ่น 4.9 6.6 เยอรมนี 3.6 ไทย 0.4 0.5 โลก 74.0 100.0 ที่มา : กองทุนการเงินระหว่างประเทศ

51 2) ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้นในราคาตลาด (Gross National Product at market price : ( GNP at market price) มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในราคาตลาดที่ผลิตขึ้นจากการใช้ทรัพยากรของประเทศในระยะเวลา 1 ปี โดยทรัพยากรของประเทศที่ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายนี้จะอยู่ ภายในประเทศหรือภายนอกประเทศก็ได้

52 + ไทย ไทย จีน - จีน

53 GNP = GDP บวก มูลค่าสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นในต่างประเทศโดยใช้ปัจจัยการผลิตของประเทศ หักด้วย มูลค่าสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นในประเทศโดยใช้ปัจจัยการผลิตของต่างประเทศ

54 GNP = GDP + [ รายได้ของปัจจัยการผลิตไทยในต่างประเทศ - รายได้ของปัจจัยการผลิตต่างประเทศในไทย ]

55 3) ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิในราคาตลาด (Net National Product at market price : NNP at market price)
มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในราคาตลาด ซึ่งผลิตขึ้นโดยใช้ทรัพยากรของประเทศในระยะเวลา 1 ปี ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการใช้ทุน ของการผลิตสินค้าดังกล่าว

56 NNP at market price = GNP at market price - ค่าใช้จ่ายในการใช้ทุน (ค่าเสื่อมราคา)
ค่าใช้จ่ายในการใช้ทุน หรือ ค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินถาวร คือ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สำรองไว้เป็นค่าซ่อมแซม ค่าเสื่อมราคาและค่าทรัพย์สินเสียหาย หรือสูญหาย

57 4) ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิในราคาทุน (Net National Product at factor cost : NNP at factor cost ) หรือ รายได้ประชาชาติ (Nation Income : NI ) NI หรือ NNP ณ ราคาทุน = NNPราคาตลาด ภาษีทางอ้อม

58 รายการ 2550 ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP) 8,493,311
บวก : รายได้สุทธิจากต่างประเทศ -325,793 ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น (GNP) 8,167,518 หัก : ค่าใช้จ่ายในการใช้ทุนและภาษีทางอ้อม 1,966,058 รายได้ประชาชาติ (NI) 6,201,460 ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้นเฉลี่ยต่อคน: Per Capita GDP (Baht) 128,607 ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น : Per Capita GNP (Baht) 123,673 รายได้ประชาชาติ :Per Capita NI (Baht) 93,903 ประชากร (1,000 คน) 66,041

59 5)รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income : PI)
รายได้ทั้งหมดที่ตกถึงมือบุคคล โดยคิดเฉพาะเงินได้ที่ตกทอดถึงมือบุคคลจริง โดยไม่คำนึงว่าเป็นรายได้ที่บุคคลได้รับในฐานะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตหรือไม่ และไม่คิดรวมรายได้ส่วนที่ไม่ตกทอดไปถึงมือบุคคล แม้ว่าจะเป็นรายได้ที่เป็นผลตอบแทนของเจ้าของปัจจัยการผลิตก็ตาม

60 - รายได้ที่อยู่ใน NI แล้วแต่เป็น รายได้ที่บุคคลไม่ได้รับ
PI = NI + รายได้ที่ไม่อยู่ใน NI แต่เป็น รายได้ที่บุคคลได้รับ

61 6) รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง / รายได้สุทธิส่วนบุคคล (Disposable Income : DI)
รายได้ที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายและเก็บออมได้ทั้งหมด ซึ่ง DI จะแสดงถึง "อำนาจซื้อ" (Purchasing Power) ที่แท้จริงของประชาชน DI = PI - ภาษีเงินได้ส่วนบุคคล

62 7)รายได้เฉลี่ยต่อบุคคล (Per Capita Income)
รายได้ถัวเฉลี่ยของบุคคลในประเทศ คำนวณจาก ค่า GNP, NI, PI หรือ DI แล้วหารด้วยจำนวนประชากรของปีนั้น มีประโยชน์สำหรับเปรียบเทียบฐานะเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แสดงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของประชากรในประเทศโดยเฉลี่ย และแสดงถึงระดับการ ครองชีพโดย เฉลี่ยของคนในประเทศ

63 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ สหรัฐอเมริกา 53,101 จีน 6,747 ญี่ปุ่น 38,491
GDPต่อหัว (ณ ราคาตลาด)ของบางประเทศในปี 2556 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ สหรัฐอเมริกา 53,101 จีน 6,747 ญี่ปุ่น 38,491 เยอรมนี 44,999 สิงคโปร์ 54,775 ไทย 5,674

64 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
GDPต่อหัว (ณ ราคาตลาด)ของประเทศในอาเซียนปี 2556 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ สิงคโปร์ 54,775 บรูไน 39,942 มาเลเซีย 11,513 ไทย 5,674 อินโดนีเซีย 3,509 ฟิลิปปินส์ 2,790

65 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ 1,901 1,476 1,015
GDP ต่อหัว (ณ ราคาตลาด)ของประเทศในอาเซียนปี 2556 ประเทศ เหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม 1,901 ลาว 1,476 กัมพูชา 1,015 เมียนมาร์ 868 ที่มา : กองทุนการเงินระหว่างประเทศ

66 รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีของคนไทยจำแนกตามภูมิภาค
2547 2553 ทั่วประเทศ 51,588 150,118 กรุงเทพและปริมณฑล 98,820 368,124 กลาง 58,284 264,285 เหนือ 40,860 79,158 ตะวันออกเฉียงเหนือ 32,160 49,092 ใต้ 46,440 104,738

67 8) รายได้ที่แท้จริงหรือรายได้ ณ ราคาคงที่ (Real Income or Income at Constant Prices)
มูลค่าของรายได้ประชาติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยคิดในราคาของปีใดปีหนึ่งที่ต้องการใช้เป็น ปีหลักสำหรับการเปรียบเทียบ ซึ่งปีหลักดังกล่าวเรียกว่าเป็น "ปีฐาน" สามารถคำนวณได้ทั้งจากค่า GDP, GNP หรือ NI ได้ทั้งหมด

68 ปี 50 GDP = 100 บาท ผลิตเสื้อ 5 ตัว ราคาตัวละ 20 บาท ผลิตเสื้อ 4 ตัว
ราคาตัวละ 20 บาท ผลิตเสื้อ 4 ตัว ราคาตัวละ 50 บาท ปี 51 GDP = 200 บาท GDP50 < GDP51 Q50 < Q51 GDP ณ ราคาตลาด (GDP at Current Price) GDP = P x Q GDP50 < GDP51 Q50 > Q51

69 เปลี่ยน Money GDP (GDP at current prices)
Real GDP (GDP at constant prices)

70 Real GDP (GDP at Constant Prices)
Real GDP ปีที่ n = Money GDP ปีที่ n GDP deflator x 100 GDP deflator = Consumer Price Index (CPI)

71 ตัวอย่าง ถ้า GDP at Current Price ในปี 2551 มีมูลค่า 4,500 ล้านบาท GDP deflator ของปี 2551 เท่ากับ 120 จงหา Real GDP ของปี 2551 Real GDP ปีที่ n = Money GDP ปีที่ n GDP deflator x 100 = 4,500 120 x 100 = 3,750 ล้านบาท

72 GDP ณ ราคาคงที่เป็น GDP ที่ขจัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าออกแล้ว ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของ GDP ตามราคาคงที่ในแต่ละปีจึงแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณผลผลิตนั่นเอง

73 5.4 ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับรายได้ประชาชาติ
สินค้าและบริการขั้นสุดท้ายบางอย่างได้มีการผลิต จริง แต่ไม่ได้ซื้อขายผ่านตลาด จึงไม่มีการบันทึก ไว้ในรายได้ประชาชาติ สินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่มีการซื้อขายกันจริง แต่ไม่ได้มีการบันทึกรวมไว้ในรายได้ประชาชาติ เนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฏหมาย

74 รายได้ที่เกิดจากอาชีพอิสระต่างๆ ที่ไม่มี การบันทึกหรือบันทึกต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้รายได้ประชาชาตินั้นต่ำกว่าความเป็นจริง รายได้ประชาชาติ ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อ เวลาว่างหรือเวลาพักผ่อน (leisure) ของบุคคล GDP51 = 500 ล้านบาท ทำงาน 8 ชั่วโมง / วัน GDP52 = 1,000 ล้านบาท ทำงาน 20 ชั่วโมง/วัน

75 รายได้ประชาชาติไม่ได้แสดงให้เห็นถึง การกระจายสินค้าและบริการว่าถูกแบ่งสรร อย่างไร
การกระจายรายได้ ประเทศ B ประเทศ A 100 GDP นาย ข นาย ก 50 5 95

76 ส่วนประกอบของรายได้ประชาชาติ
การผลิตที่มีผลกระทบในทางลบต่อสังคม ส่วนรวม บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล หนังสือลามก สินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ เป็นต้น

77 รายได้ประชาชาติแสดงสวัสดิการทางเศรษฐกิจ ที่สูงเกินความเป็นจริง
รายได้ประชาชาติไม่คำนึงถึงความเสียหายที่ การผลิตก่อให้เกิดขึ้นแก่สังคม สวัสดิการและคุณภาพชีวิตลดลง Social Cost สูง ไม่ได้นำไปหักใน GDP รายได้ประชาชาติแสดงสวัสดิการทางเศรษฐกิจ ที่สูงเกินความเป็นจริง


ดาวน์โหลด ppt บทที่ 5 รายได้ประชาชาติ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google